รักจริงหวังแต่ง

อ่าน: 1730

ใครไม่มีความรักบ้าแล้ว เออ ความรักกับความชอบเหมือนกันไหมนะ บางคนอาจจะเกิดความชอบก่อน บางคนอาจจะเกิดความรักก่อน ยิ่งรักก็ยิ่งชอบอะไรทำนองนั้น จะยังไงก็เถอะ ขอยกให้เป็นเรื่องโมเมศาสตร์ก็แล้วกัน ถ้ามนุษย์เรามีความรักที่ดี รักที่มีคุณภาพ รักที่สะอาด คุณคิดว่าโลกนี้จะน่าอยู่ไหมละ ผมชอบคำว่า “รักจริงหวังแต่ง” เ พ ร า ะ มั น มี ค ว า ม ห ม า ย ว่ า เ อ า จ ริ ง น ะ โ ว้ ย ไม่ได้มาปอกลอกหรือมาหลอกลวงแอบแฝงอะไร แต่ก็แปลกนะเธอ เรามักจะไม่ค่อยเจอประเภทหวังแต่งเท่าไหร่ ส่วนมากก็จะเป็นแบบไม่เอาจริง หรือที่เรียกว่า “หมาหยอกไก่” ทำไมหมาถึงหยอกไก่ ไปหาความหมายเอาเองก็แล้วกัน

ถ้าเราบริหารความรักได้ดี ชีวิตเราก็จะประสบแต่สิ่งที่ดีงาม

เอาความรักนำหน้า อย่างอื่นตามมาทีหลัง

รักเป็นยุทธปัจจัยเชิงรุกที่สำคัญ

หว่านโปรยรักลงที่ไหน ที่นั่นจะเต็มไปด้วยความอบอุ่นและมิตรไมตรี

ถ้าคุณภาพความรักเรามีศักยภาพ

อานุภาพความรักของเราก็จะสร้างอภินิหารได้นานัปประการ

ไ ม่ เ ชื่ อ ก็ ล อ ง นั่ ง ท บ ท ว น ดู เ ถิ ด

  • ถ้าเรารักต้นไม้ที่เราปลูก ไม้ในกระถางจะเจริญงอกงาม ให้ดอกให้ผลเป็นที่ชื่นตาชื่นใจ
  • ถ้ารักการเรียน ผลการเรียนก็ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ
  • ถ้าเรารักเรื่องหนึ่งเรื่องใด เราก็จะทำได้ดีมีความสุขใช่ไหมละครับ

ปัญหาอยู่ที่ว่า เธอมีความรักในระดับใด

ถ้ามีระดับรักจริงหวังแต่งกับทุกเรื่อง

เรื่องที่เธอจับต้อง ก็ จ ะ ป ร ะ ส บ ผ ล สำ เ ร็ จ

ดั่งคำว่าที่ว่า จับให้มั่นคั้นให้อยู่

ในเชิงกระบวนการของความรักที่ดีแล้ว

คงต้อง เ พิ่ ม ขั้ น ต อ น จ า ก ห วั ง แ ต่ ง ให้เป็นการได้แต่ง

ลองดูนะครับ จากนี้ไปเราใช้ความรักไปแต่งแต้มกับสิ่งใด

  • เรามีเพื่อน หรือญาติมิตรสหายที่น่ารักกี่คน
  • เรามีเพื่อน หรือญาติที่ฝากผีฝากไข้ได้กี่คน
  • เรามีเพื่อน หรือญาติที่รู้ใจสักกี่คน

ผมไม่เชื่อว่าคนที่ไม่มีความจริงใจกับใคร ไม่ซื่อสัตย์ซื่อตรงกับเพื่อนจะมีเพื่อนที่ดีๆกับเขาได้ คบกับใครก็มีเล่ห์กะเท่จะเอารัดเอาเปรียบคนอื่น คนไม่ดีนั้นทำมาหากินลำบากมาก ถึงจะมีความร่ำรวยก็ร่ำรวยบนกองทุกข์ หาทรัพย์มาได้มากเท่าใดก็จะต้องใช้เล่ห์เททุบายมากมายเท่านั้น บางคนถึงกับคดโกงแผ่นดิน บิดตระกูดกับกฎระเบียบต่างๆ พยายามที่จะบิดพลิ้วทุกเรื่อง ถึงจะมีชื่อเสียงมีตำแหน่งมีหน้ามีตาก็มีแบบวัวสันหลังหวะ ไม่ได้รับการยอมรับโดยสุจริตใจจากประชาคมโดยรวม พวกที่ขาดความรักกำกับคุณธรรม จึงทำไปด้วยความหลงมากกว่าความรัก เลือกเดินทางเถื่อน อยู่กับความเถื่อน มีรักแบบเถื่อนๆ แต่งงานมีลูกเต้าเยอะแยะ ยังแกล้งหย่าแบบเถื่อนๆ วิบากกรรมรักนั้นมีจริง

