ตะเกียงอาละดิน อิอิ

โดย จอมป่วน เมื่อ 2 มิถุนายน 2009 เวลา 21:04 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 2119

สืบเนื่องจากการถูตะเกียงอาละดินของน้องมิม ยักษ์ในตะเกียงขอออกมาช่วยนะครับ ไม่แน่ใจว่าถามตรงคำตอบไหม ?

น้องมิมให้ช่วยดังนี้….

  1. ท่านคิดว่าควรมีแนวทางการพัฒนาครูให้มีความรู้ ความเข้าใจในการเขียนแผนการสอนที่บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร ?
  2. ท่านคิดว่าควรมีแนวทางการพัฒนาครูให้มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร ?
  3. ท่านคิดว่าควรมีแนวทางการพัฒนาให้ครูมีความเชียวชาญในการจัดกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร ?
  4. ท่านคิดว่าควรมีแนวทางการพัฒนาให้ครูจัดสื่อ อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร ?

คำสำคัญ แผนการสอน บูรณาการ เศรษฐกิจพอเพียง

แนวทางการพัฒนาต้องจัดการอบรมโดยวิทยากรที่เข้าใจและศรัทธาการเรียนการสอน เข้าใจการทำแผน เข้าใจคำว่าบูรณาการ และเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถทำให้ครูยอมรับและศรัทธาหลักการต่างๆดังกล่าว

ขออธิบายทีละเรื่องนะครับ

เรื่องการเรียนการสอน ควรเป็นการเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วม แบบ Action Learning หรือเน้นให้มีการปฏิบัติ ไม่ใช่บรรยายอย่างเดียว ทำให้เด็กคิดเป็นและเข้าใจ ไม่ใช่ท่องจำอย่างเดียว หลังจากเรียนรู้แล้ว เด็กจะนำไปปฏิบัติแล้วเกิดสิ่งดีๆขึ้นมา หมายความว่าครูก็ต้องศรัทธาเรื่องที่จะสอน(เศรษฐกิจพอเพียง)ด้วย

นอกจากตรงนี้แล้วครูผู้สอนต้องเข้าใจเรื่องมณฑลแห่งพลัง เคยอยู่ในสภาวะนี้ ทราบต่างๆที่จะเข้าสู่สภาวะนี้และสามารถเหนี่ยวนำให้เด็กๆอยู่ในสภาวะนี้ได้

ต้องรู้จักตัวเอง รู้จัก เข้าใจและรักเด็ก นอกจากเข้าใจและรักสรรพสิ่ง

เข้าใจเรื่องการทำแผน ซึ่งจะรวมไปถึงการนำแผนไปปฏิบัติ และการติดตามประเมินผลด้วย คือมีทักษะการบริหารจัดการด้วย

เข้าใจคำว่าบูรณาการ คือเข้าใจในความเชื่อมโยงของสรรพสิ่ง การเรียนรู้ การเรียนการสอน อาชีพ ชีวิต..ล้วนเกี่ยวพันกัน ไม่ได้แยกเป็นส่วนๆ

เข้าใจการทำงานแบบมีส่วนร่วม การเรียนการสอนแบบมีส่วนร่วม

สุดท้ายเข้าใจ ศรัทธาและนำเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติในชีวิต ไม่ใช่แค่ท่องจำได้ ได้แค่ความรู้มือสอง มือสาม มือสี่ แล้วเอาไปยัดเยียดให้เด็ก Download ต่อ ไม่ใช่ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ รายจ่ายมากกว่ารายรับเพราะใช้จ่ายไม่เหมาะสม มีหนี้มากมายแต่ยังจะไปสอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง

ถ้าไม่แสลงบาลี แค่เป็นครูที่มีธรรมะในหัวใจก็น่าจะเป็นครูที่สอนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงได้แล้ว

ที่ว่ามานี่เป็นหลักการนะครับ ทำได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างครับ

วิทยากร หลักสูตรเหมาะสมไหม ?

ทีมงานผู้จัดการอบรมเจ๋งไหม จัดการอบรมเสร็จแล้ว การขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติ การติดตามแนะนำ ประเมินผลเพื่อให้เกิดผลสำเร็จและมีความยั่งยืน

ผู้เข้ารับการอบรมสมัครใจ ยินดีรับการอบรมแล้วนำไปปฏิบัติและถ่ายทอดต่อหรือไม่ ? หรือบังคับกันมาอบรมแบบที่ทำๆกันอยู่

เวลาที่ใช้ในการอบรมพอไหม ? อาจต้องจัดแยกเป็นสองสามหลักสูตร ส่วนมากก็จัดแบบสักแต่ว่าจัด จัดวันครึ่งวัน ไม่ได้ผลจริงจัง

