อินกับหัวอกชาวนา

โดย maeyai เมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 7:59 (เช้า) ในหมวดหมู่ เรื่องที่เรียนรู้ #
อ่าน: 1783

ช่วงนี้คนรอบข้างแอบนินทาแม่ใหญ่ว่า  แกไม่พูดเรื่องอื่น นอกจากเรื่องทำนา ใครจะนินทา ก็ชั่งเขาเถอะ  เรากำลังได้เรียนรู้จริงๆ แต่ไม่ใช่แค่วิธีการปลูกข้าวต่างๆที่ทำการศึกษามาโดยลำดับเท่านั้น  แต่ตอนนี้กำลังเรียนรู้ความรู้สึกของชาวนาจริงๆ  ไม่ได้มาทำแล้วไม่รู้หรอก  เหมือนคนไม่เคยกินน้ำตาล ไม่เคยกินมะดัน  ใครบอกว่ามันหวาน  มันเปรี้ยว  ก็คงนึกไม่ออก

ตั้งแต่เริ่ม ปลูกต้นกล้า ในกระบะพลาสติค   เฝ้า รอดูมันงอกวันละเล็กละน้อย จนครบสิบห้าวัน    จนถึงวันที่พานักเรียนไปโยนเรียบร้อยไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว  รู้สึกโล่งไปหนึ่งเปลาะ  แต่ก็ยังติดตามไปดูทุกเย็น   จนเห็นว่า  กล้าที่โยนไป เริ่มตั้งตัวขึ้นมาบ้างแล้ว   แต่พบว่า  พื้นนาที่เราให้เขาเอารถแทร๊กเตอร์มาไถและคราดนั้น   ยังทำพื้นไม่ได้ระดับ  เมื่อฝนตกมาคืนก่อนวันโยนกล้า  จึงเกิดเป็นแอ่งตื้นๆ  ไม่เป็นเทือกเรียบๆอย่างที่เราต้องการ ทำให้ต้นกล้าโผล่ขึ้นมาไม่เสมอกัน ( เป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขกันในการทำนาคราวหน้า)

แต่เมื่อคืนนี้ ฝนตกหนักจริงๆ ตื่นกลางดึก พอรู้ว่าฝนตก ใจมันแว๊บไปที่นาทันที  ข้าวเพิ่งตั้งตัว ฝนตกขนาดนี้  กล้าจะลอยไหมหนอ  หรือว่ามันจะจมน้ำไปเลย    ขณะที่เขียนนี้ ยังเช้าอยู่จึงยังไม่ได้ไปดู ประเดี๋ยวคงต้องออกไป   แต่ได้รับความรู้สึกของชาวนาขึ้นมาเต็มๆว่า   ”ฝนตกน้อยก็กลัวข้าวไม่ขึ้น  พอฝนตกมาก ก็กลัวน้ำท่วมข้าว”  เขาคงต้องมีความรู้สึกแบบนี้มาทุกครั้ง  ทุกปี   ที่เขาลงมือปลูกข้าว เพราะขั้นตอนแทบทุกอย่างของเขา ต้องขึ้นกับดินฟ้าอากาศเท่านั้น    น่าเห็นใจจริงๆ

 

 

« « Prev : วันนี้ที่รอคอย (ภาค 1)

Next : ความภูมิใจของคนเป็นครู » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

11 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 10:52 (เช้า)

    “ไม่ได้มาทำแล้วไม่รู้หรอก” เป็นคำอมตะจริงๆ เห็นด้วยครับ การสัมผัสจริงเป็นประสบการณ์จริง ทำให้เราเข้าใจชีวิตชาวนามากขึ้น บางทีอธิบายไม่ได้ แต่เข้าใจได้ รู้สึกได้ จากรูปนั้นหากฝนไม่ตกซ้ำจนท่วม อีกสองวันต้นข้าวก็จะตั้งต้นเอง ไม่ล้มพับเช่นรูป ข้าวเป็นพืชมหัศจรรย์ ทน แกร่ง พอสมควรทีเดียวและต้นแค่นี้ แต่ให้เมล็ดที่เป็นอาหารเรามากมาย หากแม่ใหญ่เห็น “ข้าวฟางลอย” ภาคกลาง จะเห็นความมหัศจรรย์ของต้นข้าว ไม่ว่าน้ำจะลึกท่วมหัว เขาก็พยายามยืดตัวเองโผล่น้ำขึ้นมาจนได้ พอน้ำแห้งเขาก็นอนราบเมื่อเราไป ถกซังข้าวซึ่งภาคกลางจะเอาต้นข้าวนั่นแหละที่เกี่ยวเอารวมข้าวออกไปแล้วมาฝั้นเป็นเกลียวเอาไปใช้มัดฟ่อนข้าวต่อได้อีก ภาคอีสานใช้ “ตอก” ซึ่งสั่งเข้ามาจาก ลาว หรือภาคเหนือ ไผ่พื้นบ้านจะหมดแล้ว