ถึ ง จ ะ ผ่ า น ก า ร รั ก จ ริ ง ห วั ง แ ต่ ง

แ ต่ สุ ด ท้ า ย ก็ ต้ อ ง ม า เ ล่ น ล ะ ค ร ห ย่ า ไ ม่ จ ริ ง ห วั ง ต บ ต า

หาความสง่างามมิได้เลย

เป็นต้นแบบของการทำลายความรักที่งดงามของมวลมนุษยชาติ

ยั ง ไ ง ๆ ก็ ดู ดี ๆ น ะ น้ อ ง

อย่าไปรักจริงหวังแต่งกับพวกขาดคุณสมบัติรัก

เดี๋ยวอกหัก จะหาว่าหล่อไม่เตือน

ถ้ารักพี่จริง  วิ่งตามมาที่ลานปัญญานะน้อง

พี่รับรองความปลอดภัย จะเลี้ยงดูอย่างดีมีความสุขตลอดไป

ถ้ารักกันจริงวิ่งตามมาลานปัญญานะน้อง

รับรองจะเลี้ยงดูอย่างดี ไม่ทิ้งไม่ขว้าง ไม่ใจร้าย ใจดำ เหมือนที่อื่นหร๊อก

คิ คิ_


รางวัลความดีคืออะไร?

อ่าน: 1393

ไปบางกอกเที่ยวนี้ มีภารกิจไปหลายวันไปหลายที จึงหอบสิ่งของไปมากมีเหมือนบ้าหอบฟาง ข้ามไปลาวเจออะไรแปลกๆก็ซื้อมา ไปโม้ที่กฟผ ก็ได้หนังสือและของที่ระลึกแถมมาอีก จะกลับพี่แต๋วยังฝากขนมนมเนยและเสื้อลายนายฮ้อยมาให้อีก กระเป๋าสองใบโตจึงมีน้ำหนักไม่เบา ถึงจะมีล้อลากแต่ตอนที่ขึ้นลงรถแทกซี่ก็ต้องหิ้วอยู่ดี บางทีความรีบร้อนก็ยกสัมภาระแบบไม่ระวัง ลื ม ตั ว นึ ก ว่ า ยั ง เ ป็ น ห นุ่ ม รุ่ น ก ร ะ เ ต๊ า ะ เ ห มื อ น เ มื่ อ ก่ อ น ช่วงที่นั่งรถทัวร์รู้สึกชาที่ปลายนิ้วก้อย แล้วปวดแปล๊บตามท้องแขนขึ้นมาจนถึงหัวไหล่ มาถึงบ้านมีอาการหมดแฮงผสมเข้าไปอีก

โฉมยงถามว่า ไปทำอะไรที่บางกอกจึงสะโหลสะเหลขนาดนี้

ก็ไม่ได้ทำอะไรนักหนา แต่มันถึงเวลาจะเดี๊ยงละมั๊ง

เธอกุลีกุจอหายามานวดมาทาตามมีตามเกิด

มันก็ไม่หาย ปวดได้ปวดไป ผมไม่กินยาแก้ปวดอยู่แล้ว

·

บายวันนี้ชวนกันเข้าตลาด ไปให้หมอนวดลองขยำเส้นเอ็นตามตำรานวดคลายเครียด หมอเขาก็นวดดีนะ ถ้าไม่มีเรื่องปวดร้าวระบมมาก่อน คงจะนอนเพลินให้นวดสบายๆ แต่อาการนี้นวดก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้ ทนไม่ไหวจึงกินยาแก้ปวดสองเม็ด ค่อยยังชั่วแหะ ตอนเย็น ดอกเตอร์ฝนโทรมาถามอาการ แล้วแนะนำวิธีดัดแขนคอตามหลักกายวิภาคศาสตร์ที่เธอเป็นอาจารย์ด้านนี้ ก็รู้สึกดีขึ้น คงจะพอนอนได้ไม่ทรมานเหมือนคืนที่ผ่านมา แต่ วรรคสุดท้ายก่อนจะจากจร อาจารย์ฝนแนะนำให้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล คงขอดูอาการคืนนี้ก่อน จะไปหาหมอหรือจะหนีหน้าหมอ

