ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ ของ สปป ลาว
อ่าน: 1840วันที่ ๓๐ เมษา ปีนี้เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ สปป ลาว ชุดที่ เจ็ด
สภาแห่งชาติ เป็นอำนาจการปกครองฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ทำหน้าที่รับรองกฎหมาย และกิจกรรมต่างๆของรัฐ เช่น การสัมปทานโครงการขนาดยักษ์ต่างๆ (เล่าเท่าที่รู้เห็น)
วาระของสมาชิกสภา คือ ๕ ปีเลือกตั้งหนึ่งครั้ง
การเลือกตั้งเป็นแบบพวงใหญ่ หนึ่งแขวง(จังหวัด เลือกได้หนึ่งพวงตามจำนวนที่กำหนด)
ท่านมีการกำหนดจำนวนผู้สมัครด้วย เริ่มที่คณะประจำสภาแห่งชาติมีมติกำหนดจำนวนผู้สมัคร และจำนวนสมาชิกสภาของแต่ละแขวง แล้วนำเสนอประธานประเทศ เพื่อออกรัฐดำรัส ว่าด้วยการกำหนดจำนวนผู้สมัคร และจำนวนสมาชิกสภาแห่งชาติของแต่ละแขวง เช่นในการเลือกตั้งครั้งนี้ แขวงไชยบุรีรับผู้สมัคร ๑๐คน เลือกเอา ๗ คน กำแพงพระนครเวียงจันทน์รับผู้สมัคร ๒๑ คน เลือกเอา ๑๕คน รวมทั้งประเทศ รับผู้สมัคร ๑๙๐ท่าน และเลือกเอา ๑๓๒ท่าน
การกำหนดจำนวนสมาชิกสภา ขึ้นกับจำนวนพลเมืองในแต่ละแขวงโดยคิดสัดส่วน จำนวนพลเมือง ห้าหมื่นคนต่อสมาชิก ๑ ท่าน แต่ไม่ให้แต่ละแขวงมีสมาชิกสภาน้อยกว่า ๓คน นอกจากนั้นยังขึ้นกับจุดพิเศษของแต่ละแขวงเช่น เขตเศรษฐกิจ ชายแดน ความมั่นคงเป็นต้น
ใครสามารถใช้สิทธิ์ออกเสียงเลือกผู้แทน พลเมืองลาวที่มีอายุ ๑๘ ปีขึ้นไปทุกคนมีสิทธิ์เลือกผู้แทน ยกเว้น คนที่ ถูกศาลประชาชนตัดสิทธิ์ คนบ้า และคนที่ถูกตัดอิสรภาพ
ใครสามารถลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาแห่งชาติ อิงตามตัวบทกฏหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตราที่ 3 ท่านว่าพลเมืองลาวทุกคนที่มีอายุซาวเอ็ดปีขึ้นไป มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง
แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเดินไปยื่นใบสมัครเองได้นะครับ การสมัครรับเลือกตั้งต้องมีผู้เสนอรายชื่อขึ้นไปในฐานะของตัวแทนของหน่วยงานราชการ หรือองค์กรมหาชนเท่านั้น ไม่ใช่สมัครด้วยตัวเอง หลังจากการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร จากคณะกรรมการเลือกตั้ง( กกต)ท้องถิ่นแล้ว จะส่งรายชื่อไปให้กรรมการระดับชาติเป็นผู้ประกาศรายชื่อผู้สมัครอย่างเป็นทางการ
ท่านมีข้อตกลงว่าด้วยการควบตำแหน่ง หมายความว่า ข้าราชการประจำสามารถเป็นผู้แทน หรือสมาชิกสภาได้ควบคู่กันไปด้วย เช่น ท่านอาจเป็นรองเจ้าแขวง หัวหน้าแผนกกะสิกำแขวง ก็สามารถสมัครผู้แทนได้
การหาเสียงตามกฎหมายท่านว่า ผู้สมัครมีสิทธิ์โฆษณาหาเสียงได้ แต่ต้องไม่ใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น เท่าที่เคยเห็น จะเป็นเวทีที่จัดโดยคณะกรรมการท้องถิ่น จัดเวทีแนะนำผู้สมัครทุกท่าน แล้วให้แต่ละท่านปราศัย
การเลือกตั้งใช้แบบสากล คือการลงคะแนนในบัตรเลือกตั้ง เลือกกาเอาคนที่ชอบ มีการจัดสถานที่ลงคะแนน แต่ที่พิเศษคือ มีบริการหีบบัตรเคลื่อนที่สำหรับผูป่วย คนชรา คนพิการที่ไม่สามารถเดินทางมายังหน่วยเลือกตั้งได้ด้วย
การนับคะแนนเสียงนับแบบเปิดเผยที่หน่วยเลือกตั้ง
ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด เรียงลำดับจากที่ ๑ไปจนถึงลำดับที่ประกาศจำนวนผู้แทนไว้ จะได้เป็นผู้แทน
ในกรณีที่ ลำดับสุดท้ายที่จะได้เป็นผู้แทน มีมากกว่าหนึ่งคนที่ได้คะแนนเสียงเท่ากัน ท่านให้เลือกเอาผู้สมัครที่มีอายุราชการ (อายุการ)มากกว่า เป็นผู้แทน
หากอายุการยังเท่ากันอีก ทีนี้ท่านให้พิจารณาอายุของผู้สมัคร (ทางนี้ใช้คำว่า อายุ กะ-เสียน) ผู้ที่เกิดก่อน จะได้เป็นผู้แทน
การเลือกตั้งคราวนี้ คณะกรรมการเลือกตั้งท่านตั้งเป้าหมายให้ได้ สาม 100 % ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ 100% จำนวนบัตรดี(ไม่เสีย) 100% และ ความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้ง 100%
ยังมีประเด็นที่น่าสนใจในกฏหมายเลือกตั้งสมาชิกสภาแห่งชาติ สปป ลาว ที่หลายมาตราครับ เช่น การเสนอคัดค้านผู้สมัครภายในเจ็ดวันหลังประกาศรายชื่อ การเสนอปลดสมาชิกสภาแห่งชาติ ซึ่ง ท่านกล่าวไว้ว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีสิทธิ์เสนอให้ปลดสมาชิกสภาจากแขวงของตนเอง และเมื่อสมาชิกสภามากกว่ากึ่งหนึ่งโหวดให้ออกตามคำร้อง สมาชิกท่านนั้นก็ต้องหมดสภาพ
ไม่ทราบว่าจะเหมือนหรือต่างจาก พรบ. เลือกตั้งบ้านเรามากน้อยประการใด