พี่บางทรายที่ผมรู้จัก
อ่าน: 1928
วันนี้นั่งทานอาหารอยู่ที่ร้านประไพรหน้าโรงแรมราชาวดี รีสอร์ทแอนด์โฮเต็ล จังหวัดขอนแก่น ก็ได้รับมอบหมายให้เขียนเรื่องราวของพี่บางทราย เป็นการแนะนำผู้เขียนเรื่องราวในหนังสือเจ้าเป็นไผ ๑
แว๊บแรกเลยก็คิดจะปฏิเสธ เพราะช่วงนี้เกิดอาการแป๊ก เขียนอะไรไม่ออกมานานพอสมควรแล้ว แถมคิดว่าไม่ค่อยจะรู้จักพี่บางทรายดีพอที่จะเขียนถึง
พอรับปากเรียบร้อยแล้ว ก็มาตั้งสติ ทบทวนเรื่องราวต่างๆดู ก็พบว่าเจอพี่บางทรายบ่อยมาก พี่บางทรายเป็นคนมีน้ำใจมากๆ ไปขอนแก่นทีไร ก็ส่งข่าวผ่านลานเจ๊าะแจ๊ะ พี่บางทรายก็จะมารับไปเลี้ยงข้าวทุกครั้ง คืนก่อนที่จะได้รับมอบหมายให้เขียนเรื่องราวของพี่บางทราย พี่บางทรายก็เพิ่งมารับไปกินข้าว คุยกันสนุกสนานตั้งแต่ทุ่มถึงเกือบห้าทุ่ม
จำได้ว่าตอนอยู่เชียงใหม่ ได้ข่าวว่าพี่บางทรายมาเชียงใหม่ ก็ส่งข่าวไปว่านั่งกินกาแฟคุยกับสาวๆลำพูนกับเชียงใหม่อยู่ สักพักพี่บางทรายก็โผล่มานั่งกินกาแฟด้วย เคยติดรถพี่บางทรายจากเชียงใหม่มาลงพิษณุโลกเพราะพี่บางทรายกลับบ้านที่ขอนแก่นต้องผ่านพิษณุโลก คุยกันมาตลอดทาง แถมคุยกันถูกคอทุกเรื่อง
พี่บางทรายเองก็เป็นคนเขียนแนะนำจอมป่วนในเจ้าเป็นไผ ๑ แล้วยังงี้ยังจะคิดว่าไม่รู้จักพี่บางทรายดีพอที่จะเขียนแนะนำก็คงจะเกินไปหน่อยแล้ว
คงจะเขียนถึงพี่บางทรายจากมุมที่รู้จักและได้สัมผัสมา คงไม่เขียนประวัติเพราะหลายๆเรื่องคงหาอ่านจากบันทึกเก็บเรื่องมาเล่าของพี่บางทรายในลานปัญญาและเจ้าเป็นไผ ๑
พี่บางทรายเป็นนักพัฒนารุ่นเดอะ ทำงานกับองค์กรพัฒนาเอกชนตั้งแต่หนุ่มๆ ลุยพื้นที่ภาคเหนืออยู่พักหนึ่งแล้วขยับมาลุยพื้นที่อีสาน เป็นนักวิชาการ มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับชาวต่างประเทศ ผ่านการฝึกอบรมและคุ้นเคยกับทำงานกับชาวต่างชาติ ใช้วิชาการ ทฤษฏีที่ทันสมัยในการการทำงาน แต่ก็ติดดินมากๆเพราะต้องทำงานภาคสนาม ไม่ใช่นั่งอยู่แต่ในสำนักงาน ต้องทำงานร่วมกับภาครัฐจึงคุ้นเคยและทราบปัญหาในการทำงานร่วมกับระบบราชการดี
เคยเป็นเจ้าภาพจัดเฮฮาศาสตร์ที่ดงหลวง จนคนที่เป็นเจ้าภาพครั้งต่อๆไปหนาว เพราะกลัวจะจัดได้ไม่ดีเท่า รายการต่างๆที่ดงหลวงลงตัวทั้งที่พัก บรรยากาศ การเตรียมงาน การต้อนรับ ได้ความรู้ สนุกสนาน ไม่เบื่อหน่าย ที่ประทับใจที่สุดก็คือรายการนั่งกินข้าวและสนทนากับเหล่าสหายที่นาแกอันโด่งดัง เป็นตำนานไปแล้ว เรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังจากปากเหล่าสหายที่ยังมีชีวิตอยู่ในคืนนั้นที่ดงหลวงก็สุดคุ้มและประทับใจมาจนทุกวันนี้ (ไม่นับที่พี่บางทรายเชิญ คุณบำรุง บุญปัญญามานั่งทานข้าว สนทนากันที่สวนป่า)