หลังจากนวดเสร็จแล้ว ทั้งๆที่ไม่ค่อยปกติ แต่ก็รับปากกับสำนักงานจังหวัดว่าจะไปพบปลัดอาวุโส เพื่อกรอกรายการอะไรสักอย่างประกอบการรับรางวัล ผมก็จำไม่ได้ว่าเป็นรางวัลอะไร ทำไมถึงจะต้องเดินทางมากรอกรายละเอียดด้วย ส่งไปให้เราอ่านแล้วกรอกเองไม่ได้รึ ต่อรองแล้วไม่สำเร็จ เขายืนยันว่าต้องมากรอกหลักฐานกับปลัดอาเภออาวุโส จะไม่รับก็เกรงใจ ให้มาก็มา

ม า นั่ ง ร อ เ กื อ บ ชั่ ว โ ม ง

ถามเด็กที่นั่งข้างๆบอกว่า ท่านพักกลางวันยังไม่ขึ้นมา

เอ้า ไ ห น ๆ ม า ร อ ห น่ อ ย ก็ แ ล้ ว กั น

มีปลัดท่านหนึ่งรู้จักกันเดินมาทัก เ ฮี ย ม า ทำ ไ ม

ก็บอกว่า สำ นั ก ง า น จั ง ห วั ด ใ ห้ ม า ก ร อ ก ห ลั ก ฐ า น บ้ า อ ะ ไ ร ก็ ไ ม่ รู้

นั่งๆรอๆๆ เห็นท่าไม่ดี ก ลั บ บ้ า น ดี ก ว่ า

รางวัลซังกะบ๊วยอะไรก็ไม่รู้ !

ที่ รั บ ๆ ม า ก็ ก อ ง เ ต็ ม ตู้

ใ ห้ เ ข า ไ ป แ จ ก ค น ที่ อ ย า ก ไ ด้ ดี ก ว่ า

  • ทำความดีไม่ต้องมีรางวัลอะไรหรอก ใ ช่ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ทำดี ก็ได้ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องมีคนมาบอกหรอกนะ ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ทำอะไรก็รู้แก่ใจตนเองดีอยู่แล้ว ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ทำดีเพื่อหวังรางวัลมันก็ท่าจะบ้า ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ
  • ยิ่งบอกว่าให้ไปกรอกผลงานทำดีก็ยิ่งบ้าหนักเข้าไปอีก ใ ช่ ไ ห ม ล ะ เ ธ อ

สรุปว่า ไม่เอาโว้ยยย ขออยู่ป่าเงียบๆดีกว่า ?

“ถ้าหวังตั้งอยู่ในความสงบ  อย่าอยากดัง” ! อิ อิ


จะเอายังไงกับภัยพิบัติ

อ่าน: 1851

จะเอายังไงกับภัยพิบัติ

· พิษภัย เภทภัย ภัยพิบัติ ภัยวิบัติ สารพัดภัย แวะเวียนมาเยี่ยมเราบ่อยขึ้น สาเหตุเพราะมนุษย์เราไปนี่แหละไปทำลายความปกติของธรรมชาติ เมื่อสภาพสมดุลของโลกเสียหาย กลไกของระบบธรรมชาติได้รับผลกระทบ ความเป็นปกติก็ต้องแปรเปลี่ยนเป็นธรรมดา และส่วนมากก็เป็นไปทางลบมากว่า สองสามปีมานี้อากาศผิดปกติทั่วประเทศอย่างเห็น เป็นไปได้ไงครับ ที่อีสานอากาศจะเย็นสบายกว่าเชียงใหม่ ภาคเหนือทั้งหมดทุกรมด้วยควันไฟป่าปีละสองเดือน รู้ทั้งรู้ที่เห็นตำตาก็แก้ไขอะไรไม่ได้