    หากข้าวแก่แล้วลองให้เด็กไปนับซิครับว่า ข้าว 1 รวงมีกี่เมล็ด…? ข้าวต่างพันธ์จำนวนเมล็ดก็ต่างกันไปอีก…

  • #2 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 1:08 (เย็น)

    จุดประสงค์หลักของการทำเทือกก็เพื่อให้นามันเรียบเสมอกันนี่แหบะครับ ไม่งั้นบริเวณที่น้ำไม่ท่วมขังก็จะเกิดการงอกของหญ้าได้

    ฝ่ากโจทย์แม่ใหญ่อีกเรื่องครับ ช่วยบันทึกเรื่องการเติบโตเป็นรายวันเลยนะครับ ผมสนใจอยากรู้ว่า การโยนมันจะทำให้ข้าว “ช้ำ” มากกน้อยเพียงใด คือถ้ามันช้ำมากในช่วงแรกๆ มันจะไม่เติบโต มันจะชะงักตัวนั้นเอง (นอนเลียแผล) ผมว่าทันน่าสนใจว่า การโยน การดำ การหยอดหล่น อย่างไหนจะโตไวกว่ากัน (นับแต่วันเริ่มหยอดเมล็ด) และอย่างไหนจะทนทานโรคกว่ากัน ผมเชื่อว่าหยอดหล่นจะมาที่ 1 นาดำจะมาที่สอง นาโยนที่สาม
    ผลผลิต่อไร ก็หยอด ดำ โยน
    ความเหนื่อยาก ดำ โยน หยอด
    ถ้าผลออกมาแบบนี้ มันอาจช่วยเปลี่ยนโฉมการทำนาไทยก็ได้นะครับ

  • #3 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 1:16 (เย็น)

    มานั่งคิดว่า มันน่าจะมีวิธีง่ายๆ ในการวัดความราบของเทือก เช่นในขณะเอาไม้ลากปาด เราก็มีสายยางใส่ลูกน้ำวัดระดับซ้ายขวาไปด้วย อย่าให้ไม้ปาดเอียง ถ้ามันเอียงเราต้องเร่งแก้ไขและอาจปาดซ้ำในบรเวณนั้น

    ตอนนี้ผมได้ออกแบบเครื่องหยอดเม็ดข้าวแล้ว (ไม่ใช่หยอดหล่นนะครับ) จะยิ่งทำให้ง่ายลงไปอีก โดยจะปาดเทือกและหยอดเม็ดข้าวพร้อมกันไปเลย ก็เชื่อว่าจะทุ่นแรงไปอีกโขเลยครับ การหยอดจะหยอดเป็นหลุมนะครับ ดังนั้นผลที่ได้จะออกมาแบบนาดำ เรื่องหญ้าจัดการได้ดังที่ได้เคยอธิบายไปแล้วครับ โดยเฉพาะการปลูกแบบนี้รากไม่ช้ำโตเร็ว เราสามารถปลูกปลายกค.ได้ เพื่อให้หญ้างอกให้หมดเสียก่อน

  • #4 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 3:01 (เย็น)
    วันที่ 2 สิงหา จะได้เจออาจารย์ไหมคะ อยากไปดูเครื่องหยอดเม็ดข้าวค่ะ
  • #5 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 3:06 (เย็น)
    ไปดูมาแล้วเมื่อเช้านี้ ต้นที่อยู่บนตมยังอยู่ในสภาพดี ที่น้ำท่วมต้นข้าวบางส่วนลอย ให้คนลงไปซ่อมแล้ว (ถือว่าเป็นช่วงทดลอง ตรงไหนไม่ได้อย่างใจ ใช้ซ่อมแซมเอาก่อน ส่วนเรื่องบันทึกการเจริญเติบโต ทำอยู่ค่ะ)
  • #6 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 กรกฏาคม 2011 เวลา 7:03 (เย็น)

