ความภูมิใจของคนเป็นครู

โดย maeyai เมื่อ 27 กรกฏาคม 2011 เวลา 7:54 (เช้า) ในหมวดหมู่ ชีวิตกับโรงเรียน #
อ่าน: 1368

หลานส่งภาคภาษาอังกฤษมาให้อ่าน  รู้สึกชอบใจจึงขอแปลและเผื่อแผ่มายังครูทุกท่านด้วย

To all the teachers.

ถึงคุณครูทุกคน

 

Who is a teacher??     ใครคือครู


This is a very good one !
very moving !

เรื่องนี้เป็นเรื่องดีที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ครู

From A School Principal’s speech at a  graduation..
จากการกล่าวของครูใหญ่ในวันจบการศึกษา
He said  “Doctor wants his child to become a doctor……… เขาพูดว่า  หมอ อยากให้ลูกเป็นหมอ
                Engineer wants his child to become engineer……วิศวกรอยากให้ลูกเรียนวิศวะ
                Businessman wants his ward to become CEO…..นักธุรกิจอยากให้ลูกได้เป็นผู้บริหารระดับสูง
                BUT a teacher also wants his child to become one of them..!!!! แต่ครูก็อยากให้เด็กๆของครูเป็นอย่างที่กล่าวมาแล้วด้วย
Nobody wants to become a teacher BY CHOICE” ….Very sad but that’s the truth…..!!! ไม่มีใครเลือกอยากเป็นครู  น่าศร้าไหมล่ะ   แต่นี่คือความจริงThe dinner guests were sitting around the table discussing life.  แขกที่มาในงานวันจบการศึกษา  สนทนากันเกี่ยวกับเนื้อหาของชีวิตตามที่ครูใหญ่เพิ่งพูดจบลง
One man, a CEO, decided to explain the problem with education. He argued, ผู้บริหารคนหนึ่ง  ลุกขึ้นพูดถึงปัญหาด้านการศึกษา  เขาแย้งขึ้นว่า
“What’s a kid going to learn from someone who decided his best option in life was to become a teacher?”แล้วเด็กจะได้เรียนรู้อะไรบ้างล่ะ      จากคนที่เลือกดำเนินชีวิตที่จะเป็นครู

To stress his point he said to another guest;
“You’re a teacher, Bonnie.  Be honest. What do you make?” และเพื่อนจะเน้นวัตถุประสงค์ของการถาม   ที่เขาพยายามจะชี้ให้แขกอื่นๆเข้าใจ เขาหันไปถามครูบอนนี่   “พูดจริงๆนะครู   ครู ทำอะไรได้บ้างน่ะ”  Teacher Bonnie, who had a reputation for honesty and frankness replied, ครูบอนนี่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนตรง คนซื่อสัตย์ คนจริงได้ตอบคำถามดังนี้
“You want to know what I make?
(She paused for a second, then began…) คุณอยากรู้หรือว่าฉันทำอะไรบ้าง……. เขาหยุดนิ่งชั่วขณะ ก่อนจะเริ่มตอบ

“Well, I make kids work harder than they ever thought they could.  ฉันทำให้เด็กทำงานเข้มแข็งขึ้น   มากกว่าที่เขาคิดว่าเขาทำได้I make a C+ feel like the Congressional Medal of Honor winner.ฉันทำให้คนที่ได้คะแนน้อยๆแค่ ซีบวก รู้สึกภูมิใจเท่ากับการได้รับรางวัลใหญ่I make kids sit through 40 minutes of class time when their parents can’t ฉันทำให้เด็กนั่งในห้องเรียนสีสิบนาทีได้ในขณะที่ปกครองไม่สามารถ
make them sit for 5 min. without an I Pod, Game Cube or movie rental.ฉันทำให้เขานั่งอยู่ 5 นาทีโดยไม่มีไอพอต ไม่มีเกมส์ หรือหนังที่เช่ามาดูYou want to know what I make? คุณอยากรู้ว่าฉันทำอะไรได้อีกใช่ไหม?
(She paused again and looked at each and every person at the table) เธอหยุดนิ่งอีกชั่วขณะหนึ่ง มองแขกทุกๆคนที่นั่งอยู่รอบๆI make kids wonder. ฉันทำให้เขาสงสัยใคร่รู้I make them question.ฉันทำให้เขาถามI make them apologize and mean it  ฉันทำให้เขาขอโทษด้วยความรู้สึกที่แท้จริง
I make them have respect and take responsibility for their actions.ฉันทำให้เขารู้จักเคารพ และมีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองI teach them how to write and then I make them write.
Keyboarding isn’t everything.ฉันสอนให้เขาเขียน และทำให้เขาเขียนได้I make them read, read, read.ฉันทำให้เขาอ่าน. อ่าน และ อ่านI make them show all their work in math.
They use their God given brain, not the man-made calculator.ฉันทำให้เขาสามารถแสดงความสามารถทางคณิตศาสตร์จากสมองของเขาไม่ใช่จากเครื่องคิดเลขI make my students from other countries learn everything they need
to know about English while preserving their unique cultural identity.  ฉันทำให้เด็กจากประเทศอื่นได้เรียนรู้สิ่งที่ต้องการ  รู้ภาษาอังกฤษ ขณะที่ยังคงอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของตนเองI make my classroom a place where all my students feel safe.ฉันทำให้ห้องเรียนเป็นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆนักเรียนFinally, I make them understand that if they use the gifts they
were given, work hard, and follow their hearts, they can succeed in lifeและสุดท้าย ฉันทำให้เขาเข้าใจว่า ถ้าเขาใช้พรสวรรค์ที่เขามี ขยันขันแข็ง และทำตามที่ใจปรารถนา  เขาจะประสบความสำเร็จในชีวิต( Bonnie paused one last time and then continued.) ครูบอนนี่หยุดนิ่งอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะพูดต่อว่าThen, when people try to judge me by what I make, with me knowing money isn’t everything, I can hold my head up high and pay no attention because they are ignorant. You want to know what I make?และถ้าคนทั่วไปจะตัดสินฉันจากสิ่งที่ฉันทำ  สำหรับฉันแล้ว การรู้เกี่ยวกับเรื่องการเงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง    ฉันสามารถยืดอกเงยหน้าได้อย่างภาคภูมิใจและไม่สนใจกับความไม่รู้ของคนรอบข้าง  คุณอยากรู้ใช่ไหมว่าฉันได้ทำอะไรไปบ้าง

