อยู่บ้านนาใครว่าไม่ดี
ตื่นมาย่ำรุ่ง ได้ยินเสียงไก่ขันคร๊อกๆแคร๊กๆไม่แจ่มใสเหมือนทุกวัน สงสัยพวกละเมอตื่นมาขัน หรือพวกไก่กระทงหัดขันก็ไม่รู้ นึกไปไกลถึงคนที่นอนคุดคู้อยู่ที่ไกลโพ้น จะฝันหวานหรือฝันเปรี้ยวหวานหนอคนดี ตื่นมาพรุ่งนี้อย่าลืมเดินไปอาบแดดอุ่น ให้ผิวผ่องได้รับวิตามินดีบ้างนะ จะได้สดชื่นชวนให้หน้าแฉล้มแจ่มใส
ถ้าจำเป็นต้องการสวยเป็นพิเศษก็แต่งหน้าบ้าง
แต่ถ้าอยู่เบาๆสบาย ปัดแป้งนิดหน่อยแต่งด้วยรอยยิ้มก็พอแล้ว
ใครนะพูด..คนจะสวยใช่สวยที่ใบหน้า
พูดให้ตายก็ไม่สำเร็จหรอก
หน้าตาเป็นใบโฆษณาประจำตัว
เอาให้ดูดีไว้ก่อนนะใช่แล้ว
ถ้าผสมผสานกับความยินดีจากข้างในจะทำให้ใบหน้าหวานชื่น
น่าเห็นใจคนบางกอก..ที่ต้องบริหารเวลาเผื่อรถติด จึงต้องทอนเวลาที่จะทำอะไรๆหดหายไปเยอะ จะเดินทอดน่องชมรอบบ้านเช้าๆยังยากเลย จะแต่งตัวสบายๆก็ไม่ได้อีก เสียเวลาแต่งกายาและหน้าตาไปมิใช่น้อย มันเป็นไฟล์บังคับยังไงไม่รู้น๊ะ ในเมื่อเราชอบเราเลือกภาพตัวเองเทรดนี้ ก็ต้องรักษาเอกลักษณ์ไว้ตลอดไป เว้นแต่บางคนที่ชอบเปลี่ยนแปลง อาจจะยุ่งอยู่กับทรงผมสีผมเครื่องประดับผม กิ๊บเก๋พอปลึ้มอกปลึ้มใจ ใช้เวลาสิ้นเปลืองไปกับเรื่องตัวเองจนเคยชิน
เรื่องของข้าใครอย่าแตะ
เออสินะ ไม่มีเรื่องอื่นหรือไงไปแหย่รังแตนเช้าๆ
§ ที่เกริ่นนำอย่างนี้
ก็เพื่อจะนำเข้าไปสู่การชนวนโต้วาทีนะสิเธอ
ซึ่งน่าจะเป็นวิธีสนุกๆในการหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง
คุณเป็นคนกรุงใช่ไหม
ลองบอกหน่อยสิว่า..อยู่ในกรง เอ๊ย! อยู่ในกรุงดีอย่างไร?
ผมคนบ้านทุ่งก็จะบอกว่า..อยู่บ้านนอกดีอย่างไร?
การที่ไม่เห็นข้อมูลแวดล้อม ไม่ใคร่ครวญให้ดี
ทำให้คนบ้านทุ่งมุ่งสู่กรุงจนบางกอกแทบแตก
จึงหาวิธีย้อนศรดีกว่า
Ø ปล่อยให้คนบ้านนอกเข้ากรุง
Ø ผมชวนคนกรุงออกบ้านนอก..ดีกว่า ?
