ขออย่าได้เป็น เมียบุญธง รถเชียงสง โถงจารย์เปลี่ยน

โดย silt เมื่อ 22 กันยายน 2010 เวลา 9:04 (เช้า) ในหมวดหมู่ ไม่ได้จัดหมวดหมู่ #
อ่าน: 1553

“ขออย่าได้เป็น เมียบุญธง รถเชียงสง โถงจารย์เปลี่ยน” คำพูดดังกล่าวเข้าหูผมมาได้สองสามปีที่หงสา เป็นคำพูดเล่นของพี่น้องชาวหงสาในทำนองหยอกเย้ากระเซ้าแหย่กัน ในทำนองรักดอกจึงหยอกเล่น ตั้งแต่ท่านรองเจ้าเมือง อ้ายน้องพนักงาน และพ่อเฒ่าผู้แก่ ที่พูดแซวผมด้วยสีหน้ายิ้มหัวยามอารมณ์ดี

แปลความหมายตามตรง ก็คือ ถ้าเลือกเกิดได้ ขออย่าได้เกิดมาเป็นเมียอ้ายบุญธง ขออย่าได้เกิดมาเป็นรถท่านเชียงสง และขออย่าได้เกิดมาเป็นโถง(ถุงย่าม)อาจารย์เปลี่ยน เพราะบรรดาท่านเห็นว่าเกิดเป็นสามสิ่งนี้ต้องรับภาระที่หนักหน่วงนั่นเองครับ พี่น้องชาวหงสาคงจะชินตากับภาพที่เห็นจึงเห็นพ้องกันกับคำพูดดังกล่าว

อ้ายบุญธง หรือสหายบุญธงเป็นชายร่างเล็ก ที่เกิดปีเดียวกับผม เราทำงานร่วมกันมาเมื่อครั้งที่ผมเข้ามาทำงานในหงสาครั้งก่อน ราวปี ๑๙๙๔ ท่านเป็นรัฐกร หรือข้าราชการที่ทำงานตรงไปตรงมา ไม่เกี่ยงงานหนัก เคยพาผมเดินลัดป่าตั้งแต่หกโมงเช้าจนถึงบ่ายสองโมงเพื่อไปบ้านห้วยเยอ ผมไปจับปลาในวังสงวนเพื่อศึกษาชีวะนานาพันธุ์ในน้ำโดยไม่ได้แจ้งกองหลอนบ้าน อ้ายบุญธงก็ไม่ละเว้นที่จะนำตำรวจมาจับมาปรับ อ้ายบุญธงนับเป็นพนักงานที่ซื่อตรงโดยแท้ ยามทำงานอ้ายจะทำหนักไม่พูดไม่จากับใคร ความรู้ที่ไปเรียนจบมาจากเวียดนามก็แน่นปึก ชาติตระกูลก็ดี มีพี่น้องจบป.เอกประจำกรมกองที่นครหลวง แต่ผมก็สงสัยว่าทำไมอ้ายท่านไม่ได้เป็นหัวหน้ากับเขาสักที อาจเป็นเพราะการเป็นคนตรงๆแบบเจอตอก็ไม่หลบของอ้าย หรืออาจจะเป็นเพราะประการหลัง นั่นคือการเป็นนักดื่มของอ้าย ที่เป็นที่มาของฉายานั่นเอง อ้ายบุญธงดื่มบ่อยมาก เมาจนชินตาคนทั่วเมือง จนวันไหนไม่เมาถือว่าผิดปกติ แต่เวลาเมาก็ไม่ได้ไปเกะกะทำร้ายสิ่งของผู้คนแต่อย่างใด เพียงแต่ว่าเมาเป็นพับต้องเป็นภาระให้เมียมาหิ้วปีกพากลับบ้านทุกที คนหงสาจึงกลัวที่จะเป็นเมียอ้ายบุญธง

ท่านเชียงสง หรือ พี่ทิดบุญส่ง เป็นรัฐกรระดับหัวหน้าห้องการ เป็นผู้ใหญ่ใจดีที่พวกเราได้พึ่งพาอยู่ตลอด นอกเหนือจากทำงานราชการแล้ว ท่านเชียงสงยังมีบ่อเลี้ยงปลาอีกสามแห่ง ท่านครูพักลักจำวิธีขยายพันธุ์ปลามาทำเองจนสำเร็จ ปีหนึ่งขายทั้งปลาใหญ่และลูกปลาได้หลายเงิน นอกจากนี้ยังมีแปลงนาที่ปลูกข้าวนาปรัง แม่บ้านและลูกๆของท่านเชียงสงก็ขยันขันแข็งในการงาน ลูกสาวคนหนึ่งเคยขอมาเรียนเพาะเห็ดกับผมจนนำไปขยายผลเพาะเองที่บ้านได้ ทุกวันนี้ท่านเชียงสงออกรถยนตร์มาขับได้ด้วยเงินสดแล้ว แต่รถคันที่ติดตาจนมาปากชาวหงสา กลับเป็นรถมอเตอร์ไซด์เอนดูโร่คันที่ท่านขี่ลุยป่าลุยเขาไปทำงานอย่างไม่ได้หยุดได้พัก คนหงสาจะติดตากับท่านเชียงสงกับมอเตอร์ไซด์คู่ชีพวิ่งว่อนไปทั่วทั้งในเขตเทศบาล และเขตซอกหลีกที่ห่างไกล จึงพูดติดตลกกันว่า ขออย่าได้เป็นรถเชียงสง

