มาเป็นนักประกอบการความดีกันไหมครับ?

โดย sutthinun เมื่อ 22 กุมภาพันธ 2012 เวลา 3:56 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1401


วิธีทำความดีมีให้เลือกมากมายจนตาลายเลยละครับ ในการที่จะอุทิศตัวเราทำความดีให้แก่บ้านเกิดเมืองนอน หลายท่านได้ทำทะลุเป้าไปแล้วก็มาก บางท่านกำลังทำอย่างเอาจริงเอาจัง บางท่านเลือกทำตามโอกาสอันควร บางท่านยังหากระบวนการไม่เจอ ก็ไม่เป็นไรครับ ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความพอใจ

เอาแค่ชวนคนมาปลูกผัก กินผัก นี่ก็เกิดคุณประโยชน์ต่อคนเอง-ครอบครัว-เพื่อนฝูง-สังคม-และโยงไปถึงความปกติสุขอันมั่นยืนบ้านเกิดเมืองนอนของเรา แค่ที่ผมเอาตัวเองทดลอง ผลที่ได้รับ นับได้ว่าเป็นความโชคดีที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับตนเอง

การเรียกคืนสุขภาพกลับมาได้ในเวลาอันรวดเร็วนั้น

จะไม่เรียกว่าเป็นความโชคดีอันเอกอุได้อย่างไร

อุ้มแตงมานานหลายปี มาวันนี้สามารถจัดการได้เป็นที่น่าพอใจยิ่ง

ลูกน้องที่นานๆมาเยี่ยมครั้ง ต๊กกะใจ..

ถามกันให้แซดว่า..ครูบาป่วยหนักหรือ ทำไมผอมจัง!

เอาละสิ ..ร่างผอมจนมองว่าขี้โรคก็น่าคิดนะครับ

หารู้ไม่ว่า..อ้วนเท่าไหร่ สุขภาพแย่ตามน้ำหนักส่วนเดิน

คนสมัยนี้ไม่มีใครต้องการมีหุ่นแบบอาเสี่ยแล้วนะครับ

ต้องการประเภทหุ่นเฟี๊ยวฟ๊าวกันทั้งนั้น

· ทะเลทรายประกอบไปด้วยทรายเม็ดเล็กๆฉันใด

· การทำความดีก็สามารถทำแบบเก็บเล็กผสมน้อยไปได้เรื่อยๆ

· อย่างน้อยก็ดีกว่านิ่งเฉยหรือถอยหลังตกคลอง

ขออนุญาตเอาเรื่องของโฉมยงมาเป็นกรณีพิจารณา

เรื่องมีอยู่ว่า..โฉมยังกับผมกินผักมาระยะหนึ่ง เห็นว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงภายในตัวเราอย่างมาก ทั้งระบบขับถ่าย การลดน้ำหนัก รู้สึกสบายกายสบายใจ สบายที่ไม่ต้องวุ่นวายกับการทำอาหารแต่ละวันด้วย สรุปว่า..ถ้าทำถูกต้องเรามีแต่ได้กับได้ ..ก็อยากจะเผยแพร่แนะนำสิ่งดีๆเหล่านี้ ใครมาเยี่ยมก็ชวนคุยเรื่องอ้วน เรื่องสุขภาพ แทบทุกคนบ่นต่อรำพึงรำพัน

เราจึงหันมาแคะคุ้ยเรื่องอาหารการกินกันอย่างเข้มข้น

บางวันจวนค่ำแล้ว

ยังไปเด็ดผักมาดวลกันในบัดเดี๋ยวนั้น

ผมต้องรับประทานผักมื้อเย็นไปด้วยเพื่อจะได้บรรยากาศ “กินไป-คุยไป”

การปลูกผักนานาชนิดนั้นมีรายละเอียดพอสมควร นับตั้งแต่นิสัยของพืช อายุ ผลผลิต อากาศ น้ำ แดด ล้วนเป็นตัวแปรที่ต้องอาศัยเวลาออกแบบในการปลูกให้สอดคล้องกับ-ความต้องการ–ปริมาณ-ระยะเวลาฯลฯ เพียงเราปลูกแค่นิดหน่อยยังต้องได้การบริหารจัดการอย่างมาก ถ้าปลูกมากๆจะเพียงไหน?