พี่บางทรายเป็นคนรักครอบครัว ชอบเรียนรู้ พูดน้อยแต่เวลาถามมักจะยิงคำถามแบบตรงๆ จะๆ
เป็นคนที่ทำอะไรเป็นระบบ ระเบียบ สังเกตจากรูปที่ถ่ายแล้วนำมาลงในบันทึกทุกรูปจะมีชื่อบางทรายกำกับอยู่ทุกรูป
เป็นคนเสมอต้น เสมอปลาย เขียนบันทึกอย่างต่อเนื่อง ถ้าไม่นับลานเจ๊าะแจ๊ะ บันทึกเก็บเรื่องมาเล่าของพี่บางทรายจะอยู่อันดับที่สามรองจากบันทึกของรอกอดและครูบา ไม่ค่อยมีอาการแป๊กแบบที่ทั่นอัยการพูดถึง
เรื่องราวต่างๆที่เขียนบันทึกก็หลากหลาย ให้ข้อคิด น่าอ่านน่าติดตาม เขียนจากประสบการณ์และความคิดเห็นของตัวเองแท้ๆ
พี่บางทรายชอบถ่ายรูป และถ่ายได้สวยงามมาก ทั้งมุมกล้อง องค์ประกอบของภาพ แสง เงา ชอบเล่นโปรแกรมแต่งรูป ชอบถ่ายรูปสัตว์และดวงจันทร์เป็นพิเศษ จะพกกล้องถ่ายรูปติดตัวเสมอ มักมีรูปเด็ดๆขณะเดินทางพร้อมเรื่องราวที่ให้ข้อคิดมาฝากพวกเราเสมอ
ชอบเปิดแผนที่ มักจะมีแผนที่ประกอบการเขียนบันทึก เป็นนักเดินทางเพราะโดยอาชีพนักพัฒนาที่ลงพื้นที่เอง ทำงานในสนาม ที่ทำมาตั้งแต่หนุ่มถือว่าเป็นคนที่เดินทางในประเทศมากที่สุดที่เคยรู้จักคนหนึ่ง
เป็นคนที่ศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรม น่าอิจฉาเพราะอยู่ใกล้หลวงพ่อกล้วยที่ขอนแก่น แต่ก็เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน คุยสนุก
จริงๆนะ ถ้าใครได้เจอตัวจริงเสียงจริงแล้วจะเชื่อผม ถ้ายังไม่เจอตัวจริงเสียงจริงก็ลองอ่านเรื่องราวของพี่บางทราย หรืออ่านบันทึกเก็บเรื่องมาเล่าของพี่บางทรายในลานปัญญาดู แล้วจะเชื่อว่าที่ผมพูดเป็นความจริง
จริงนะ ไม่ได้โม้………
ขอนแก่น 28 มกราคม 2553 22.55 น.
« « Prev : การออกกำลังใจ ตอนจบ
Next : สิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ของเรา » »
5 ความคิดเห็น
บันทึกนี้เขียนดี…น่าอ่านจริงๆ ไม่ได้โม้ค่ะ..อิอิ
ไม่ได้โม้จริง ๆ ….เล่าให้ฟังเฉย ๆ….ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณครับ จอมป่วน คนสร้างฅน
สงสัย จอมป่วน จะมีสมาธิจิตสูงส่ง รู้ได้งัยว่า ถังกำลังแอบเหล่ คุณพี่บางไทรอยู่
ได้อ่าน จอมป่วน ชำแหละสดๆ ให้เห็นในบันทึกนี้
โห….. เป็นอย่างที่ถังจินตนาการไว้เลย
คุณพี่บางไทร….. ตัวจริง เป็นแบบนี้เอง
มาสนับสนุนครับบันทึกนี้ครับ