ควายยังเคี้ยวเอื้อง คนเราจะเคี้ยวอะไร?
หลังจากที่เข้ามาสู่กระบวนการรับประทานภักษาหาร ความคิดก็พุ่งทะยานขึ้นมา ตามอัตตาของคนขี้โม้ เห็นสิ่งใดดีถ้าไม่ได้บอกกล่าว..อกจะแตกตาย นี่ถ้าเน็ทบ้านนอกไม่เดี๊ยง เธอเอ๋ย..อ่านกันจนตาแฉะ เพราะมีเรื่องบอกเล่าให้คนดีที่น่ารักได้ช่วยกันพิจารณา ดังนั้น ..สิ่งที่เขียนในFB.ไม่ใช่เรื่องวิเศษวิโสอะไร เป็นแต่เพียงความรู้หยาบๆ ส่งมาให้พวกเราช่วยเติม ช่วยแก้ ช่วยขัดเกลา ถ้ามองอย่างตรงจุดก็คือ..เป็นการส่งอวดความไม่รู้ มาให้คณะผู้รู้-ผู้มากประสบการณ์-ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันแกะร่างแห
โจทย์ในวันนี้ก็คือ มังสวิรัติจะเดินหน้าอย่างไร
คนไทยถึงจะไปสู่ความตระหนัก และเข้าถึงญาติที่แสนรักของผมได้ วันวาเลนไทด์ ผมมีแต่ดอกน้ำเต้า-ดอกมะเขือ-ดอกฟักทอง ไหนเลยจะสู้ดอกกุหลาบได้ จึงขออนุญาตส่งความปรารถนาดีเกี่ยวกับการกินอยู่ของพวกเรามาแทน หวังว่าคุณคนดีคงไม่น้อยอกน้อยใจ
ที่ไม่มีกุหลาบมาปัก ฉึก กลางหัวใจนะครับ
ช่วงนี้ดอกประดู่แดงกำลังชูช่อระย้าย้อย สีแดงระเรื่อเจือสีแสดนิดๆ เป็นสีเฉพาะของเขาเลยละครับ ดอกซากุระอีสานบานต้อนรับเทศกาลแห่งความชื่นมื่นแล้วก็รีบโรยรา ทิ้งกลับดอกสีชมพูเล็กๆเกลื่อนพื้น ดอกไผ่ผึ้งมาบินตอมเซ่งแซ่ทุกเช้า โลกของดอกไม้เบิกบานไสวไม่อนาทรอะไร ถึงเวลาก็แย้มบานให้ ผีเสื้อ นก และเราได้ชมชื่น
ขอส่งมอบความรักอย่างนี้ครับ
เรื่องมังสวิรัติ ที่เราไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี หรืออยู่ในระหว่างหาคำตอบ กำลังดำเนินการและประกอบการให้เหมาะสมกับสภาวะแห่งตน เรื่องความเคยชิน เรื่องของนิสัย ใช่ว่าจะจัดการอะไรได้ง่ายๆ การอธิบายหรือชักชวนเรื่องนี้ ผมย้อนไปถึงคำสุภาษิตที่ว่า
“สร้างเรือนตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ตามใจผู้นอน”
เมื่อมีที่หลับนอนสะดวกสบายใจฝันหวานได้ไม่อั้นแล้ว ก็จะชวนมาดูเรื่องอาหารการกินที่ปฏิบัติมา เป็นอย่างไรบ้าง ไม่ชอบอะไรบ้าง และติดอกติดใจกับเมนูอะไรบ้าง เรื่องพื้นฐานของจิตใจที่เคลือบความชอบไว้สำคัญนักเชียว ถ้ามองข้ามก็ตกม้าตายได้ง่าย ความหวังดีที่เราจะบรรจุเข้าไปก็อาจจะโดนดีดกลับ สุดท้ายก็ปล่อยเลยตามเลย..
จบแบบเอวังก็มีด้วยประการละฉะนี้
ผมรักใครแล้วไม่ยอมให้จบลงง่ายๆหรอก
พยายามใคร่ครวญว่าจะชวนที่รักให้รับประทานมังสวิรัติเพิ่มขึ้นได้อย่างไร?
มังสวิรัติสไตล์มหาชีวาลัยอีสานจะเดินสายกลางครับ
จะมาข่มขืนความรู้สึกของที่รักนั้นไม่บังควร
ลำดับที่ 1
ท่านใดรับประทานอาหารประเภทใดอยู่ก็รับประทานต่อไป เพียงแต่ขอความร่วมใจลดเมนูเนื้อสัตว์ลงบ้าง เคยสั่งถ้วยใหญ่ก็ลดลงเป็นถ้วยเล็ก เคยประประทานเต็มที่ก็ยั้งๆช้อนไว้บ้าง เคยสั่งเมนูเนื้อเต็มโต๊ะก็ลดลงสักครึ่งโต๊ะ ค่อยๆลดไปเพื่อให้กระเพาะและจิตใจรับสภาพความเปลี่ยนแปลง
ลำดับที่ 2
ทดลองชักชวนตัวเองให้ลองรับประทานผักมากขึ้น เลือกชนิดผักที่ตนเองชอบมากที่สุด ซึ่งก็คงจะมีบ้างละน่า คงไม่มีใครไม่เคยกินผักเอาเสียเลยในชีวิตนี้ ถ้ายังไม่กล้าสั่งเมนูผัก ก็มองไปที่โต๊ะข้างๆก็ได้ พร้อมกับถามตัวเองว่า..ทำไมท่านอื่นๆจึงรับประทานผัก ตัวเราผิดปกติตรงไหนหรือเปล่า ถ้าผักไม่ดีไม่อร่อย ใครจะบ้าสั่งมารับประทานกันละครับ ลองคิดเบาๆ..อาจจะฉุกคิดขึ้นมาก็ได้ ถ้าอยากจะลองชิมชิ้นมา..คราวนี้ละได้เรื่อง..