แ ล้ ว สิ่ ง ที่ ซุ ก ซ่ อ น อ ยู่ น อ ก ส า ย ต า จะเป็นยังไง

มันจะไม่บูดเน่าแล้วบูดเน่าอีกรึครับ

เรื่องพวกนี้พูดไปคนก็เอาหูไปนาเอาตาไปไร่

ขนาดปีที่แล้วเจอน้ำท่วมแทบตาเหลือกก็ยังอยู่อย่างประมาทกันต่อไป
อย่าเชื่อ นักการเมืองกระล่อนจะช่วยดูแลอะไรเราได้

แผนงานป้องกันภัยต่างๆก็ทำแบบเด็กอมมือ

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั่นแหละดีที่สุด

· ช่วงสามสี่เดือนที่ผ่านมา ผมออกจากลานปัญญามาจีบสาวๆสนุกสนาน ต่อไปนี้ก็จะกลับเข้าบ้านแล้วครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงๆก็จะโพสต์ข้อความโยงมาถึงเฟสบุกส์อยู่ดี แต่เนื้อหาอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง คงจะเข้าสู่กระบวนการของหมู่บ้านโลกเป็นหลัก ถ้าใครติดตามอ่าน”ลานซักล้าง” จะเห็นว่าคอนดรั๊กเตอร์ ทำการบ้านรอมาเป็นระยะๆ วันนี้เดินมาถึงหมู่บ้านโลกตอนที่ หก แล้วนะเธอ

· คอนดรั๊กเตอร์ เขาจะทำเรื่องหลักการ ส่วนข้าน้อยจะทำเรื่องกระบวนการ ถ้าสนใจก็เข้าไปอ่านลานปัญญา คอนดรั๊กเตอร์ พูดถึงภาพรวมของการเกิดภัยพิบัติ ถ้าเรายังสนิมสร้อยอยู่อย่างนี้ คงจะช่วยตัวเองได้น้อย ปกติภัยที่ว่านี้มันก็เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแล้วละครับ เพียงแต่เราไม่ใส่ใจกันอย่างจริงจัง เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ภาคเหนือทั้งหมดถูกรมด้วยไฟไหม้ป่าอย่างที่เกริ่นนำ ต่อมาอากาศร้อนแล้งมหาโหด ลำปาง สี่สิบกว่าองศา ถามว่า มีใครแก้ไขเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมได้รือไม่ เจ้าภาพอยู่ที่ไหน คนรับผิดชอบมีหน้าตาอย่างไร

สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า “มั น ก็ แ ค่ นั้ น แ ห ล ะ ต๋ อ ย ”

สังคมไทยอยู่กันอย่างลูบหน้าปะจมูก สนุกกับการกลบข่าวไปวันๆ อ้าว! เมื่อรู้แล้วจะทำยังไงละ หมู่บ้านโลกก็เดินหน้าต่อไปทุกวัน เมื่อเร็วๆนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตส่งเครื่องอบพลังงานแสงอาทิตย์มาให้ ผมก็นึกว่าเครื่องเล็กๆ ที่ไหนได้ มันเพียงพอที่จะนำมาศึกษาเรื่องความมั่นคงด้านอาหารอย่างดีเลยละครับ เมื่อคืนโฉมยังมาบีบนวดหัวไหล่ให้ สงสัยจะเกิดจากการสะพายกระเป๋าหนักผิดท่า ตอนนี้หัวไหล่ทั้งซีกยังบ่มีแฮง เพลียๆยังไงไม่รู้นะครับ ข น า ด อ ยู่ ใ ก ล้ ชิ ด กั บ ค น รู้ ใ จ ก็ ยั ง ไ ม่ ก ร ะ เ ตื้ อ ง เออ ไม่รู้จะทำยังไงดี วันนี้จะลองนวดครีมที่ผลิตจากลำไย ถ้าหายเธอเอ๋ย จะกระดี๊กระด๊าไปได้อีกนาน

โฉมยงได้ของถูกใจ เล่าให้ฟังว่าจะเอาสมุนไพรมาอบมาทดลอง เมื่อก่อนลูกมะกรูดหล่นทิ้งเต็มพื้น เก็บมาบดปั่นทำครีมอาบน้ำบ้าง บำรุงผิวบ้าง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว เขาจะลองเอามาอบแห้งแล้วบดๆๆๆ เอาไปทดลองเรื่องอื่นๆได้กว้างขวางขึ้น

