อยากจะอบหัวใจเธอจังเลย

อ่าน: 4899

งานวิจัยไทบ้าน เรื่องความมั่นคงทางอาหาร

หมู่นี้มีการพูดถึงการเตรียมตัวเรื่องภัยพิบัติอยู่บ้าง ในฐานะผู้สอดรู้สอดเห็นก็เก็บเอามาคิดว่า ระดับอย่างเราๆจะเริ่มต้นตรงจุดไหนดี บังเอิญพี่แต๋วคุยเรื่องเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ผมก็ไม่ทราบว่าสองสาวเขาคุยตกปล่องร่องชิ้นกันยังไง มาทราบว่าก็อีตอนที่มีการสั่งซื้อเตาอบพลังงานแสงแดด และมาเห็นของจริงก็ตอนที่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าใจดีบรรทุกมาส่งให้ถึงบ้าน โอ้โฮ ผมนึกว่าจะเล็กๆ ใหญ่แทบเต็มกะบะรถบรรทุกเล็กเลยละครับ เมื่อมีปัจจัยการทดลองอย่างนี้แล้ว ผมก็เลียบเคียงถามโฉมยงว่าคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ เธอบอกว่าจะเอามาอบสมุนไพร แล้วแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพราะเรามีวัตถุดิบทั้งปี ใครไปใครมาก็จะเอามาให้ทดลอง ถ้าคุณภาพดีเป็นที่ยอมรับก็จะทำการเผยแพร่ต่อไป

(ทดลองอบกล้วย)

เธอว่า การที่มีเครื่องมือให้ทดลองทำให้ความคิดเดินออกจากการครุ่นคิดคำนึง

เช้านี้ เธอทดลองเอากล้วยสุกสามเครือ ปอกเปลือกแล้วแช่น้ำปูนใส

เอามาวางเรียงในตู้อบ เป็นการทดลองจากของจริงฉลองเป็นปฐมฤกษ์

เมื่อได้ทำอะไรเชิงปฏิบัติการ ง า น ที่ สั ม ผั ส ไ ด้ ส ะ ท้ อ น ค ว า ม รู้ สึ ก นึ ก คิ ด เธออธิบายเป็นฉากๆว่า ถ้าเรามีเครื่องอบชนิดนี้สี่ตู้น่าจะพอดีกับงานเริ่มต้นแปรรูปเพื่อถนอมอาหาร สำหรับการป้องกันภัยพิบัติ

· ตู้แรกจะอบผลไม้

· ตู้ที่สองจะอบอาหารประเภทเนื้อ

· ตู้ที่สามจะอบสมุนไพร

· ตู้ที่สี่จะอบพืชผัก เห็ด ต่างๆ

เ ร า จำ เ ป็ น ต้ อ ง ใ ช้ ถึ ง สี่ ตู้ เ ล ย รึ

เธอบอกว่าที่จำเป็นเพราะเรามีวัตถุที่แตกต่างกัน

ก า ร แ ย ก ตู้ อ บ จ ะ ทำ ใ ห้ ก ลิ่ น อ า ห า ร ไ ม่ อ อ ก ม า ตี กั น

ที่จริงเธออยากได้ห้าตู้ด้วยซ้ำไป

อ้าว ตู้ ที่ ห้ า จ ะ เ อ า ม า อ บ อ ะ ไ ร เธอบอกว่าประเภทของวัตถุดิบมีความแห้งระเหยไม่เท่ากัน ถ้าไม่มีตู้สำรองเราก็จะรอคอยนาน งานไม่ต่อเนื่อง ที่ทดลองวันนี้ ตู้ดังกล่าวจะรองรับกล้วยสุกได้ประมาณหกเครือ ถ้าทดลองจนได้สูตรแน่ใจอาจจะต้องขยายเป็นโดมขนาดใหญ่ เครื่องมือชุดนี้จึงเหมาะสมมากที่จะเอามาฝึกทักษะการถนอมอาหารต้นทาง ต่อ เ มื่ อ ชำ น า ญ แ ล้ ว เ ร า ค่ อ ย ข ย า ย ผ ล เ ป ลี่ ย น กิ จ ก ร ร ม เ ป็ น กิ จ ก า ร

(มันเลือด-เผือก-กล้วย ปลูกไว้เยอะจะเอามาอบทำแป้งไว้เจี๊ยะยามยากหรือเกิดภัยพิบัติ)

