คิดหลายหัวแตก แบกหลายหลังหัก
ไม่ได้ว่าใครนะครับ บ่ได้ว่าไผ
พอดีครูบามากระทุ้งเรื่องให้ยุบความขี้เกียจเขียนบันทึก แต่บ่มีหยังในไส้ในบุ๋มสำหรับเขียน ก็เลยยกคำผญาเมืองลาวที่ได้ฟังจากคนรอบข้าง มาจั่วหัว
คิดหลายหัวแตก แบกหลายหลังหัก หากจะว่าก็คงต้องว่าตัวเอง ที่ชอบเผลอใจเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น หยิบเอาเรื่องเล็กๆน้อยๆมาหงุดหงิดโมโห นานๆทีถึงจะรู้ตื่นมาสำรวจใจ ลบไฟล์ขยะออกจากหัวได้นิดหน่อย…แล้วก็ลืมตัวลืมใจใหม่รับเอาไฟล์ไวรัสมาแฝงไว้ในใจใหม่…เป็นเช่นนี้เองใจดิบดิบ เรื่องแบกนี่ก็เข้าตัวเหมือนกัน ความขี้เกียจสอนขี้เกียจตรวจเลยต้องอมงานหลายๆชิ้นไว้ทำซะเอง แต่พอไม่ทันเข้าก็ทำได้แค่เขี่ยๆให้พอได้ส่ง ไม่เห็นจะดีเด่นกว่าของชาวบ้านเขาไปซะที่ไหน สงสัยต้องหัดผ่องถ่ายงานเสียบ้างแล้ว
เรื่องผลการตรวจร่างกายก็อยากเขียนเล่า แต่ขอเวลารวบรวมหน่อย ที่น่าสนใจคือ เด็กๆที่นี่ร้อยส่วนร้อยได้กินนมแม่จนอายุขวบกับอีกหกเจ็ดเดือน อย่างนี้น่าจะเลี้ยงง่ายสอนง่าย ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์เกือบทุกคนเข้าโครงการคุมกำเนิด(โครงการลูกห่าง) และได้รับการฉีดวัคซีนบาดทะยักจากการช่วยเหลือของสากล ผู้ชายเกินร้อยละแปดสิบกินเหล้า และสูบบุหรี ส่วนผู้หญิงร้อยละแปดสิบก็บอกว่าดื่มเหล้ายามมีเทศกาลงานบุญเหมือนกัน มีคนตุ้ยที่ BMI เกิน ๒๕ อยู่แค่สองสามคน(จากทั้งหมดสองร้อยคน)
มีเกร็ดเล็กๆน้อยๆ เรื่องการไม่ยอมให้ตรวจเลือด บางคนก็มาร้องเรียนว่าเจาะเลือดแล้วหมดแรงไปทำไร่ไม่ได้ บางรายก็หนีเข้าป่าตั้งแต่เช้ามืด คุณป้าท่านหนึ่งหลบอยู่ในห้องน้ำลูกผัวไปตามก็ไม่ยอมออกมา
ไปประชุมเวียงจันทน์เมื่อต้นเดือน เครื่องบินฝ่าพายุเกือบยี่สิบนาทีก่อนจะร่อนลงแบบเฉไปส่ายมาที่สนามบินวัตไต ทำให้เห็นอาการตื่นตระหนกของคนหลายชาติหลายภาษา ต่างคนต่างหยิบมือถือโทรหาลูกเมียกันวุ่นวาย “การเฉียดบางครั้งก็กระตุกใจของคนได้หลายคน” ส่วนตัวก็มีผลเล็กๆ ไปงวดนี้ซื้อหนังสือแบบไม่ยั้งไม่ดูราคา “ก็คิดถึงตอนนั้นแล้ว ก็เกรงว่าจะไม่มีโอกาสได้ใช้ตังค์”
วันอาทิตย์ที่ผ่านมาไฟฟ้าดับทั้งวัน ถือโอกาสอ่านหนังสือ “ประวัติศาสตร์ประเทศลาว” ของ ศ. กรานท์ เอแวนส์ เขียนได้ดีอย่างเป็นกลางดีจริงๆ สมกับคำวิจารณ์ที่ว่า ท่านเขียนได้เหมือนกับรูปที่วาดอยู่บนกำแพงที่เรียงกันเป็นลำดับ เล่มนี้มีสองภาษา อังกฤษ และแปลเป็นลาวอีกหนึ่งเล่ม อันนี้ก็มีหลายประเด็นที่อยากหยิบยกมาเล่า (แต่ก็ติดอยู่ที่….สมาธิและความคร้าน)
เมื่อเช้าเพื่อนฝูงในกลุ่มเวปไซด์ ลาวลิ้งค์ ส่งข่าวมาให้อ่านว่า ท่านนายกลาวท่านไปกล่าวไว้ที่จากาตาร์ว่าจะชะลอการสร้างเขื่อนไชยะบุรีออกไปตามการร้องขอของเวียดนาม อือมม อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปล่ะ รอติดตามด้วยใจระทึก
