ส่องกระจก
เมื่อคืนเราอ่านหนังสือของคุณแอนดรูว์ บิกส์ เล่ม…เมืองไทยในสายตาของผม(อีกแล้ว) อย่างเอ็นจอยอารมณ์
ก็ ๑๐ ปีมาแล้วสำหรับความคิดเห็นของคุณแอนดรูว์ ที่ปรากฏอยู่ในเล่มนี้
แต่เรารู้สึกว่า…ไม่เก่าเลย แถมยังเป็นสับปะรดมากด้วย
เรารู้สึกสะใจกับความเห็น…หมัดตรง…ในหลายเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยบ้านเกิดเมืองนอนของเรา…ที่หากคนไทยด้วยกันพูดเองรับรองว่าถูกหมั่นไส้ ไม่ว่าจะเป็น…
- การขานเรียกอเมซซิ่งไทยแลนด์…เราฟังครั้งแรกก็รู้สึกหน่อมแน้มยกหางตัวเองยังไงไม่ทราบ ไม่มีคำอื่นให้เรียกแล้วหรืออย่างไร น่าจะรอให้ผู้มาเยือนเป็นฝ่ายหลุดคำนี้ออกมาเอง จะให้ความรู้สึกดีกว่ากันเยอะเลย
- การโฆษณาเรียกลูกค้าต่างชาติที่น่าสับสน…ไทยเป็นเมืองพุทธ มีเมตตา โอบอ้อมอารีย์ มีวัดวาอารามมากมาย ครอบครัวอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าเป็นครอบครัวใหญ่ อบอุ่น พ่อแม่ลูกอยู่ดูแลกันตลอด แต่ชีวิตจริง มีปรากฏการณ์พ่อแม่ขายลูกสาวให้เป็นโสเภณี คุณแอนดรูว์มีแนะด้วยให้ปิดพัฒน์พงษ์…เออ โดนเขาตบหน้าเข้าจังเบ้อเร้อ เจ็บไหมล่ะ
อีกอย่างไหนๆก็ไหนๆแล้ว ที่เราเองไม่ชอบคือการโฆษณาเมืองไทยด้วยภาพชาวเขา ทำราวกับคนไทยทั้งประเทศคือแบบนี้ เราเองต้องปฏิเสธมาแล้วว่าอยู่บ้านไม่เคยนุ่งอะไรอย่างนั้น หรือไม่อีกทีก็สุดโต่งเลย…ภาพเด็กนักเรียนในชนบท…เราไม่เชื่อหรอกนะว่าชีวิตปกติแนวอื่นๆในเมืองไทยจะไม่ดีพอจนเป็นจุดขายได้น่ะ
- การเรียกความสนใจจากฝรั่งมังค่าด้วยคำว่า Hey You…ขอย้ำว่าคำนี้เป็นคำที่ต้องลบออกไปเลยจากสารระบบแห่งความทรงจำของชาวเราเพราะมันหยาบคายที่สุดชวนให้คนถูกเรียกเกิดโทสะพร้อมกระแทกหน้าคนเรียกเอาได้ง่ายๆ
กับเราเองก็มีเพื่อนที่ไปเที่ยวเมืองไทยครั้งแรกในชีวิตด้วยสาเหตุเพราะเขาเป็น
เพื่อนสนิทกับเรา ก็เลยมองเมืองไทยด้วยความรู้สึกที่ดีที่สุดไม่ระแวงอะไรทั้งสิ้น
และเชื่อมั่นว่าคนไทยทุกคนที่นั่นต้องเหมือนเรา เอาเข้าจริง พอกลับมาเพื่อนบอก
เราว่าชีวิตนี้ไม่ขอไปเมืองไทยอีกแล้วและโกรธไม่ยอมหายเนื่องจากทุกหนแห่งที่
เขาท่องเที่ยวไปจะถูกเรียก Hey You..Hey You นี่แหละ อ้อ…กับอีกอย่างถูก
นำเสนอแม่น้องนาง…เลื้อเกิน !…เราหน้าชา
- อีก๒คำที่เรียกขานนักท่องเที่ยว…มัน กับ ฝรั่ง…ทำยังกะฝรั่งทุกคนไม่รู้ไม่เข้าใจยังงั้นแหละ ฝรั่งที่บังเอิญเข้าใจภาษาไทยนิดหน้อย เขารู้ว่ามันไม่สุภาพตามมารยาทไทยที่เขากำลังได้รับจากคนพูดน่ะ…ความจริงใจเป็นภาษาสากลนะเราว่า
- การโกหกหลอกลวงนักท่องเที่ยวให้เชื่อหรือบางรายถึงขั้นตีขลุม(บังคับด้วยถ้าสถานการณ์อำนวย)ทำทีพาเที่ยวแล้วพาไปซื้อเพชรซี้อจิวเวอรี่…งานนี้คุณแอนดรูว์ลงทุนล้วงลูกเองเลย และตบท้ายทนให้หลอกต่อไปไม่ไหว ก็ย้อนคนไทยทุเรศพวกนั้นเข้าให้…ซ้า(หน้าแตก หมอไม่รับเย็บ !)
