จดหมายถึงอี่นางน้อย
อี่นางเอ๊ย หมู่นี้โลกมันป่วนขึ้นทุกวัน คนมากขึ้นปัญหาก็มากขึ้น แต่ละคนมีปากท้อง มีจริต มีกิเลศติดตัวมากันทั้งนั้น บางคนก็ทำดี๊ดี ทำให้โลกสดสวยมีชีวิตชีวา พากันสร้างสรรค์ชวนกันทำสิ่งดีงามให้เกิดความงดงามไฉไล บางคนก็ทำเรื่องหวือหวาอ้าซ่าไปตามความสนุก สนองครรลองความหลากหลายของสังคม มนุษย์ยุคนี้ิ้ดิ้นรนกระเสือกกระสนกันเหลือเกิน สุขบ้างทุกข์บ้างคละเคล้ากันไป ตามวิถีของมนุษย์ที่เป็นตัวการทำให้โลกใบนี้เปลี่ยนแปลง
อี่นาง มองดูต้นไม้สิ
มันคงเส้นคงว่า..มีมาตรฐาน
ได้น้ำได้ฝนต้นเติบโตขึ้น
แตกกิ่งก้านสาขา
ปลดปล่อยใบแก่ลงมาเป็นปุ๋ย
แตกยอดใหม่ ใบใหม่ ออกดอกออกผล
ผลแก่ร่วงหล่นลงมาเป็นต้นอ่อนขยายเผ่าพันธุ์
ไม่ได้วุ่นวายเหมือนสังคมมนุษย์
ซื่อสัตว์ ซื่อตรง สม่ำเสมอ
อี่นางเคยเห็น..มะม่วงออกเป็นแป๊บซี่ไหมละ..
กลุ่มเรื่องพวกนี้แหละที่น่าจะจัดอยู่ในชุดความรู้ที่อยู่ในธรรมชาติ
ชุดความรู้ในธรรมชาติสำคัญตรงไหน ถ้าใครเรียนรู้ก็จะอยู่กับธรรมชาติได้อย่างสุขสบาย เพราะรู้วิธีที่จะอยู่กับกลุ่มความรู้ที่ยิ่งใหญ่ ถ้านำมาใช้ทำกิจกรรมงานอาชีพในเบื้องต้น แล้วพัฒนาเป็นกิจการขยายตัวออกไป ก็จะไปโลด การที่อี่นางเรียนวิชาการต่างๆในสถาบันการศึกษานั้นนับว่าดีแล้ว ถ้าเอาความรู้ในตำรา มาบวกกับความรู้ในธรรมชาติ
วิชา+อาชีพ = วิชาชีพ = มืออาชีพ
ถ้าอี่นางจับจุดตรงนี้ได้
ก็จะมีความรู้เพียงพอที่จะวางตัวเองลงตรงจุดไหนก็ได้
ถ้ากลับมาอยู่บ้านเฮา..ก็มีความคิดความอ่านที่จะช่วยติดเครื่องความล้าหลัง
รู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
การงานอาชีพของพ่อแม่ก็จะได้รับการยกเครื่องให้ถูกทิศถูกทาง
พออี่นางและเพื่อนๆไม่เอาความรู้กลับมาบ้านเฮา
แถมยังมองเห็นภาพเก่าของอีสานว่ามันหนัก-เหนื่อย-ไม่ทันกิน-ไม่ทันสมัย
ถ้าใครพูดถึงเรื่องนี้..อี่นางก็สะดุ้ง นึกว่าโดนต่อว่า
เรื่องวิถีชีวิตของต่อและคนไม่มีใครว่าใครได้หรอก
ทางใครก็ทางมัน ทุกชีวิตย่อมมีเหตุผลในการเลือกเดิน
เพียงแต่อยากจะบอกว่า..ทุกวิชาชีพมันพัฒนาการได้
มองใหม่ได้
โดยเฉพาะคนที่ตกอยู่ในสภาพ..หมาหลงอยู่บนทางด่วน
อี่นางเอ๊ย..รัฐบาลเขาลงทุนพัฒนาอีสานจนเพียบพร้อม
ยังขาดก็แต่ยังไม่มีสยามพาราก้อน
แค่ออกมานั่งอาบแดดอุ่นๆยามเช้า
ฟังเสียงนกเขาคันคู ตัวเจ้าชู้มากก็โก่งคอคูเสียงรำพัน
มีกาแฟหอมๆอุ่นๆในมือสักถ้วย
มีผ้าพันคอป้องกันให้ส่วนบนอบอุ่น
มีคนรู้ใจนั่งข้างๆ
มีวันผ่อนคลายสบายๆ..ไม่เป็นหนูถีบจักร
อี่นางเอ๊ย ..อีสานบ้านเฮาไปไหนก็สะดวกสบาย
ไม่ต้องไปติดไฟเขียว-ไฟแดงให้เครียด
ไม่ต้องไปนั่งสูดควันพิษตะกั่วจากท่อไอเสีย
ไม่ต้องตกอยู่ท่ามกลางสารพิษ ทั้งพิษภายนอกพิษภายใน
ไม่ตกอยู่ในวังวนของคนที่ต่อสู้กับอะไรก็ไม่รู้
ไม่ติดอยู่กับแสงสีความสะดวกสบายเสมือนจริง
อยู่อีสานบ้านเฮาจะพัฒนาให้บรรเจิดเลิศวิไลยังไงก็ได้
หนาวนี้ จะก่อไฟผิง จะทำเตาผิง จะทำฮีตเตอร์ ก็ได้ทั้งนั้น
หรือจะประหยัด..แค่กอดกันก็อุ่นแล้ว..