ส่วนผมนั้นมองอีกแบบหนึ่ง ถ้าเรามีเครื่องอบอย่างนี้ ช่วงที่ผมขุดมันเลือด ขุดเผือก เก็บเมล็ดถั่วพู ถั่วเขียว เมล็ดถั่วลิสง และข้าวโพด เราก็สามารถเอามาอบให้แห้งแล้วป่นเป็นแป้งเก็บไว้ได้ เป็นการถนอมเอาไว้ในยามยาก เมื่อได้แป้งแต่ละชนิดแล้วเราก็จะนำมาเรียนรู้ประกอบอาหารเมนูต่างๆ เครื่องมือพวกนี้จึงเป็นอุปกรณ์การค้นคว้า หาทางออกเกี่ยวกับอาหารยามภัยพิบัติในเชิงการวิจัยแบบไทบ้าน ถ้าเราประมวลความรู้ดั่งเดิมมาต่อยอดกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมยุคสมัยใหม่ เราก็จะได้ชุดความรู้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่สำคัญมันบ่งบอกว่า แนวคิดนี้ได้ประยุกค์ขึ้นตามครรลองของวิถีไทย

ถ้าไม่มีตรงนี้ เราก็จะนึกถึงแต่มาม่า

ข้าวกล่องที่บูดง่าย

โดยหาคำตอบไม่ได้ว่าในแต่ละท้องถิ่นจะพึ่งตนเองได้อย่างไร?

ถ้ามันไม่เกิดภับพิบัติ ก็ยังเดินหน้าระบบการพัฒนาอาหารสำเร็จรูปได้

จะเห็นว่า เครื่องมือที่จะนำไปสู่คำตอบไม่ได้แพงมากมายวายป่วงอะไร

ถ้ามีผู้สนับสนุนในจุดที่มีความพร้อม ความต้องการ ความมุ่งมั่น

ตู้อบอาหารแสงอาทิตย์มันไม่ใช่จะเอามาทำแต่เนื้อแดดเดียวหรอกนะเธอ

เ ร า จ ะ อ บ ทุ ก อ ย่ า ง ที่ ข ว า ง ห น้ า

โดยเฉพาะหัวใจคนโลเล อยากจะอบทำแห้งไว้จะได้ไม่ออกไปเพ่นพ่านหลอกใครๆ

เ ป็ น ก า ร บ้ า น ที่ ท้ า ท า ย ไ ห ม ล ะ พี่ แ ต๋ ว จ๋ า อิ อิ


เข้าตามตรอกออกตามประตู ฝืดๆ

อ่าน: 2171

ลานปัญญา เข้ายากเป็นบ้า

นี่คือเสียงโอดครวญระงมในระยะนี้

ต้องยอมรับว่าเพื่อนเรามีระดับความสามารถแตกต่างกัน

แม้แต่ผมเอง

ถ้าไม่คนช่วยอยู่เบื้องหลังก็คงเงอะงะยิ่งกว่าตาบอดคลำไดโนเสาร์เสียอีก อิ อิ

ลานปัญญาเป็นคล้ายๆลานวัด ที่ปัดกวาดลานบ้านให้เรียบร้อยดูดี สงบ สะอาด และสว่างด้วยแสงแห่งปัญญา เป็นที่ชุมนุนของเหล่าสาวกเฮฮาศาสตร์ มีประวัติความเป็นมาอลังการนัก ถ้าสนใจก็เข้าไปค้นหา ไม่นานหร๊อก เดี๋ยวก็เจอ เจอแล้วเธอจะรัก ถึงกับวิ่งเข้าไปกอดเชียวแหละ จรึงรึ จริงสิ

นี่คือจุดขายที่ผมเที่ยวไปปล่อยข่าว เรื่องลานปัญญา

ลงทุนไปเกี้ยวสาวๆมาเป็นกะบุงก็เพื่อการนี้ อยากเห็นลานปัญญา เป็นลานแห่งการสร้างเสริมสติปัญญาอย่างกว้างขวางของชาติ หลังจากที่ไปประชาสัมพันธ์แบบเจาะใจแล้ว ก็มีคำถามตามมามากมาย บางคำถามก็บอกว่า อ้าว ทำไมไม่เห็นมีใครตีฆ้องร้องป่าวประชาสัมพันธ์อะไรเลย บางคนที่อ่านเจ้าเป็นไผ อ่านแล้วยากจะเข้ามา ก็ติดเบรกเรื่องเข้ายากนี่แหละ ผมต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด ด้วยการค่อยๆปลดเปลื้องว่า โธ่ คนสวย ของดีจะมาตีแผ่แบกับดินทำไมละ คนนอกต้องเข้าไปแสวหา