Ø บ้านนอกวันนี้..เหมาะกับคนกรุงมาก
Ø คนที่จะอยู่บ้านนอกได้ดีมีความสุข คือคนที่มีความรู้
Ø คนมีความรู้..จะใครเสียอีกละ..ก็พวกคุณนั่นแหละ
Ø มาไม่มาขึ้นอยู่กับวาสนา..และ ความตั้งใจ
Ø ตั้งใจดีไม่มีขาดทุน
Ø เอ๊ะ น่าจัดวงสนาทนาจิบน้ำชาหัวข้อนี้นะครับพระอาจารย์วรภัทร
· อยู่บ้านทุ่งไปไหนสะดวก รถไม่ติด รถไม่ต้องคลานไปเหมือนหนอนทีละกระดึบๆ นอกจากจะสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและเวลาแล้ว ยังเครียดตอนไปนั่งกัดฟันกรอดๆรอไฟเขียวไฟแดง อ้อมีหลายเขียวหลายแดงมากเหลือเกิน อยู่บ้านทุ่งมีไฟสีเขียวสีเดียว ไปไหนก็ฉะลุย ไม่หน้ามุ่ยหน้าดำหน้าแดงเหมือนคนกรุง
มิน่าละ..ต้องแต่หน้าแต่งตาทาปาก เพราะอารมณ์มึนตึงนี่เอง
· อยู่บ้านทุ่งอากาศดี ไม่มีมลพิษมลภาวะ หายใจเต็มปอด น้ำฝนหล่นมาปล่อยให้ชะล้างฝุ่นแล้ว น้ำฝนยังรองใส่ตุ่มต้มดื่มได้ปลอดภัย ไปไหนก็ประหยัด ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าห้องสุขา มองหาที่ลับตาตามพุ่มไม้ก็แอ่นได้เลย
เป็นการเติมปุ๋ยยูเรียให้ต้นไม้แบบชิวๆ
· อยู่บ้านทุ่งอาหารการกินปลอดภัย
อาหารตามร้านในบางกอกดูดีน่าเจี๊ยะ แต่เราไม่รู้ว่าปรุงมายังไงใส่อะไรบ้าง จะไปจู้จี้ถามมีหวังโดนตะเพิด ต้องจำยอมกล้ำกลืนไปอย่าคิดมาก เจ็บป่วยเมื่อไหร่ค่อยไปว่ากันวันข้างหน้า รับประทานอาหารหรือรับสารพิษก็ไม่รู้ อยู่บ้านเรา มีที่ทางปลูกผัก จะเอาให้อวบกรอบยังไงก็ได้ เด็ดมาผัดกระทะร้อนควันโฉ่หอมฟุ้ง ขนาดพยาธิยังน้ำลายไหล
คนบางกอกถึงมีลิ้นเป็นพลาสติกยังไงละ
· อยู่บ้านทุ่งทำตัวสบายๆ ไม่ต้องแต่งกายประหลาดก่อนออกจากเคหา นุ่งผ้าสะโสร่งปะแป้งเดินแกว่งแขนยังได้เลย คนบางกอกทำยังงั้นไม่ได้หรอก อยู่เมืองร้อนแท้ๆยังแห่กันแต่งสูท ผูกเชือกจูงคอ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องสุขา ห้องทำงาน ห้องประชุมต้องติดแอร์ เพราะคนกรุงแต่งตัวเหมือนคนอยู่เมืองหนาว ร้อนแทบตายก็เลียนแบบให้มันดูเหมือนหนาวเข้าไว้ หลอกกระทั่งตัวเอง จ่ายค่าเสื้อผ้า ค่าความเย็น ไม่รู้ในหัวกะโหลกมีความรู้ความคิดอะไรบ้าง ถ้าจะเปิดแอร์หน้าร้อนบ้างก็เห็นควร แต่นี่เคยชินเสียแล้ว ไม่เปิดแอร์นอนฝันไม่สะดวก เฮ้อ!