ส่วนผมก็คิดในมุมผม

-ช่วงที่ผักออกเยอะๆผมจะเอามานึ่งแล้วส่งเข้าไปอบแห้ง เก็บไว้ในรูปของการถนอมอาหาร

-ช่วงที่ขุดมันเลือด เผือก เยอะๆก็จะเอามาแปรรูป อบแห้ง บดๆๆเก็บไว้ในรูปแป้ง

-ช่วงที่ผลไม้ออกเยอะๆ เสาวรส มะม่วง ขนุน กล้วย ก็จะลองอบแห้งไว้

-ช่วงที่เมล็ดธัญพืชออกมากๆ ถั่วพู ทานตะวัน ถั่วเขียว ก็จะเอามาอบๆ เก็บไว้

-ช่วงที่มีเนื้อสัตว์ ปลา ทำเนื้อแดดเดียว ก็จะลองทำแบบหลายๆแดด

-ช่วงที่มีสมุนไพรออกมามากๆ ก็จะเอามาอบๆๆและอบให้แห้ง ทำชา ทำประคบ ใส่แค๊ปซูล ก็ว่ากันไป

เรื่องเหล่านี้เรายังต้องเรียนรู้อีกมาก

ท่านผู้สันทัดกรณี จ ะ อุ ป ก า ร ะ ค ว า ม รู้ ก็ เ ชิ ญ เ ล ย น ะ ค รั บ

· ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็คิดในแง่ของการเตรียมภัยพิบัติ ถ้ามันไม่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง แต่มันไปเกิดขึ้นกับพื้นที่ของญาติผม คนที่ผมรัก ผมก็จะส่งของพวกอาหารกึ่งสำเร็จรูปเหล่านี้แหละไปปลอบใจเธอ ช่วยเหลือเธอให้เขยื้อนปัญหาได้สะดวกใจยิ่งขึ้น หรือถ้าเรามีมากๆเราก็ยังจะส่งไปช่วยที่อื่นได้อีก

ถามว่า ถ้าเกิดภัยพิบัติมาอีกรอบ เราจะแก้ปัญหาหลักๆกันอย่างไร

ด้านอาหาร ด้านพลังงาน สิ่งอุปโภคบริโภค ได้คำตอบแล้วหรือยัง

คอนดรั๊กเตอร์ ฉุกคิดว่า ถึ ง ส ว น ป่ า จ ะ เ ต รี ย ม ก า ร อ ะ ไ ร ๆ ไ ว้ ดี

แต่คณะญาติไม่สามารถเดินทางมาถึงได้หรอก

น้ำท่วม สะพานพัง ถนนขาด ไปมาหากันไม่ได้จะทำยังไง!!!!