ช่วงนี้เรามีผักเหลือรับประทานมาก ทั้งๆที่เจี๊ยะกันสะบัดช่อแล้ว ตัดต้น ตัดดอก ตัดทั้งดอกทั้งต้นก็ยังเหลือเบอะ ผักก็เหมือนมนุษย์เรา ต้องเดินหน้าไปสู่การแก่-เจ็บ-ตาย ห้ามไม่ได้เสียด้วย ถึงเวลาไม่ตัด ผักก็จะแก่ ยังดีที่บางส่วนเราสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้

การออกแบบให้มีผักต่อเนื่องนั้นไม่ง่ายเลย

แต่ละพื้นที่ต้องวางรูปแบบให้เหมาะสม

นับเป็นความรู้ที่สนุกและอร่อย

เรามาดูประเด็นนี้กับเรื่องราวของโฉมยงดีไหมครับ หลังจากที่มีเพื่อนโรงพยาบาลสตึกมาเยี่ยม ทุกคนบ่นเรื่องสุขภาพ/อาหาร/วิธีการจัดการตนเอง ใครมาเยี่ยม โฉมยังก็จะชวนรับประทานเมี่ยง เด็ดใบชะพลูที่ผมปลูกเป็นไม้ประดับแทนหญ้าที่น่าบ้าน เห็นว่าจะเข้าหน้าแล้งแล้วจึงรดน้ำให้บ่อย ชะพลูก็งามสิครับ แตกอ่อนน่าชิม

สูตรของโฉมยง..จะเด็ดเอาใบชะพลูสดๆมาห่อเมี่ยงคำเป็นคำๆ

คุณผู้หญิงละชอบนัก

หยิบโน่นนิดนี่หน่อย-หยอดน้ำปรุง-ห่อ-หยิบเข้าปาก-เคี้ยวแก้มตุ่ย

แล้วก็คุยกันสารพัดสารเพ ชื่นมื่นทั่วหน้ากัน

กินไปกินมา ความอร่อยเพิ่มขึ้นเป็นความชอบ ก็เกิดเรื่องสิครับ

แม่หวี ช่วยจัดยังงี้ส่งให้โรงพยาบาลได้ไหม?

เ ร า ห า ผั ก ส ด ป ล อ ด ส า ร อ ร่ อ ย ๆ อ ย่ า ง นี้ ไ ม่ ไ ด้

ผักในตลาดก็ไม่กล้ากินสดๆ ไม่ไว้ใจ เพราะเห็นๆกันอยู่ว่าปลูกกันยังไง

เรื่องอาหาร..เดินมาหาถึงบ้านอย่างนี้ คุณโฉมยงเธอก็ขมีขมันสิครับ เอาเวลาที่ไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารในแต่ละมื้อ มาปลูกขยายสมุนไพร ใครว่าอะไรดีเรามีโม้ด!..เธอไปเด็ดสมุนไพร-คาวตอง-วอเตอร์เกรต-หญ้าปักกิ่ง-แปะตำปึง-ยี่ร่า-ผักแพรว-ใบหูเสือ-หว่านง๊อก-ผักหวานบ้าน-ผักชีลาว-แมงลัก-โหระพา-ใบมะกรูดอ่อน-ใบมะตูมอ่อน-ใบมะยม-ชะพลู-ผักเม็ก-ยอดมะม่วงหิมพาน แล้วมาเอาผักในแปลงผมไปเป็นส่วนผสมเข้าไปมี ผักสลัด-ดอกชมจันทร์-ถั่วฝักยาว-ถั่วพู-คะน้า-แตงกวา-ผักกาดกวงตุ้ง-ผักชี-กล้วยดิบ-ผลน้ำเต้าอ่อน

