กูเป็นกู

โดย จอมป่วน เมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 20:22 ในหมวดหมู่ จอมป่วน #
อ่าน: 2223

กูเป็นกู

คำคำนี้สะกิดใจจากวงสนทนาของนิสิตแพทย์จากชลบุรีที่สวนป่า ในการสนทนาวันสุดท้ายก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน ในประเด็นนิสิตได้เรียนรู้อะไรจากการมาสวนป่าครั้งนี้

การสนทนาค่อนข้างจะมีคุณภาพ เทียบกับการเตรียมตัวที่ค่อนข้างน้อย ที่ชอบคำๆนี้เพราะเด็กๆได้เล่าว่า เป็นคุณหนูของครอบครัว มาเรียนร่วมกับเพื่อนๆมาสามปี แต่ไม่ค่อยสนิทกันนัก เหมือนมีอะไรบางอย่างมาขวางกั้นอยู่ เหมือนที่รอกอดเขียนไว้……

…….ผมคิดว่าประสบผลสำเร็จดีทีเดียวครับ เด็กๆ (ปีสี่) รู้จักกันมากขึ้น จนผมแปลกใจว่าสามสี่ปีที่ผ่านมานี่ ทำอะไรกันอยู่ ทำไมเพิ่งจะมาต่อมน้ำตาแตก/เข้าใจเพื่อนมากขึ้นเอาเมื่อเช้านี้เอง รู้วันนี้ก็ยังดีกว่าไม่รู้จักเพื่อนไปจนจบครับ แต่ห่วงว่าจะเป็นไฟไหม้ฟาง……


เด็กๆเล่าว่า เข้ามาเรียนด้วยความรู้สึกว่า กูเป็นกู แต่ตอนนี้ความรู้สึกเปลี่ยนไปแล้ว แต่ไม่ได้อธิบายว่าแปลว่าอะไร ?

สะกิดใจครับว่า กูก็ยังน่าจะเป็นกูเหมือนเดิม ถ้าเราไม่ใช่ตัวเรา แล้วเราจะเป็นใครล่ะ ?

แต่กูเป็นกู เดิมเป็นกูเป็นกูที่ไม่รู้ตัว ไม่ยอมรับความแตกต่าง ไม่ยอมรับเอาเพื่อนๆมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวกู พอมีความรู้สึกว่าเป็นเรา แล้ว ทำให้ความรู้สึกว่า กูเป็นกูหายไป

คิดว่ากูก็ยังคงเป็นกู แต่เป็นกูที่เริ่มมีสติ ยอมรับความแตกต่าง ยอมรับรู้สิ่งรอบๆตัวว่าเป็นส่วนหน่งของกู หรือเริ่มยอมรับว่ากูเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ จนความรู้สึกว่ากูเป็นกูหายไป

ถ้าตัวกู ของกู หมดไปจริงๆก็คงจะดี หรือความรู้สึกนี้จะแว๊บขึ้นมาเพียงแว๊บนึง

ไม่มีอะไรมากนะครับพี่น้อง มีอะไรสะกิดใจ ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง หรืออาจเป็นเพียงการตีความคำพูด ที่อาจจะตรงหรือไม่ตรงกับที่เด็กๆเจตนาจะสื่อออกมา อิอิ

Post to Facebook Facebook

« « Prev : นิสิตแพทย์ชลบุรีที่สวนป่า อีกมุมมองหนึ่ง

Next : เรื่องที่อยากพูด » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

8 ความคิดเห็น

  • #1 อัยการชาวเกาะ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 20:32

    กูก็มาอ่านของกู ก๊ากๆ….

  • #2 Lin Hui ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 20:48

    กูเป็นกู ฟังแล้วน่ารักออกจะตายไป  ” I’m what I’m ” โดยเฉพาะคนที่น่าตาน่ารักน่าเอ็นดู โดยเฉพาะคนหนุ่มคนสาว คนเราเกิดมาด้วยความแตกต่าง แล้วทำไมล่า มันผิดตรงไหน เพราะความแตกต่างเป็นความเด่น ที่ทำให้มนุษย์ดำรงค์เผ่าพันธุ์ได้มาถึงปัจจุบัน ข้อสำคัญคือการเรียนรู้ธรรมชาติ ของความแตกต่างตะหากที่ควรทำอย่างยิ่งให้ได้ผล ส่วนรูปแบบควรเปลี่ยนแปลงตามพื้นฐานวิชาชีพ รู้จุดด้อยจุดเด่นของสิ่งแวดล้อมที่เป็นเบ้าหล่อหลอมในวิชาชีพ มาปรับให้มีโลกทัศน์กว้างขึ้น เปิดรับยอมรับผู้อื่นที่แตกต่าง ไม่ว่าจะต่างอาชีพหรืออาชีพเดียวกัน ได้โดยไม่ทำร้ายบังคับฝืนใจตัวเอง AT = RAT