โธ่! จะยากอะไรละครับ

คอนฯก็ควักกระเป๋าซื้อ เ ฮ ลิ ค อ ป เ ต อ ร์ ไ ว้ สั ก ลำ

ถึงเวลาก็ขนพวกเรา บิ น ขึ้ น พั บ พั บ พั บ

อ ย่ า ลื ม เ รี ย ก ไ อ่ แ ห้ ว ติ ด ม า ด้ ว ย ก็ แ ล้ ว กั น

เดี๋ยวไม่มีคนคั้นน้ำเสาวรสให้ชิม

แคว๊กๆ


ร้อยรู้มิสู้หนึ่งทำ

อ่าน: 1641
  • การเรียนรู้ใดๆในโลกนี้ คงไม่มีวิธีไหนดีที่สุด ถ้าปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เราก็ควรสังเกตุว่าในธรรมชาติเป็นอย่างไร ทุกวินาทีไม่มีการหยุดนิ่ง ไม่มีต้นไม้ มด แมลง ตัวไหนขี้เกียจ เท่าที่เห็นต่างขมักเขม้น เมล็ดไม้ร่วงหล่นลงมา ได้ความชื้นจากเมล็ดฝน เปลื่อกนอกที่ห่อหุ้มนุ่มนิ่ม กระบวนการภายในเริ่มขยับขยายที่ละเล็กละน้อย ออกเป็นตุ่มไตเล็กๆแล้วยืดขยายขึ้นตามลำดับ ได้น้ำได้ปุ๋ยได้แสงแดด ก็จะยืนหยัดยั่งรากแก้วแทงทะลุชั้นดินดาน เป็นเสมือนเสาเข็มยึดลำต้นให้แข็งแรง ส่วนรากฝอยนั้นเล่า แผ่ขยายไปตามผิวพื้นดินเพื่อดูดอาหารทั้งน้ำทั้งปุ๋ย ลำเลียงผ่านท่อขึ้นไปให้ใบปรุงอาหารที่เราเรียกว่าการสังเคราะห์แสง ใบยังช่วยกระจายความชื่นผ่านรูใบ ต่อเมื่อใบแก่ก็ร่วงหล่นลงมาปกคลุมผิวดิน รอวันเป็นปุ๋ยให้ดูดซับขึ้นไปเลี้ยงตัวเอง กิ่งก้านที่โตขึ้นเป็นเสมือนโครงเหล็กที่ยื่นออกไปรอบๆลำต้น ค่อยๆแผ่ขยายพื้นที่ร่มเงาให้เกิดความชุ่มชื้น ผิวดินไม่แห้งกระด้าง ทำให้รากฝอยอาหารได้สะดวก เรือนยอดนอกจากจะขยายด้านข้างแล้วยังขยับขึ้นไปเบื้องบนตามลำดับ เมื่อได้อายุตามสมควรก็จะออกดอกออกผลแพร่ขยายพันธุ์ต่อไป

มนุษย์เรามีความรู้เกี่ยวกับระบบของธรรมชาติแค่หางอึ่ง

ถ้าศึกษาเอาแบบอย่างสังคมป่าไม้มาใช้

โลกใบนี้จะน่าอยู่กว่านี้สักล้านเท่ากระมัง

  • ความรู้ของมนุษย์ปนเปื้อนไปด้วยกิเลส

เอาผลประโยชน์แทรกซ้อนมาสังเคราะห์สังคม

บางประเทศโหยหา ดิ้นรน เรียกร้องไอ่อย่างเลวกลับมาเป็นผู้นำ

มนุษย์ปั่นหัวปลุกกิเลสกันทุกเมื่อเชื่อวัน

ลองนึกดูเถิด นางพญาปลวก จ่าโขลงช้าง หรือแม้แต่นางพญาผึ้ง

ล้วนมีภาวะผู้นำที่เสียสละเพื่อเผ่าพงศ์ของตนแทบทิ้งสิ้น

ไม่ได้กอบโกย ไม่ได้ทำลายระบบคุณธรรมของชาติ ไม่ได้ทำลายสถาบัน

สังคมใดที่มีจ่าโขลง มีนางพญาระยำตำบอน ..จะอยู่ จะแข่งขันกับใครเขาได้

มีแต่จะนำพาชาติพันธุ์ของตนเองเข้าสู่่ห้วงหายนะ

  • ตรงกันข้ามกับสังคมธรรมชาติที่อยู่กันด้วยความเอื้ออาทร ไม้เล็กไม้ใหญ่พึ่งพากันได้ ถึงแม้จะมีระบบการแข่งขัน เช่น การสูงชะลูดขึ้นไปเพื่อหาแสงแดด แบบแผนของธรรมชาติก็จัดสรรกันอย่างยุติธรรม ทำให้เกิดพืชเครือเถาว์เกี่ยวกระหวัดลำต้นไม้ใหญ่ไต่ขึ้นไปหาแสงแดดได้ ต้นไม้ไม่มีกลอุบายเลวร้ายใดๆต่อกัน ไม่อย่างนั้นป่าไม้จะร่มรื่นเป็นที่อาศัยของสรรพสิ่งในโลก เผื่อแผ่อ็อกซิเจนให้เราได้หายใจรึครับ
  • ถ้าจะมองหามิตรไมตรี ความเอื้ออาทร ความดีความงาม คุณประโยชน์และการสร้างประโยชน์ได้ปราศจากเงื่อนไข เธอไม่ต้องไปแสวงหาทฤษฎีบ้าๆบอๆที่ให้ยุ่งยากหรอก เข้าเรียนรู้หลักการและวิธีการของธรรมชาติ ให้ถ่องแท้ มนุษยชาติก็จะมีชุดความรู้ที่เป็นระบบโยงใยถึงกันสร้างความปกติสุขและสันติสุขได้ ไม่ต้องอยู่ด้วยการเอารัดเอาเปรียบด้วยการใส่หน้ากากหากัน
  • จริตของมนุษย์แต่ละประเทศที่เราเห็นๆนั้น

