รูปภาพเล่าเรื่องราวเฮฮาฯหก
ร่วมส่งภาพเพื่อเล่าเรื่องราวที่น่าประทับใจในเฮฮาฯ๖ ครับ
เป็นมุมมองของคนที่มองโลกจากตัวตนเป็นศูนย์กลาง และมองในมุมที่แปลก
ทุกภาพถ่ายแบบมือสมัครเล่นใน mode auto
ลองชมดูครับ (ภาพอาจไม่สวยแต่ จะพยายามตีความหมายให้ลึกซึ้งครับ)
ภาพแรก: แสงสุรีย์ที่บ้านอาข่า
ระหว่างที่พี่แดง (ท่าน สว.เตือนใจ) พาเหล่าพวกเราสว.(สูงวัย)เดินเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวอาข่าที่ดอยแม่สลอง มองผ่านตัวเรือนเห็นตะวันกำลังคล้อยลงสัมผัสทิวเขา
พี่แดงได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นนักพัฒนาที่สุดยอด ได้อย่างน่าประทับใจ เห็นท่านพูดภาษาอาข่าได้คล่องแคล่วราวกับเจ้าของภาษา ทักทายรู้จักทุกคนในหมู่บ้าน
และเห็นท่าทีที่ชาวบ้านแสดงต่อพี่แดงอย่างสนิทสนมรักใคร่ …ผมว่าพี่แดงเปรียบดั่งดวงตะวันที่ฉายส่องให้ความอบอุ่นกับพี่น้องชาวอาข่าในชุมชนแห่งนี้
ภาพที่สอง: เณรน้อยวัดพระธาตุสี่มุมเมือง
จุดสุดท้ายก่อนจากเชียงแสน ผมพบท่านนั่งพักอยู่ใกล้ๆที่จอดรถ ผ้าเหลืองเครื่องนุ่งถือของนักบวช ทำให้มองเห็นความสงบน่าเลื่อมใส แม้ในวัยเด็กของท่าน น่าอิจฉาที่ท่านได้เข้า
สู่โลกแห่งความสงบตั้งแต่วัยเยาว์ ในหมู่นักแสวงบุญเพื่อนๆกลุ่มผมเรามักเรียกกันเล่นๆว่า กลุ่มศีลสองร้อย ศีลสิบ ศิลแปด และศีลห้า แม้ว่าเราฆาราวาสจะถืออุโบสถศีลก็ถือเพียงแปดข้อ
แต่เณรท่านถือศีลสิบ
ภาพที่สาม: ถังขยะที่ไม่เป็นขยะ
ยามเช้าที่หน้าอุโบสถวัดพระธาตุผาเงา เชียงแสน ผมเห็นความงามของถังขยะ ที่สานจากไม้ไผ่มีใบตองกล้วยจับกลีบบุไว้อย่างประณีต มีตุงเล็กๆ งามวิจิตรล้มอยู่ข้างๆ เลยจับมาประดับเพิ่ม
ความงดงามให้เสียเลย ให้งดงามเป็นถังขยะที่…งามที่สุดในโลก
ภาพที่สี่: ชื่อภาพ”ถูกเซ้าซี้บังคับให้ถ่าย”
ตลอดทริปนี้ ผมมีดาราหน้ากล้องดังที่เห็นในภาพ ไปทางไหนก็ไปดักหน้าดักหลังโพสต์ท่าให้ถ่ายรูปทั้งในท่านั่ง ยืน ปีนต้นไม้ ไม่ใช่ใครที่ไหน คุณหลานในไส้ของลุงเอกนั่นเอง ดูรูปสิครับ
คนถ่ายก็ถูกเซ้าซี้ให้ถ่าย คู่ที่ยืนถ่ายด้วย(จอมกวน)ก็ทำหน้าเหมือนถูกบังคับให้ถ่ายด้วย คนหน้าระรื่นมีแค่คุณหลานคนเดียว
แซวเล่นดอกเด้อหล้า…อันที่จริงคุณเธอก็มีฝีมือฝีปากไม่เบาเลยทีเดียว เท่าที่ได้ยินเธอด้นเพลงอีแซวบนยอดดอย และได้ยินเสียงบรรเลงขลุ่ยประสานกับเสียงกีต้าร์ที่ห้องนั่งเล่น
ลุงเปลี่ยนร่วมถ่ายทอดมาเป็นบทกวีได้อย่างนี้
“สอดประสานเสียงเพลงบรรเลงเสนาะ
พิณขลุ่ยคลอดั่งทิพย์ดนตรีแดนสวรรค์
ขลุ่ยแผดเสียงโหยหวนกรีดร้องรำพัน
พิณเสกสรรเสียงเพลงกล่อมประโลม
ขลุ่ยร่ำไห้พิลาปเสียงแหบเศร้า
พิณปลุกเร้าดั่งสายธารถาโถม
ชักนำพากันไปตามอารมณ์
ต่างรื่นรมย์ชื่นชมทิพย์ดนตรี”
« « Prev : เจ้าสำอาง ที่ด่านน้ำเงิน
Next : เสน่ห์คำลาว: “ลูกบ่ไห้ อย่าเอานมให้กิ๋น” » »
8 ความคิดเห็น
สู๊ดดดดดดดด ยอดดดดดดดดดด หอบกระติ๊บลุงเปลี่ยนขึ้นเครื่องบิน 555++ คิดถึงลุงเปลี่ยนเด้อ รักๆๆ กอดๆๆ รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ อิอิ …หนูจิ
มาบอกลุงเปลี่ยนว่า ที่คุยแซวไว้ที่พระธาตุนะ…เอาจริงนะค่ะ…กลับมาบ้านก็เริ่มสานฝันจากจุดเล็กๆแล้วค่ะ..คาดหวังว่าหน่อเนื้อที่เติบโตจะค่อยๆงอกทีละนิดๆค่ะ…ฝันนี้จะเป็นจริงด้วยเวลาที่ค่อยรินรดน้ำใจให้เด็กน้อยหลายคนค่ะ
ชอบชื่อภาพที่สี่ค่ะ…นึกถึงแล้ว ขำ ขำ
จำได้ว่าพยายามแคะหาคนของหัวใจของอ้าย…ตอนนี้เริ่มจะแกะรอยไปหาอี่น้องคนงามละเน้อเจ้า…อิอิ..ฮิ้ว!
รูปได้อารมณ์มากครับ
บรรยากาศรูปแรกเห็นแล้ว ง่อมจอยวอย ..ได้อารมณ์มากๆครับ
เจ๋งค่ะพี่เปลี่ยน..
ชอบภาพแสงสุรีย์มากๆ และพี่เปลี่ยนช่างสังเกตเห็นถังขยะใบนี้ได้ยังไงเนี่ย ซู้ดยอด..
อ้ายเปลี่ยนครับ…แค่รูปแรกก็สะกดผมให้ตะลึงแล้วครับ ต้องมานั่งนึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสขึ้นไปด้วย ไม่รู้ป้าแดงจะเคืองเอาหรือเปล่า..ประสานงานผิดพลาดเพราะผมลืมโทรไปยืนยันว่าจะไปวันที่ 6 แน่นอน เลยทำให้พวกเราต้องใส้กิ่วได้ทานข้าวกลางวันตอนบ่าย 2 โมง..ขอสูมาตวยเน้ออ้าย
สวัสดีครับพี่เปลี่ยน ภาพสวยมากครับ แต่พี่เปลี่ยนร้องเพลงของหลานสาวทั้งสองได้แล้วหรือยังครับ อิอิ…