เมื่อก่อนผมยังคิดเล่นๆว่า ลานปัญญาเป็นพื้นที่ๆ “ใครตาดีก็ได้” อะไรทำนองนั้น แต่พักหลังมีเสียงโอดครวญกระซี๊กระซิกว่า “เข้ายากเป็นบ้า” เรื่องนี้ต้องไหว้วานจอมยุทธแห่งลานปัญญาแล้วละครับ คุณหมอจอมป่วน กับท่านบางทราย และท่านอื่นๆลองจับเข่าคุยกัน คอมเมนท์เรื่องนี้ ตีแตกออกมาได้ไหม ทำยังไงของดีจะถึงมือผู้ที่สนใจใฝ่ฝ่าเข้ามาสนามเรียนรู้แห่งนี้

ไม่ใช่มีดีแล้วต้องอวดอะไรหรอก

ผมคิดถึงเรื่องการต่อยอดความรู้ ความคิด ความตั้งใจดีของเพื่อนใหม่

เหมือนกับเรามีต้นตอมะสังพร้อมที่จะเสียบยอด

ตอนนี้ก็มียอด ส้มโอ ส้มเช้ง ส้มเขียวหวาน มะกรูด มะนาว รอที่จะมาเสียบอยู่แล้ว

เราจะอำนวยความสะดวกให้กับญาติที่รักของเราได้อย่างไร

เราจะหาทางทำให้เส้นทางเข้า-ออกลื่นไหล ได้อย่างไร

คนดีๆอยากจะเข้ามา แต่เจอเส้นทางแบบเขาวงกต ก็ ถ อ ด ใ จ ไ ด้ น ะ ค รั บ

คงไม่ใช่เรื่องง้อ หรือไม่ง้อ เราควรมีจิตใจผ่องแผ้วสักนิด

ผมออกจากลานปัญญาไปพักหนึ่ง เพื่อไปจีบคนดีที่อยู่ในโลกกว้างให้เข้ามาเป็นพันธมิตรทางวิชาการ ชวนเข้ามาเป็นมิตรสหายถ่ายเทความรู้ให้กันและกัน สังคมอุดมปัญญาจะเกิดขึ้นได้ กระบวนการควรผ่อนคลาย ให้เข้ามาได้แบบสะดวกใจ ไม่ ถึ ง กั บ ส อ ง มื อ ล้ ว ง ก ร ะ เ ป๋ า ส อ ง เ ท้ า ก้ า ว เ ข้ า ม า ก็ ไ ด้ เอาเป็นว่าตีตั๋วก็สะดวก ประสานงานประสานใจก็สะดวก โลกข้างนอกลานปัญญามีคนดีคนน่ารักมากมาย เท่าที่ผมได้รู้จักก็เรียกว่าว่านับญาติกันได้อย่างสนิทใจก็มีไม่น้อย

บ้านเมืองเราวุ่นวายอย่างไรก็รู้ๆกันอยู่

คนดีๆก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปวางไว้ที่ใด

เพราะพื้นที่ๆจะไปพักใจก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน?

ส่วนใหญ่ต่างแสวงหาโลกของตัวเอง ถ้าเราค่อยตะล่อมคนดีมาอยู่ด้วยกัน พลังของคนดีนั้นมีอานุภาพมากนัก ถ้าเราเข้าใจตรงจุดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะชักช้า นัดพบกันครึ่งทาง หรือจะเลี้ยงดูปูเสื่อผ่านบล็อกนี่ก็ได้

· ผมเห็นความงดงามของมิตรภาพจากเพื่อนใหม่

· ผมเห็นความรู้ในตัวคนมากมายที่น่าเสียดายเวลาที่ผ่านมา

· ผมเห็นช่องทางการประสานงาน ในรูปของการทำงานแบบอิงระบบที่ชัดเจนมากขึ้น

· ผมเห็นศักยภาคนไทยจำนวนมากที่อยู่อย่างอุบอิบ ต้องการเพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน

· ผมเห็นความรักความศรัทธาที่มีต่อชาติบ้านเมืองและสังคมตกหล่นเกลื่อนกราด

· ผมเห็นคนดี คนงาม คนเก่ง คนน่ารัก จำนวนมหาศาลที่อยู่นอกรั้วลานของเรา

· ผมเห็นว่าเราควรจะปรับอะไรบางอย่างเพื่อกระแซะใจไปหากันให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น

· ผมเห็นว่าชาวลานปัญญา อ่อนล้าต่อการต่อแต้มทางสติปัญญามาพอสมควร

· ผมเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ลานปัญญาจะกระดี๊กระด๊าได้อย่างมีชีวิตชีวา

