ฉุกคิด! ฉุกคลิ๊ก!
ก่อนฝนตกใหญ่..ฝูงมดแก้ปัญหาอย่างไร อ พ ย พ กั น ไ ป ที่ ไ ห น มีใครแนะนำ มีใครวางแผน เนื่องจากสังคมมดเป็นแบบไปไหนไปด้วยกัน อพยพแบบยกโขยง ทำ ไ ม เ ลื อ ก ข น ไ ข่ ไ ป ด้ ว ย ทำ ไ ม ไ ม่ ห นี ไ ป แ ต่ ตั ว แล้วค่อยไปอออกไข่เอาใหม่ มดไม่สมบัติใดๆให้ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เมื่อลูกพี่สั่งย้าย ทุกคนก็บ่ายหน้าเดินทางอย่างเป็นระเบียบแข็งขัน ที่สำคัญก็คือกองทัพมดเหล่านี้ อพยพก่อนที่ภัยจะมาถึง ทำไมมดจึงมีระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เทคโนโลยีของมนุษย์ยังด้อยกว่าของมดมากนัก
ยังมีมดบางประเภทที่ไม่เดือดร้อนกับน้ำท่วม
เพราะไปทำรังอยู่บนต้นไม้
จะลำบากบ้างตอนที่มีลมกระโชกแรง
มดแดงเป็นมดที่สุภาพสตรีทั่วโลกอิจฉา
เพราะเอวมาตรฐาน เคยเห็นมดแดงตัวไหนลงพุงไหมละครับ
จุดเด่น >> อพยพล่วงหน้า ยกโขยงขนไข่ไปด้วย รู้จุดที่ปลอดภัยไปอาศัยพักพิง ถึงจะมีคำพังเพย น้ำมาปลากินมด น้ำลดมดกินปลา แสดงว่ามดบางกลุ่มที่อาศัยอยู่ในที่ราบลุ่มกว้างใหญ่ น้ำท่วมมาก็หนีขึ้นต้นไม้ใบหญ้า แต่ก็คงจะมีบางตัวที่ถูกลมพัด หรือหนีไม่ทัน มดตัวเบาลอยน้ำได้ จึงตกเป็นเหยื่อของปลา ตัวที่ลอยไปเกาะต้นไม้รอดชีวิต น้ำลดก็จะมาเอาคืนปลาที่แถกตายค้างโคก
ก่อนน้ำท่วมพื้น ไส้เดือน ตะขาบ กิ้งกือ รู้ตัวล่วงหน้าก่อนไหม มี ศู น ย์ เ ตื อ น ภั ย ห รื อ ร ะ บ บ เ ตื อ น ภั ย ห รื อ เ ป ล่ า ท่านยึกยือเหล่านี้หนีภัยน้ำท่วมอย่างไร ก็คงมีบ้างที่ประสบเคราะห์กรรม ส่วนใหญ่เราจะเห็นวิธีเอาตัวรอด อ พ ย พ ไ ป แ ต่ ตั ว แบบตัวใครตัวมัน ไม่ห่วงใยญาติโกโหติกาใดๆ ทุกท่านตกลงกันว่าต่างตัวต่างไป ถ้าพ้นภัยค่อยมาจี๋จ๋ากันใหม่ แพร่สายพันธุ์ให้อยู่ยงคงกระพันกันต่อไป
จุดเด่น >> ตระกูลท่านยึกยือจะอพยพแบบตัวใครตัวมัน มีกติกาว่า..ถ้าแยกกันหนีน่าจะสะดวกและไปได้เร็ว แต่ก็สังเกตเห็นว่า..สัตว์ที่อาศัยอยู่ในพื้นต่ำผิวดินเหล่านี้ จะมีรหัสพิเศษ มักจะหนีไปหาที่ปลอดภัย ไม่มีตัวไหนลังเลแม้แต่นิดเดียว ตัดสินใจเด็ดขาด ไม่สงสัยในระบบสื่อสารกับธรรมชาติ กลุ่มยึกยือโผล่ออกมาจากหลุม พากันวิ่ง ดิ้นกระแด่วคลืบคลานไปยังทิศทางที่ปลอดภัย แปลกแท้ๆทั้งที่ ไม่ มี ตา ม อ ง ไ ม่ เ ห็ น แต่ไส้เดือนก็เดินไปยังทิศทางที่เหมาะสม ไม่ต้องอาศัยโทรศัพท์ โทรทัศน์ ป้ายชี้บอกทิศ ระบบในตัวมีประสิทธิภาพอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นความรู้ที่พอเพียง พึ่งตนเองได้ในยามวิกฤติจริงๆ