ล้วนเป็นมายาของมนุษย์ที่พยายามจะหลอกกันเอง

เมื่อต่างฝ่ายต่างมีจริตด้วยกันมันก็เลยกลายเป็นวัฒนธรรมของมนุษยชาติที่นำไปสู่ความเสื่อม

ความรู้ที่มนุษย์มี..เป็นความรู้ที่ไม่สะอาดและปลอดภัยพอ

ทุกกลุ่มความรู้ล้วนมีมลภาวะเป็นเงาแอบแฝงไว้ด้วยทั้งสิ้น

  • ไม่ จำ เ ป็ น ต้ อ ง เ ชื่ อ ต า ม ที่ เ ล่ า นี้ ห ร อ ก น ะ ค รั บ

ในเมื่อเราต่างก็มีดีเอ็นเอสายพันธุ์ของเจ้าสัตว์ที่ชื่อว่ามนุษย์กันทุกคน

รึเรามีสติจำกัดที่จะเรียนให้หลุดพ้นได้

รึเรากำลังมะงุ้มมะง่าหราอยู่กับสันดานตนเอง

รึเราตาใจบอดสีไม่มีวาสนาพอที่จะนำพาตนเองมากอดต้นไม้

  • เธอไม่มีใจให้แก่ผู้ที่ประกอบการสิ่งดีงามให้เธอ
  • เธอต่างก็รู้เห็นความงดงามตามธรรมชาติ
  • เธอเห็นแล้ว..ก็งั้นๆ..กระตู้วู้นิดหน่อย..แล้วก็กระด้างเหมือนเดิม
  • เธอ เธอ และเธอ ..มี หั ว ใ จ เ ป็ น พ ล า ส ติ ก ไปเสียแล้ว


เธออยู่ไหนตอนไฟดับ

อ่าน: 1498

 บ่ายวันนี้ รามสูรย์อาละวาดอีกแล้ว เที่ยวไล่ขว้างขวานก่อกวนเมฆขลาจนได้เรื่อง ลมบนโหมพัดกระหน่ำ มองดูยอดไม้ใหญ่โอนเอนวืดๆตามพายุ ไม้กิ่งเล็กกิ่งน้อยหักปลิวเกลื่อนพื้น เมล็ดไม้แก่แตกตกเรี่ยราดฝังตัวที่ผิวดิน ออกหน่อยคงจะแตกหน่ออ่อนเจริญพันธุ์ทั่วไป ถ้าเรามีแม่ไม้อายุมาก ธรรมชาติของป่าไม้ก็ขยายพันธุ์เองได้อยู่แล้ว โดยที่มนุษย์ไม่ต้องไปปลูก เพียงแต่จะถึงจุดนี้ได้ คุณภาพของสภาพแวดล้อมต้องยืนอยู่ในจุดที่เป็นบวกทางนิเวศน์

หลังจากลมและฝนถล่มสวนป่านาน1ชั่วโมง

คณะเราไม่รู้จะทำอะไร ไฟฟ้าดับWIFI.ก็พลอยเดี้ยงไปด้วย

จึงพากันจัดโต๊ะอาหารมื้อเย็นเลี้ยงคุณคอนฯกับน้องชาย

ผมทำไก่อบโอ่ง แห้วเอาปลาทูจากสุราษฎร์มาประชัน

ก็อิ่มหมีพีมันไปตามเหตุและปัจจัย 

นั่งคุยกันรอไฟฟ้าจน3ทุ่มไฟฟ้าก็ยังมาไม่เต็มที่ ยังดีที่เปิดทีวีดูภาพได้ แต่เสียงไม่มีนะ ดูทีวีใบ้ไม่รู้เรื่อง จึงหยิบไฟฉายมาค้นหาตัวเสริมกำลังไฟฟ้าให้กับไอโฟน ส่วนโน๊ทบุกค์มีไฟพอที่จะเขียนอะไรๆได้ค่อนคืน น่าจะเขียนเรื่องราวแล้วโพสต์ให้คุณคนสวยอ่านก่อนนอนคืนนี้ได้ บางคนเห็นเป็นยากล่อมประสาท ถ้าไม่มาเจ๊าะแจ๊ะในFB.อารารมณ์ค้าง ตาค้าง ใจค้าง..เป็นงั้นไป

