เยี่ยมลูกสาวที่ญี่ปุ่น
อ่าน: 1677
ขอเริ่มต้นด้วยบันทึกการเดินทางครับ
07.00 น. ตื่น อาบน้ำ แต่งตัว ลงไปทานมื้อเช้า เพราะต้องเดินทางไปที่ Institute for Global Environmental Strategies -IGES ตามหนังสือเชิญของสถาบันไปบรรยายเรื่องการจัดการขยะของเทศบาลนครพิษณุโลก (Phitsanulok Model) ซึ่งอยู่ที่จังหวัด Kanagawa ตามลำพัง
08.45 น. ออกจากโรงแรมไปสถานีรถไฟ อยู่ใกล้กันมากครับ ใช้เวลาเดินประมาณห้านาที รถไฟออก 09.17 น. แต่รีบไปก่อนเพราะไม่เคยเดินทางคนเดียวมาก่อน ที่ญี่ปุ่นก็ใช้ภาษาอังกฤษค่อนข้างน้อย แต่เมื่อเทียบกับสมัยก่อนก็ดีขึ้นมาก
บังเอิญมีนักเรียนไทยมาช่วยต้อนรับ คืนแรกก็รบกวนให้เขาพาไปที่สถานีรถไฟเพื่อดูลาดเลาและสอบถามข้อมูล ทราบว่าซื้อตั๋วล่วงหน้าได้ก็เลยจัดการซื้อตั๋วไปกลับไว้เลย อิอิ ขืนให้กดเองก็คงจะลำบาก ต้องเอากระดาษที่พิมพ์ข้อมูลการเดินทางที่เจ้าของลานซากุระส่งมาให้ รบกวนคนญี่ปุ่นจัดการให้ เพราะอ่านไม่ออกสักตัวนึง หมดไปหนึ่งปัญหาแล้วครับ
ไปถึงสถานีรถไฟก็ดุ่ยๆเข้าไป ตามข้อมูลบอกว่ารถไฟจะจอดที่ชานชลาที่ 3 รถมาเวลา 9.17 น. แต่ด้วยความเป็นห่วง เจ้าของลานซากุระก็ส่งข่าวมาอีกว่า อาจมีการเปลี่ยนชานชลา ให้ดูที่บอร์ดให้ชัดๆอีกที เลยต้องไปดูที่บอร์ด โอเค ชานชลาที่ 3 เหมือนเดิมครับ ไปนั่งรอเจอสาวๆญี่ปุ่นก็เลยถามให้แน่ใจอีกครั้ง เห็นเขายิ้มๆ พยักหน้าก็ยิ้มออก พอรถมาเขาก็สะกิด บอกว่า มาแล้วๆๆๆๆ ขึ้นรถได้
การเดินทางด้วยรถไฟใช้เวลาประมาณ 95 นาที เพราะต้องย้อนกลับไปโตเกียว โยโกฮาม่า ลงใต้ไปอีก
ยังครับ ๆ ๆ ๆ ยังไม่จบครับ ต้องนั่งรถไฟไปจนถึงสถานีสุดท้ายคือสถานี Zushi เวลา 10.52 น. (จำง่ายครับ ยังกะชื่อข้าวปั้น) แล้วต้องออกไปนั่งรถเมล์สาย 16 ที่ป้ายรถเมล์หมายเลข 1 เวลา 11.00 น. มีเวลาให้ 8 นาทีครับ เจ้าถิ่นบอกว่าเวลาเหลือเฟือ อิอิ เหนือใต้ยังไม่รู้เลย แถมออกมาเจอทางออกสองทาง เอาละเลือกเอาทางนึงที่คนออกมากกว่า ได้ผลแฮะ เลี้ยวขวาตามลายแทงก็เจอป้ายรถเมล์หมายเลขหนึ่ง เหลือเวลาสามนาที 11.00 น.ตรงรถเมล์สาย 16 ก็มาครับ โดดขึ้นไปนั่งเลย