เวลาจะขยายผลก็ต้องรอผลการอบรมแล้วนำไปใช้สอนดูจริงๆ มีการติดตามประเมินผล ปรับปรุงหลักสูตรไปเรื่อยๆ ที่สำคัญไม่ใช่จัดกันแบบท่องสูตรคูณแบบที่เคยทำกัน

ถ้าสนใจก็คุยกันต่อได้ ถ้ากลัวใจก็พอแค่นี้ครับ

ถ้าเข้าใจข้อ 1 แล้ว ข้อ 2-4 ก็สบายมาก อิอิ

Post to Facebook Facebook

« « Prev : พูด(แล้วคนฟังฟัง)ไม่รู้เรื่อง เขียน(แล้วคนอ่านอ่าน)ไม่รู้เรื่อง

Next : ชมรมแสงธรรม » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 mimography ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 มิถุนายน 2009 เวลา 21:12

    อิอิ….

    ไม่น่าเชื่อว่ายักษ์ในตะเกียงอาลาดินยุกนี้จะออกมาได้รวดเร็วเสียเหลือเกิน
    แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกันหล่ะทีนี้……
    ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ  คืนนี้จะได้รวบรวมความคิดเห็นจากหลายๆ ท่าน
    แล้วส่งไปให้เจ้าของโจทย์สักที 

    อิอิ มีตะเกียงวิเศษอยู่ ก็ดีไปร้อยแปดอย่าง จริงไหมค่ะคุณหมอ…
    เอิ๊กซ์!!!

  • #2 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 มิถุนายน 2009 เวลา 21:39
    เมื่อวาน ดร.จรรยา (ตุ๊ก….ลูกสาวจอมป่วน  เจ้าของลานซากุระ(ร้าง) ) ก็ถูตะเกียงมาจากญี่ปุ่น
    ….. ขอวิทยากรไปพูดเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง  ที่ Institute for Global Environmental  Strategies -IGES  ของประเทศญี่ปุ่นจัดขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น  เพราะวิทยากรที่เชิญไว้มีเหตุขัดข้องกระทันหัน

    คิดอยู่แป๊บนึง  ก็แนะนำชื่อ อ. ดร ปัทมาวดี  ซูซูกิ  จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ไป
    ทางโน้นตรวจสอบข้อมูลแป๊บเดียวก็โอเค  ทาบทามอาจารย์  ตอบรับกันเรียบร้อยไปแล้วครับ  อิอิ

    ตุ๊ก จรรยา says (15:42):
    ท่านพ่อค่ะ
    ตุ๊ก จรรยา says (15:42):
    ขอบคุณมากค่ะ
    ตุ๊ก จรรยา says (15:42):
    อ.ปัทมาวดี เขายินดีมาร่วมบรรยายที่ไอเจสค่ะ
    ตุ๊ก จรรยา says (15:42):
    ขอบคุณท่านพ่อมากๆๆๆๆๆ อีกครั้งค่ะ
    จอมป่วน says (15:51):
    ใช้บริการได้เหมือนถูตะเกียงอาละดิน อิอิ

    ตุ๊ก จรรยา says (16:06):
    ไม่รู้ไปสืบมาจากไหนไวมาก

    ตุ๊ก จรรยา says (16:06):
    ได้ยินเม้าท์กันว่า จะเชิญบรรยายรอบบ่ายด้วย 555

  • #3 mimography ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 มิถุนายน 2009 เวลา 22:05

    นั่นซิค่ะ เร็วจริงๆ
    ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ

  • #4 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มิถุนายน 2009 เวลา 5:39

    ท่านหมอที่รัก

    อุ๊ย เจอบทเรียนเยอะแยะกับการจะทำให้ครูบูรณาการความคิด บูรณาการการทำงาน เพื่อประหยัดสูงประโยชน์สุด

    เรียนรู้ว่า สำหรับครูอาจารย์ที่เป็นข้าราชการ….การให้มีส่วนร่วม รับทั้งผิดและชอบ …มีอิสระทางความคิด…ยากเพราะความกลัว….กลัวผิด กลัวไม่ได้ขั้น กลัวว่าล้ำหน้าฯลฯ

    และคนที่เงียบๆไม่โวยวายดูน่าจะดี บางทีก็เกิดจากการขี้กลัวจนขี้ขึ้นสมองก็มี

    เอ๊ะ…อุ๊ยพูดอะไรออกไปเนี่ย…อิอิ

  • #5 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มิถุนายน 2009 เวลา 5:50
    ………..เรียนรู้ว่า สำหรับครูอาจารย์ที่เป็นข้าราชการ….การให้มีส่วนร่วม รับทั้งผิดและชอบ …มีอิสระทางความคิด…ยากเพราะความกลัว….กลัวผิด กลัวไม่ได้ขั้น กลัวว่าล้ำหน้าฯลฯ…….

    เรียนรู้ ?