เอ๊ะ มีคนพูดว่ากินผักบุ้งแล้วตาหวาน
ถ้างั้น..นี่หนูๆ..พี่ขอสั่งผักบุ้งไฟแดงจานหนึ่ง
ลำดับที่ 3
ทดลองชิมผัดผักต่างชนิดมากขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ให้ตัวเราคุ้นชิน จะได้พิจารณาสั่งอาหารแปลกเพิ่มขึ้น เช่น จับฉ่าย ฟักตุนมะนาวดอง น้ำเต้าชุบแป้งโกกิทอด พิจารณาสั่งอาหารที่มีส่วนผสมของผักมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สั่งผลไม้จำพวก ฝรั่ง กล้วยสุก แอปเปิล แคนตาลูป ส้ม มังคุด สับปะรด มะพร้าวอ่อน ผักกับผลไม้คุณสมบัติใกล้เคียงกัน ก่อนที่จะโดดไปสู่การรับประทานผักสด ก็อยากจะให้ชิมชอบความสดของพืชผักเป็นเบื้องต้นเสียก่อน
อย่าสั่งผลตาลสุก! ก็แล้วกัน
ลำดับที่ 4
จะชวนที่รักชิมผักสดแล้วละนะ เมนูที่เลือกคือ “เมี่ยงคำ” “แหนมเนือง” อาหารกลุ่มนี้กระจุ๋มกระจิ๋ม เครื่องเคียงมีให้เลือกแยะ สนุกตรงช่วยกันหยิบโน่นเติมนี้มาห่อแผ่นแป้งเป็นคำๆ หรือจะลองใช้ใบชะพลูก็ได้ ที่สวนช่วงนี้งามมากๆ ชะพลูยอดเขียวอ่อนแต่ละใบขนาดฝ่ามือแน๊ะ เพื่อให้ซู่ซ่ายิ่งขึ้น น่าจะเสริม ส้มตำ ยำถั่วพู ยำหัวปลี ยำแตงกวา ถ้ามีผู้สูงอายุก็เพิ่มยำมะเขือยาว ถ้าเป็นเมนูน้ำๆ ก็ทำประเภทแกงจืดตำลึง หรือประเภทซุปผักต่างๆ ตามด้วยผลไม้ มะละกอ ขนุน แตงโมนี่ถ้าไม่ได้ปลูกเองอย่าซื้อเลย ให้สารเคมีมากที่สุด หันไปหามะม่วง ส้มโอ กล้วย จะดีกว่า
ลำดับที่ 5
เราคุ้นชินกับการกินผักแบบหยั่งเชิงผ่านไปแล้ว คราวนี้ก็เข้าสู่การรับประทานผักมากขึ้นๆ 50%-60%-80%-99.9% ขึ้นอยู่กับประมาณตนประมาณใจตัวเองว่าแค่ไหนพอดี ท่านที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บก็พิจารณาได้ว่าควรจะเลือกสัดส่วนการรับประทานผักแค่ไหนอย่างๆไร ส่วนท่านที่สุขภาพชำรุดก็ควรจะใส่ใจมากขึ้น มากเป็นพิเศษ ก็ย่อมได้
มื้อเช้าผมรับประทานผักสด
มื้อกลางวันถ้าหิวก็รับประทานผักสุก/ข้าวนิดหน่อย
มื้อบ่าย-เย็น รับประทานผลไม้และ น้ำมะพร้าวอ่อน
รายการทั้งหมดนี่ไม่ตายตัว ถ้าไม่หิวก็ไม่รับประทาน
ปล่อยท้อง-ปล่อยใจ-ว่างบ้างไม่ได้รึไง!
ลำดับที่ 6
ผมมีเพื่อนที่ชอบรับประทานอาหารประเภทเนื้อแบบชูชกเรียกเฮียนั่นแหละ เรียกแกเล่นๆว่า “ขาใหญ่” ร้านอาหารประเภทที่เชลชวนชิมและลืมชิม ถ้าหนังสือพิมพ์ลงเรื่อง/รูป ทีวีออกรายการ..แกจะหูผึ่ง โทรมาชวนยิกๆ ..ไกลแค่ไหนแพงแค่ไหนก็บ่ยั่น!
