ประโยชน์ของการชอปปิ้ง

อ่าน: 5396

(พรมผืนที่อยู่ด้านหลังหลวงพี่ ใช้เวลาทอ 6 ปี ขายราคา 2 ล้านบาท)

ผมตั้งข้อสังเกตเรื่องการทำมาหากินของชาวทะเลทราย เพราะเห็นว่าเป็นวิถีชีวิตที่น่าสนใจ และเราอาจจะนำไปปรับใช้เมื่อบ้านเราร้อนแล้งมากขึ้น จากการที่ได้เห็นเพียงวับ ๆ แวม ๆ เป็นข้อมูลที่หยาบ ๆ แต่ก็จะเล่าตามนั้น ผมได้ทราบมาบ้างว่าอิหร่านเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ มีประชากร 70.9 ล้านคน มากกว่าพลเมืองไทยเสียอีก สมัยก่อนคนพื้นถิ่นคงเป็นพวกยิปซีเร่ร่อน ไล่ต้อนสัตว์ไปเลี้ยงตามหุบเขาที่มีหญ้า ..ช่วงที่ไปดูงาน ถึงจะเป็นเมืองหลวงและเมืองสำคัญ ๆ ทุกแห่งตั้งอยู่ในที่ราบมีภูเขาล้อมรอบ มองไปไหนไม่ต่างกับทะเล เพียงแต่เปลี่ยนเป็นคืบก็ทราย ศอกก็ทราย สุดลูกหูลูกตา ต้นไม้หายากแทบจะนับต้นได้ ทำให้นึกถึงตอนเด็กได้ดูหนังคาวบอย ที่คนขาวสู้รบกับอินเดียแดง แต่ที่อิหร่านสาหัสกว่านั้นมากนัก นั่งเครื่องบิน 2 ชั่วโมง ผ่านภูเขาหินและทรายล้วน ๆ พบเมืองขนาดใหญ่บ้างก็ตั้งอยู่บนทรายและทราย เห็นแล้วแห้งผากในใจ ทำให้นึกรักประเทศไทยขึ้นอักโข ประเทศไทยถ้าช่วยกันปลูกต้นไม้ประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ เราจะเป็นสวรรค์ได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องลงทุนเป็นล้าน ๆๆๆๆๆ ของเมืองดูไบ

(แอบไปสำรวจตลาดข้าวไทยในห้างสรรพสินค้าเมืองดูไบ ข้าวไทยมีวางขายราคา 5.90 เหรียญ/กก.)

สินค้าส่งออก ส่วนมากเป็น น้ำมัน เคมีภัณฑ์ ผลไม้ ถั่ว พรม

สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่วัตถุดิบสินค้าขั้นกลาง สินค้าทุนอุตสาหกรรม อาหาร สินค้าอุปโภคและบริโภค ยุทธปัจจัย

ทรัยากรธรรมชาติได้แก่ปิโตรเลียม ก๊าชธรรมชาติ ถ่านหิน โครเมี่ยม ทองแดง สินแร่ เหล็ก ตะกั่ว

สินค้าไทยที่ส่งไปจำหน่ายได้แก่รถยนต์และข้าว อ๋อ! มีกระดาษดับเบิลเอด้วย

(ผักชีลาว  มะเขือม่วง มีวางขายในห้างสรรพสินค้าที่ดูไบ)

เสียดายที่ไม่มีโอกาสไปดูพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ ที่มีผู้บอกว่าอุดมสมบูรณ์ ทำการเกษตรได้ดี ไม่อย่างนั้นก็จะมาอึ้งกิมกี่ว่าเขาเอาผลไม้ เอาถั่วที่ไหนเป็นสินค้าส่งออก เพราะเห็นกับตาว่ากว่าจะปลูกต้นไม้แต่ละต้นต้องลงทุนอย่างมาก เปลี่ยนดิน ใส่ปุ๋ย ต่อสายน้ำหยดให้ทุกต้น และชนิดของไม้ที่ขึ้นในสภาพนี้น่าจะมีไม่เกิน 10 ชนิด ช่วงที่ไม้ยืนต้นผลัดใบเห็นแต่กิ่งก้านดูโกร๋น ๆ ยกเว้นไม้สนที่ปลูกในพระราชวังหรือสถานที่สำคัญ ๆ ที่มีการดูแลอย่างดี มีใบเขียวแต่งกิ่งก้านสวยงามเป็นไม้ประดับเมือง เห็นแล้วชอบมาก รูปที่ถ่ายออกมาเป็นเหมือนภาพศิลปะ