ในเบื้องต้นมีประมาณนี้ ถ้าเข้าช่วงหน้าฝนเธอเอ๋ย ผักพื้นเมืองที่เกิดเองตามธรรมชาติจะอ่อนกรอบ เด็ดเอามาร่วมขบวนนี้ได้เป็นอย่างดี วิธีนี้จะเป็นการโน้มนำให้เกิดความนิยมรับประทานผักสดมากขึ้น หลังจากคุ้นชินแล้วเราถึงจะโน้มน้าวให้หันมารับประทานผักอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ขบวนการกินผัก-ปลูกผักกินเองก็จะขยายตัวออกไปในหมู่ผู้รักสุขภาพ

ก่อนหน้านี้ผมปลูกผักสนุกๆไว้รับสำหรับครอบครัว และไว้รับเพื่อนฝูงที่มายิ้ม ที่สำคัญปลูกเอาไว้โม้ อิ อิ..ก็ไม่มีอะไร..สบายๆ แต่พอเข้าสูตรที่จะต้องจักผักบริการเป็นประจำก็ยุ่งสิครับ ต้องเสริมระบบยกระดับการปลูกเพื่อบริการชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง จึงต้องออกแบบปลูกผักนานาชนิดอย่างน้อย 1 ไร่ วันพรุ่งนี้จะเริ่มดำเนินการแล้วละครับ

· จัดการโปรยมูลวัวลงในพื้นที่

· เอาน้ำควันไม้มาราดลงไป

· เอาฟางมาคลุม

· ตีแปลงผักแต่ละชนิด

· หยอดเมล็ดพันธุ์

· ดูแลรดน้ำ/ไล่แมลง

งานเราก็เยอะ จะบริการไหวหรือ?

โฉมยงบอก ..ทำไงได้ สงสารคนที่ตั้งใจจะรักษาตัวเอง

ถุงละ30บาท/นี่จะไหวหรือ/เสียเวลาเก็บ/เวลาจัด/แถมยังขับรถไปส่งอีก

ราคา 30 บาท เป็นราคาแนะนำให้คนได้ชิมของดีจริงๆ

ถ้าคิดจุดคุ้มทุนก็ทำไม่ได้หรอก..ถ้าคิดแบบการค้า !

แต่ถ้ามองว่า..ทำดี ได้บุญ มันก็แสนคุ้ม ที่ช่วยคนออกจากความทุกข์

พอเขารู้ว่าดีจริงเราถึงค่อยเขยิบราคาขึ้นไปให้พออยู่ได้

ทำดีเพื่อคนไทย ..ทำไปเรื่อยๆ..ความดีก็จะงอกงามขึ้นเรื่อยๆ

เราไม่ได้ขายผักอย่างเดียวนะพ่อ

ยังเอากล้วยหอม/กล้วยไข่/งาคั่ว/น้ำมะสัง/ครีมมะกรูด/ผักอื่นๆ

เปิดท้ายรถ..คนไข้โรงพยาบาลมารุมตึง

แต่ขายให้ไม่ได้ เพราะเตรียมมาให้เฉพาะคุณพยาบาล

บางคนงง..พูดว่า..อยู่ในป่ามีกล้วยหอมมาขายได้ยังไง..

คนขี้สงสัยพวกนะพ่อ..เดี๋ยวก็วิ่งมาชนต้นกล้วยหัวโนเองแหละ

แหม..โฉมยงนี่มีกลเม็ดในการบริการความดีความสุขอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย..

คนเรานี่นะครับ ขอแต่เป็นงานที่ชอบ ทำแล้วมีความสุข ยังไงก็ได้

ผมแอบถามป้าสอน ที่มาช่วยดูแลแปลงผัก

“ป้า..แม่หวีชวนทำอย่างนี้ดีไหม?”