I MAKE A DIFFERENCE IN ALL YOUR LIVES,EDUCATING KIDS AND PREPARING THEM TO BECOME CEO’s ,AND DOCTORS AND ENGINEERS………. ฉันได้สร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของพวกคุณทุกคน   ฉันให้การศึกษาแก่เด็กๆ  และเตรียมเขาให้ไปเป็นผู้บริหาร  ไปเป็นหมอ ไปเป็นวิศวกร
 
What do you make Mr.CEO? แล้วคุณล่ะ  คุณ CEO คุณได้ทำอะไรบ้าง   

His jaw dropped; he went silent. ไม่มีคำตอบจากCEO ที่นั่งเงียบงัน

THIS IS WORTH SENDING TO EVERY PERSON YOU KNOW. Even all personal teachers like mother, father, brother, sister, coach and spiritual leader/teacher.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

« « Prev : อินกับหัวอกชาวนา

Next : เยี่ยมโรงเรียนเทศบาลของขอนแก่น » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 dd_l ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:26 (เช้า)

    ขอบพระคุณสำหรับเรื่องราวที่ทำให้มีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นนะคะแม่ใหญ่..

  • #2 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2011 เวลา 9:59 (เย็น)

    ผมเป็นครูและวิศวกร แต่ปวารณาไว้ว่าอยากให้ลูกชายคนเดียวยึดอาชีพเป็น พระ

    ถ้าเขาหนีบวชไม่สึกเมื่อไหร่ ผมจะสุขสุดเมื่อนั้น
    ถ้าเป็นพระไม่ได้ ก็ขอเป็นครูก็ได้
    เป็นครูไม่ได้เป็นหมอก็ยังดี
    เป็นหมอไม่ได้ขอเป็นทนายเพื่อคนยากไร้ (เขาไปสอบวัดทักษะ พบว่าตนเองเหมาะเป็นทนายมากที่สุด ซึ่งพ่อเห็นด้วย เพราะมันเถียงเก่งมาก)

    ส่วนผมถ้าให้เลือกได้ใหม่ ขอเป็น นักพฤกษศาสตร์ วิจัยต้นไม้อยู่ในป่าดงจะได้ไม่ต้องมาจุ้นกับผู้คน (เป็นพระก็ยังลำบาก ต้องมาขอทานข้าวคนกิน)

  • #3 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2011 เวลา 10:42 (เย็น)

    ยอดเยี่ยมครับแม่ใหญ่

  • #4 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:01 (เย็น)

    เดี๋ยวนี้ เขาว่าครูเรามันโง่ บ้า จึงขอให้ลดสถานะลงไปเป็น knowledge facilitator 555

    (ไอ้พวกนักการศึกษา Ph D มีอำนาจ ที่แสนง่าว มันพล่ามและทุบหัวโต๊ะลงมา จนประเทศไทยเดี้ยง โง่ บ้า มาจนถึงวันนี้ ดีไม่ดีจะสิ้นชาติ )

    เรามารวมพล ตั้งสมาคมครูบ้าเลือด ถือดาบทะลวงฟันไอ้พวกนั้นให้ย่อยยับดีไหม???

    ปฏิวัติการศึกษาชาติ ก่อนที่จะสิ้นชาติ

  • #5 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กรกฏาคม 2011 เวลา 6:48 (เช้า)
    #แรงกว่าครูบอนนี่อีกนะนี่ หัวหมู่ทะลวงฟัน…ปลัดชูตัวจริง
  • #6 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 12:22 (เช้า)

    ครูบอน คือไผ บ่ฮู่จั๋ก เด๊อแม่ใหญ่ เพราะข้าน่อย บ่ดูตีวีมาสิบห้าปีแล้ว ..อยู่แต่ในกระดอง ๕5ห้า

  • #7 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 4:43 (เช้า)
    #6 มันเป็นอีเมลที่หลานส่งมาให้ค่ะ บ่ฮู้จักคื้อกัน เห็นความหมายมันดีก็เอามาแปลเผื่อแผ่กันอ่านเท่านั้นค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.04603099822998 sec
Sidebar: 0.042368173599243 sec