นั่งๆไป อ้าวคนลงหมดแล้ว เหลือแค่เรากับคนขับ ก็เลยควักลายแทงออกมาให้คนขับดู แกก็ไฮ้ ๆ ๆ โค้งให้อยู่นั่นแหละ ก็เลยนั่งไปเรื่อยๆ พอถึงจุดหมายคนขับรถก็เรียกทำท่าทางว่าถึงแล้ว ลงได้ หยอดเหรียญไป 340 เยนตามลายแทงและใบสั่ง ลงจากรถเมล์ก็เจอเจ้าของลานซากุระรอต้อนรับอยู่ แต่ไม่ยักกะมัดแกละตามนัด แต่ใส่เสื้อสีแดงมาตามที่ตกลงกันไว้ อิอิ
โดนญี่ปุ่นสอนมวยมาเมื่อคืน วันนี้เลยกอดเลยครับ บอกว่าขอกอดหน่อยแล้วคว้าเลยครับ
ไปทักทายเจ้าภาพที่สำนักงาน เตรียมการบรรยายกันเล็กน้อยแล้วเจ้าภาพก็พาไปทานข้าวกลางวัน
ที่ Institute for Global Environmental Strategies -IGES นี่อยู่บนยอดเขา ทิวทัศน์ดีมาก มองออกไปมองเห็นทะเล ถ้าอากาศดีๆจะมองเห็นยอดภูเขาฟูจีด้วย วันนี้อากาศครึ้มเลยไม่เห็นครับ อาคารก็สวยงาม สงบเงียบ น่าทำงานมาก ที่ป้ายรถเมล์เขาเขียนว่าไป International Village ครับ ติดๆกันนอกจากเป็นหน่วยงานนานาชาติแล้ว ยังเป็นบ้ายตากอากาศของบรรดาเศรษฐีญี่ปุ่น เพราะอากาศดี ทิวทัศน์สวยงาม สงบ
บ่ายสองโมงตรง ก็เริ่มบรรยายแล้วแลกเปลี่ยนความเห็น ประสบการณ์กัน เลิกสี่โมงเย็นตามกำหนด แต่นั่งคุยกับผอ. Waste and Resources Project และทีมงานจนถึงห้าโมงครึ่ง
เจ้าของลานซากุระเที่ยวแนะนำใครๆว่าคุณพ่อมาเยี่ยมและบรรยายที่หน่วยงาน อยู่ดีๆก็ได้ลูกสาวมาอีกคน ดีใจมากครับ ลูกสาวจอมป่วนก็มาส่งที่สถานีรถไฟ ได้คุยกันระหว่างทางและที่สถานีรถไฟอีกสักพักนึง มีความสนิทสนม มีความรู้สึกดีๆเกิดขึ้นมาก แล้วจะเล่าให้ฟังในบันทึกต่อไปครับ
ได้ยินลูกสาวนัดเล่นวอลเลย์บอลกับเพื่อนๆตอนทุ่มนึง เลยตัดสินใจกลับรถไฟเที่ยว 18.33 น. ตอนรับปากว่าจะมาบรรยายให้ตามที่เจ้าของลานซากุระขอมาก็เพราะเห็นความตั้งใจที่เชิญมา และอยากร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับหน่วยงานและผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานด้านนี้ รวมทั้งเป็นโอกาสที่จะทำให้เทศบาลนครพิษณุโลกและประเทศไทยเป็นที่รู้จักของคนในวงการนี้ด้วย แต่ได้ลูกสาวเพิ่มมาคนนึง มีความสุขมากๆเลย ขอบอก
ก่อนจะไปขึ้นรถไฟ ก็กอดลูกสาวอีกครั้งนึง ความรู้สึกต่างกับกอดตอนเจอกันมากครับ รู้สึกเหมือนได้มาเยี่ยมลูกสาวแล้วก็ต้องจากกันอีก ถึงจะต้องเดินทางคนเดียวทั้งๆที่เป็นคนกลัวการเดินทางคนเดียว แม้แต่ในเมืองไทย ใช้เวลาเดินทางไปเกือบสามชั่วโมง แล้วกลับอีกสามชั่วโมง ได้อยู่คุยกันแป๊บเดียว แต่ก็รู้สึกว่าคุ้มจริงๆ มีความสุขมาก