ขาใหญ่เพิ่งจะออกโรงพยาบาล
ผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่วระดับ..สุวรรณเกือบเปิดดูบัญชี
ยังไม่แข็งแรงดีโทรมาชวนอีกแล้ว
จะมากรุงเทพฯแล้วยัง จะได้ไปหาอะไรกินกันอร่อยๆ
“..ผมเลิกกินเนื้อสัตว์แล้วครับ ..”
แกร้องเสียงหลง..”เป็นไปได้ยังไง”
“คราวนี้ผมจะไปกินข้าวกับใครละ”
อ้าว! ยุ่งแล้วไหมละ
ลองกินมังสวิรัติดูไหมละเฮีย
“ไม่ไหวละมั๊ง มันจะอร่อยตรงไหน”
ผมเตรียมวิธีปราบเซียนไว้แล้ว
1 ถ้าไปกินข้าวด้วยกันคราวนี้ ผมจะเลี่ยงไปรับประทานเฉพาะที่เป็นน้ำๆ
ถ้าเป็นจำพวกปลา ปูนึ่ง อาจจะชิมพอไม่ให้เสียน้ำใจ
2 ผมจะขอสั่งเมนูผักๆ แล้วลองชวนแกชิม
3 แกอยากมาสวนป่าอยู่แล้ว ก็จะทำอาหารประยุกต์เลี้ยง แต่จะไม่ตัดบัวไม่เหลือใยเสียทีเดียว อาจจะทำไก่อบโอ่ง ปลาอบโอ่ง แถมด้วยผัดยอดน้ำเต้า ผัดฟักทองอ่อน แล้วกินผักสดโชว์ ว่ามันดียังไง สะดวกสบายยังไง เป็นผลดีต่อสุขภาพยังไง รักตัวเองไหม อยากจะมีชีวิตอยู่จะทำงานต่อไปอีกนานๆไหม เงินทองที่หามาได้ร่ำรวยจะมีประโยชน์อะไร
ผมไม่เคยเห็นคนนอนโลงศพแล้วเซ็นเช็คได้ !
ผมชอบใจคุณโยโกะ มาครั้งที่แล้ว ทดลองทำอาหารแปลกๆให้รับประทาน ล่อกันขนาดแกงขี้เหล็กกันเลย นึกว่าจะตาหน้าแหย กลับยิ้มกว้าง ยกนิ้วชู บอกว่าชอบมาก.. อาร๊อย อาร่อย ! มาช่วงผักกำลังงามด้วยสิ มาที่นี่ไม่กินผัก นับว่าวาสนาอักเสบแน่ๆเลย วันที่17-19 คุณโยโกะก็จะมากับคุณจินตนาที่สวนป่าอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าไม่ติดใจ..จ้างสักพัน ก็ไม่หันหน้ามาอีกหรอกหนา
ครูสมบูรณ์บอกให้เคี้ยวช้าๆ..
เคี้ยวอาหารอย่างเดียวไม่ทำอะไรก็เสียเวลา
ระหว่างเคี้ยวเบาๆคิดเบาๆ..ก็เขียนเรื่องราวออกมา
ผ่านการกลั่นกรองจากปากสู่ตัวอักษรให้ที่รักอ่าน
นี่ดีนะ ถ้าอินเตอร์เน็ทส่งกลิ่นและเสียงไปได้ด้วย
ที่รักจะน้ำลายไหลแม๊ะๆ..มากกว่านี้..
· ใช้เวลารับประทาน 1.5 ชั่วโมง
· ผมกลืนอาหารลงท้องประมาณ 80%
· 20% กลืนเฉพาะน้ำผัก ส่วนกากคายทิ้ง
· อุ้ยจันตา..มากระเซ้าว่า ลดได้2รูเข็มขัดจริงหรือเปล่า?
· ผมก็ยิ่งลดภาระการบดย่อยอาหารลงด้วยวิธีนี้
· เคยเห็นแต่วัวควายเคี้ยวเอื้อง
· คนเราก็เคี้ยวเอื้องได้นะจ๊ะคนสวย
แคว๊ก แคว๊ก
« « Prev : มึนจังตู
Next : จดหมายถึงท่านเง๊กเซียนฮ่องเต้ » »
1 ความคิดเห็น
นี่หากพ่อครูเป็นหมอพาณิชย์ เขาประกาศจัดหลักสูตรมังสวิรัติลดความอ้วนและรักษาสมดุลร่างกาย 1 สัปดาห์ที่สวนป่า
เช้ากินผักสด เมี่ยง หรือสลัดผักสด
กลางวัน ผัดยอดผักสด ต้ม แกง ผัดสดๆ
เย็น น้ำผักแก้วใหญ่
ระหว่างเวลา เดินสูดอากาศป่า
ทำกายบริหารกลางป่า
ทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ เดินศึกษาธรรมชาติป่า
นอนสูดกลิ่นป่า
ฯลฯ
มีเงินร้อยล้านก็ซื้อสูตรนี้ที่บ้านไม่ได้ ต้องมาที่สวนป่า เท่านั้น
ทิ้งประเด็นให้ใครๆคิดต่ออ่ะ…