เรื่องที่อยากพูด
อ่าน: 1824เรื่องที่อยากพูด
เวลาอ่านหนังสือ ค้นจาก Google หรือไปคุย ไปฟังใครมา ถ้ามีอะไรดีๆหรือบาดหู (คำคม) ก็มักจะต้องรีบจด เดิมจดลงสมุดเล็กๆที่ชอบติดตัวไว้ ถ้าลืมสมุดก็จดในเศษกระดาษ ซึ่งจะหายเป็นส่วนใหญ่
ตอนหลังก็เริ่มจดลงในโทรศัพท์หรือบันทึกไว้ในโน๊ตบุ๊ค ตอนนี้เวลาอ่านหนังสือจะเปิดเครื่องทิ้งไว้พร้อมจดคำคม คำที่ชอบเอาไว้เลยเพราะจะมาจดทีหลังก็หาไม่เจอแล้ว สะสมไว้มาก หายไปก็เยอะ ยังอยู่แต่หาไม่เจอก็มี เพราะเก็บมั่ว
ช่วงที่อยู่ชะอำพอมีเวลาว่างก็เลยเริ่มรวบรวม ก็จะเป็นหมวดเรื่องราวเกี่ยวกับการเรียนรู้(การศึกษา การเรียนการสอน) กระบวนกร การพัฒนาบุคลากร(ด้าน Soft side)หรือจิตวิวัฒน์ ไม่มีหมวดธรรมะ เพราะกลัวเรื่องคนแสลงบาลีตามที่ อ. วรภัทร์ว่า อีกทั้งไม่ค่อยรู้เรื่องดี
การรวบรวมก็จะทำเป็นสไลด์ที่นำเสนอได้เลย แบบว่าเป็นคลัง ถ้าต้องนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องประเภทนี้ ก็มาค้นที่คลัง แล้วจัดเรียงลำดับใหม่ก็สามารถเตรียมตัวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องนั่งทำใหม่ทั้งหมด อาจเพิ่มเติมบ้างก็ไม่มากนัก ครูบาชอบใช้รูปถ่ายใหม่ๆสดๆที่เพิ่งถ่าย นำมาประกอบการนำเสนอ ทำให้เกิดความประทับใจมากครับ ต้องแอบเอามาใช้บ้าง
ปกติเป็นคนไม่ชอบบรรยาย ชอบพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากกว่า แต่ก็มีสไลด์เตรียมไว้ เพราะถ้าเวลามีน้อย หรือมีเหตุจำเป็น กิจกรรมที่ทำไม่สามารถทำให้เกิดการเรียนรู้ได้ตามที่ต้องการ อาจจำเป็นต้องงัดออกมาใช้บ้างตามสถานะการณ์ ใช้คำว่าจำเป็นก็ทุบเอาดื้อๆ
ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร ขณะรวบรวมอยู่มีความรู้สึกขึ้นมาว่า เรื่องนี้อยากเอาไปพูดที่สวนป่า เจตนาจริงๆอยากฝากเรื่องนี้ให้อาจารย์แพทย์ทั้งหลายที่ดูแลนิสิต จะได้เหนี่ยวนำคณาจารย์คนอื่น และหล่อเลี้ยงให้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เลยตั้งชื่อว่า เรื่องที่อยากพูด
ไปถึงสวนป่า ดูแล้วก็ยังไม่มีจังหวะที่เหมาะสมจะพูดก็เลยเก็บเอาไว้ก่อน คืนวันก่อนกลับ ขณะเด็กๆนำเสนอการแสดงกันอยู่ ก็นึกอยากจะพูดขึ้นมา เพราะดูแล้วคิดว่า พรุ่งนี้เป็นเวทีของเด็กๆที่จะสะท้อนว่าได้เรียนรู้อะไรจากการมาสวนป่าครั้งนี้ สิ่งที่อยากพูด อยากฝากอาจารย์คงไม่มีจังหวะจะพูดอีกแล้ว เลยขออนุญาตครูใหญ่ บอกว่าอยากพูดให้อาจารย์ฟัง แต่ถ้าเด็กสนใจก็ฟังได้ ถ้ามาสนุก ไม่สนใจก็ไปเตรียมเรื่องที่จะนำเสนอในวันรุ่งขึ้นได้