“ดีๆคุณพ่อ..สนุก และชอบด้วย”

ป้าสอนเป็นหญิงแกร่ง ชอบเข้าวัดทำบุญ เป็นคนอ่อนน้อมอัธยาศัยดี มีแฟนคลับทั้งหมู่บ้าน จะเป็นก๊วนที่ชวนกันไปทำบุญวัดโน้นวัดนี้ ว่างก็แว๊บเข้าสวน บางทีก็ไปทำบุญเห็นแม่ครัวเขาผ่าฟักทอง ฟักแฟง ก็ห่อเอาเมล็ดมาหยอดลงหลุม เห็นบ้านไหนมีผักที่เรายังไม่มีก็ขอเข้ามาปลูก ป้าเป็นมือปลูกผักที่น่าสนใจ ผมแนะนำวิธีใหม่ๆป้าจะไม่เชื่อทันที จะแข็งขืนนิ่มๆ..จนเราจะพิสูจน์ให้ประจักษ์ ถึงจะยอมรับ

ป้าสอนถึงจะมีร่างผอม แ ต่ มี โ ร ค ค ว า ม ดั น สู ง ม า ก

เคยขับมอเตอร์ไซหน้ามืดหัวทิ่มมาแล้ว

ไปหาหมอที่ไร..วั ด ค ว า ม ดั น แ ล้ ว ต๊ ก ก ะ ใ จ

เห็นผมนั่งกินผักก็มองเฉยๆ ไม่ยอมเจี๊ยะตาม

แต่พอแม่หวีค่อยๆชวนค่อยๆชิม

ทุกวันนี้ ป้าสอนจะขมีขมันไปเก็บผักมาตั้งวงกินผักกันสนุก

และยังเป็นลูกมือช่วยจัดผักเป็นชุดๆอย่างมีความสุข

..ป้าสอนนี่ละครับ..จะเป็นนักประชาสัมพันธ์ตัวเอ้

ที่จะเจาะเรื่องปลูกผักกินเองเข้าไปในหมู่บ้านและในหมู่ญาติธรรม

และในหมู่ของแฟนคลับป้าสอน

งานประชาสัมพันธ์แบบ..ป า ก ว่ า มื อ ถึ ง เ ยี่ ย ง นี้

ป้าสอนกินขาด!..

ท่านผู้อ่านเป็นอย่างนี้ไหมครับ

คนชอบเขียนกลอน* ..ขนาดบ้านพังยังนั่งๆนอนๆเขียนเฉยเลย

สรุป งานบริการผัก จัดเลี้ยง ส่งเสริม เป็นหน้าที่ของโฉมยง

ผมคงอยู่ฝ่ายอัดฉีดกำลังใจ น่าจะดีนะครับ

· ส่งเสริมคนทำดีไม่ต้องดูไกลหรอก

· ยุให้คนที่นอนข้างเรานี่แหละกระทำความดี

· ถ้าคนทำดีมากๆ ความไม่ดีก็จะค่อยๆลดลง

· เรื่องนี้ยกให้เธอเป็นช้างเท้าหน้า

· ผมอาสาเป็นช้างเท้าหลัง

· ต้องการอะไรบอก..พ่อจะปลูกให้มันระเบิดระเทิดเทิงไปเลย

คำที่ขอถาม

ถ้าคนไทย สุขภาพแข็งแรงดีขึ้น 30% การดูแลรักษาพยาบาลจะลดลงไหมครับ ในเมื่อปริมาณคนป่วยใหม่ค่อยๆลดลง คนป่วยเก่าก็ช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ถ้ายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรมในการกินอาหาร จะทำให้การรักษาโรคยากลำบากมากขึ้น เหมือนการตักน้ำใส่โอ่งที่มีรูรั่วนั่นแหละครับ เสียเวลาหมอ เสียงบประมาณหลวง เสียทรัพย์ของผู้ป่วย ใครในบ้านป่วยเข้าคนหนึ่ง ก็เหมือนป่วยกันทั้งบ้าน ไปๆมาๆก็พากันอมโรคอมทุกข์กันทั้งครอบครัว

