ใต้ร่มเงามหาชีวาลัยอีสาน ตอนที่ 10

โดย dd_l เมื่อ 11 กรกฏาคม 2010 เวลา 11:30 (เย็น) ในหมวดหมู่ ศึกษาเรียนรู้ #
อ่าน: 2510

        ช่อดอกไม้เล็ก ๆ 2-3 ช่อวางอยู่ในพานตั้งอยู่ระหว่างพวกเรากับพ่อครูบาและแม่ฉวี

        ช่อดอกไม้ในพาน กำลังจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมสายใยของความรู้สึกขอบคุณจากหัวใจของพวกเราไปสู่พ่อครูบาและแม่ฉวี

        พ่อครูบาและแม่ฉวีนั่งนิ่ง ๆ

        บรรยากาศในห้องเงียบสงัด

        เสียงกล่าวแสดงความรู้สึกของพวกเราทีละคน ดังแทรกอยู่ในทุกเนื้อที่ของความเงียบนั้น

        บางคราว เสียงสะอื้นผสมผสานอย่างสนิทกับความรู้สึกขอบคุณ เมื่อได้ย้อนระลึกถึงการกระทำแห่งกรุณาที่ได้สัมผัสจากพ่อครูบา เสียงเช่นนี้สะเทือนเข้าไปในจิตสำนึกของทุก ๆ คน ดวงตาหลายคู่อิ่มฉ่ำด้วยหยาดน้ำ ร่วมรู้สึกกับความรู้สึกที่สั่นสะเทือนจากน้ำเสียงของความขอบคุณนั้น

        ข้าพเจ้ายกพานและค่อย ๆ กล่าวคำขอบคุณ สัมผัสถึงคลื่นในใจที่สั่นสะเทือนวูบไหว

        การกล่าวขอบคุณ บ่อยครั้งที่ซ่อนไว้ด้วยการจากลา

        การกล่าวขอบคุณ ด้วยความรู้ว่าในนั้นมีการจากลาแฝงอยู่ ลึก ๆ ในใจจึงสั่นสะเทือนวูบไหว

        การจากลาคือการพลัดพราก คือการสูญเสีย คือการวูบหายไปจากการรับรู้ที่สัมผัสได้ ภาวะเช่นนี้นำความสะเทือนใจมาให้เสมอ จะน้อย จะมาก ก็ขึ้นอยู่กับความผูกพันที่เรามีต่อสิ่งนั้น และความผูกพันมักจะเกิดกับใจที่อ่อนโยนเสมอ

        ข้าพเจ้าหายใจลึก ๆ อาศัยลมหายใจเป็นปราการใหญ่ที่จะรับคลื่นที่สั่นสะเทือนใจนั้น ทอดสายตาตรงไปที่ครูบาและแม่ฉวี กล่าวขอบคุณ คารวะ และขอโทษในสิ่งที่อาจล่วงเกินในช่วงแห่งการอยู่ร่วมกัน เป็นการกล่าวเพื่อการชำระใจให้สะอาด เพื่อความดีงามจะได้มีเนื้อที่มากขึ้นในจิตใจ

        พ่อครูบาขอบคุณโอกาสดี ๆ ที่พวกเราได้มาหา มาเยี่ยม มาใช้ชีวิตด้วย ท่านดีใจที่เห็นพวกเราทุกคนเปิดใจตื่นตาเพื่อการเรียนรู้อย่างเต็มที่

        ข้าพเจ้ารับรู้ถึงบรรยากาศที่แฝงไว้ด้วยพลังอานุภาพของจิตใจที่มีคุณภาพ ดีงาม สูงส่ง ที่ปลอบประโลมและยกระดับจิตใจของพวกเราทุก ๆ คน

        ในน้ำเสียงอ่อนโยน ช้า ๆ เนิบ ๆ ธรรมดา ๆ เรียบง่ายเหมือนวิถีเล็ก ๆ ของใบกระเพรา ยอดกระถิน เห็ด และมะละกอ แต่ความเป็นธรรมดาเรียบง่ายเช่นนี้มิใช่หรือ ที่ให้ประโยชน์และเป็นประโยชน์แก่เพื่อนมนุษย์และโลกมาแล้วทุกยุคทุกสมัย

        พวกเรากราบเคารพในชีวิตเรียบง่าย ธรรมดาที่แฝงไว้ด้วยประวัติความเป็นมาที่ไม่ธรรมดาอย่างนบนอบที่สุด

 

        เราหน่วงเหนี่ยวการจากลาและยึดโอกาสของการอยู่ร่วมกันให้มากที่สุด สิ่งที่เราทำคือเราคอยเป็นคนส่งผู้อื่นก่อน เราถ่ายรูป เราล่ำลา เราบอกกันว่าเราจะได้พบกันอีก ข้าพเจ้าอุ้มพ่อครูบามาที่รถเพื่อที่จะนำกลับกรุงเทพด้วย ต่อมาข้าพเจ้าหนีบแม่ฉวี โดยมีพ่อครูบายิ้ม ส่งสายตามาบอกว่า อย่าเอาไปจริงนะ! กลุ่มเล็กๆ ร่ำลากัน ถ่ายรูปกันตามที่ต่าง ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก

        แต่ “ทุกอย่างในโลกนี้ มีเวลาของมัน”