เสียดายช่วงนัดพบชาวเฮที่ผ่านมา เราต่างก็ปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไป ถ้าจะรอรวมจอมยุทธวันขึ้นบ้านใหม่หมู่บ้านโลกค่อยมาถกกันก็อาจจะช้าไป มีวิธีไหนไหมครับ ที่จะขยับใจเข้ามาใกล้ชิดกันกว่านี้ เลิกร้องเพลง “โบกมือหยอยๆ ล า น้ อ ย ไ ป ช า ย แ ด น ดีไหมนะครับ

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับระบบป้องกันพวกก่อกวนไวรัส

แต่ไม่มีวิธีอื่นนอกจากการล้อมรั้วอย่างแข็งขันเลยรึครับ

น อ ก จ า ก ช่ อ ง เ ข้ า ต า ม ต ร อ ก อ อ ก ต า ม ป ร ะ ตู แ ล้ ว

สามารถมีช่องลับ ช่องพิเศษอะไรได้อีกไหม?

ผมมันพวกรู้ไอทีแค่หางอึ่ง ก็ พู ด เ ป ร อ ะ ไ ป ยั ง งั้ น เ อ ง

แต่ก็เชื่อว่า สั ก วั น ฟ้ า สี ท อ ง จ ะ ผ่ อ ง อำ ไ พ

ถ้าเราระดมใจ ระดมความคิด มาช่วยกันในจุดนี้

ผ ม แ จ ก ตั๋ ว ฟ รี บั ต ร ฟ รี ไ ป ม า ก แ ล้ ว

ไปกระแซะ ไปชี้ชวน ไปออดอ้อนรำพันเขามาเอออยู่หน้าประตูบ้านแล้ว

เราจะรอให้คนที่น่ารัก บ่นงึมงำว่า เ ข้ า ย า ก ๆ ๆ ต่อไปรึครับ

ฝ า ก จ อ ม ยุ ท ธ ก ร ะ บี่ ด้ ว น พิ จ า ร ณ า ด้ ว ย เ ถิ ด

ควรมิควร ก็สมควรแก้ไขให้จบสิ้นกระบวนความ

เพื่อที่ลานปัญญาจะเป็นลานระดม พ ลั ง แ ห่ ง ส ติ ปั ญ ญ า ของหมู่เฮาเต็มลูกสูบเสียที

ใครอ่านแล้ว อิ อิ ระวังจะโดนเขก-


รักจริงหวังแต่ง

อ่าน: 1696

ใครไม่มีความรักบ้าแล้ว เออ ความรักกับความชอบเหมือนกันไหมนะ บางคนอาจจะเกิดความชอบก่อน บางคนอาจจะเกิดความรักก่อน ยิ่งรักก็ยิ่งชอบอะไรทำนองนั้น จะยังไงก็เถอะ ขอยกให้เป็นเรื่องโมเมศาสตร์ก็แล้วกัน ถ้ามนุษย์เรามีความรักที่ดี รักที่มีคุณภาพ รักที่สะอาด คุณคิดว่าโลกนี้จะน่าอยู่ไหมละ ผมชอบคำว่า “รักจริงหวังแต่ง” เ พ ร า ะ มั น มี ค ว า ม ห ม า ย ว่ า เ อ า จ ริ ง น ะ โ ว้ ย ไม่ได้มาปอกลอกหรือมาหลอกลวงแอบแฝงอะไร แต่ก็แปลกนะเธอ เรามักจะไม่ค่อยเจอประเภทหวังแต่งเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะเป็นแบบไม่เอาจริง หรือที่เรียกว่า “หมาหยอกไก่” ทำไมหมาถึงหยอกไก่ ไปหาความหมายเอาเองก็แล้วกัน

ถ้าเราบริหารความรักได้ดี ชีวิตเราก็จะประสบแต่สิ่งที่ดีงาม

เอาความรักนำหน้า อย่างอื่นตามมาทีหลัง

รักเป็นยุทธปัจจัยเชิงรุกที่สำคัญ

หว่านโปรยรักลงที่ไหน ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความอบอุ่นและมิตรไมตรี

ถ้าคุณภาพความรักเรามีศักยภาพ

อานุภาพความรักของเราก็จะสร้างอภินิหารได้นานัปประการ

ไ ม่ เ ชื่ อ ก็ ล อ ง นั่ ง ท บ ท ว น ดู เ ถิ ด

  • ถ้าเรารักต้นไม้ที่เราปลูก ไม้ในกระถางจะเจริญงอกงาม ให้ดอกให้ผลเป็นที่ชื่นตาชื่นใจ
  • ถ้ารักการเรียน ผลการเรียนก็ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ
  • ถ้าเรารักเรื่องหนึ่งเรื่องใด เราก็จะทำได้ดีมีความสุขใช่ไหมละครับ

