๗ ตุลา ช่อมาลาแด่ “นายคู” ที่หงสา

โดย silt เมื่อ 6 ตุลาคม 2011 เวลา 1:42 (เย็น) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 2388

 

วันสองวันนี้ หงสายามเช้าสดใสสวยงามเป็นพิเศษ ยามเมื่อเห็นเด็กน้อยนักเรียนแต่งเครื่องแบบใหม่ ในอ้อมแขนน้องน้อยทุกคนประคองดอกไม้ช่อโต เดินมุ่งหน้าไปโรงเรียนด้วยประกายตาฉายแววสุข(เพราะไม่ต้องเรียนหนังสือ) บรรดาเหล่าทโมนหนุ่มรุ่นแตกพานแก๊งค์เด็กรถ(ถีบ)ซิ่ง ประจำโรงเรียนมัธยม ก็ไม่ได้ยกเว้นที่จะเหน็บช่อดอกไม้เยินๆติดรถจักรยานไปโรงเรียนด้วยเช่นเดียวกัน

นายคู คือคุณครู ….ที่หงสา ครูบาอาจารย์ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เราจะเรียกคำนำหน้าท่านว่า “นายคู”  

๗ ตุลาคมของทุกปีถือเป็น “วันครู” ประจำชาติของ สปป ลาว ที่เริ่มสสถาปนามาตั้งแต่สมัยเปลี่ยนระบอบใหม่ๆ (อันที่จริงเรื่องการไหว้ครูนี่ทั้งลาวทั้งไทยสมัยบุราณ ท่านก็มีพิธีกรรมอันศักสิทธิ์ประจำสำนักมานานเนิ่น) กลับมาที่เมืองลาว สมัยที่เป็น สปป ใหม่ๆท่านให้จัดเป็นวันครูสากล โดยยึดถือวันที่ตรงกับของสหภาพโซเวียต ต่อมาราวปี ๑๙๙๓-๙๔ ท่านจึงให้เปลี่ยนมาเป็นวันที่ ๗ตุลา โดยถือเป็นการยกย่อง ท่านนายคูคำ ท่านนายคูคำท่านเป็นครูสอนหนังสืออยู่เวียงจันทน์ในสมัยที่จักรวรรดิฝรั่งเข้ามาเมืองลาว ในวันที่ ๗ตุลา ท่านนายครูคำเป็นผู้นำพาบรรดาครูลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเอกราช ดังนั้นทาง สปป ลาวจึงกำหนดให้วันนี้เป็น “วันครู”

ชีวิตนายคูเมืองหงสา “เป็นตาน่ายกย่องชมเชย” และทำให้หวนคิดถึงคุณครูประชาบาลสมัยที่เพิ่งหัดเขียน ก.ไก่ กล่าวคือ เห็นว่าบรรดาคุณครูท่านยังมีบทบาทเป็นที่เคารพนับถือของเด็กประเภทที่ยังยกเป็น “ของสูง” ครูที่เป็นพนักงานสัญญาจ้าง มีค่าตอบแทนที่ถือว่าน้อยมาก (เมื่อเทียบกับค่าครองชีพในบ้านเรา คือประมาณ ๒-๓ พันบาทต่อเดือน) ครูต้องออกไปอยู่ตามหมู่บ้านห่างไกลเดินเท้าหลายสิบกิโล ฯลฯ แต่นายครูท่านก็ยังประกอบสัมมาชีพ อย่างสมถะ กระเตงลูกน้อยขึ้นหลังมาสอนหนังสือ กลางวันกลับไปหุงหาอาหารที่บ้าน วันหยุดไปทำไร่ไถนา น่าชมเชยท่าน”เรือจ้าง” แต่ก็อดห่วงใยไม่ได้เมื่อได้อ่านลิ้งค์ในเวปซ์ไวด์ที่อ้ายน้องส่งมาให้อ่านเกี่ยวกับนโยบายการศึกษาฯ (เซ็นเซอร์ คนนอก คนนอก คนนอก ท่องไว้)

การจัดงานวันครูเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จากการซอกแซกซักถามเพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคยเป็นนักเรียน ได้รับการถ่ายทอดว่าสมัยก่อนงานวันครูจะให้นักเรียนเอาข้าวต้มมัดมาจากบ้าน โรงเรียนเตรียมน้ำอ้อยน้ำตาล มะพร้าวไว้ให้ บางปีก็มีหมูหัน หรือวัวที่จัดเตรียมไว้ เมื่อถึงเวลานักเรียนมานั่งรวมกัน ตัวแทนนักเรียนกล่าวอวยพรครู ครูให้โอวาทพร้อมเล่าประวัติความเป็นมาของวันครู แล้วก็กินข้าวกินขนมสามัคคี สำหรับทุกวันนี้ มีความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้สองประการ คือ ๑. เรื่องการมอบของขวัญพบว่าปัจจุบันเป็นประเพณีปฏิบัติที่นักเรียนทุกคนตั้งแต่ชั้นอนุบาลขึ้นไป ต้องมีช่อดอกไม้และของขวัญมอบให้อาจารย์ แล้วยังมีของขวัญพิเศษมอบให้กับครูที่ “สอนเสริม คือ สอนพิเศษ” อีกต่างหากตามความสมัครใจ การเปลี่ยนแปลงประการที่ ๒. ได้แก่การจัดงานเฉลิมฉลอง มีการแจกบัตรเชิญ เชิญแขกมาร่วมทานอาหาร เครื่องดื่ม เบียร์ มีดนตรีอิเลคโทน แล้วก็จัดรอบรำวง