สไลด์ที่จัดทำก็เป็นคล้ายๆรวบรวม Keyword ที่น่าสนใจของอาจารย์ที่นับถือและประทับใจไว้ แล้วเลือกเล่าหรืออธิบายให้เหมาะสมกับหัวข้อที่ต้องการสื่อออกไป ถ้าไม่เกี่ยวข้องก็อาจโดดข้ามไป ไม่อธิบาย
การนำเสนอเปิดประเด็นด้วยเรื่องของ Chaos ความไร้ระเบียบ เปรียบเทียบแนวคิดแบบแยกส่วน แบบวิทยาศาสตร์ แบบที่อยากให้ทุกอย่างเหมือนกัน กับแนวคิดแบบธรรมชาติ แบบยอมรับความแตกต่าง และสรรพสิ่งมีความสัมพันธ์กัน
นำเสนอความรู้ด้าน Hard side กับ Soft side การรับรู้กับการเรียนรู้แบบเข้า(ไปที่)ใจ การสอนแบบบรรยายกับการได้เรียนรู้แบบได้ปฎิบัติ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จำมาจากของ อ. วรภัทร์ ภู่เจริญ
นำเสนอ มณฑลแห่งพลัง จิตวิวัฒน์ การออกจากไข่แดง ปัจจุบันขณะ สุนทรียสนทนา Bonding ของอาจารย์วิศิษฐ์ วังวิญญู
มีข้อความเด็ดๆของครูบา ( คนโง่ยังเอะใจ) อ.แสวง (ขนนกมีกี่ชนิด มันมั่วมันฟลุ๊ครึเปล่า แล้วทำไมมันเหมือนกันได้ ) อ. แฮนดี่ ( แล้วจะรู้ไปทำไม?)
ฮ่าๆๆๆๆๆ อยากพูดก็ได้พูดแล้ว หวังว่าคงไม่ได้รบกวนบรรยากาศการอบรมนะครับครูใหญ่ครับ อิอิ
« « Prev : กูเป็นกู
Next : เรื่องหมาๆอีกแล้ว อิอิ » »
6 ความคิดเห็น
ฮ่าฮาฮ้า ในทีุ่สุดได้พูดสมอารมณ์หมาย ใครฟังแล้วมีจตุรนิมิตร สุ จิ ปุ ลิ ย่อมมีอาวุธติดปลายนวมปัญญากลับไปบ้าง ก็ถือว่าสมความมุ่งมาตรปรารถนา ฮาๆๆๆๆ ให้รู้เสียบ้างใผเป็นไผ่
มีคนอยากอ่านก็ได้อ่านแล้ว อยากแสดงความเห็นก็ได้แสดงแล้ว
คนตอบก็ได้ตอบแล้ว มีความสุขกันดี แล้วไงต่อ? อิอิ
เฮียเรามีมุกเด็ดเสมอแหละ ดีดี ชอบ ชอบ
ในเฮฮาศาสตร์ มีศาสตร์ต่างๆให้เรียนรู้มากมาย
เฮฮาศาสตร์ ใจง่ายศาสตร์ แว๊บศาสตร์ เสือกศาสตร์ เสียบศาสตร์? ชิวๆศาสตร์ มั่วศาสตร์ ……… ฯลฯ อิอิ
เมื่อบ่ายแช้ตคุยกับครูใหญ่ตัวจริงที่เชียงราย เล่าเรื่องที่ไปสวนป่าฯ ให้ฟัง
เล่าให้ฟังถึงเรื่องที่คุณหมอบรรยาย ครูใหญ่บอกว่า “น่าเอ็นดูแก” ^_^
ปลายเดือนนี้ถ้ามีเวลา ไปป๊ะกันที่เจียงฮายมั๊ยคะ ท่านพี่
ได้ยินว่ามหกรรมกระบวนกรรอบนี้ (24-30 พ.ค.) ตั้งธีมไว้ว่า “เส้นทางสู่การเป็นโยดา”
คุณหมอมีเจไดในสังกัดหลายคน … น่าจะเป็น โยดาจอมป่วน อิ อิ
ผมเป็นอินเทอร์นครับ อิอิ
24-30 พค. ไปเกาะช้างกับอิ่ม ไปอบรมเรื่องการจัดการขยะโดยชุมชน (CBM) ให้ อปท. ที่เกาะช้างครับ เฮ้อ……..