ปัญหาอยู่ที่ว่า เธอมีความรักในระดับใด

ถ้ามีระดับรักจริงหวังแต่งกับทุกเรื่อง

เรื่องที่เธอจับต้อง ก็ จ ะ ป ร ะ ส บ ผ ล สำ เ ร็ จ

ดั่งคำว่าที่ว่า จับให้มั่นคั้นให้อยู่

ในเชิงกระบวนการของความรักที่ดีแล้ว

คงต้อง เ พิ่ ม ขั้ น ต อ น จ า ก ห วั ง แ ต่ ง ให้เป็นการได้แต่ง

ลองดูนะครับ จากนี้ไปเราใช้ความรักไปแต่งแต้มกับสิ่งใด

  • เรามีเพื่อน หรือญาติมิตรสหายที่น่ารักกี่คน
  • เรามีเพื่อน หรือญาติที่ฝากผีฝากไข้ได้กี่คน
  • เรามีเพื่อน หรือญาติที่รู้ใจสักกี่คน

ผมไม่เชื่อว่าคนที่ไม่มีความจริงใจกับใคร ไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงกับเพื่อนจะมีเพื่อนที่ดีๆกับเขาได้ คบกับใครก็มีเล่ห์กะเท่จะเอารัดเอาเปรียบคนอื่น คนไม่ดีนั้นทำมาหากินลำบากมาก ถึงจะมีความร่ำรวยก็ร่ำรวยบนกองทุกข์ หาทรัพย์มาได้มากเท่าใดก็จะต้องใช้เล่ห์เททุบายมากมายเท่านั้น บางคนถึงกับคดโกงแผ่นดิน บิดตระกูดกับกฎระเบียบต่างๆ พยายามที่จะบิดพลิ้วทุกเรื่อง ถึงจะมีชื่อเสียงมีตำแหน่งมีหน้ามีตาก็มีแบบวัวสันหลังหวะ ไม่ได้รับการยอมรับโดยสุจริตใจจากประชาคมโดยรวม พวกที่ขาดความรักกำกับคุณธรรม จึงทำไปด้วยความหลงมากกว่าความรัก เลือกเดินทางเถื่อน อยู่กับความเถื่อน มีรักแบบเถื่อนๆ แต่งงานมีลูกเต้าเยอะแยะ ยังแกล้งหย่าแบบเถื่อนๆ วิบากกรรมรักนั้นมีจริง

ถึ ง จ ะ ผ่ า น ก า ร รั ก จ ริ ง ห วั ง แ ต่ ง

แ ต่ สุ ด ท้ า ย ก็ ต้ อ ง ม า เ ล่ น ล ะ ค ร ห ย่ า ไ ม่ จ ริ ง ห วั ง ต บ ต า

หาความสง่างามมิได้เลย

เป็นต้นแบบของการทำลายความรักที่งดงามของมวลมนุษยชาติ

ยั ง ไ ง ๆ ก็ ดู ดี ๆ น ะ น้ อ ง

อย่าไปรักจริงหวังแต่งกับพวกขาดคุณสมบัติรัก

เดี๋ยวอกหัก จะหาว่าหล่อไม่เตือน

ถ้ารักพี่จริง  วิ่งตามมาที่ลานปัญญานะน้อง

พี่รับรองความปลอดภัย จะเลี้ยงดูอย่างดีมีความสุขตลอดไป

ถ้ารักกันจริงวิ่งตามมาลานปัญญานะน้อง

รับรองจะเลี้ยงดูอย่างดี ไม่ทิ้งไม่ขว้าง ไม่ใจร้าย ใจดำ เหมือนที่อื่นหร๊อก

คิ คิ_


รางวัลความดีคืออะไร?