“คนนอก” ควรมีบทบาทเยี่ยงใด? ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม คนนอกที่คุ้นเคยกับห้องการต่างๆ ต้องได้รับบัตรเชิญร่วมงานวันครูทุกปีๆละหลายโรงเรียน โดยส่วนตัวแล้วตรงไปตรงมาคือ ไม่ไป(เพราะไม่อยากเมา) ส่วนการ “ส่งบัตรเชิญ หมายถึง เอาบัตรเชิญหรือซองไปส่งคืน” ก็ใช้วิธีฝากเงินใส่ซองให้น้องๆที่ไปร่วมงานถือไปให้ หรือบางทีก็เอาเงินฝากให้น้องซื้อเบียร์ไปร่วม ๑-๒ ลัง ทำอย่างนี้อาจรอนน้ำใจกันบ้าง ความสนิทชิดเชื้ออาจไม่แนบแน่น (แต่ไม่เป็นไร จารย์เปลี่ยนไปหาพรรคในวงวัดได้) มีความคิดว่าโครงการน่าจะมีวิธีเข้าไปมีส่วนในงานวันครูได้อย่างไร หรือในรูปแบบใด นอกเหนือจากการ “ส่งบัตรเชิญ”โดยการสนับสนุนเงินในงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง…….

เนื่องในวันครูแห่งชาติ สปป ลาว ขอฝากความคิดถึงไปยัง ครู(s)นันทวิศาลเมืองหละปูน ครูแม่ใหญ่ ครูบู๊ธ ครูออตแก่นขอน ครูพยาบาลสวนดอก ครูอาม่าอากงโคราช ครูสอนครูท่านที่ย้ายไปอยู่เมืองใต้ ครูสอนเลขจบเยอรมัน ครูแห้วเมืองกรุง ครูเหน่อเมืองเลาขวัญ ครูสุ ครูคิม ครูมิมเมืองสองแคว ครูอะไรอีกบ้างหนอ อ้อ ครูบาฯแห่งสวนป่า และบรรดาครูผู้มีพระคุณทุกๆท่านในโลกหล้า

« « Prev : จะเป็นเพียงคนแปลกหน้าผู้ผ่านทาง หรือกลมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม หรือจะเป็นสิ่งเร้าภายนอกที่มากระทบสังคม

Next : (เมื่อน้ำเป็นภัย) ได้โปรดเถิด ช่วยกัน ช่วยกัน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น

  • #1 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 ตุลาคม 2011 เวลา 8:21 (เย็น)

    ขอบคุณที่คิดถึงกันค่ะ

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 6 ตุลาคม 2011 เวลา 11:01 (เย็น)

    เหนียมๆ เขินๆ อย่างไรไม่รู้ มายกเราเป็นครูเป็นบา อิอิ
    แต่นั่นแหละ คนที่คิดดีดีกับคนอื่นๆมักได้ดีเสมอๆ

    เพราะความดีนั้นเป็นพลังงานอย่างหนึ่งที่ส่งผลไปถึงคนทำดี คิดดี
    อิอิ ไม่ใช่ครูพูดนะ เป็นเพื่อนร่วมงานพูดน่ะ

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 ตุลาคม 2011 เวลา 1:24 (เช้า)

    ถ้ามีรูปมาอวดด้วยท่าจะดี

  • #4 อุ๊ยสร้อย ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 ตุลาคม 2011 เวลา 5:47 (เช้า)

    บ่ากึ๊ดเติงหาอุ้ยผ่องหล้อ…อิอิ

    อ่านแล้วนึกึถงวันไหว้ครูไทยโตยค่า สมัยก่อน กำหญ้าแพรก ดอกมะเขือ ดอกเข็มใส่สวยดอกมีเทียนมีธูปปักไปโฮงเฮียน ครูอยู่หน้าห้องเฮียนใครห้องเฮียนคนนั้น..นักเรียนก่อเข้าแถวเอาดอกไปหื้อครู แล้วครูก่อลูบหน้าลูบหลังหื้อคำพร