ถ้าคนไทย หันมาปลูกผัก/รับประทานผักปลอดสาร เราจะลดการสั่งเข้ายารักษาโรค ลดการสั่งเข้าปุ๋ยและสารเคมีและปัจจัยแวดล้อม เช่น เครื่องจักรกล น้ำมัน ไฟฟ้า ปีละกี่หมื่นล้านบาท

ถ้าคนไทย หันมาใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามลำดับขั้น สุขภาวะในครัวเรือน ในสังคม และในระดับชาติจะกระเตื้องขึ้นไหมครับ ในเมื่อคนไทยไม่ต้องเป็นภาระให้รัฐบาลหรือหน่วยงานใดๆมาแบกปัญหาให้ ธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะมีเงินไปทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยมากขึ้น

ถ้าคนไทย รักตัวเอง ดูแลตัวเอง สร้างเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังด้านการทำกิน ทำดี ทำถูกต้อง คุณภาพของสังคมจะดีขึ้นกว่านี้ไหมครับ ถ้าคนไทย มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ช่วยกันพึ่งพากันเองอย่างพี่อย่างน้อง ศิลปะการใช้ชีวิตแบบไทยๆและวัฒนธรรมไทยจะกลับมาไหมครับ

· คนที่มีหน้าที่การงานก็ตั้งใจทำงานให้เรียบร้อย

· แล้วมาทำหน้าที่ๆสอง คือหน้าที่ดูแลตัวเองและสังคม

· เราอย่าลอยเพสังคมต่อไปเลยครับ

· ถ้าเราละทิ้งสังคม สังคมก็จะละทิ้งเรา

· เอาอย่างนี้ก่อนดีไหมครับ

· ตั้งแต่วันนี้ไปจะเริ่มทำดีกับตัวเองให้มากขึ้น

ชักชวนตัวเองคิดดี ทำดี เปลี่ยนแปลงในสิ่งดีๆ

กินอาหารดีๆ ยิ้มหวานอารมณ์ดี อยู่ในสภาพแวดล้อมที่สะอาด

ละลดเลิกเข้าสถานที่ๆไม่สมควร

กลับมามองครอบครัว ญาติๆ

ควรอ่านFB.ที่เพื่อนๆเขียนบ่อยๆ

· อ่านแล้วอย่ากดชอบใจเฉยๆ

· คนสวยโปรดกรุณา comment ด้วย

· จะได้เกิดการเชื่อมโยงความรู้เป็นวงจร

· ท้ายที่สุดก็จะเกิดสังคมแห่งการเรียนรู้

· แล้วต่อยอดไปเป็นสังคมอุดมปัญญา

หลายท่านอาจจะมึนงงกับสังคมในปัจจุบัน อยากจะเข้าไปมีส่วนช่วยชาติบ้านเมือง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเข้าตามตรอกออกตามประตูได้อย่างไร? ดังนั้นจึงขออนุญาตเชิญชวนให้ที่รักโปรดพิจารณา เรื่องการเริ่มต้นที่ใจตนเองแล้วใช้สติปัญญาร่วมกัน ก็จะเกิดเป็นพลังจุดชนวนระเบิดความดีให้แผ่ไพศาลไปได้เร็วขึ้น

จะเห็นว่าการทำอย่างนี้ไม่ต้องมีโครงการใหญ่โตมารองรับ

เราลงขันความดีกันคนละนิดละหน่อยตามกำลัง

ไม่นานหรอกคุณความดีก็จะทวีค่า แตกออกเป็นดอกผลความหวังดีไม่มีจบ

ใครเห็นด้วย ..เอามือลง แคว๊กๆ

« « Prev : ครูบาโป๊

Next : เป็นอย่างนี้ไปขายเต้าฮวยดีกว่า » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

ความคิดเห็นสำหรับ "มาเป็นนักประกอบการความดีกันไหมครับ?"

ไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.051084995269775 sec
Sidebar: 0.069809913635254 sec