เจ้าเคยกลับมากอดพ่อกอดแม่กอดน้องนุ่งบ้างไหม
หรือดีแต่ไปให้เขากอด
ชีวิตหนอชีวิต
ถ้าคิดไม่ได้ทำไม่ถูกมันก็เหมือนว่าว
ฉวัดเฉวียนตามแรงลมไม่นิ่ง ไม่สงบ
ถูกอะไรกำกับและบังคับไว้ก็ไม่รู้
เงินดิน กับ เงินเดือน มันไม่แพ้กันหรอกนะนาง
บริษัทซีพีก็หากินกับภาคการเกษตรนี้แหละ
ทุกครอบครัวพึ่งพาเขามากขึ้น
ทุกคราที่เข้าเซเว่น..อี่นางไม่เฉลียวใจบ้างเลยหรือ
ทำงานง๊อกๆเป็นมนุษย์เงินเดือนก็เพื่อจะเอามาซื้อของอยู่ของกินนี่แหละ
ทำไมไม่เอาวิชาความรู้มาปลูกมาพัฒนากระบวนการเงินดิน
ให้หลุดพ้นจากความล้าหลัง ให้เห็นหน้าเห็นหลัง
กลับมาปลูกกล้วยหอมสัก 1,000 ต้น เลี้ยงแพะนมสัก 50 ตัว
แค่นี้ก็มีงานทำให้หัวปักหัวปำแล้ว
ที่ผ่านมาอี่นางวิ่งหางานทำ ไม่ได้ใช้วิธีสร้างงาน
ถ้าเธอเรียนรู้วิธีสร้างงาน ใครละจะตกงาน
เธอจะมีงานทำตามที่ชอบเยอะแยะ
เพียงแต่เธอเป็นคนสู้ชีวิต
สู้ๆๆ..ยังไม่เห็นใครตายเพราะงานที่ว่านี้
เรื่องรายได้ไม่ต้องห่วง..
ถ้างานดี คุณภาพดี เงินจะไปไหนเสีย
หาเงินนั้นของกระจอก
เจ้าเรียนวิชาการจัดการความรู้
วิชาที่จะเอา ความรู้อะไร-ใส่ลงไปในอะไร-เพื่อให้เกิดมูลค่าอย่างไร
หรือ..ถ้าอาศัยธรรมชาติช่วย
เงินก็จะเติบโตตลอดเวลาเหมือนกับดอกเบี้ยธนาคารนั่นแหละ
ปลูกต้นไม้ ต้นไม้ก็โตขึ้นๆ ไม่มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์หรอกนะ
การเติบโตของสรรพสิ่งที่ปลูกมีมูลค่าและมูลค่ามหาศาลขึ้นทุกวัน
เพียงแค่มันเป็นเหมือนน้ำซึมบ่อทราย
เป็นเหมือนไข่ห่านทองคำ
พวกเจ้าละเลยถิ่นเกิดไปอย่างน่าเสียดาย
ปล่อยให้พ่อแม่พี่น้องกระเสือกกระสน
ทนดูคนนอกมากระทำกับย่ำยีเอาเปรียบคนอีสานอย่างเลือดเย็น
พ่อแม่เจ้าโดนเขาหลอก…..ให้ขายควาย4ตัวไปซื้อควายเหล็กมาไถนา
ถามว่า..พ่อทำไมทำอย่างนี้
พ่อแก่แล้ว..ลูกเต้าไม่มีใครมาช่วยเลี้ยงควาย
ไถควายเหล็กมันกระแทกหน้าอก มันฟัดเหวี่ยงจนพ่อระบม
เจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลก็ไม่หาย
วันนี้ตัดสินใจขายควายเข้าโรงงาน
แล้วพ่อก็ตามมันไปอยู่โรงงาน
ควายเป็น ลูกชิ้น! แล้วพ่อจะเป็นลูกอะไร?
ความหวังดีของพ่อแม่เจ้านั้นมหาศาลนัก
อยากให้เจ้าก้าวหน้าสะดวกสบาย
ไปคนเจ้าคนนายคน
ได้ดีแล้วเผื่อจะกลับมาดูแลบ้านเกิดบ้าง
อี่นางเอ๊ย..เจ้ารักอีสานแต่ปาก แต่คิด..
ทำแค่พูดว่า..รักอีสาน
เจ้ารักแบบไหน รักแค่ไหน รักอย่างไร
รึจะรอ มาสมัครทำงานที่คอมเพล็กซ์กาสิโนทุ่งกุลา
เอาไปคิดดูนะอี่นางเอ๊ยยย
ศักยภาพของเจ้ายังทำอะไรๆให้อีสานมากนัก
มากกว่าจะไปเป็นขี่ข้าคนอื่นจนตาย..
รักอีสาน..ต้ อ ง ล ง มื อ ทำ ไม่ใช่พูด
วันใดที่เจ้ากลับมากอดอีสาน
วันนั้น อี ส า น จ ะ ไ ช โ ย ..
« « Prev : เรื่องดีๆ
ความคิดเห็นสำหรับ "จดหมายถึงอี่นางน้อย"