ร่ำเปิง หละปูน
หละปูนเหยงามฟ้า ยามแลง
สูรย์ส่องงามสาดแสง แต่งแต้ม
ระบำเมฆร่วมแสดง งามแม้น
ดุจดั่งเป็นแว่นแคว้น แดนสรวงเมืองแมน
อารามงามสงบ พาเข้าพบนิพานสถาน
มีมาแต่โบราณ เป็นหลักฐานความฮุ่งเฮือง
ดอกสาละวางบนมือสื่อสาระ
อยู่ที่จะปล่อยวางหรือยึดถือ
ว่าตัวกูของกูไม่ปล่อยมือ
มุ่งยึดถือทั้งอำนาจและสินทรัพย์
นวลนาฏน้องนาง ร่ายรำขับฟ้อน แขนเอวแอ้นอ้อน อรชรแช่มช้อย
เยื้องย่างวาดแขน แป๋งตาชม้อย งามหยดย้อยนงคราญ
งามแม่กวงไหลผ่านหน้าพระธาตุ งามศิลปะหม้อดอกตอง เหมือนกับสัญญานว่าเมืองลำพูนมีอัตลักษณ์ของตนเอง แม้นว่าจะผ่านวันเวลายุครุ่งเรือง ร่วงโรย ฟื้นฟู หลายยุคหลายสมัย ตั้งแต่ครั้งสมัยพระนางจามเทวีแห่งทวาราวดีละโว้ ผ่านการอพยพหนีโรคร้าย แล้วกลับมาใหม่ จนถึงยุคฟ้าเมืองยองมาตั้งหลักแหล่ง
ลำพูนเป็นตัวอย่างของการอยู่ร่วมกัน ของสังคมเกษตร กับนิคมอุตสาหกรรม เป็นตัวอย่างของความเจริญทางวัตถุควบคู่ไปการรักษ์ฮีตโบราณ
ทำไมไม่มีใครคิดทำ โมเดลหละปูนบ้างน้อ
อ้าว อ้าว เลอะเลือนลามปามไปแล้ว (สงสัยพิษหมากัดกำเริบ อิอิ)
« « Prev : วาทะพี่Taxi “คุณนี่ท่าจะบ้า”
Next : บุรีรัมย์โมเดล ทางออกของภาวะ ข้าวขาดแลง แกงขาดหม้อ » »
1 ความคิดเห็น
หน้าหนาวจะไปน่าน แล้วข้ามไปหาฝั่งขะโน่นเน้อ สนใจอยากจะไปดูการปลูกเร่ว อิ