    ว่าเองนะ  การเรียนรู้ต้องเกิดความรู้ใหม่  มีการนำไปปฏิบัติ  แล้วมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น

    บางคนไม่รู้ว่าสาเหตุของปัญหาคืออะไร ?
    บางคนรู้ว่าสาเหตุคืออะไร ?  แต่ไม่รู้ว่าจะแก้ไขยังไง ?
    บางคนรู้สาเหตุ  รู้วิธีแก้ไข  แต่ไม่ทำ ?  ซึ่งก็เท่ากับเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของปัญหา ?

    บ่นไปงั้นเอง  อิอิ

  • #6 sakura ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มิถุนายน 2009 เวลา 18:15

    เพิ่งรู้ว่าท่านพ่อเป็นนักบริหารการศึกษาด้วย พออ่านเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงเรื่องที่คับอกคับใจอยู่อย่างที่ว่า เดี๋ยวนี้ครูอาจารย์ในเมืองไทยเอาระบบฝรั่งมาวัดผลการศึกษาเด็ก โดนสมมติว่าเด็กๆ คือหุ่นยนต์ที่ได้รับการป้อนโปรแกรมเข้าไปแล้ว หุ่นที่ทำคะแนนได้ดีที่สุดคือหุ่นเกรดเอ รองลงไปอีกสิบตัวเป็นเกรดบี ลองลงไปอีกยี่สิบตัวเป็นเกรดซี ซากุระละไม่เข้าใจเลยว่านักศึกษาที่เข้าสู่ระบบแบบนี้จะมีกระบวนการพัฒนาตัวเองกันอย่างไรในเชิงสร้างสรรค์ ดูๆ ไปซากุระมองว่าจะทำให้เด็กเกรดเอบีประหัดประหารกันเพื่อจะเป็นที่หนึ่ง ในขณะที่พวกกลุ่มซีลงไป คงหมดอาลัยตายอยากในชีวิตเพราะยังไงซะชีวิตนี้ฉันก็สู้พวกเอบีไม่ได้ ว่าแล้วก็ไปหากิ๊กดีกว่า เอ แล้วประเทศชาติจะเป็นยังไงต่อไป ซากุระยังมองว่าการประกันการศึกษาที่ให้เด็กมีแรงจูงใจในการแข่งขันกับศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองแบบโบราณกาลน่าจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยที่สุดทำให้นักศึกษาเกิดการเกื้อกูลและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อันนำไปสู่การดำเนินชีวิตที่อบอุ่นในสังคมหลังจากสำเร็จการศึกษาได้ด้วย

    บ่นยาวไปเปล่าเนี่ย อิอิ เชื้อพ่อแรง ฮ่าๆๆๆๆๆ

  • #7 สาวตา ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 มิถุนายน 2009 เวลา 18:33

    มีคำถามมาถามว่า เคยสังเกตเห็นแม่ปูกับลูกปูไหม ปูนาขาเกนะมันเดินเหมือนกันทุกตัวเลย แปลว่าธรรมชาติสอนให้เกิดการเลียนแบบรึเปล่า ลูกปูจึงเดินเหมือนแม่ปูทุกรุ่นไป ปูตัวไหนเดินตรงทางก็จะกลายเป็นปูแหกคอกรึเปล่าก็ม่ายรุนะ

    เวลาเห็นปูเดินอยู่ ก็จะเอ๊ะว่า วิธีถ่ายทอดการเรียนรู้มันเหมือนแม่ปูสอนลูกปูรึเปล่า จะเป็นแม่ปูตัวที่เคยเดินไม่ตรงทาง รึว่าเป็นแม่ปูที่เดินตรงทางก็แล้วแต่ หากว่ามันใช่ บทเรียนเรื่องปูก็ให้ความรู้สำหรับเรื่องวงการศึกษา การเรียนรู้? อยู่ที่ถอดบทเรียนในมุมมองต่างๆบ้างรึไม่ ถอดแล้วยังไม่เอ๊ะ แปลว่าอะไรดีก็ม่ายรุ…….มาป่วนให้คลายความคิดถึงค่า…..(ยังไม่ว่างเลยค่า พยายามๆอยู่ว่าน่าจะได้ว่างค่า)

  • #8 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มิถุนายน 2009 เวลา 0:05
    #6 นู๋ตุ๊ก
    ป่วนไปทุกวงการ  เลยเป็นจอมป่วนไง
    ยังงี้ไม่เรียกบ่นหรอก  เค้าเรียกว่าแสดงความคิดเห็น  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
  • #9 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มิถุนายน 2009 เวลา 0:09
    คิดว่า่สัตว์แต่ละชนิดรวมทั้งคนเราก็มีวิวัฒนาการเพื่อเอาตัวรอด
    แต่คนเราแตกต่างจากสัตว์เพราะมีการพัฒนาด้านปัญญามากกว่าสัตว์อื่นๆ  มากๆๆๆๆๆๆๆ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.7079119682312 sec
Sidebar: 0.8250949382782 sec