การงานอาชีพระดับชาวบ้านทั่วไปคงมีไม่กี่อย่าง การทอพรม ประดิษฐ์เครื่องเงิน ทองแดง ทองเหลือง ของที่ระลึกต่างๆ ทำได้ดีมาก เอากระดูกอูฐมากลึงทำเป็นกล่องใส่ของเล็ก ๆ เขียนลายละเอียดสวยงาม การที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย วิถีชีวิตดำเนินไปอย่างจำกัดจำเขี่ย ความมานะอดทนได้แปรเปลี่ยนมาเป็นงานฝีมือวิจิตรบรรจง ชาวอิหร่านเขียนลาย วาดรูป ทำเครื่องเงินโลหะได้สวยงาม เพราะงานฝีมือเหล่านี้ต้องอาศัยการฝึกทักษะมายาวนาน การอาศัยอยู่ในที่พักช่วงยาว ๆ ทำให้เกิดมุ่งมั่นทำอะไรได้อย่างปราณีต สินค้าของที่ระลึกแต่ละร้าน จึงละลานตา ถ้าประเทศนี้ไม่ถูกกีดกัน นักท้องเที่ยวทะลักมา สินค้าพวกนี้จะมีโอกาสจำหน่ายได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

เราได้ไปขมพิพิธภัณฑ์พรมที่อลังการณ์มาก มีพรมเก่าใหม่ผืนเล็กผืนใหญ่จัดแสดงในอาคารขนาดใหญ่ เป็นที่รวมพรมลายต่างๆที่ใหญ่ที่สุดในโลก งานทอพรมเหมาะกับนิสัยของผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จำเจอย่างนี้ พัฒนาการของพรมจึงโดดเด่นมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักทั่วโลก มีพรมบางผืนไกด์บอกว่า  ต้องใช้เวลาทอนานถึง 6 ปี จำหน่ายราคาผืนละ 2 ล้านบาท แสดงว่าถ้าจะทอพรมอย่างวิจิตรแล้ว ชีวิตนี้คงจะทำได้ไม่ถึง 10 ผืน  นอกจากนี้เรายังได้ไปเข้าร้านขายพรมที่มีชื่อเสียง เข้าไปมีแต่พรมจำหน่ายเต็มร้าน ราคาตั้งแต่ผืนละไม่กี่พันไปจนถึงผืนละเป็นแสนเป็นล้าน  พรมดังกล่าวพ่อค้ายังได้นำมาประดิษฐ์เป็นของใช้ของที่ระลึกหลายรูปแบบ เห็นได้ชัดว่าเราสามารถจัดการความรู้ด้วยภูมิปัญญาของเขาเองได้อย่างเหมาะสม เอาสิ่งที่มีอยู่รอบตัวมาสร้างงานเสริมทักษะเข้าไป ก็สามารถมีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ผลิตออกไปจากท่ามกลางทะเลทรายได้ ตรงกับคำที่ว่า ถ้ามนุษย์เราอยู่ตรงไหน ก็ควรมีความรู้เพียงพอที่จะพัฒนาการงานอาชีพในพื้นที่ตรงนั้น ให้พออยู่ พอกิน พอเพียง ก็สามารถที่จะดำรงคงอยู่ได้โดยไม่ต้องทิ้งถิ่นเหมือนในบางประเทศ

