ใช่ว่าอยากให้อะไรแล้วจะได้ให้ (บันทึกจากหมอจำเป็น)
๙ โมงเช้า ที่ห้องประชุมโรงหมอแขวงไชยบุรี
กองประชุม เรื่องการเตรียมจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับโรงหมอเมืองหงสา
ผู้ประสานงานโครงการท่านไปแจ้งนัดหมายกับทางแขวงไว้ว่าจะมีหมอ(ท่านด็อกเตอร์)จากเมืองไทยไปคุยรายละเอียดด้วย บรรดาท่านจึงจัดตั้งคณะนำของสาธารณสุขและโรงหมอแขวงใส่สูทมัดการาวัด(เนคไท)นั่งรอประชุม นำโดยท่านหมอคูนสะหวัด (รองฯผอ.โรงหมอแขวง) ท่านหมอพอนปะดิด(หน.ฝ่ายวิชาการ) ท่านหมอพูวา(หน.แพดห้องไอซียู) ท่านนางหมอเพ็ดสะหมอน(หน.ห้องแล็ป) ท่านหมอบุญยัง และท่านคำเผย(หน.แผนกเครื่องมือแพด) ส่วนทางผู้แทนฝ่ายโครงการก็หนีไม่พ้นไอ้กระผมนี่แหละที่ถูกผลักให้ออกหน้าสุด ในฐานะที่เคยกินนอนในโรงหมอมานาน พอรู้จักวัดปรอทหยอดยาช่วยหมอทำแผลมาบ้าง
เรื่องการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์นี่คุยกันมาหลายครั้งหลายหน (แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปสักที) เว้นแต่ผล สำเร็จที่ผมได้โน้มน้าวให้ตัดงบประมาณการถมดินปรับภุมิทัศน์หน้าโรงหมอ โยกเงินมากองไว้สำหรับซื้อเครื่องมือที่จำเป็นนั้นถือเป็นข้อเดียวที่ตกลงกันได้ ส่วนชนิดประเภทของเครื่องไม้เครื่องมือนี่เข้าใจกันยากจริงๆ ทางโรงหมอเมืองท่านต้องการอย่างหนึ่ง พอเสนอขึ้นไปทางขั้นเทิงโรงหมอแขวงท่านก็ดัดแก้มาอีกฉบับหนึ่ง ครั้นนำเสนอทางฝ่ายผู้พัฒนาโครงการที่บางกอกท่านก็ประกอบความเห็นมาอีกอย่างหนึ่ง ประเด็นสำคัญที่ทางผู้ที่”จะมอบ”ต้องการความมั่นใจ คือ อยากสนองเครื่องมือที่จำเป็นจริงๆ มอบไปแล้วได้นำใช้ประโยชน์ มีคนที่เคยใช้เครื่องมือนั้นๆ ระบบไฟฟ้ามีรองรับเพียงพอ ฯลฯ ส่วนประเด็นที่สำคัญกว่านั้นคือ ทางฝ่ายจัดหาท่านอยากได้ “สะ-เป็ก” specification สำหรับใช้ในการประมูลเปรียบเทียบราคาตามระเบียบของบริษัท เรื่องเจ้าสเปคนี่ถามตอบกันหลายรอบก็ไม่กระจ่างใจกัน และประเด็นสุดท้ายที่สำคัญที่สุด ท่านว่าเกี่ยวพันกับอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ทำให้ต้องจัดหางบประมาณมาเพิ่ม จึงต้องจัดลำดับการซื้อก่อนหลังความจำเป็น ส่วนวาระพิเศษที่จะหารือกันตอนท้ายคือการสร้างแผนตรวจสุขภาพของชาวบ้านสามพันกว่าคนอย่างละเอียด
กองประชุมไขขึ้นด้วยอัธยาศัยไมตรี(แม้บรรดาท่านหมอ อาจจะสงสัยนิดๆว่า ท่านหมอจากเมืองไทยนี่ดูพิกลๆสะพายย่ามหนวดหงอกหรอมแหรม(หงอกจริงๆไม่ได้พิมพ์ผิด)เข้าห้องมา น่าจะมาแนวหมอผีมากกว่า…อิอิ) เราตกลงกันว่าในบรรดาเครื่องมือห้าสิบกว่ารายการนั้น จะตัดรายการของที่ไม่ใช่เครื่องมือหมอ(ประเภทเครื่องตัดหญ้า คอมพิวเตอร์ โต๊ะ ตั่ง ตู้)ออกก่อนแล้วจึงเริ่มลงรายละเอียดทีละรายการซึ่งมีเหลือที่ต้องดูกันมากกว่าสามสิบอย่าง
เจ้าประคุณเอ๋ย แต่ละรายการกว่าผมจะนึกหน้าตาของแต่ละอย่างออก จากนั้นก็ต้องชวนคุยถึงความจำเป็น ความบ่อยที่ต้องใช้ แอบถามโดยไม่ให้ท่านโมโหว่าเราไปดูแคลนท่านว่าที่หงสามีคนใช้เป็นหรือยัง ถ้าไม่มีทางโรงหมอแขวงจะไปสอนได้หรือไม่(ความจริงก็อยากรู้นั่นแหละว่าที่แขวงมีหรือเคยใช้รึเปล่า) จากนั้นก็ลงลึกถึงสเปคละทีนี้ เช่นเครื่อง suction pump ต้องการแบบไหน แรงดันเท่าไหร่ เครื่องช่วยหายใจรุ่นไหน ชุดผ่าตัดที่ว่าชุดเล็กนี่น่าจะมีอะไรบ้าง ชุดเปิดช่องท้องที่อยากได้จำเป็นจริงๆมีตัวไหนบ้าง เครื่องต่อกระดูกนี่หน้าตาเป็นอย่างไร เฝือกอ่อนเฝือกแก่ต้องการอย่างละกี่ชุด เครื่องเอ็กซ์เรย์ เตรื่องอัลตร้าซาวด์(โห…แอบดูราคากลางเกือบล้านบาท…งบฯจะพอไหมเนี่ย) มาถึงเครื่องมือตรวจเลือดอยากวิเคราะห์ตัวไหนบ้าง ตับ ไตไขมัน (แค่ตรวจการทำงานของตับก็หกเจ็ดตัวแล้ว โชคดีที่ตอนอยู่วอร์ดถูกใช้ให้ตามผลเลือดคนไข้บ่อย…รอดตัวไป) นอกจากเครื่องตรวจทางเคมีของเลือดแล้ว ท่านว่ายังมีเครื่องฮีโมโลจีสิบแปดพารามิเตอร์อีก มีเครื่องปั่น เครื่องสั่น เครื่องตกตะกอนอีกสารพัด(อันนี้แล็ปวิชาดินก็พอได้ใช้…พอรอดตัวแบบถลอกปอกเปิกนิดหน่อย) แล้วก็ต้องมีน้ำยาวิเคราะห์ต่างๆ(เริ่มมึนตึ๊บๆ …ไม่เป็นไรเดี๋ยวอาศัยจดจากข้างกล่อง) บรรดาท่านเอ๊ยยยย….. นอกเหนือจากต้องคุยภาษาหมอที่ส่งคืนกลับไปสวนดอกเมื่อยี่สิบปีก่อนหมดแล้ว ท่านยังคุยกันด้วยภาษาหมอฝรั่งเศสปนลาวครับท่าน “หมากไข่หลัง คือ ไต” “เจาะหาทาดกาลีในเลือด โชคดีที่ประโยคต่อไปท่านว่าก่อนผ่าตัด เลยเดาออกว่า หาโปแตสเซียมในเลือด” ต้องยกมือถามเป็นพักๆว่า”อันนี้ภาษาอังกฤษท่านว่าหยัง” เสร็จแล้วท่านก็พาไปตระวณดูของจริงครับ ไปห้องเลือด ห้องตรวจ ห้อง ICU
เดินเขาห้องนั้น ออกห้องนี้ บางเครื่องติดอยู่กับคนไข้ในห้องไอซียูก็ต้องขอเข้าไปดู แล้วก็พากันกลับมาสรุปที่ห้องประชุมอีกครั้ง ผมรับที่จะกลับมายกร่างสเปคเครื่องมือตามที่ได้จัดลำดับการจัดซื้อ ส่งให้ท่านหมอตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากนั้นจะเสนอให้ผู้พัฒนาโครงการจัดซื้อต่อไป
แต่ท่านหมอคูนสะหวัดท่านรีบห้าม ท่านบอกว่า “ยังซื้อบ่ได้”
“ต้องส่งรายละเอียดทั้งหมด เพื่อขออนุมัติจากศูนย์เครื่องมือแพทย์ที่นครหลวงเวียงจันทน์ก่อน จึงจะสามารถนำมาใช้ในโรงหมอได้”
เป็นอีกเรื่องราวหนึ่งที่ได้รับรู้
ใช่ว่าอยากให้อะไรแล้วจะได้ให้….จริงๆ
Next : เรื่องราว ของท่านลาวมา ลี » »
4 ความคิดเห็น
โรคใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายในช่วงหลังจากปฏิวัติอุตสาหกรรม …มันมาพร้อมกับความเครียด ที่ทำให้ภูมิต้านทานโรคของมนุษย์ลดลงกว่าเดิมมาก
โรคพวกนี้ถูกแก้ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ก็ยิ่งเกิดโรค
..เป็นงูกินหางกันไปเช่นนี้แล
จนกว่า…
(ปล. อ่านแล้วสนุกมาก ชอบสำนวนลาวปนไทย ม่วนหลายเติบเด๊อ..)
ไม่เกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ แต่อยากจะส่งข่าว บวบพันธุ์ลูกยาวเป็นเมตรเริ่มออกผลแล้ว เอาไว้ให้ผลยาวมากๆจะถ่ายรูปมาอวด นิ
เห็นภาพเลยเปลี่ยน
เป็นเรื่องทำ-มะ-ดาค่ะอ้ายเปลี่ยน ที่จำเป็นต้องมีรายละเอียดของเครื่องมือและจำเป็นต้องตรวจสอบตามที่ผู้ใช้เขาว่า
อ่านที่อ้ายเปลี่ยนเขียนแล้วรู้สึกว่าหมอลาวเขารอบคอบ
และมีระบบควบคุมการเลือกใช้เครื่องมือภายใต้ความเป็นไปได้ที่เขาจะพึ่งตัวเองได้นะคะ
เรื่องเครื่องมือแพทย์นี่ ใครไม่เคยเป็นผู้ใช้จะไม่ใคร่รู้ว่า ไอ้เครื่องที่อยากให้นะจะเริดแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าประสบการณ์ของผู้ใช้ค่ะ
ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะพยายามประหยัดงบประมาณการซื้อ เลือกของใช้ที่จำเป็น แก้ปัญหางานได้จริงๆ และแก้ปัญหาได้เวลาเครื่องรวนได้ด้วยตัวเอง
ไม่ต้องการประเภทที่เริดหรู ทันสมัยแต่ใช้ไม่เป็น เสียก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ได้ ได้แต่นั่งตาปริบๆรอช่างมารับไปซ่อม
ซึ่งรับไปซ่อมแล้ว บางทีก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย
อ่านภาษาที่เล่าแล้วสนุก มีอะไรให้แปลมากมายเลยนะคะ เห็นภาพอย่างที่บู๊ทว่าจริงๆ