อ่าน: 1355

ไปบางกอกเที่ยวนี้ มีภารกิจไปหลายวันไปหลายที จึงหอบสิ่งของไปมากมีเหมือนบ้าหอบฟาง ข้ามไปลาวเจออะไรแปลกๆก็ซื้อมา ไปโม้ที่กฟผ ก็ได้หนังสือและของที่ระลึกแถมมาอีก จะกลับพี่แต๋วยังฝากขนมนมเนยและเสื้อลายนายฮ้อยมาให้อีก กระเป๋าสองใบโตจึงมีน้ำหนักไม่เบา ถึงจะมีล้อลากแต่ตอนที่ขึ้นลงรถแทกซี่ก็ต้องหิ้วอยู่ดี บางทีความรีบร้อนก็ยกสัมภาระแบบไม่ระวัง ลื ม ตั ว นึ ก ว่ า ยั ง เ ป็ น ห นุ่ ม รุ่ น ก ร ะ เ ต๊ า ะ เ ห มื อ น เ มื่ อ ก่ อ น ช่วงที่นั่งรถทัวร์รู้สึกชาที่ปลายนิ้วก้อย แล้วปวดแปล๊บตามท้องแขนขึ้นมาจนถึงหัวไหล่ มาถึงบ้านมีอาการหมดแฮงผสมเข้าไปอีก

โฉมยงถามว่า ไปทำอะไรที่บางกอกจึงสะโหลสะเหลขนาดนี้

ก็ไม่ได้ทำอะไรนักหนา แต่มันถึงเวลาจะเดี๊ยงละมั๊ง

เธอกุลีกุจอหายามานวดมาทาตามมีตามเกิด

มันก็ไม่หาย ปวดได้ปวดไป ผมไม่กินยาแก้ปวดอยู่แล้ว

·

บายวันนี้ชวนกันเข้าตลาด ไปให้หมอนวดลองขยำเส้นเอ็นตามตำรานวดคลายเครียด หมอเขาก็นวดดีนะ ถ้าไม่มีเรื่องปวดร้าวระบมมาก่อน คงจะนอนเพลินให้นวดสบายๆ แต่อาการนี้นวดก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้ ทนไม่ไหวจึงกินยาแก้ปวดสองเม็ด ค่อยยังชั่วแหะ ตอนเย็น ดอกเตอร์ฝนโทรมาถามอาการ แล้วแนะนำวิธีดัดแขนคอตามหลักกายวิภาคศาสตร์ที่เธอเป็นอาจารย์ด้านนี้ ก็รู้สึกดีขึ้น คงจะพอนอนได้ไม่ทรมานเหมือนคืนที่ผ่านมา แต่ วรรคสุดท้ายก่อนจะจากจร อาจารย์ฝนแนะนำให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล คงขอดูอาการคืนนี้ก่อน จะไปหาหมอหรือจะหนีหน้าหมอ

หลังจากนวดเสร็จแล้ว ทั้งๆที่ไม่ค่อยปกติ แต่ก็รับปากกับสำนักงานจังหวัดว่าจะไปพบปลัดอาวุโส เพื่อกรอกรายการอะไรสักอย่างประกอบการรับรางวัล ผมก็จำไม่ได้ว่าเป็นรางวัลอะไร ทำไมถึงจะต้องเดินทางมากรอกรายละเอียดด้วย ส่งไปให้เราอ่านแล้วกรอกเองไม่ได้รึ ต่อรองแล้วไม่สำเร็จ เขายืนยันว่าต้องมากรอกหลักฐานกับปลัดอาเภออาวุโส จะไม่รับก็เกรงใจ ให้มาก็มา

ม า นั่ ง ร อ เ กื อ บ ชั่ ว โ ม ง

ถามเด็กที่นั่งข้างๆบอกว่า ท่านพักกลางวันยังไม่ขึ้นมา

เอ้า ไ ห น ๆ ม า ร อ ห น่ อ ย ก็ แ ล้ ว กั น

มีปลัดท่านหนึ่งรู้จักกันเดินมาทัก เ ฮี ย ม า ทำ ไ ม

ก็บอกว่า สำ นั ก ง า น จั ง ห วั ด ใ ห้ ม า ก ร อ ก ห ลั ก ฐ า น บ้ า อ ะ ไ ร ก็ ไ ม่ รู้

นั่งๆรอๆๆ เห็นท่าไม่ดี ก ลั บ บ้ า น ดี ก ว่ า

รางวัลซังกะบ๊วยอะไรก็ไม่รู้ !

ที่ รั บ ๆ ม า ก็ ก อ ง เ ต็ ม ตู้

ใ ห้ เ ข า ไ ป แ จ ก ค น ที่ อ ย า ก ไ ด้ ดี ก ว่ า

  • ทำความดีไม่ต้องมีรางวัลอะไรหรอก ใ ช่ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ทำดี ก็ได้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมีคนมาบอกหรอกนะ ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ทำอะไรก็รู้แก่ใจตนเองดีอยู่แล้ว ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ทำดีเพื่อหวังรางวัลมันก็ท่าจะบ้า ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ยิ่งบอกว่าให้ไปกรอกผลงานทำดีก็ยิ่งบ้าหนักเข้าไปอีก ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ

สรุปว่า ไม่เอาโว้ยยย ขออยู่ป่าเงียบๆดีกว่า ?