ปกติถ้าสวนป่าฝนตกแรงขนาดนี้  อึ่งอ่างจะร้องระงม แต่คืนนี้เงียบกริบ แปลกแท้ๆ รึว่าอึ่งอ้างก็ติดนิสัยประท้วงมาจากที่ไหนสักแห่ง ตั้งใจว่าจะไม่นอนดึก พรุ่งนี้แห้วจะขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัยอุบล มีคิวไปโม้ให้นักศึกษาป.โทที่เรียนภาคฤดูร้อนทางด้านชีวะ/วิทยาศาสตร์ เรียกถูกรึเปล่าก็ไม่รู้นะ บอกเขาเองแหละว่า..ไม่ต้องส่งหนังสือเชิญเป็นทางการ ถ้าผมรักอาจารย์ที่เชิญก็ไปให้อยู่แล้ว อาจารย์บอกว่ากำลังตรวจเช็คตารางบินให้ ดูแล้วผมจะต้องบินอ้อมไปลงที่สุวรรณภูมิแล้วต่อไปลงอุบล

ผมบอกไม่ต้องเลย ข้าน้อยจะไปเองนะขอรับ

ไฟก็ไม่มี จะต้องออกเดินทางไปตอนเช้า ต้องเตรียมสื่่อไปประกอบการโม้ น่าจะนอนพิจารณาว่าจะเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนทำนองไหน ถึงจะคุ้มค่าสมราคาของทุกฝ่าย เวลาของนักศึกษามีค่าควรแก่การให้ความสำคัญอย่างมาก 

ผมต้องถามตัวเองว่า..

ถ้าผมเป็นครูสอนวิชาชีวะวิทยา

ผมควรจะสอนอย่างไรเด็กๆถึงจะสนใจและตระหนักต่อวิชานี้

 

ผมก็จะถามลูกศิษย์ว่า..

นี่เธอรู้ไหม  ทำไมเราถึงต้องมาเรียนวิชานี้

วิชานี้มีความหมายความสำคัญอย่างไร

จึงได้รับการบรรจุเข้ามาในวิชาเรียนของเรา

พวกเราตระหนักและเข้าใจเกี่ยวกับวิชานี้อย่างไร

ใครจะช่วยอธิบายแนะนำให้คุณครูได้ ยกมือขึ้น!

หลังจากผ่านสารบัญนี้ไปแล้ว ผมอยากจะหยิบเนื้อหาวิชาเรียนที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของเด็กๆ ให้เด็กเห็นองค์ประกอบ และได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมของวิชานี้ จะได้สนใจและใส่ใจช่วยพัฒนาบรรยากาศและวิธีเรียนให้มีชีวิตชีวา

วิชาชีวะจะไปสอนแห้งๆเหมือนกระดาษทรายไม่ได้หรอก

ถ้าทำให้วิชานี้จืดชืดเหมือนน้ำล้างหัว-ล

มันจะเป็นทุกข์มากกว่าเป็นสุข

การเรียนรู้ทำไมต้องทุกข์ด้วย..

ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกหรือผิดนะครับ

แหม..ถ้าอยู่ใกล้ๆจะอยากชวนคนสวยไปด้วย

ไปคอยหิ้วปีกเข้ามุม..

 

ตะกี้นี้เปิดดูFB. เจอคุณพรพรรณ ศรีวิชัย

คนสวยแห่งสันป่าตองมาขอเป็นเพื่อน

นึกๆแล้วก็แปลกใจ

เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่วัยกระเตาะเมื่อสัก40กว่าปีได้ละมัง

ทำไมจะต้องมาสมัครเป็นเพื่อนกันอีกเล่า

อยากจะบอกว่าเคยแอบรักอย่างไรก็ยังมั่นคงสม่ำเสมอมิลืมเลือน

นี่แหละน๊า..เทคโนโลยีมันไม่ยอมรับรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของใครๆ

ถ้าอยากจะเป็นเพื่อนกันก็ต้องมาตั้งต้นตามกติกาที่วางไว้

เอ๊ะ..รึมันจะบังคับให้เราทวนความหล้ง

ก็ดีนะ..จะได้เขียนเรื่องรักหลังวัยเกษียณนั้นเป็นฉันใด

“เพื่อนเก่าคนนี้ฮักตั๊วขนาดเน๊อพรเน้อ”

 แคว๊กๆ

 

 

แคว๊กๆ..



Main: 0.091000080108643 sec
Sidebar: 0.23626589775085 sec