ดูงาน ดูใจ ดูอะไรอีกละ

อ่าน: 2415

หมู่นี้ใคร ๆ ก็เดินทางไปศึกษาดูงานต่างประเทศกันจ้าละหวั่น ผู้คนสมัยนี้เดินทางไปมาหาสู่กันสะดวกขึ้น นักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าไปดูงานสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และเมืองดูไบของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ทุกคนกลับมาต้องทำการบ้าน ทบทวนสิ่งที่ไปรู้เห็น เพื่อนำมาสังเคราะห์ประเด็นที่เป็นประโยชน์ส่งสถาบันฯ ผมตั้งใจจะทำรายงาน 2 อย่าง

1. รายงานสิ่งที่ได้ไปพบเห็นมีอะไรบ้าง เมื่อฉุกคิดแล้วทำอะไรต่อ..

2. รายงานในรูปของสื่อ VCD. ไหว้วานท่านรอกอดช่วยจัดการเรื่องเทคนิค

งานนี้เป็นความรับผิดชอบโดยตรงครับ

เพราะเราเอาภาษีชาวบ้านไปศึกษางาน กลับมาก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าคุ้มค่าไหม?

เกิดประโยชน์ในด้านใด กับใคร อย่างไร?

ต่อไปจะเล่าให้ฟังในสไตล์ของชาวบ้าน แบบชาวบ้าน หรือที่เรียกว่า..วิชาเกิน

คนเราเห็นอะไร คิดอะไร เข้าใจว่าอย่างไร ก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า จะใส่ไข่ไปบ้างก็เพื่อเพิ่มสีสันแต่พองาม

คงจะตอบความจริงไม่ได้ทั้งหมด เพราะเราได้ไปพบไปเห็นแบบหยาบ ๆ ในเวลาอันน้อยนิด

  • ร่างโจทย์ไว้ในใจดังนี้
  1. ภาพรวมอารยธรรมและศาสนา ระหว่างอิสลาม กับ คริสเตียน
  2. วิธีบริหารสังคมภายใต้นโยบายของประเทศที่ไปเยือน
  3. การดำเนินชีวิตประชาชนประเทศของอิหร่านและสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์
  4. เปรียบเทียบจุดเด่นระหว่างประเทศที่ไปเยือนกับสยามประเทศ
  5. เรื่องพิเศษ เรื่องฮากระจาย เขียนแทรกไว้ให้เป็นของแถม
  6. ลงภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมคิดติดเทอร์โบจินตนาการไปด้วยกัน
  7. ข้อเสนอแนะ
  8. อื่น ๆ

นักศึกษาสสสส.1 รุ่นนี้ไปกัน 67 ชีวิต  มี ศ.ดร บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เป็นหัวหน้าคณะ พลเอก เอกชัย ศรีวิลาศ นางสาวศุภมาส วิริยะสกุลพันธุ์ เป็นคณาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ส่วนนักศึกษามีหลายสถานะและอาชีพ เป็นนักการเมือง นักวิชาการ ข้าราชการ นายตำรวจ นายทหาร นักกฎหมาย อดีตรัฐมนตรี อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้นำองค์กร นักหนังสือพิมพ์ กรรมาธิการแก้ไขปัญาหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นักธุรกิจ NGO. และชาวบ้าน 1 คน ออกเดินทางระหว่างวันที่ 12-18 กุมภาพันธ์ 2552 พื้นที่ศึกษาได้แก่ประเทศสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และเมืองดูไบของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์

เราเดินทางไปลงที่เมืองดูไบ แล้วต่อเครื่องบินไปไปเมืองเตหะราน เมืองหลวงสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน เดินทางรวดเดียวหลายพันกิโล ต้องนั่ง ๆ นอน ๆ แวะต่อเครื่องรวมเวลาแล้วก็แทบทั้งวันนั่นแหละครับ กว่าจะลากกระเป๋าเข้าห้องนอนได้ ก็โผเผ อากาศก็เปลี่ยน อาหารก็แปลก เวลาก็ผิดแผกไปจากความคุ้นชิน ต้องปรับตัวปรับใจกันพอสมควร

  • รูปแบบการศึกษา มีทั้งแบบชะโงกทัวร์ บนฟ้าและบนดิน ไปฟังการบรรยายสรุปที่สถานฑูตและสถานกงศุล ไปเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ๆ สอบถามผู้รู้ ไกด์ และอ่านหนังสือประกอบ ส่วนผมจะเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบค่อนข้างมาก เช่น ไปเห็นทะเลทราย ก็ย้อนมาเปรียบกับทุ่งกุลาร้องไห้ที่อีสาน ไปเห็นต้นไม้ไม่กี่ชนิดในเมืองเขา ก็เอามาเปรียบกับป่าไม้บ้านเราที่มีนับพันชนิด ไปเห็นเมืองที่แทบจะนับต้นไม้ได้ทุกต้น ไปเห็นภูเขาที่มีแต่หินล้วน ๆ ไม่รู้กี่ล้านตารางกิโลเมตร ก็ยังนึกดีใจที่ภูเขาหัวโล้นบ้านเรายังดูดีกว่าของเขาพะเรอเกวียน ไปกินปลากินไก่ที่เป็นเมนูประจำของเขา ก็นึกรักอาหารไทยอย่างจับจิตจับใจ ไปเห็นคนสวยปิดหน้าโพกผ้าสีดำมิดชิด ก็ดีใจแทนสาวไทยที่มีอิสระในการแต่งกาย และย้อนคิดไปถึงนักศึกษาไทยที่แต่งกายรัดรูป น่าจะจับมาอยู่ประเทศพวกนี้ จะได้รู้เสียบ้างว่าการแต่งกายแต่พองามนั้นเป็นอย่างไร ส่วนหนึ่งจะใช้การสังเกตุ เช่น ดูการปลูกต้นไม้ของเขา ต้องลงทุนสูงมาก ต้องเอาดินปุ๋ยมาเปลี่ยนเสียก่อน การให้น้ำหยดทุกต้นอย่างพอเพียง การคัดพันธุ์ไม้ที่ปลูก การดูแลต่าง ๆ พยายามที่จะตีความสิ่งที่เห็น และคำนึงถึงเหตุผลว่าทำไมของถึงต้องทำเช่นนั้น เบื้องหลัง ..เหตุผล คืออะไร?

..อยากจะเล่าตอนเกริ่นนำให้จบ แต่ตาก็จะปิด ขอลาไปเฝ้าพระเจ้าซาร์ก่อนนะขอรับ มีแฮงจะตื่นมาเขียนต่อ  อิ อิ..

« « Prev : กลับมาพร้อมจิตใจรุ่งริ่ง

Next : 1. ตกอูฐตาย » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "ดูงาน ดูใจ ดูอะไรอีกละ"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.088640928268433 sec
Sidebar: 0.10376000404358 sec