ไล่พระออกจากป่า คุณพระคุณเจ้า
อ่าน: 1284
ปีกบางรุ่งริ่งโรยลา
อ่อนล้าเรี่ยวแรงเสื่อมถอย
วันวารผันผ่านเคลื่อนคล้อย
ล่องลอยไปตามวิถีกรรม
รูปผีเสื้อชรากับบทจ่มข้างต้นอาจจะไม่เข้ากับเรื่องที่จะบันทึกในต่อไปนี้ แต่ผมว่าอารมณ์ไปด้วยกันได้นะครับ อารมณ์ห่อเหี่ยวเศร้าซึมกับข่าวที่ ทางการเขาจะจัดระเบียบพระป่า
เขาว่าพระทำลายป่า พระเป็นตัวการบุกรุกป่า
อ้ายพวกไม่รู้จัก อรัญวาสี คามวาสี เอ้ย โธ่ถัง กาละมังแตก (กาละมังเป็นคำที่ยืมมาจากภาษาโปตุเกต… เขียนเพื่อยืนยันว่าขณะบันทึกยังมีสติดีอยู่)
ผมเคยผ่านพบ พระวัดป่าที่อำเภอวานรนิวาส ท่านสร้างรั้วรอบป่าผักหวานพื้นที่กว่าแปดร้อยไร่ เป็นป่าของวัด ใหชาวบ้านจัดตั้งกลุ่มป่าชุมชน จัดสรรกันหมุนเวียนกันมาเก็บเห็ดเก็บผักหวาน พอได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
ที่ป่าชุมชนหนองหมู มีวัดอยู่บนนั้น พระท่านเอาเงินที่ญาติโยมถวายในกิจนิมนตร์ต่างๆ เอาเงินก้อนนั้นไปให้ชาวบ้านใช้จ่ายเป็นค่าอาหารยามเดินตระเวนป้องกันป่า
ที่วัดป่าเชิงดอย พระท่านเป็นแกนนำชักชวนให้ชาวบ้านสร้างฝายชะลอความชื้น ได้ใช้น้ำสำหรับดับไฟป่า มีกบเขียดอึ่งอ่างมาแพร่พันธุ์มากมาย
ผมเคยมีวาสนาได้รับใช้วัดป่าในเขตอุทยานแห่งหนึ่ง ในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทำแผนลดผลกระทบจากการก่อสร้างอุโบสถหลังเล็กๆ เราทำตามขั้นตอนของสผ.ทุกอย่างโดยไม่ขอลัดขั้นตอน แก้รายงานเกือบสิบครั้ง ไม่อยากคุยว่าวัดป่าดังกล่าวประมุขสงฆ์แห่งราชอาณาจักรเสด็จมาประทับด้วย ถือเป็นมงคลสูงสุดที่ได้รับใช้
นี่เป็นตัวอย่างเพียงเล็กน้อย ที่แสดงว่าพระอยู่กับป่าได้ พระช่วยรักษาป่าได้
จริงอยู่ ที่สำนักสงฆ์บางแห่งอาจก่อสร้างถาวรวัตถุที่ใหญ่โต ล่วงล้ำบุกรุกป่า อันนั้นก็ต้องมีมาตรการควบคุม ไม่ต้องควบคุมพระดอก ควบคุมญาติโยมเจ้าศรัทธาที่ชอบมาถวายปัจจัยนั่นแหละ และต้องควบคุมในขั้นตอนการขออนุมัติแบบ รวมถึงการควบคุมให้ผู้รับเหมาก่อสร้างปฏิบัติตามมาตรการลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย
หวังว่าพวกเขาเหล่านั้น ที่กำลังจะจัดระเบียบพระป่า ได้มีสติในการทำงาน…
ระวังเขาจะเผลอไปจัดระเบียบ พาครูบาฯ แซ่เฮของหมู่เฮาออกจากสวนป่าเด้อ