  • #3 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 21:37
    #1 ทั่นอัยการ
    อ่านแล้วเม้นท์ทำไม?  กูเลยต้องตอบ  อิอิ
  • #4 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 21:45
    #2  อ. หลินที่เคารพ
    ป่วนก็น่ารักเหมือนกันนะครับ  มันผิดตรงไหนที่เกิดมาป่วน  อิอิ
    การยอมรับความแตกต่างหลากหลายฟังดูง่ายๆ  แต่คนที่ไม่เคยคิดใคร่ครวญ  ไม่มีสติ    คิดแยกส่วน  อยากให้อะไรๆเหมือนกัน  ต้องแต่งเครื่องแบบ  เวลาพูด  เวลาเขียนต้องมีรูปแบบ   คิดอะไรก็ต้องเหมือนกัน  ทำอะไรก็ต้องทำเหมือนกัน  ยังกับตัดเสื้อโหลให้ใส่  จะให้เข้าใจแค่นี้ก็แสนจะยากเย็นนะครับ
    เมื่อ AT=RAT    RAT ก็ต้องเท่ากับ AT   อิอิ
  • #5 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 21:51

    เฮียตึ๋ง ผมเอาไปบันทึกต่อที่ http://lanpanya.com/dongluang/archives/414

  • #6 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 22:56
    • ทุก “กู” มีฝาครอบอยู่ด้วยกันทั้งนั้นครับ
    • บาง “กู” ถูกครอบอยู่ด้วยฝาอันเล็ก แค่ฝาขวดน้ำอัดลมขนาด 1.25 หรือ 2 ลิตร ฝาครอบแมลงวันได้แค่ตัวเดียว แมลงวันที่อยู่ในนั้น คิดว่าโลกนี้มีตัวมันคนเดียว ภายใต้ฝามีน้ำอัดลมหกอยู่หยดใหญ่ แมลงวันนึกว่าพบบ่อน้ำอมฤต กินแต่น้ำอัดลมก็นึกว่าเจ๋ง เพราะไม่เคยลิ้มรสอาหาร
    • บาง “กู” อยู่ในฝาชีขนาดใหญ่เท่าจานกับข้าว มองเห็นกับข้าว ก็นึกว่าโลกนี้มีอยู่เท่านั้น กับข้าวในจานเลี้ยงดูครอบครัวแมลงวันที่ถูกกักอยู่ภายในได้ มันจึงมองแต่ประโยชน์ของเพื่อนฝูงพี่น้องร่วมชะตากรรมเท่านั้น อะไรที่ไม่ใช่ “พวกกู” มันก็ไม่ต้องสน “พวกกู” คิดว่ากับข้าวจานนั้นเลิศรสเพราะมันไม่เคยกินอาหารจานอื่น
    • อีก “กู” หนึ่ง เป็นหมู่แมลงวันอยู่ในฝาชีใหญ่ที่ครอบสำรับกับข้าว รื่นเริงบันเทิงใจกับอาหารจานต่างๆ นานา แต่ก็ยังถูกครอบอยู่ดี
    • แมลงวันที่สวนป่า มีอิสระที่จะเลือก ไม่ว่าอาหารจะอยู่ที่ลานซีเมนต์ ลานไผ่ ในอาคาร หรือบินไปในครัว อย่างมากคุณปิ๋วก็เอามีดไล่ฟัน แต่แมลงวันบินไปบินมาอย่างอิสระ มีดฟันไม่โดน แถมมาตามนัดได้ทุกครั้งที่มีอาหารยกมา ติดรถไปกินในสตึกก็ได้ พร้อมก่อน กินก่อน
    • ไม่ว่าแมลงวันจะถูกครอบหรือบินไปมาอย่างอิสระ ไม่ว่ามันจะมีโลกทัศน์กว้างไกลแค่ไหน ข้อเท็จจริงก็คือ มันคือแมลงวัน ถ้าแมลงวันคิดว่าตัวเองเป็นนักการเมืองเมื่อไหร่ ที่นั้นเรียกว่าเมืองไทยครับ
  • #7 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 23:06
    #5  ลุงบางทราย
    ขอบคุณมากครับที่ชอบบันทึกนี้
    ได้บทเรียนกับตัวเองเหมือนกันครับ  บันทึกนี้เขียนเพราะเมื่อได้ยินเด็กพูดก็แว๊บขึ้นมา  เป็นความรู้สึกดีๆนะครับ  ทำให้เราได้คิดอะไรบางอย่างต่อ
    ตอนเขียนคิดเอาเองว่า  คงไม่มีใครสนใจอ่าน  แต่กลับโดนใจหลายๆคน  อิอิ   คิดเอง  ตัดสินเอง  ……  ผิดอีกแล้ว  ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
  • #8 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 28 เมษายน 2009 เวลา 23:09
    #6  รอกอด
    กู.. คนเดียวแท้ๆ  แวะมาเยี่ยมกันเยอะแยะเลย
    สงกะสัยว่าคงจะมีมาอีกหลายกูที่ลอดฝาชีมาได้  คงจะแวะมาเยี่ยม
    แต่ที่แน่ๆ  นึกอยู่ว่ามีอยู่กูนึงที่คงอดไม่ได้  ต้องมาต่อยอดแน่ๆ  อิอิ

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.12884402275085 sec
Sidebar: 0.037287950515747 sec