ไกด์พาเราไปเข้าร้านขายถั่วและขนมต่าง ๆ เรื่องนี้ถึงผมจะเล่ายังไงพวกเราก็คงจะแปลกใจอยู่ดี เกิดมาผมก็เพิ่งเคยเจอที่ร้านถั่วขายดียิ่งกว่าเทน้ำเทท่า เป็นร้านขนาด 3 คูหา ในร้านอัดแน่นไปด้วยขนม ผลไม้ และถั่วต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 40 ชนิด ทุกตู้ทุกผนังวางสินค้าเต็มไปหมด ลูกค้าเข้าไปแน่นแทบจะไหลไปเองได้ การซื้อขายโกลาหลมาก โดยเฉพาะคนไทยที่สื่อภาษากันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง อยากได้อะไรก็ชี้เอา ราคาเท่าไหร่ก็ไม่รู้ คนขายจะใช้กะบะกลม ๆ ตักถั่วใส่ถุงไปชั่ง ตัวเลขน้ำหนักก็จะขึ้น เท่าไหร่เท่านั้นไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้ ตักมาน้อยก็จ่ายไปตามนั้น พยักหน้าให้กันเขาก็จะซีนปากถุงให้เราจ่ายเงินเป็นจบ ประมาณราคาคร่าว ๆ คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ ก.ก.ละ 100-150 บาท มีถั่วหลายชนิดที่ส่วนใหญ่เราไม่รู้จัก นอกจากมะม่วงหิมพานต์แล้ว อย่างอื่นไม่รู้จัก แต่เขาก็อนุญาติให้เราหยิบกินได้ทุกอย่าง ไม่อั้นเสียด้วย ชอบชนิดไหนทำท่าชี้โบ้ชี้เบ้ก็เป็นที่เข้าใจได้ พวกเราแข่งกันซื้อมากันคนละหลายหอบ มาถึงที่พัก ร้านข้างโรงแรมก็ขายขนมขายถั่วเช่นเดียวกัน จึงได้แต่หัวเราะความบ้าซื้อของพวกกันเอง ไม่ดูตาม้าตาเรือซื้อ ๆๆ ทุกอย่างที่ขวางหน้า

นอกจากจะมีร้านขายของที่ระลึกทุกถนนแล้ว ยังมีห้างสรรพสินค้าหาวิธีดูดเงินเราจนได้ ก่อนกลับเราแวะห้างคาร์ฟูที่เมืองดูไบ ไกด์บอกให้เวลา 4 ชั่วโมง อยากจะซื้ออะไรลุยกันเอง ถึงเวลามาเจอกันที่นัดหมาย พวกนักชอปฯในสายเลือดมีหรือจะรอช้า แจ้นไปเข้าร้านโน้นร้านนี้ ผมเดิน ๆ ตามเขาไปจนขาลาก ได้รองเท้ามาคู่หนึ่งราคา 2,000 กว่าบาท เสื้อยืดเนื้อบาง ๆ ไว้ใส่เล่นตัวหนึ่งราคา 300 กว่าบาท จากราคาที่ลดแล้วนะครับ รื่องละราคานี่ก็ตลกเต็มที เพราะเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราจริงก่อนลดเท่าไหร่ ทางห้างจะเขียนจะลดอย่างไรก็ได้ พวกซื่อบื้อจับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรอก นอกจากจ่ายค่าโง่โดยดุษฎี สนุกตอนเอาสินค้ามาอวดกัน บางทีสินค้าอย่างเดียวกัน แต่ซื้อกันมาคนละราคา ทั้ง ๆ ที่ไปซื้อร้านเดียวกัน แหม..มันแหกตาแหกใจกันเลยนะนี่ สินค้าพวกเสื้อผ้า เครื่องหนัง เครื่องใช้ต่าง ๆ ในห้างใหญ่ ๆ เปิดดูป้ายข้างในเถิด จะเป็น Made in จีน เวียดนาม เป็นส่วนใหญ่ คิดแล้วเจ็บใจบ้างไหมก็ไม่รู้ อยู่ถึงเมืองไทยเครื่องบินไปจ่ายค่าโง่ถึงตะวันออกกลาง แต่บางคนก็มีเหตุผลส่วนตัวนะ บอกว่า..อย่าคิดมาก เราซื้อตามที่เราพอใจ อิอิ