- แท็กซี่…โดนจนได้…เรียกแล้วบอกไม่ไปทั้งที่ป้ายบอกว่าว่าง ไปไม่ทันเพราะต้องส่งรถคือเหตุผล…คนไทยเองโดนประจำ เรากลับไปทีไรก็เจ๊อ
- ตุ๊กตุ๊ก…ก็ไม่เว้น…หลังจากแท็กซี่มีมิเตอร์เราพบว่าค่าตุ๊กตุ๊กแพงกว่า ฮา….(ขอฮาหน่อยเถอะ แอร์ก็ไม่มีเนี่ยะนะ)
- นอกจากนี้ที่ร้ายแรงกว่าเพื่อนแต่คุณแอนดรูว์ไม่ได้เขียนถึงก็คือเวลาสามีฝรั่งมองเห็นภรรยาตัวเองซึ่งเป็นคนไทยได้รับการเหมารวมจัดอันดับโดยอัตโนมัติผ่านการปฏิบัติและการพูดจาว่าเป็นแม่น้องนางบ้านนา จากคนไทยด้วยกันในเมืองไทย พวกเขาจะโกรธ จะไม่เข้าใจ เหตุใดคนไทยจึงตาไร้แววไปได้ แล้วก็พาลเที่ยวบ้านเมืองของภรรยาไม่สนุก ไปๆมาๆก็ไม่ไปซะเลย…เมืองไทย
ข้างต้นคือด้านเนกกาทีฟที่คุณแอนดรูว์กระทุ้งให้รู้สึกด้วยหวังดีที่อยากเห็นการปรับปรุงแก้ไข ด้านโพสสิทีฟก็มี๊ อย่าเพิ่งน้อยใจไป
ที่เราชอบมากก็ตอนที่คุณแอนดรูว์ชื่นชมกับความเป็นอยู่แบบชาวบ้านในระว่างที่ออกไปเยี่ยมหมู่บ้านเล็กๆทางภาคอีสานในวันหยุดสุดสัปดาห์ จนถึงกับเรียกตอนนี้ว่า…กลับมาเถิดวันวาน…คุณแอนดรูว์บอกว่ารู้สึกอิจฉากับชีวิตที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อข้าวปลาอาหารของชาวบ้านในชนบท…ทุกสิ่งหาได้จากหลังบ้าน รั้วบ้าน และบ้านเพื่อน(แม้แต่เหล้าก็ยังหมักกันเอง)…เราเองก็อิจฉานะคุณแอนดรูว์
นอกจากนี้ก็ชอบตอนที่คุณแอนดรูว์ให้กำลังใจยามเกิดวิกฤตเศรษฐกิจชื่อดัง…ต้มยำกุ้ง…คุณแอนดรูว์ปลอบว่า…ถ้าคุณมีความรู้ความสามารถ มีสุขภาพที่แข็งแรง เราลุกขึ้นยืนได้ใหม่แน่นอน เราต้องอดทนเพื่อเรียนรู้บทเรียนสำคัญของชีวิต…กับอีกตอนที่ว่า…ก้าวไปข้างหน้าแล้วทำอะไรสักอย่างที่คุณไม่เคยทำมาก่อน —- คิดถึงโอกาสที่จะทำให้เกิดความแตกต่างให้กับชีวิตของคุณ เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ —- ออกไปข้างนอกและช่วยงานการกุศลให้มากๆ เชื่อผมเถอะ มันเป็นงานที่ให้ผลตอบแทนที่ดี ผมไม่ได้หมายความว่าต้องบริจาคเงินเพียงอย่างเดียว จริงๆออกไปพบกับคนที่ด้อยโอกาสกว่าคุณก็เป็นอีกวิธีหนึ่งเหมือนกัน เมื่อคุณได้เริ่มลงมือทำสิ่งเหล่านี้ คุณก็จะเริ่มเข้าใจความหมายของการเป็นมนุษย์ ? เหนือสิ่งอื่นใด คุณอาจได้พบกับความสุขที่แท้จริง — ท้ายที่สุด การที่คุณจะทำงานอะไร มันไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไป —- มันขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง สิ่งที่ผมหวังสำหรับคุณนั้นมีเพียงบ้านที่มีความสุข… และยังมีีตอนที่แนะว่า…คนกรุงเทพฯควรเอาอย่างชาวบ้านดีไหม ? เราควรประหยัดให้มาก ใช้ในสิ่งที่เรามี เราไม่ตาย ถ้าไม่มีมือถือ รถราคาแพง เสื้อผ้ามียี่ห้อ เราไม่ควรตกเป็นทาสวัตถุนิยมแบบนี้ หลายท่านที่อดรนทนไม่ได้ หากปราศจากของใช้แพงๆหรูๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เศรษฐกิจแล้ว มันอยู่ที่ความคิดความเชื่อของท่าน…เราว่าจนถึงเดี๋ยวนี้คำพูดเหล่านี้ก็ยังใช้ได้อยู่