        เมื่อรถเคลื่อนออกจากมหาชีวาลัยอีสาน ข้าพเจ้ามองไปที่เรือนพักแถวม้านั่งประชุมกลางลาน ไก่ต๊อก และต้นไม้หลายชนิดเพื่อกล่าวขอบคุณที่ได้ช่วยเติมเต็มชีวิตของข้าพเจ้าในหลาย ๆ วันที่ผ่านมา

        ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ “ชุติมา” วันนี้ผู้ช่วยในร้านกลับบ้าน เหลือคุณป้าเจ้าของร้านอยู่คนเดียว ทั้งรับสั่ง ทั้งทำ ทั้งบริการ ลูกศิษย์ของข้าพเจ้าต่างช่วยคุณป้าคนละไม้คนละมือในการจัดการก๋วยเตี๋ยวไก่มารับประทาน ข้าพเจ้าประทับใจในน้ำใจที่ดีงามของลูกศิษย์เสมอ เขาทุกคนรู้จักวางตัวในที่ต่ำเพื่อช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อ และปรับตัวให้เข้ากับโอกาสและสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวเสมอ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยินดีรับใช้ดูจะเป็นหัวใจของเขาทุกคน คุณ “ป้า” คงจะประหลาดใจแกมประทับใจที่ลูกค้าพิเศษกลุ่มนี้ ท่าทางไม่ใช่คนท้องถิ่น เข้ามาในร้าน วางตัวเป็นผู้ช่วยบริการ ความหนักใจที่คุณป้าบอกว่าวันนี้ไม่มีคนช่วย ค่อยจางคลายจากใบหน้า ความเครียดที่ซ่อนเร้นอยู่ดูสลายหายไป ทุกอย่างดูราบรื่น และเมื่อพวกเราออกจากร้าน คุณป้าส่งรอยยิ้มให้แก่เราด้วย

 

        บนเส้นทางกลับกรุงเทพ ฉัน (แอบ) มองไปที่ลูกศิษย์ทุก ๆ คน ตื้นตันใจอย่างยิ่งที่เขาเหล่านี้ได้ร่วมเดินทางมากับฉันเสมอ พี่วรา พี่แอ พี่นี้ เดินทางร่วมมาในชีวิตของฉันกว่า 30 ปีแล้ว ในความสุข ในความทุกข์ ในอุปสรรค ในความพลัดพราก ในความสำเร็จ ในความล้มเหลว เขาอยู่ข้าง ๆ ร่วมให้กำลังใจ ส่งรอยยิ้มแจ่มใสให้แก่ฉันเสมอ ชีวิตของฉันเดินทางมาได้เพราะมีลูกศิษย์เช่นนี้เป็นกัลยาณมิตรเสมอมา ฉันนึกถึงพี่ระ ตอนนี้ก็คงถ่ายรูปรับปริญญากับลูกศิษย์ของเขาที่มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยกับพี่ซูน เที่ยวนี้พี่ระก็ช่วยดูแลจัดการเรื่องการเดินทางให้อย่างเรียบร้อย ฉัน (แอบ) มองไปที่ลูกศิษย์คนอื่นๆ เอก เอ็กซ์ นัท ปูน พี่มืด แถวหลังมีลูกศิษย์รุ่นเล็กกำลังหลับอยู่ เจ้าเต๊ เจ้าเหมียว เจ้าเนท เขาเหล่านี้เข้ามาร่วมในกระแสธารชีวิตเป็นรุ่นล่าสุด ในหัวใจของความเป็นครู ฉันขอบคุณทุกคนอย่างลึกซึ้งที่เข้ามาเติมชีวิตของฉันให้เต็ม บนถนนยาวไกลของวิถีจิตวิทยาการปรึกษานั้น หากปราศจากกำลังใจที่คอยผลักดันจากเขาเหล่านั้น ถนนเส้นนี้คงร้างหายไปจากโลกแห่งจิตวิทยาไปแล้ว

        ฉันไม่มีความสามารถทางภาษาเพียงพอ ที่จะหาถ้อยคำมาแทนที่ความรู้สึกที่ฉันมีต่อพวกเธอได้อย่างสมใจ ฉันไม่มีกำลังมากพอที่จะทำอะไรให้พวกเธอได้รู้ว่าฉันอยากตอบแทนทั้งหมดที่พวกเธอได้ให้แก่ฉันอีก รู้แค่ว่าทุก ๆ ความคิด ทุก ๆ ความรู้สึก ทุก ๆ การกระทำของฉัน แฝงไว้ด้วยความตื้นตันใจ และอยากตอบแทนความดีงามที่พวกเธอทุก ๆ คนได้ให้แก่ฉันเสมอมา

 

        และเส้นทางสายสตึกที่มีคุณค่า ก็ถูกบันทึกไว้ในเส้นทางชีวิตของฉันและลูกศิษย์ เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างกัน อีกเส้นทางหนึ่ง

 

โสรีช์ โพธิแก้ว

« « Prev : ใต้ร่มเงามหาชีวาลัยอีสาน ตอนที่ 9


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ใต้ร่มเงามหาชีวาลัยอีสาน ตอนที่ 10"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.64604997634888 sec
Sidebar: 0.023180961608887 sec