รายงานผลปฏิบัติการผ่าแตงโม ยกที่ 1
ช่วงผ่านมาไปหลงสาวๆFB.จนเกือบหลงทางกลับบ้าน วันนี้ได้วับไปดูลานซักล้าง ก็เลยย้อนมากวาดบ้านทำความสะอาดบ้าง โห.ขยะตรึมเลยละครับ แต่ก็มีเรื่องเล่าเคล้าความบรรเจิดมาฝาก เรื่องแรกได้แก่การเข้าคร๊อสธรรมชาติบำบัด ปฏิบัติการมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้วละครับ
มื้อเช้ารับประทานผักสดล้วนๆ
มื้อกลางวัน อาหารสุก เช่น ผักลวก ผัดผัก แกงเลียง กินข้าวประมาณเท่าไข่ห่าน
มื้อบ่าย-เย็น รับประทาน มะพร้าวอ่อน1ผล และผลไม้
ทำการฝึกกายบริหาร เน้นการลมหายใจ อาบแดด-เช้าเย็น
เช้าเดินจงกลม ไปเก็บผักสดที่ปลูกไว้ข้างบ้าน เด็ดยอดกวงตุ้ง ถั่วพู ถั่วฟักยาว คะน้า ผักกาดจ้อน ผักสลัด ดอกชมจันทร์ มะขือเทศ ยอดมะยม ยอดนางดำ และยอดอ่อนดอกไม้ที่จำชื่อไม่ได้ เด็ดสะระเหน่ วอเตอเกรส ผักกาดขาว ยอดหญ้าปักกิ่ง ยอดคาวตอง ใบชะพลู ได้ครบแล้วก็มาล้างน้ำในตะกร้า โฉมยงเอาชามไม้มาให้ ชอบอะไรก็เด็ดๆใส่ชาม โรยงาคั่ว ราดน้ำสลัดทำเอง : น้ำมะขาม/น้ำมะสัง/น้ำผึ้ง
หลังจากคลุกๆแล้วก็ตักเข้าปาก
แต่ละคำจะไม่ซ้ำรสเดิม
แล้วแต่เราจะจิ้มผักอะไรมารวมกับชนิดใด
เคียวช้าๆให้ละเอียดแล้วค่อยกลืน
ในระหว่างกลืนก็คุยกันกับโฉมยงเรื่อยเปื่อย
เล่นFB.ไปด้วย
ใช้เวลาช่วงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง
มื้อเที่ยง บางครั้งก็กินผักลวกกับน้ำพริก บางที่ก็ทำแกงแบบง่ายๆ ใช้หม้อหุงข้าวขนาดเล็กใส่น้ำสูงประมาณ 1 นิ้ว ใส่น้ำพริกลาภเมืองเหนือ กะปิหน่อย ใส่ปลาป่น เติมเกลือ ซ๊อสซีอิ้วขาว เติมเกลือนิดหน่อย เอาผักที่เหลือมื้อเช้ามาหั่นๆ หั่นเสร็จน้ำเดือดพอดี ทอดเวลาประมาณ 4 นาที ก่อนจะยกลงใส่ยอดแมงลักขยุ้มหนึ่ง ครั้งแรกๆรับประทานกับข้าวกล้องประมาณเท่าไข่ห่าน อาจจะมีไข่ไก่ต้มแถมอีก 1 ฟอง มาระยะหลังงดข้าว ล่อผักอย่างเดียว ส่วนแกงก็พลิกแพลงทำไปเรื่อยๆ เนื่องจากผักสดจึงออกรสหวานกลมกล่อม
มื้อบ่ายรับประทานน้ำมะพร้าว 1 ผล บางทีก็รับประทานผลไม้ กล้วย ฝรั่ง ส้ม แอปเปิล พักหลังผลไม้รับประทานบ้างงดบ้างตามความขี้เกียจ ตลอดวันรับประทานเพียงเท่าที่ รู้สึกเบากายเบาใจ ปลายเท้าที่เย็นก็มีอุณหภูมิปรกติ คิดเอาเองว่าเลือดลมคงจะเดินตลอดปลอดโปร่ง ท้องไส้เบาสบาย จากที่เคยท้องผูก2วัน/ครั้ง ก็ขับถ่ายสบาย3เวลาหลังอาหาร
กากอาหารมีน้อยมาก
การขับถ่ายกลับมาดีกว่าปกติ
กลิ่นตัวไม่มี
นอนใกล้ใครเขาก็ไม่เขยิบหนี
ที่แปลกๆมากๆคือไม่มีอาการหิวใดๆ ต่างจากสมัยที่บริโภคเนื้อ ทั้งๆที่รับประทานมามาย บางครั้งก็ยังรู้สึกโหยหิว สังเกตตัวเองมาถึงวันนี้ ถ้าจะตัดมื้อเที่ยงออก เหลือเฉพาะมะพร้าวอ่อนตอนบ่ายๆ ก็อยู่ได้สบายมาก จึงหายแปลกใจที่พระฉันวันละ1มื้ออยู่ได้สบาย..มันเป็นเช่นนี้เอง
ช่วงบ่ายจะล้างจมูก คอ ตา ด้วยน้ำมะพร้าว+เกลือ+น้ำมะนาวนิดหน่อย
จมูกโล่ง หายใจสะดวกขึ้น แต่ยังเหลืออาการภูมิแพ้อยู่บ้าง แต่ก็ดีขึ้นมาก
ตามที่หมอกำหนดยังทำไม่ครบทุกอย่าง เช่นการนอนน้ำแช่สันหลัง การแช่ก้นในน้ำ การเอาดินจอมปลวกมานาบท้อง 3 อย่างนี้ยังไม่ได้ปฏิบัติ เพราะการขับถ่ายเป็นแกติแล้ว หลังก็ไม่ได้ปวดตึงแต่อย่างใด ส่วนการเอาดินจอมปลวกมานาบท้องหมอบอกว่าจะช่วยให้แตงโมลดลงเร็วขึ้น เท่าที่เป็นอยู่ก็คิดว่าระบบในร่างกายดีวันดีคืน จึงแหกกฎหมอ ไม่ทำตามเสียทั้งหมด
วัดความดันปกติ
น้ำหนักเคยขึ้นสูงสุด 65 ก.ก.