“ถ้าหวังตั้งอยู่ในความสงบ  อย่าอยากดัง” ! อิ อิ


จะเอายังไงกับภัยพิบัติ

อ่าน: 1812

จะเอายังไงกับภัยพิบัติ

· พิษภัย เภทภัย ภัยพิบัติ ภัยวิบัติ สารพัดภัย แวะเวียนมาเยี่ยมเราบ่อยขึ้น สาเหตุเพราะมนุษย์เราไปนี่แหละไปทำลายความปกติของธรรมชาติ เมื่อสภาพสมดุลของโลกเสียหาย กลไกของระบบธรรมชาติได้รับผลกระทบ ความเป็นปกติก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นธรรมดา และส่วนมากก็เป็นไปทางลบมากว่า สองสามปีมานี้อากาศผิดปกติทั่วประเทศอย่างเห็น เป็นไปได้ไงครับ ที่อีสานอากาศจะเย็นสบายกว่าเชียงใหม่ ภาคเหนือทั้งหมดทุกรมด้วยควันไฟป่าปีละสองเดือน รู้ทั้งรู้ที่เห็นตำตาก็แก้ไขอะไรไม่ได้

แ ล้ ว สิ่ ง ที่ ซุ ก ซ่ อ น อ ยู่ น อ ก ส า ย ต า จะเป็นยังไง

มันจะไม่บูดเน่าแล้วบูดเน่าอีกรึครับ

เรื่องพวกนี้พูดไปคนก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่

ขนาดปีที่แล้วเจอน้ำท่วมแทบตาเหลือกก็ยังอยู่อย่างประมาทกันต่อไป
อย่าเชื่อ นักการเมืองกระล่อนจะช่วยดูแลอะไรเราได้

แผนงานป้องกันภัยต่างๆก็ทำแบบเด็กอมมือ

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั่นแหละดีที่สุด

· ช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมา ผมออกจากลานปัญญามาจีบสาวๆสนุกสนาน ต่อไปนี้ก็จะกลับเข้าบ้านแล้วครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงๆก็จะโพสต์ข้อความโยงมาถึงเฟสบุกส์อยู่ดี แต่เนื้อหาอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง คงจะเข้าสู่กระบวนการของหมู่บ้านโลกเป็นหลัก ถ้าใครติดตามอ่าน”ลานซักล้าง” จะเห็นว่าคอนดรั๊กเตอร์ ทำการบ้านรอมาเป็นระยะๆ วันนี้เดินมาถึงหมู่บ้านโลกตอนที่ หก แล้วนะเธอ

· คอนดรั๊กเตอร์ เขาจะทำเรื่องหลักการ ส่วนข้าน้อยจะทำเรื่องกระบวนการ ถ้าสนใจก็เข้าไปอ่านลานปัญญา คอนดรั๊กเตอร์ พูดถึงภาพรวมของการเกิดภัยพิบัติ ถ้าเรายังสนิมสร้อยอยู่อย่างนี้ คงจะช่วยตัวเองได้น้อย ปกติภัยที่ว่านี้มันก็เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแล้วละครับ เพียงแต่เราไม่ใส่ใจกันอย่างจริงจัง เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ภาคเหนือทั้งหมดถูกรมด้วยไฟไหม้ป่าอย่างที่เกริ่นนำ ต่อมาอากาศร้อนแล้งมหาโหด ลำปาง สี่สิบกว่าองศา ถามว่า มีใครแก้ไขเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมได้รือไม่ เจ้าภาพอยู่ที่ไหน คนรับผิดชอบมีหน้าตาอย่างไร

สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า “มั น ก็ แ ค่ นั้ น แ ห ล ะ ต๋ อ ย ”