กับอีแค่แต่งตัวก็มีผลให้ต้องจ่าย ค่าแอร์ ค่าโง่ บานเบอะ
· อยู่บ้านทุ่งก็มีความพร้อมนะ ไฟฟ้าก็มี โทรทัศน์โทรศัพท์เข้าถึงทุกท้องถิ่น อินเตอร์เน็ทก็มาแล้ว จะค้นคว้าจะเรียนรู้อะไรก็ทำได้สะดวกเท่าคนกรุง อาจจะช้าไปบ้าง อีกหน่อย 3G. 4G. 5G. ก็มาแล้ว จะเอาอะไรอีกละ จะต้องงกๆไปทำงานเหมือนบ้าหอบฟาง
ไม่ทำนาแต่ไปบ้าหอบฟางทำไมละน้อง
· อยู่บ้านทุ่งก็มีงานมีรายได้มีอนาคต เพียงแต่เปลี่ยนจากการหางานทำ มาเป็นคนสร้างงาน ซึ่งก็ไม่อยากหรอก เปิดกิจการส่วนครอบครัว ใครชอบด้านไหนก็ทำด้านนั้น ไม่ต้องไปฝืนใจให้เขาชี้นิ้วสั่งให้ทำนั่นทำนี่ โจทย์ง่ายๆ ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ปลูกสมุนไพร ปลูกต้นไม้ ทุกอย่างค่อยๆโตขึ้นๆ ให้หมากผลมากขึ้น เอาความรู้เรื่องการแปรูป การตลาดเข้าไปจัดการ ผลิตอาหารคุณภาพดีๆ ทำไมจะอยู่ไม่ได้ แถมยังกินเอง ปลอดภัยเองไว้ก่อน
ถามว่าจะมีรายได้แน่นอนไหม มากไหม มั่นคงไหม โธ่ ! มันขึ้นกับความขยันความสามารถของเราเอง ทำให้ตัวเองยังจะอู้ทำไม่ละ ทำดีมันต้องออกมาดี เพียงแต่เราไม่เคยสัมผัสกระบวนการนี้ จึงดูเหมือนยุ่งยาก ไปทำโอให้เจ้านายมานานแล้ว ลองมาทำโอให้ตัวเองบ้างสิ
· คิดล่วงหน้าแบบปอดกระเส่า ก็เหมือนผีเข้าตลอดชีวิต
· เกิดในแผ่นดินทอง จะต้องกลัวอะไร
· เลี้ยงแพะมันก็ออกลูกเป็นแพะ
· ปลายังเข้าไปอยู่ในกระป๋องได้
· เธอออกมาเที่ยวบ้านทุ่ง..ง่ายกว่าปลาเยอะเลย
Ø ไม่กล้า ร้อยไม่กล้า พันไม่กล้า
Ø อันนี้เข้าใจได้ ..ตราบใดที่เธอยังไม่ได้มา
Ø นอนจิบน้ำชาใบสะระแหน่ที่มหาชีวาลัยอีสาน
Ø สถานที่ ปรุงยาขมหม้อใหญ่ เพื่อรักษาใจคนบางกอก
Ø ไม่เฉพาะที่โดนหักอก..จากเรื่องรักๆหลอกๆกันเท่านั้น
Ø อกหักเพราะสังคม..ก็รับพิจารณา
Ø อย่าลืม..จองบัตรคิวก็แล้วกัน
มาถึง..จะขอดูลายมือก่อน..
ดูว่าลายแทงแห่งโชคชะตาประมาณไหน
เป็นนักสู้ชีวิต หรือนักชีวิตไม่สู้
ไม่มีนักสู้คนไหนไม่เคยตกม้าหรอกนะเธอ..
เพียงแต่ไม่ตกม้าตายเหมือนมือสมัครเล่นเท่านั้นเอง
§ ผมน่ะ..สงสารคนบางกอกเป็นบ้า
§ ไม่งั้นไม่บ้าตื่นมารำพึงรำพันนี่หร๊อก จิบอกไห่
2 ความคิดเห็น
ชอบอ่ะ เห็นด้วยเลยค่ะพ่อ ถ้าเราอยากให้ข้างนอกเจริญเก๊าะเอาคนมีความรู้มาอยู่สิ จะไปห้ามคนเข้าไปทำหยัง
ลองออกมาอยู่ มาทำมาหากิน มาตั้งหลักแหล่ง มาสร้างงานข้างนอกกันบ้างสิคะ อาละวาดอยู่ข้างในจะทำอะไรได้?
ชีวิตจะมีชีวาได้จั๋งได กะอีแค่มีบ้านตากอากาศ เพื่อออกมาปีละครั้ง หรือบ้านใหญ่โต แต่ส่วนมากผู้ดูแลบ้านเป็นคนอยู่มากกว่าเจ้าของ มีไว้ทำไม? อิอิอิ
อ่านของพ่อครูเสร็จ สงสารตัวเองและคนกรุงจัง ( ผมคนบ้านนอก มาอาศัยกรุง )ตอนนี้คิดได้แล้ว เพราะพระเจ้่าอยู่หัวคือต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง และพ่อครูคือต้นแบบในการปลูกป่า พยายามก้าวทีละขั้น ทำทีละอย่าง ตามแบบฉบับพ่อและปราชญ์ทุกท่าน ขอบคุณพ่อครูอย่างมากที่กรุณาผม ขอบคุณครับ