เลยตั้งชื่อบันทึกนี้ว่า เยี่ยมลูกสาวที่ญี่ปุ่น
8 ความคิดเห็น
ต้องขอบคุณเจ้าคุณพ่อเป็นอย่างยิ่งที่แวะมาเยี่ยมค่ะ จริงๆ แล้วมาหาคะแนนเสียงข้ามประเทศก็ไม่รู้ เพราะหนุ่มๆ แถวนี้กรี๊ดกันใหญ่ เลือกตั้งคราวหน้าคงได้คะแนนเสียงจากหนุ่มๆ ที่ญี่ปุ่นไปอีกหลายเสียงขอรับ
คราวนี้เจ้าคุณพ่อตื่นเต้นใหญ่ได้นั่งรถไฟญี่ปุ่นตามลำพัง บอกว่า ชอบๆ ชอบมากๆ คราวหน้าจะทำอีก ไม่กลัวหลงแล้ว มีกระซิบมาอีกว่า ชอบๆ มีสาวๆ ให้ถามเยอะ แถมยังเก่งบอกทางให้คนแก่ญี่ปุ่นด้วย แต่ไม่ทราบว่าคนแก่คนนั้นเข้าใจหรือเปล่า 555
ตอนกลับว่าจะพาเดินเที่ยวรอบๆ สถานี แต่ก็ไม่มีอะไรให้ดู เพราะเป็นสถานีเล็กๆ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น นอกจากว่าจะไปริมทะเล ซึ่งเป็นจุดขายของที่นี่ เลยปล่อยให้เจ้าคุณพ่อมีโอกาสไปเสวนากะสาวๆ ญี่ปุ่นก่อนกลับไทยดีกว่า ตอนกลับซากุระก็ยืนรอส่งอยู่ตรงทางเข้าสถานีรถไฟตั้งนาน แต่ไม่มีหันกลับมามองเลยแฮะ สงสัยตื่นเต้นไปหาสาวๆ ที่จะคอนเฟิร์มเส้นทางกลับ เลยไม่สนใจเราเลย ไม่เป็นไรๆ กลับไปเล่นวอลเลย์บอลกับหนุ่มๆ ที่ทำงานก็ได้ อิอิ
เพิ่งรู้อีกว่าเจ้าคุณพ่อถ่ายรูปเก่งมาก อยู่ที่นี่ มาตั้งนานยังไม่เห็นว่าที่นี่สวยเหมือนในรูปเลย แต่รูปถ่ายออกมาได้สวยจริงๆ ค่ะ ว่างๆ ก็แวะมาเยี่ยมกันอีกนะคะ ยินดีต้อนรับสมาชิกชาวลานปัญญาทุกท่านเลยค่ะ มาคราวหน้าจะให้ค้างคืนแล้วพาเดินป่าญี่ปุ่น ซึ่งก็อยู่รอบๆ สถาบันนี่แหละค่ะ ถ้าไม่ชอบป่าก็จะพาลงทะเลไปเลย ก็อยู่หน้าบ้านซากุระเลย แต่รอบนี้เจ้าคุณพ่อจะรีบกลับไปหาสาวๆ เลยไม่มีกิจกรรมบันเทิงตามประสาคนรักสุขภาพเลย แย่จัง
ว้า!..เจ้าคุณพ่อจอมยุทธ์ลมเย็นติดใจการเดินทางคนเดียวซะแล้ว…. แหม!ๆๆๆ ..หริปหน้ากะว่าจะอาสาตามไปยกกระเป๋าซะหน่อย…อิ อิ
ดีใจ กับจอมป่วน นะคะ ทำงานแล้วมีความสุข
อิอิ น่าอิจฉาจังครับ
#1 Sakura
เพิ่งกลับมา คิดถึงอีกแล้ว
ห่วงจะไปไม่ทัน เลยลืมกลับมาโค้งให้ แต่ได้กอดแล้วก็พอ
วันกลับทีมงานญี่ปุ่นมาส่ง โค้งจนรถพ้นสายตาเลย
สาวเวียตนามนั่งรถบัสไปสนามบินนาริตะด้วยกัน ได้คุยกันไปตลอดทาง อิอิ
#2 dd_l
แค่ไม่กลัวการเดินทางคนเดียวครับ แต่ก็ยังไม่ชอบอยู่ดี
กินแพะตุ๋นคนเดียวก็ไม่มันอยู่ดี อิอิอิอิ
#3 พี่นิด
ก็ทุกข์ๆสุขๆสลับกันไป อิอิ
คนขี้อิจฉา ฮ่าๆๆๆๆๆๆ