    พบข้อด้อยของนาโยนอย่างหนึ่งแล้วนะแม่ใหญ่ คือถ้าฝนมาเร็ว อาจลอยได้

    เครื่องหยอดเม็ดข้าว ยังอยู่บนกระดาษครับ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ทำ (ขึ้นอยู่กับจะได้นศ.ไหม) อย่างเร็วสุดก็จะเริ่มทำเอาเดือนตุลาครับ อีกทางผมอาจขอทุนนวัตกรรมภายในของม. แล้วเอาไปจ้างเขาทำให้สิ้นเรื่องสิ้นราว

    ทวิช

  • #7 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 กรกฏาคม 2011 เวลา 5:40 (เช้า)
    เครื่องหยอดเมล็ดข้าว ถ้าไม่ซับซ้อนเกินไป ลองให้ช่างที่โรงเรียนทำไหมคะ ถ้าได้ วันที่ 2 จะไปขอเอาแบบมาลองทำดู
  • #8 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 26 กรกฏาคม 2011 เวลา 8:19 (เย็น)

    2 สค. ผมสอนช่วงเช้า บ่ายว่างครับ กลไกไม่ซับซ้อนมากนัก (ผมชอบทำอะไรทีมันง่ายๆ ซับซ้อนไม่ค่อยชอยอยู่แล้วครับ) แต่อาจต้องปรับแต่งแบบ ลองผิดลองถูกหลายครั้ง สำหรับข้าวสายพันธุ์ต่างๆ พอควร เพื่อให้มันหยอดได้ 2-4 เม็ด เพราะเม็ดข้าวมีขนาดไม่เท่ากัน ตั้งแต่หอมมะลิ ยันเจ๊กกระโดด ยังกะมดกะช้าง

    แม่ใหญ่โทรมาเลยเด๊อครับ เอาตอนเย็นๆ ก็ได้ จากนั้นจะได้เลี้ยงส่งก่อนกลับเมืองไม้ขอน ร้านหน้ามอเปิดใหม่หลายร้านมาก แต่ผมยังไม่เคยไปกินสักร้าน จะได้อาศัยบารมีแม่ใหญ่ไปลองซดสักมื้อ …อ้อ..หนีบเอาพ่อใหญ่มาด้วยก็ดีนะ จะได้มาระลึกความหลังกันสักเอื๊อก อิอิ (เอ้าลืมไป ช่วงเข้าพรรษา ไม่เป็นไร สัตตหะ ได้ หุหุ )

  • #9 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2011 เวลา 6:53 (เช้า)
    ขอเบอร์ด้วยค่ะ หรือจะโทรมาก่อนก้ได้ 089 711 2475 จะได้เมมเบอร์เก็บไว้เลยค่ะ
  • #10 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:10 (เย็น)

    แม่ใหญ่ครับ ฝากระวังปูกับหอยเชอรี่ด้วยเด้อครับ
    แปลงนาสาธิตลุงเปลี่ยน ปีนี้พี่น้องมารายงานว่า “อาจาน นาเจ้าโดนกะปูไท กับหอยไทกัดหมดแล้ว” เลยบอกไปว่า บ่เปนหยังกะปูไทกัด เดี๋ยวคนไทยจะไปปลูกซ่อม

  • #11 maeyai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 กรกฏาคม 2011 เวลา 6:45 (เช้า)
    ขอบคุณค่ะ ลุง เห็นชาวนาแปลงใกล้ๆกันเขาเก็บทิ้งกองเบ้อเริ่มเลย แปลงสาธิตของเราเองก็น่าจะมีเหมือนกัน เข้าไปดูทุกวันเลยค่ะ รู้สึกข้าวเราไม่เขียวเหมือนพวกใส่ปุ๋ยเคมี แต่ก็จะไม่ยอมแพ้หรอก แม้คราวนี้ยังไม่ได้บำรุงดินเต็มที่ตามสูตรเกษตรอินทรีย์ เห็นเขาว่าต้องสองสามปีกว่าจะแก้ดินเดิมได้ แต่จะพยายามทำให้ได้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่
You must be logged in to post a comment.

Main: 0.058444976806641 sec
Sidebar: 0.064820051193237 sec