ตอนเริ่มรักษาตัวน้ำหนักตัวอยู่ที่ 60 ก.ก.
ขึ้นตาช่างวันนี้ น้ำหนักลดลงเหลือ 58 ก.ก.
แค่นี้ก็ดีใจจะแย่แล้ว
กะว่าจะลดลง55 ก.ก.น่าจะพอดี
และคิดว่าคงจะทำได้สบายๆในอีกเดือนข้างหน้า
ข้อห้ามของการบำบัดตามแนวธรรมชาติ ต้องงดเนื้อทุกชนิด งดชา กาแฟ ขนมต่างๆ อนุญาตให้ดื่มน้ำผลไม้แทน ก็ดื่มบ้างไม่ดื่มบ้างตามความสะดวกของโฉมยงจัดให้ รูปแบบของการรับประทานอย่างนี้ นอกจากไม่หิวเบาตัวแล้ว ทำให้ชีวิตประจำวันเรียบง่าย ไม่ต้องเสียเวลาปรุงอาหารและเก็บจานชามไปล้างเป็นโขยง โฉมยงถาม พ่อจะเอาอะไรไหมจะไปตลาด ยังงงตัวเอง ไม่รู้จะซื้ออะไร กาแฟ ขนม ที่เหลือก็ทิ้งค้างเติ่ง เก็บเอาไว้เลี้ยงแขก
ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไปในทางที่สะดวกสบาย
มีความสุขกับการปลูกผัก
เห็นผักงามสะพรั่ง
ก็สนุกกับการทดลองเมนูใหม่ๆ
สงสารแต่เตาดาโกต้า คงทำหน้าที่อบไก่ ปลา หมูแดง เฉพาะเวลาที่มีแขกมาเยี่ยมยาม ตัวเองหมดสิทธิ์รับประทาน แต่ก็ยินดี..ไม่ขายสิทธิ์นี้แน่นอน เอาเวลามาเตรียมจัดสถานที่งานเฮปลายเดือนมีนา-ต้นเมษา คณาญาติมาเจอตัวเป็นๆ อาจจะจำไม่ได้ว่านี่ ณเดช หรือครูบา
· จึงมารายตัวประมาณนี้
· ถ้าอยากจะทดลองเมนูนี้ก็มาชิมล่วงหน้าได้นะครับ
· อีกงานหนึ่งที่จะต้องเตรียมการเดินหน้าสร้างหมู่บ้านโลก
· ตามที่คอนฯเกริ่นให้ทราบบ้างแล้ว
· คาดว่างานเฮเที่ยวนี้
· คงต้อนรับพี่ป้าน้าอาในความพร้อมมากว่าที่ผ่านมา
« « Prev : คนขี้หนาว เลี้ยวป้ายนี้
Next : มึนจังตู » »
7 ความคิดเห็น
ดีจัง ไม่มีคนแย่งกินเนื้อ อิอิ
วันที่ 13 จะมาถึงบ่ายๆเพราะคณะ(มีแค่ 4 คน) จะแวะที่โรงเรียนไม้ไผ่ก่อนครับ จะมากินผักให้หายอยากเชียวครับ
ดีใจที่ได้อ่านลานสวนป่าอีกค่ะ^^ ชอบอ่านในลานฯ มากกว่าอ่านในFB. ตัวหนังสือโตกว่า สีสวย รูปชัดกว่า..
วันนี้เห็นมีบันทึกในลานให้อ่านกันหลายท่าน. แอบดีใจที่มีให้อ่านเยอะ ทีเขียนเองละก็หมู่นี้ไม่ได้เขียน..ฮ่าๆ..
กราบสวัสดีครับพ่อครูฯ สบายดีนะครับ
ไม่เห็นพ่อเขียนในลาน แต่เห็นไปโชว์ฝีมือใน FB
นึกว่าพ่อคงจะหลงแสงสีของ FB ซะแล้ว หายไปนาน
เห็นด้วยกับอาจารย์ dd_l ครับผม อ่านในลานดีกว่า และได้อรรถรสกว่าเยอะครับ
ผมเดามานานแล้วว่าอัตราการเผาผลาญอาหาร (metabolic rate) นี้เป็นผลโดยตรงกับอัตราความเครียด ถ้ามนุษย์เราเครียดจากการคิดฟุ้งซ่านมากไป การเผลาผลาญจะมาก และทำให้หิวเร็ว แต่พอจิตสงบสบาย ก็เผลาผลาญน้อย เป็นเงาตามตัว
ท่านพุทธทาสภิกขุฉันมื้อเดียว และมื้อละสามช้อนอีกต่างหาก แต่กลับอ้วนนะครับ
บาท่านเข้าคอร์สนี้แล้วจิตใจคงโปร่งเบาสบายแหละครับ ผมว่า
เรื่องโภชนาบำบัดนี้ตัวผมเองสนใจมานานมากแล้ว เนื้อสัตว์นั้นกินดีๆ มันก็มีประโยชน์เหมือนกันนะครับ
finally,you’re back.how come takes so long.
เรื่องอาหาร กำลังหาจุดพอดีอยู่ครับ แต่การลดเนื้อ พบข้อดีมากมาย