แล้วก็มาถึงช่วงวิพากษ์สาวไทย คุณแอนดรูว์บอกว่า…ดูอย่างผิวเผินชายไทยมีสิทธิ์มีเสียงและมีอำนาจมากกว่าหญิงไทย —- นั่นเป็นแค่ภาพลวงตาครับ ผมเริ่มรู้ว่า แท้จริงผู้หญิงในประเทศนี้เป็นผู้กุมอำนาจไว้โดยเด็ดขาด เป็นผบ.ทบ.ของครอบครัวและของสามีเธอ กระนั้นก็ตาม —- ผู้หญิงหน้าตาดีๆ จู่ๆ เลิกแต่งตัวฟู่ฟ่า เปลี่ยนทรงผมเป็นโบราณ สวมแว่นตาปีกนกสีดำ แล้วแขวนป้ายไว้รอบคอว่า ”ปล่อยฉันไว้ตามลำพัง ฉัันแก่เกินมีคู่แล้ว” ท่านผู้อ่านที่เป็นผู้หญิง ได้โปรดเชื่อผม เมื่อผมบอกว่าท่านสามารถทำอะไรก็ได้ในชีวิตของท่าน สำหรับท่านที่คิดว่าแก่จนขึ้นคาน อายุของท่านเท่าไรกันแน่? บางท่านอายุแค่ —- แล้วจะแก่ได้อย่างไรกัน? —- อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมทำให้ผู้หญิงเริ่มกังวลเมื่อมีอายุมากขึ้น —- หากคุณไร้คู่จนอายุเฉียด๓๐ คุณเริ่มกระสับกระส่ายแล้ว ฝ่ายชายมักสรุปว่าหญิงที่ไม่มีีคู่ เพราะหน้าตาน่าเกลียดเกินไป มันไม่จริงครับ —- —- —- —- สำหรับความเชื่อที่ว่าอายุคุณมากแล้วคุณขึ้นคาน ผมว่าเราควรยกเลิกมันเสีย เราไม่ควรเลือกคู่เพราะอายุ แต่เราควรเลือกคู่เพราะความเหมาะสมมากกว่า
ความจริงในเล่ม คุณแอนดรูว์ยังพูดถึงเรื่องราวอื่นๆอีกมากมายอย่างสนุกสนานและมีสาระตามสไตล์ของคุณแอนดรูว์(แม้แต่เรื่องการเมืองก็ยังมี) เราจึงสนับสนุนให้หามาอ่านถ้าเป็นไปได้(ช้าไปหน่อยไหมนี่ เรา)
ตบท้าย เราขอนำบางส่วนจากปกหลังมาให้อ่านกันเป็นของหวานอีกนิด
เมื่อผมอยู่ที่นี่และบอกว่าผมรักประเทศไทย
อาหารอร่อย สาวสวย ดนตรีไพเราะ
เป็นประเทศที่น่าอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง
แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าเมืองไทยไม่มีข้อเสีย
ซึ่งคงไม่ต้องให้ผมพูดถึง
เพราะเป็นสิ่งที่คนไทยก็รู้สึกอยู่ทุกวันอยู่แล้ว
———-
ผมเคยมีคู่รักไม่เยอะ แต่ไม่น้อยด้วย
มันขึ้นอยู่กับว่า คนที่จะเข้าใจใจของเรามากกว่า
เพราะฉะนั้นถ้าจะชอบใคร
อยู่ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอก
ในที่สุดความสวยของเขา
ก็เหมือนความหล่อของผมนะ
มันจะโทรมลงอย่างเร็ว
ขอบคุณคุณแอนดรูว์ที่พูดตรงๆ … ชัดเหมือนส่องกระจกดีจัง
Thanks again, mate !
4 ความคิดเห็น
น่าสนใจครับ
อ่านบันทึกนี้ ก็อึ้งดีคะ เพราะน้อยคนที่จะกล้ายอมรับ อิอิ แอบเห็นด้วยนะคะ
แต่มาขำก๊าก ตอนผู้หญิงคะที่บอกว่า ” ดูอย่างผิวเผินชายไทยมีสิทธิ์มีเสียงและมีอำนาจมากกว่าหญิงไทย —- นั่นเป็นแค่ภาพลวงตาครับ ผมเริ่มรู้ว่า แท้จริงผู้หญิงในประเทศนี้เป็นผู้กุมอำนาจไว้โดยเด็ดขาด เป็นผบ.ทบ.ของครอบครัวและของสามีเธอ ” ต้องถามเฮียเหลียง(พี่สิทธิรักษ์)และหมอจอมป่วนดู ก๊ากๆๆ
ต่อจากนั้น ไม่ขอออกความเห็น หุหุ
คุณสิทธิรักษ์คิดว่าฝรั่งพูดตรงดีมั้ยคะ
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า คุณraniตลกจังค่ะ จะออกความเห็นแหวกออกไปจากฝรั่งก็ได้น๊าคะ น่าสนใจออกค่า