สังคมไทยอยู่กันอย่างลูบหน้าปะจมูก สนุกกับการกลบข่าวไปวันๆ อ้าว! เมื่อรู้แล้วจะทำยังไงละ หมู่บ้านโลกก็เดินหน้าต่อไปทุกวัน เมื่อเร็วๆนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตส่งเครื่องอบพลังงานแสงอาทิตย์มาให้ ผมก็นึกว่าเครื่องเล็กๆ ที่ไหนได้ มันเพียงพอที่จะนำมาศึกษาเรื่องความมั่นคงด้านอาหารอย่างดีเลยละครับ เมื่อคืนโฉมยังมาบีบนวดหัวไหล่ให้ สงสัยจะเกิดจากการสะพายกระเป๋าหนักผิดท่า ตอนนี้หัวไหล่ทั้งซีกยังบ่มีแฮง เพลียๆยังไงไม่รู้นะครับ ข น า ด อ ยู่ ใ ก ล้ ชิ ด กั บ ค น รู้ ใ จ ก็ ยั ง ไ ม่ ก ร ะ เ ตื้ อ ง เออ ไม่รู้จะทำยังไงดี วันนี้จะลองนวดครีมที่ผลิตจากลำไย ถ้าหายเธอเอ๋ย จะกระดี๊กระด๊าไปได้อีกนาน

โฉมยงได้ของถูกใจ เล่าให้ฟังว่าจะเอาสมุนไพรมาอบมาทดลอง เมื่อก่อนลูกมะกรูดหล่นทิ้งเต็มพื้น เก็บมาบดปั่นทำครีมอาบน้ำบ้าง บำรุงผิวบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาจะลองเอามาอบแห้งแล้วบดๆๆๆ เอาไปทดลองเรื่องอื่นๆได้กว้างขวางขึ้น

ส่วนผมก็คิดในมุมผม

-ช่วงที่ผักออกเยอะๆผมจะเอามานึ่งแล้วส่งเข้าไปอบแห้ง เก็บไว้ในรูปของการถนอมอาหาร

-ช่วงที่ขุดมันเลือด เผือก เยอะๆก็จะเอามาแปรรูป อบแห้ง บดๆๆเก็บไว้ในรูปแป้ง

-ช่วงที่ผลไม้ออกเยอะๆ เสาวรส มะม่วง ขนุน กล้วย ก็จะลองอบแห้งไว้

-ช่วงที่เมล็ดธัญพืชออกมากๆ ถั่วพู ทานตะวัน ถั่วเขียว ก็จะเอามาอบๆ เก็บไว้

-ช่วงที่มีเนื้อสัตว์ ปลา ทำเนื้อแดดเดียว ก็จะลองทำแบบหลายๆแดด

-ช่วงที่มีสมุนไพรออกมามากๆ ก็จะเอามาอบๆๆและอบให้แห้ง ทำชา ทำประคบ ใส่แค๊ปซูล ก็ว่ากันไป

เรื่องเหล่านี้เรายังต้องเรียนรู้อีกมาก

ท่านผู้สันทัดกรณี จ ะ อุ ป ก า ร ะ ค ว า ม รู้ ก็ เ ชิ ญ เ ล ย น ะ ค รั บ

· ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คิดในแง่ของการเตรียมภัยพิบัติ ถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง แต่มันไปเกิดขึ้นกับพื้นที่ของญาติผม คนที่ผมรัก ผมก็จะส่งของพวกอาหารกึ่งสำเร็จรูปเหล่านี้แหละไปปลอบใจเธอ ช่วยเหลือเธอให้เขยื้อนปัญหาได้สะดวกใจยิ่งขึ้น หรือถ้าเรามีมากๆเราก็ยังจะส่งไปช่วยที่อื่นได้อีก

ถามว่า ถ้าเกิดภัยพิบัติมาอีกรอบ เราจะแก้ปัญหาหลักๆกันอย่างไร

ด้านอาหาร ด้านพลังงาน สิ่งอุปโภคบริโภค ได้คำตอบแล้วหรือยัง

คอนดรั๊กเตอร์ ฉุกคิดว่า ถึ ง ส ว น ป่ า จ ะ เ ต รี ย ม ก า ร อ ะ ไ ร ๆ ไ ว้ ดี

แต่คณะญาติไม่สามารถเดินทางมาถึงได้หรอก

น้ำท่วม สะพานพัง ถนนขาด ไปมาหากันไม่ได้จะทำยังไง!!!!

โธ่! จะยากอะไรละครับ

คอนฯก็ควักกระเป๋าซื้อ เ ฮ ลิ ค อ ป เ ต อ ร์ ไ ว้ สั ก ลำ

ถึงเวลาก็ขนพวกเรา บิ น ขึ้ น พั บ พั บ พั บ

อ ย่ า ลื ม เ รี ย ก ไ อ่ แ ห้ ว ติ ด ม า ด้ ว ย ก็ แ ล้ ว กั น

เดี๋ยวไม่มีคนคั้นน้ำเสาวรสให้ชิม

แคว๊กๆ



Main: 0.1977801322937 sec
Sidebar: 0.11734986305237 sec