    สมัยนั้นบ่าเห็นมีห้องพักครูเลย ครูมีโต๊ะประจำหน้าห้อง ครูห่อข้าวมากินกลางวันพร้อมๆ กับดูเด็กน้อยว่ากิ๋นข้าวกลางวันกันก่อคนไหนบ่ามีของกินก่อเอาของครูมากิ๋นได้

    บ่ามีพิธีอะหยังนัก

    สมัยนี้นักเรียนไทยหอบตังค์ไปร้านดอกไม้สด จ่ายค่าพานดอก พานธูป แล้วทำพิธีไหว้หลอกๆ จำลอง ครูก่อมาหื้อคะแนนพานพุ่ม
    บางที่เกิ้นก่อดีอยู่ เอาตุ๊เจ้ามาเทศน์ธรรมหื้อตึงนักเรียนตึงครู ..บางที่ก่อหื้อนักเรียนทำพิธี
    พิธีก่อมีร้องเพลง กล่าวคำสดุดีครู มอกพอหื้อครูน้ำตาปริ จากนั้นก่อพิธีมอบรางวัลเรียนดีหื้อนักเรียน แล้วก่อแยกย้ายกันไป….คอนเวิด ทางใครทางมัน
    วันหลังเตียวสวนกั๋นก่อบ่าฮู้จักกั๋นแล้ว

    มีวันครูวันเดียวสองชั่วโมงในหนึ่งปีการศึกษา หุหุ

    สปป ลาว คงบ่าเฮียนแบบพี่ไทยทุกเรื่องหน่อ

  • #5 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 ตุลาคม 2011 เวลา 10:28 (เช้า)

    ช่อดอกไม้ที่ว่า เป็นช่อดอกไม้ใบโกสน หมากผู้แดงที่เก็บได้ตามบ้านครับ ไม่ได้งดงามช่อดอกไม้เมืองหนาวเหมือนที่เราเห็นในหนังในละคร
    ของขวัญก็ตามกำลังทรัพย์ เช่นผ้าเช็ดหน้า สบู่ ผงซักผ้า ผ้าเบี่ยง เป็นต้น

    ที่น่าชื่นชมอีกอย่างก็คือ งานพิธีและงานเลี้ยงนั้นท่านจัดก่อนวันจริงหนึ่งวัน ส่วนวันครูจริงๆคือวันที่ ๗ นายคูจะพักผ่อนอยู่บ้าน ให้ลูกศิษย์เก่าแก่ที่ระลึกถึง มาเยี่ยมคารวะ อันนี้น่ายกย่อง

  • #6 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 ตุลาคม 2011 เวลา 10:43 (เย็น)

    มีคนกึ๊ดเติงหา ปาหื้อใจจื้นใจบาน..^^

    วันนี้ฮู้สึกเหมือนแม่ก๊าถ่านหาบถ่านมาเติ้งเหยิ้ง..เติ้งเหยิ้ง..แล้วได้วางหาบลงพัก เอาหมวกวีพึบพับไล่ร้อนสักกำ
    แล้วค่อยยกหาบใส่บ่า..เตียวต่อ..

    ละอ่อนสอบเสร็จกันแล้ว..จะปิดเทอมกันไปสองสามอาทิตย์..
    อยู่กับละอ่อนน้อย จนถึง วัยเขี้ยวแดง บางทีก็เป๋นปาก บางทีก็มีเรื่อง คะล่มโต้มต้ำไปตามประสา
    ผ่อลูกเปิ้นก็ต้องระแวดระวังไปทุกเรื่อง ผิดพลาดมาได้เจ็บได้ไข้ หรือ ว่า ถ้าสดล่นหายไปแอ่วตางไดเหียคน ก็เป็นเรื่องได้ทุกเมื่อ
    เขาก็น่าฮักกั๋นนาเจ้า แต่ความที่ต้องระแวดระวังละอ่อนเป็นร้อยๆ นี่ บางทีก็เหมือนแม่ค้าถ่านหาบก๋วยเนาะ ปิดเทอมกำ ก็ได้วางกำ..

    วิถีคนเฮาก็เปลี่ยนไป โลกสมัยใหม่ ละอ่อนบางทีก็เหมือนถูกปล่อยปละละเลย จนบางทีครูก็ต้องสอน ต้องใส่ใจ ในเรื่องที่สมัยก่อนแทบบ่ต้องสอนเพราะเปิ้นได้ฝึกมาจากบ้านแล้ว มีซะป๊ะเรื่องที่ต้องดูแลผ่อกอยเขา..

    เป็นครูนี่เนาะ ก็แบกก๋วยถ่านเตียวไปเตีอะเนาะเจ้า..เตียวไป ผ่อดอกไม้ข้างตางไปก็ยังดีก่อหา..^^


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.11607503890991 sec
Sidebar: 0.015758037567139 sec