หงสาฝนมาเร็วเหมือนกับบ้านเรา แอบเป็นห่วงพี่น้องชาวไปร ชาวข่า ว่าจะไม่ทันเผาไร่ จะไม่มีข้าวกิน แต่ลูกทีมกลับมาบอกว่า บ่มีปัญหา พี่น้องเขาเผาไว้ตั้งแต่เดือนสามหมดแล้ว “โล่งอกไปหนึ่งเปราะ” ”มีแต่สวนสาธิตของอาจารย์นี่แหละยังบ่ทันอะนาไม” อ้าว กลายเป็นสวนของเราเองที่ไม่ทัน “ใครว่าเราฉลาดกว่าชาวบ้านกันล่ะนี่”
ปิดท้ายบันทึกด้วย ผญาอีกคำ “ไค่กิ๋นหลาย ได้กิ๋นเท่าป๋ายก้อย ไค่กิ๋นหน้อยได้กินเท่าโป้ตี๋นโป้มือ” อันนี้พ่อเสาร์บ้านหาญพูดให้ฟังเด้อ ท่านเปรียบให้ฟังถึงตอนที่เลี้ยงลูกเด็กๆ เวลาป้อนข้าวปั้นข้าวเหนียวแจกกับฉีกเนื้อย่างให้คนละนิด เจ้าคนที่ชอบขัดคอก็ยืนกระทืบเท้าจะเอาชิ้นโตๆไม่ยอมรับไปสักที ส่วนเจ้าคนที่ว่าง่ายก็รับไปกินหมุบๆหมดแล้วยื่นมือมารับชิ้นใหม่ ปล่อยให้ไอ้เจ้าโยเยดิ้นเร่าๆอยู่นั่น สุดท้ายชิ้นปิ้งก็เหลือไว้ให้กินนิดเดียว
คนหงสานี่สุดยอด พูดคำแทรกคำผญาคำ
« « Prev : รายงานสดการเลือกตั้ง สส.จากหงสา
4 ความคิดเห็น
สวัสดีค่ะอาเปลี่ยน…แหมนานๆมาทีก็มีแหลมๆมาให้ได้ขบคิดกันนะคะ
“คิดหลายหัวแตก แบกหลายหลังหัก” นี่เข้าท่ามากนะคะอาเปลี่ยน เมื่อก่อน(สมัยยังเอ๊าะๆอยู่…อิอิ)เคยเป็นแบบนี้แหละค่ะ…ก็ทำให้เหนื่อยและเครียดทีเดียวค่ะ…
ตอนนี้อาจจะด้วยวัย… ประสบการณ์… ทำให้ปล่อยวางและอุเบกขาได้เยอะเลยค่ะ…ไม่คิดหลาย…และไม่แบกอะไรแล้ว…แบบสบายๆค่ะ
เสียดายอาเปลี่ยนเข้ากรุงเทพฯเมื่อปลายเดือนที่แล้วป้าจุ๋มไม่มีโอกาสพาไปเลี้ยงไอศครีมน้อยหน่า…เพราะอาเปลี่ยนต้องรีบกลับก่อน…แต่ไม่ต้องเสียใจค่ะ…ป้าจุ๋มและน้องสร้อยตั้งใจจะไปกินเผื่อ…แต่ก็ผิดหวังเช่นกันเพราะเขาย้ายร้านหนีไปแล้ว..หุ หุ
เรื่องฝนฟ้าก็ปล่อยให้เป็นไปตามแต่สวรรค์จะบัญชา…แต่ก็ไม่ประมาทค่ะ
อย่าทำงานหนักเกินไปนะคะ…รักษาสุขภาพด้วยค่ะ
เจ้านายสั่งให้ทำแผน 1 สัปดาห์ต่อเดือนที่ site ลดลงมาจากเดิม 2 สัปดาห์ต่อเดือน และมีข่าวภายในตามที่เปลี่ยนบันทึกไว้คือ เลื่อนไป 6 เดือนเพื่อศึกษาต่อ หนึ่งที่ทราบแน่ๆคือเรื่องแผ่นดินไหว พบน้องจาก ช.ที่จบจาก มช.ภาควิชาธรณีวิทยา และไปต่อที่ AIT ว่ากำลังเริ่มศึกษาเรื่อง แผ่นดินไหว ซึ่งใช้เวลา 3 เดือน พร้อมๆกับการศึกษาด้านอื่นด้วย
เห็นด้วยกับอาเปลี่ยนค่ะ ลองคิดย้อนไป ใช้บริการของ ไอ้ เอ๋ม ไม่เลวเลย…บ่แม่นเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนเด้อ เพราะวันนี้มีอีกเรื่องที่ป้าหวานจะเขียน ชื่อเรื่อง ต่างเวลา ต่างมิติ แต่ว่า ไอ้ เอ๋ม บ่อยู่นี่แหละค่ะ ฮ่าๆๆ
เขียนเล่าเรื่อง ทางลาวให้ลูกหลานได้อ่านบ่อย ๆ นะค่ะ จะได้เข้าใจเพื่อนบ้านค่ะ
จะให้นักศึกษาพยาบาลได้มาเรียนรู้ วัฒนธรรมของเพื่อนลุ่มนำโขง
ได้ข้อคิดสะกิดใจดีด้วยค่ะ