ลานสะตอพอเพียง

สวัสดีครับทุกท่าน

สบายดีกันนะครัีบ วันนี้ผมได้มีโอกาสโทรหาแม่แล้วพูดคุยเรื่องสาระทุกข์สุกดิบ ทั่วไปครับ แล้วโผล่ออกมาคำหนึ่ง ด้วยการพูดคุย ก็ได้คำว่า มักง่าย ออกมาในกลางวงการสนทนากันสองคนครับ เป็นการอธิบายของชีวิตเราในทุกวันนี้ เราเกือบทุกคนนิยมความมักง่าย ผมขอทำความเข้าใจคำว่า มักง่าย กันก่อนนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นคำหยาบไปครับ

มักง่าย = มัก + ง่าย = มัก (ภาษาอิสาน แปลว่า ชอบ) + ง่าย

เชื่อไหมครัีบ คำว่า มัก ตรงกับภาษาเยอรมันว่า Mag ออกเสียงว่า มัก ซึ่งแปลว่า ชอบ เช่นกันครัีบ เมื่อรวมกันกับ คำว่า ง่าย

เป็น มักง่าย จึงกลายเป็นว่า ชอบง่าย นิยมความง่าย นิยมทางลัด ในภาษามันมัน เราอาจจะพูดว่า Mag Einfach มักอายฟาค หรือ mach einfach แปลว่าทำมันให้ง่ายๆ

มักง่าย หรือการเสพความง่าย จึงเป็นธรรมที่ควรศึกษา และมองย้อนดูตัวเราครับ

แม่เลยบอกว่า พฤติกรรมทุกวัน การที่เรานิยมความสะดวก นิยมความง่าย เช่น

• ไปตลาด เราก็ซื้อ ข้าวต้ม แทนการซื้อข้าวสาร (ไม่ได้ผิดนะครับ ขึ้นกับว่าเราจะเน้นอะไรครับ)
• เราจะนิยมซื้อน้ำกะทิ แทนการซื้อมะพร้าวสุกทั้งเปลือก ซึ่งก็ไม่ผิดและสะดวกสบายจริงๆ นะครับ แต่กระบวนการกว่ามะพร้าวสุกจะเป็นน้ำกะทิ ได้นั้น ต้องเดินทางครับ หากเราชอบทางลัด คือเราซื้อน้ำกะทิ เราก็จะไม่รู้จัก เปลือกมะพร้าว ไม่รู้จักขุยมะพร้าว ไม่รู้จักหน้าลิง ไม่รู้วิธีการผ่าซีกมะพร้าว ผ่าจะตีอย่างไรให้แตกสองซีกเท่าๆ กัน ซึ่งตรงนี้ มั่วๆ ไม่ได้ครับ นั่นคือ มีคำตอบหนึ่งที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านครับ ที่เค้าบอกว่า ให้ตีให้ตรงหน้าลิงพอดีครับ ส่วนตีแบบอื่นๆ อาจจะได้เรียนรู้ครับ  นิยมตีด้วยสันมีดพร้า หรือสันขวาน นะครับ ในการตีผ่ามะพร้าวสองซีกครับ
• ผมเลยบอกแ่ม่ว่า เราสามารถเอาคำว่า มักง่าย มาพิจารณาแต่ละการกระทำได้ เช่น การทำนา การทำนาแบบง่ายๆ ใช้สารเคมี หว่านเข้าไป ตรงไหนข้าวไม่สวยก็หว่านปุ๋ยเยอะๆ หน่อย มีแมลงมากๆ ก็ฉีดยาฆ่าแมลง แบบนี้ก็เสี่ยงครับ ผมเลยถามแม่ว่า ตั้งแต่แม่เกิดมา ปุ๋ยเคมีมีแล้วหรือยัง แม่บอกว่ายังเลย เพิ่งมามีไม่นานมานี้เอง แล้วผมถามว่าเมื่อก่อนเราทำนากันอย่างไร คนอยู่กันอย่างไร ทำนาแบบไหน แม่บอกว่า สมัยก่อนจะมีปุ๋ยเคมี ชาวบ้านจะนิยมเลี้ยงวัวควาย แล้วทำคอกในนา ขังไ้ว้จนดินและอึวัวควาย คลุกเข้ากัน แล้วค่อยเลื่อนคอกไปจนหมดที่นา แล้วค่อยไปทำให้เพื่อนบ้านกันต่อครับ เป็นการเพิ่มปุ๋ยให้กับดิน ราวๆ กับว่า ทำคอกวัวควายเลื่อนนา (เลียนแบบทำไร่เลื่อนลอย) อิๆ เห็นไหมครับ ว่ากว่าจะมาเป็นปุ๋ย เรามีผู้ผลิตปุ๋ยเต็มไปหมดครัีบ แม้ตัวเราก็เช่นกันครับ กินเข้าไป ก็ออกมาเป็นปุ๋ยทั้งนั้นครับ กินอะไรก็ได้ปุ๋ยทั้งนั้นครับ แต่ทุกวันนี้ เรามักง่าย กัน แม่บอกว่า ปีที่แล้วทำนากันแบบปล่อยใ้ห้ธรรมชาติเลี้ยง แม่บอกว่า เราไม่ได้ใส่ปุ๋ยเคมี ของคนอื่นเค้าใส่ปุ๋ยเคมีกันรวงข้างเต็มรวง ผมเลยบอกและเสริมแนวทางการได้ปุ๋ยในยุคปัจจุบัน เลยได้แนวคิดกันพอหอมปากหอมคอครัีบ
• แล้วเราล่ะ ตอนนี้ เราใช้ชีวิตกันมักง่าย ขนาดไหน เราอยู่กับการศึกษา เราทำกันแบบมักง่าย เข้าง่ายสำเร็จง่าย ทำงานง่ายๆ ได้เงินง่ายๆ เสพง่ายๆ ตายง่ายๆ ไปเกิดใหม่แบบง่ายๆ กันขนาดไหนครับ……
• แต่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ ……………………

ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ก่อนจะชีวาวายครับ ผมพูดประโยคนี้ พระธรรมชาติท่านบอกกับผมว่า ชีวาวายแล้วก็ยังต้องเรียนอยู่ดีครับ ลองเอาไปคิดกันเล่นๆ นะครับ หากได้คำตอบจะทำใ้ห้เราไม่กลัวตายครับ

กราบสวัสดีครับ

เม้งครับ

« « Prev : แกงเหลืองกับน้องเซลมอน และทะเลเผา

Next : กะลา…หน้าลิง…เส้นทางมะพร้าวสุกสู่น้ำกะทิ » »