จากคนเร่ร่อนในทะเลทราย เมื่อรวมกันเป็นประเทศ ประกอบกับสวรรค์มีตา หรือพระเจ้ามีเมตตาก็ไม่ทราบได้ บรรดาลให้ใต้ผืนพิภพที่แห้งแล้งมีทรัพยากรน้ำมันและก๊าชธรรมชาติประมาณ 137.5 พันล้านบาร์เรล หรือ 9% ของปริมาณสำรองทั่วโลก เป็นประเทศในกลุ่มโอเปคที่ส่งออกน้ำมันสูงเป็นอันดับ 2

เมื่อประมวลทุกอย่างดูแล้ว ผมคิดว่าเขามีน้ำมันให้สูบขึ้นมาขาย แต่รายจ่ายต่าง ๆ ที่ต้องจัดการอย่างแสนสาหัสก็ดููดเงินเขาไปจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ เรื่องการที่อยู่อาศัย การอุปโภคบริโภค การพลังงานต่าง ๆ ต้องลงทุนทับถมกันไป ถ้าจะปลูกต้นไม้สักต้นหนึ่ง ผมคิดว่าเขาต้องลงทุนเท่ากับบ้านเราปลูกต้นไม้ 1 ไร่/100-200 ต้น ถ้าจะวิ่งสู้ฟัดกัน ผมคิดว่าเราประเทศเราสู้ได้สบายมาก โดยเฉพาะเรื่องข้าวปลาอาหาร การเพาะปลูก เพียงแต่จะต้องทำมาหากินอย่างคนมีปัญญา ใช้วิชาความรู้เข้าไปพัฒนาความเป็นมืออาชีพ วิชา+อาชีพ = วิชาชีพ เร่งยกระดับมือสมัครเล่น ให้เลิกเล่นอบายมุข ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินพร้อม ๆ กับเสริมสร้างสิ่งแวดล้อม ทุกอย่างก็จะดีขึ้นตามลำดับ ผืนแผ่นดินไทย ไม่ควรที่จะมีคนงี่เง่าอยู่แบบไม่รู้ไม่ชี้ ควรเรียนให้รู้ว่าเราจะสู้กับชนชาติอื่นอย่างไร ชาติไหนที่มันสู้กันเอง กัดกันเอง มันหายนะทั้งชาติทั้งนั้นแหละ ควายเอาไปทำลูกชิ้นหมดแล้ว แต่วิญญาณยังหลงเหลืออยู่ทำไงดี

« « Prev : สวยบาดใจจริงๆ

Next : สิ่งชื่นชูใจ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 ออต ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 กุมภาพันธ 2009 เวลา 14:59

    เห็นได้ชัดว่าเราสามารถจัดการความรู้ด้วยภูมิปัญญาของเขาเองได้อย่างเหมาะสม เอาสิ่งที่มีอยู่รอบตัวมาสร้างงานเสริมทักษะเข้าไป ก็สามารถมีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ผลิตออกไปจากท่ามกลางทะเลทรายได้ ตรงกับคำที่ว่า ถ้ามนุษย์เราอยู่ตรงไหน ก็ควรมีความรู้เพียงพอที่จะพัฒนาการงานอาชีพในพื้นที่ตรงนั้นให้พออยู่ พอกิน พอเพียง ก็สามารถที่จะดำรงคงอยู่ได้โดยไม่ต้องทิ้งถิ่นเหมือนในบางประเทศ

    “เห็นว่าประเด็นนี้ เข้ากับแนวคิดของสวนป่าในการพัฒนาสังคมไทย โดยเอาภูมิปัญญาวัฒนธรรมประจำถิ่นเป็นฐาน”

  • #2 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 กุมภาพันธ 2009 เวลา 15:32

    สำหรับบ้านเรา ในเมื่อการส่งออกมีปัญหามากทั่วโลก จะไปพึ่งการส่งออกเหมือนเดิมก็ไม่ได้ ดังนั้นต้องหันกลับมาใช้จ่ายกันในประเทศ ให้เงินหมุนเวียน ไม่อยู่นิ่งๆ ครับ

    ซื้อของไทย เที่ยวเมืองไทย เงินทองไม่รั่วไหลไปไหน

    พลิกฟื้นเศรษฐกิจ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.73978590965271 sec
Sidebar: 0.12201619148254 sec