กระบี่ที่จำได้(ลางๆ) บทบันทึกก่อนไปกระบี่

โดย silt เมื่อ 26 มีนาคม 2009 เวลา 3:47 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1775


เซ็งๆกับบรรยากาศ ทั้งที่ทำงาน(ไม่มีหลัก เปลี่ยนแนวคิดและทิศทางจนตามกันไม่ไหว ตอนเสนองานไม่ยอมรับรู้ แล้วมาบอกว่าไม่เคยมี) ทั้งการเมือง(ใกล้เลือกผู้นำใหม่ในหงสา ทุกเรื่องที่เป็นผลงาน ต้องอย่าให้ท่านใดเกินหน้าท่านอื่น) ทั้งฝุ่นควันในเมืองหงสา(ฝนยังไม่ตกมาสักทีไฟป่าก็ไหม้เอาๆ) กระนั้นเลยไหนๆก็จะได้ไปเล่นกับหลานๆที่กระบี่ต้นเดือนหน้า ใกล้ๆนี้แล้ว ลองมาทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับ “กระบี่” ที่เคยสัมผัส มาเรียงร้อยเป็นบันทึกน่าจะดี คุณหลานอ่านดูดีๆล่ะ ลุงแอบใส่ความรู้ไว้หลายเรื่องพอประมาณ
ยี่สิบปีกว่าๆที่ผ่านมา เมื่อคราวที่เป็นนักวิชาการดินฝึกหัด ได้สัมผัสกระบี่ครั้งแรกที่คลองท่อม มิได้ไปสัมผัสตัวจริงของอำเภอคลองท่อมแต่ประการใดดอก แต่รู้จัก “ดินชุดคลองท่อม” หลานๆรู้จักไหมชุดดินคืออะไร พื้นดินของบ้านเรานี้เขาแบ่งเป็นประเภทตามลักษณะของดินประเภทหนึ่งๆ เรียกว่าชุดดินหนึ่ง ตั้งชื่อตามอำเภอที่พบดินประเภทนั้นๆครั้งแรก เช่น ดินชุดหางดง ดินชุดปากช่อง เป็นต้น นักวิชาการเขาแบ่งดินของประเทศไทยออกได้ราวสองร้อยชุดดินดินชุดคลองท่อม เขามีชื่อสากลว่า  Fine-loamy, kaolinitic, isohyperthermic Typic Kandiudults  ชื่อยากดีเนาะแต่ก็ช่างเถอะใส่ไว้หรูๆไปงั้นแหละ เอาไว้ใครสนใจไปเรียนวิชาปฐพีศาสตร์จะได้เก่งเหมือนป้าจุ๋มไง โดยรวมแล้วดินชุดคลองท่อมเป็นดินที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกพืชหลายชนิด ทั้งพืชไร่ ไม้ผล และไม้ยืนต้น แต่ไม่เหมาะที่จะใช้ทำนาเพราะเก็บกักน้ำไม่ดี
สองสามปีต่อมา ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบทำแผนแม่บทการฟื้นฟูสภาพเหมืองลิกไนต์ในเขตภาคเหนือ ก็ได้อาศัยบทรายงานแผนฟื้นฟูฯของเหมืองลิกไนต์กระบี่นี่แหละเป็นแม่แบบในการศึกษา เพราะว่าที่กระบี่นี้มีเหมืองลิกไนต์ และโรงไฟฟ้าแห่งแรกๆของเมืองไทยที่ทุกวันนี้ยังดำเนินกิจการอยู่ (ขนาดบริษัทรถทัวร์ยังชื่อลิกไนต์ทัวร์เลย) การประกอบกิจการเหมืองแร่ใดๆก็ตาม ผู้ประกอบการต้องทำการปรับปรุงพื้นที่กลับคืนทั้งในช่วงดำเนินการหรือที่เขาเรียกว่า mine reclamation รวมทั้งแผนการปรับปรุงพื้นที่เหมืองเมื่อสิ้นสุดโครงการหรือ mine closure plan เขาต้องกันเงินส่วนหนึ่งซึ่งมากโขอยู่เอาไว้ทำกิจกรรมการฟื้นฟูเหมืองด้วยนะจ๊ะ หากทำแผนให้เจ๋งๆแล้วควบคุมให้เจ้าของเมืองทำตามแผน พร้อมกับแบ่งงบประมาณมาให้ตามที่ตั้งไว้ ก็สามารถกู้คืนสภาพแวดล้อมได้ไม่มากก็น้อย เรียกว่าลุงได้รู้จักกับกระบี่มากขึ้นเพราะงานชิ้นนี้
ได้ไปสัมผัสกระบี่ตัวจริง เมื่อสักสิบปีก่อนในคราวที่รับผิดชอบ “โครงการสร้างโลกใหม่ให้ช้างไทย” เป็นโครงการที่น่าสนใจ ที่หน่วยงานเจ้าภาพเขามีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือช้างเร่ร่อน ให้มีที่อยู่ที่หารายได้เป็นหลักแหล่ง ลุงเปลี่ยนได้กินตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ได้ไปช่วยเขาดูว่าหากนำช้างมาอยู่รวมกัน มีการก่อสร้างอาคารให้บริการนักท่องเที่ยว แล้วจะมีผลกระทบต่อสภาพป่าไม้ และแหล่งน้ำอย่างไรบ้าง หรือมีผลกระทบต่อตัวช้างเองอย่างไรบ้าง สำหรับพื้นที่ภาคใต้คณะผู้ศึกษาได้เลือกเอาพื้นที่คลองปะกาสัย เป็นแหล่งพัฒนาโครงการ ด้วยเหตุผลที่ว่า จังหวัดกระบี่เป็นบ้านของ “พระเศวตอดุลยเดชพาหน” ช้างเผือกคู่พระบารมี เชือกแรกของรัชกาลปัจจุบัน คุณพระท่านถูกคล้องได้จากจังหวัดกระบี่ ในปี 2499 ส่วนพื้นที่พัฒนาโครงการในภาคอื่นๆ ได้แก่ที่บ้านชาวกูยตากลาง และที่ห้างฉัตรในการทำงานก็ต้อง เรียนรู้ถึงนิสัยใจคอ ความต้องการอาหาร น้ำดื่ม และที่อยู่อาศัยของช้าง แทบจะต้องไปกินไปอยู่กับควาญช้างเลยทีเดียว ไม่ทราบว่าแผนแม่บทได้ถูกนำไปขยายต่อมากน้อยเพียงใด แต่ทุกวันนี้ก็ยังพบเห็นมีช้างมาเดินในกรุงและในเมืองใหญ่อยู่เนืองๆ
แต่งาน “ช้าง”นี่ก็ทำให้ได้ไปกระบี่ ไปแบบทุลักทุเล เพราะทีมงานเขาไปกันจนกลับมาหมดแล้ว แต่ตัวเองยังติดงานอื่นอยู่ รายงานก็จะต้องส่ง ตัดสินใจผ่าฟันคุดเสร็จแล้วก็รีบกระโดดเกาะรถทัวร์ไป ถึงกระบี่เช้าโทรหาหัวหน้า ออป. ท่านมารับเข้าพื้นที่โครงการ ให้เจ้าหน้าที่พาชมบริเวณที่เลี้ยงช้าง วนเวียนเก็บข้อมูลอยู่ในสวนป่าจนบ่ายแก่ๆ พี่เขาพากลับมาหาที่พัก แวะชมสุสานหอย ขับรถวนไปอ่าวนาง แล้วก็มาพักแถวตลาด ตอนเย็นเดินเล่นริมเขื่อนแถบท่าเรือไปเกาะพีพี รุ่งเช้าไปคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวถึงความเป็นไปได้ที่จะทำทัวร์ช้าง บ่ายๆนั่งสองแถวไปขึ้นรถทัวร์กลับ
นี่เป็นความทรงจำเกี่ยวกับกระบี่ที่ลุงเปลี่ยนยังจำได้ จะว่าไปแล้วก็มากโขอยู่ เกือบสิบปีแล้วที่จะได้ไปเยือนกระบี่อีกครั้ง กระบี่จะเปลี่ยนแปลงไปทางใดแล้วก็ไม่รู้
รู้แต่ว่ากระบี่วันนี้ มีพี่หมอเจ๊ตา (ที่ชำนาญทางหมอดูด้วย) เท่านี้ก็คุ้มที่จะไปแล้วครับ