โถง หรือถุงย่ามจารย์เปลี่ยน เดิมทีชาวหงสาท่านว่า “โถงจานทัน” หมายถึงถุงย่ามท่านอาจารย์ทัน ผู้เฒ่าคนหนึ่งที่มีคนนับถือ เป็นผู้นำในพิธีกรรมทางศาสนา เป็นหมอพรทำขวัญ ท่านสะพายถุงย่ามเก่าครำคร่าจนไม่รู้สีเดิมติดตัวอยู่ตลอดเวลา ตอนหลังท่านชรามากจนออกงานไม่ไหว พอดีมี”จารย์เปลี่ยน”มาปรากฏร่างเคลื่อนไหวอยู่ในเมืองหงสาพร้อมๆกับย่ามคู่กาย แถมมีถุงเป้โน๊ตบุคอีกใบพะรุงพะรัง พี่น้องหงสาจึงพร้อมใจกันถ่ายทอดฉายา โถงจารย์เปลี่ยน ซึ่งก็ถือเป็นมรดกฉายาที่ผมเต็มใจสืบทอด

มานั่งทบทวนดูก็สมควรที่ผมจะได้รับฉายานี้ เพราะตัวเองสะพายย่ามติดตัวไปเกือบทุกแห่ง มัดการาวัตผูกเนคไทต้อนรับผู้ใหญ่ก็ยังสะพายย่าม ไปตลาดเช้าก็ใช้ย่าม ไปลงชุมชนทุกที่ต้องมีย่าม ไปวัดยังเอาขันเงินใส่ย่ามสะพายไป   

อีกนัยยะหนึ่งที่คิดแบบเข้าข้างตัวเอง ก็คือการที่ได้รับการยอมรับจากสังคม จากชุมชน ซึ่งเป็นหัวใจของนักพัฒนาชุมชน แม้ว่าผมไม่เคยเข้าชุมชนด้วยการไปนั่งกลางวงเหล้าก็ตามเถอะ (แต่ผมก็ไม่ได้ปฎิเสธว่านั่นอาจเป็นวิธีการเข้าสังคม การลงชุมชนที่ได้ผล) วิธีของใครก็ของใครก็แล้วกัน แล้วแต่ถนัดเต๊อะ

แต่หัวใจสำคัญอยู่ตรง บทเรียนแรก

นี่เป็นบทเรียนบทแรก ของนักพัฒนาชุมชน “การเข้าไปนั่งในใจคน การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน”

« « Prev : คืนกายสู่สามัญ คลายใจสู่สมถะ ในเรือนน้อยแนวอนุรักษ์

Next : หมกปลาแดกแลกช้าง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 freemind ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กันยายน 2010 เวลา 11:09 (เช้า)

    สวัสดีค่ะ
    อ่านแล้วก็ยิ้มไป อารมณ์ดีไป ชอบตัวหนังสือของคุณลุงเปลี่ยน เพราะมีความอารมณ์ดีแฝงอยู่เสมอ ๆ และยังได้ความรู้อีกหลายคำด้วย

    ชอบคำว่า “รัฐกร” แทนคำว่า “ข้าราชการ” ได้ดีกว่าเยอะ เพราะข้าราชการ(ไทย) ลืมความหมายของคำนี้ไปเสียโดยมาก โดยเฉพาะตัวเอง … ฮา ๆ

    แล้วตอนไปวัดคุณลุงเปลี่ยนติดขันเงินใส่ย่ามไปทำไมคะ

  • #2 น้ำฟ้าและปรายดาว ให้ความคิดเห็นเมื่อ 22 กันยายน 2010 เวลา 7:26 (เย็น)

    นอกจากขันแล้วยังเอาลูกหมาใส่โถงได้ด้วยอ่ะ

    ตอนแรกอ่านแว้บๆสะดุ้ง นึกว่าขออย่าได้เป็นเมียจารย์เปลี่ยนซะอีกค่ะ คริคริคริ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.23635005950928 sec
Sidebar: 0.025811910629272 sec