« « Prev : ตีแตก(ที่สวนป่ามหาชีวาลัย)อีสาน

Next : กระบี่กับเฮฯ๘ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

1 ความคิดเห็น

  • #1 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 มีนาคม 2009 เวลา 6:35 (เย็น)

    คราวก่อนกระโดดขึ้นรถทัวร์มาถึง คราวนี้เกาะปีกเครื่องบินมาถึงเนอะ

    ทัวร์ช้างนะพอมีเหลืออยู่แต่อยู่ที่ตำบลในสระมิใช่ปกาไสย แถวปกาไสยนะไม่เคยเห็นมีช้างเลยหละน้องเอ๋ย แถบที่มีทัวร์ช้างนี่ มีเรือคะยัคให้พายด้วย แต่ด้วยมันอยู่ในสวนยาง ซึ่งไม่มีที่ให้ผู้แก่ได้นั่งรอ(หากว่าจะไม่พายเรือ)ก็เลยจะไม่ได้สัมผัสทัวร์ช้างเน้อ เอาไว้ไปถึงกันแล้วค่อยปรับโปรแกรมกันอีกได้ หากเด็กๆอยากลองพายเรือและนั่งช้าง

    สุสานหอยได้เหยียบชมอีกครั้งแน่นอน ส่วนอ่าวนางยังมิแน่แต่จะได้เมียงมอง หากว่าลมฝนเป็นใจไม่แรงนักก็จะได้เหยียบหาดกันค่ะ

    รอๆๆๆๆๆอยู่นะค่ะ จะไปรับที่สนามบินมาร่วมสังสรรค์กันค่ะ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.060455083847046 sec
Sidebar: 0.040565013885498 sec