ก่อนฝนท่วมใหญ่จะมาถึง ปลาหมอท้องแก่ที่อั้นไว้นานเต็มที วันที่อากาศจะร้อนจัด ท้องฟ้าแดดเปรี้ยง เค้าเมฆทะมึนมาแต่ไกล ท่านเชื่อไหมครับ แ ม่ ป ล า ห ม อ จ ะ พ า ก า ร ดิ้ น ก ร ะ แ ด่ ว ๆ ขึ้ น จ า ก ห น อ ง น้ำ ผ่านพื้นที่แห้งผากร้อนระอุตอนกลางวันนี่แหละ ทุกตัวตรงไปยังแม่น้ำ มากันเป็นฝูงเลยนะ แปลกแท้ๆ ป ล า ห ม อ รู้ ไ ด้ อ ย่ า ง ไ ร ว่ า จ ะ ต้ อ ง ไ ป ยั ง ทิ ศ ไ ห น รู้ระยะทางได้อย่างไร ก่อนหน้านั้นทำไมไม่พากันอพยพไปก่อน ทำไมต้องรอเดินทางในสภาพที่ไม่พร้อมเช่นนี้
จุดเด่น >> ปลาที่จับได้มีไข่เต็มท้อง เราไม่ค่อยเจอปลาเพศผู้อพยพในลักษณะนี้ หรือปลาตัวผู้หลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว ปลาท้องแก่ น่าจะอุ้ยอ้ายกว่าปลาท้องว่าง แสดงว่าการอพยพแบบมีไข่ในท้องคงมีเหตุผลที่เราไม่รู้ เหมือนกับมดขนไข่ ทำไมไม่ไปไข่เอาใหม่ ที่สังเกตเห็นอีกเรื่องหนึ่ง ปลาจะอพยพตอนหัวลมหนาวมาครั้งแรกๆ ปลาที่อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำขนาดเล็ก คงรู้ตัวว่าน้ำจะเหือดแห้ง จึงตัดสินใจอพยพไปหาแหล่งน้ำใหม่ ปลาอาศัยกลิ่นจากแห่งน้ำใหญ่เป็นเครื่องบอกทิศ จึงกระโดดขึ้นจากแอ่งน้ำเหือดยามค่ำคืน ดิ้นกระแด่วไปยังทิศแม่น้ำ ชาวนาจับเคล็ดลับนี้ได้ พากันไปขุดหลุมลึกประมาณ1ศอก ดักหน้ามุมที่ปลาจะขึ้น แล้วไปดำน้ำเอาโคลนจากแม่น้ำที่อยู่ใกล้เคียงมาลูบปากหลุมที่ขุดไว้ ปลาได้กลิ่นก็พากันออกเดินไปตกหลุมนอนกองกัน ปลาที่เข้าเครื่องมือดักปลารูปแบบต่างๆ ล้วนมีความรู้ไม่พอใช้ ทำให้แพ้ภัยมนุษย์ขี้โกง
ก่อนฝนท่วมใหญ่ ปลวกที่อาศัยอยู่ใต้ดิน จะมีวิธีอุดรูภายในรังหรือเปล่าผมก็ไม่ทราบได้ สังเกตเห็นว่า จอมปลวกบางแห่งก็ยังอยู่เย็นเป็นสุขต่อมาได้ แสดงว่าในระหว่างที่น้ำท่วมผิวติน ระบบดินใต้น้ำไม่อันตรายต่อปลวกมากนัก ถ้าน้ำไม่ท่วมถาวรปลวกก็ยังพอประคองตัวอยู่ได้ ยังมีปลวกบางชนิดจะอพยพขึ้นไปอาศัยอยู่บนต้นไม้ ไปทำรังเป็นก้อนกลมๆสีดำอยู่ตามคาคบต้นไม้ กลายเป็นปลวกที่ปลอดภัยกว่าประเภทอื่น ถ้าเปรียบกับนุษย์คงจะเทียบได้กับพวกที่อาศัยอยู่บนคอนโดกระมัง
จุดเด่น >> ปลวกเหมือนกัน แต่มีวิธีแก้ปัญหาไม่เหมือนกัน วิทยาการของปลวกมีหลากหลาย อยู่ที่สายพันธุ์ไหนจะเลือกฝึกฝนทักษะให้เหมาะสมกับชาติพันธุ์ของตนเอง เรื่องนี้สังคมมนุษย์ก็คล้ายๆกับปลวก ประเทศฮอลแลนด์อยู่ในระดับต่ำกว่าน้ำทะเล ก็มีวิธีต่อสู้กับสภาพแวดล้อม ณ ที่ตรงนั้น ฟิลิปปินส์เจอมรสุม ไต้ฝุ่น ทั้งปีทั้งชาติ ก็มีชุดความรู้สู้ภัยพิบัติของเขาเอง ประเทศญึ่ปุ่นประเทศอินโดนีเซียตั้งอยู่บนรอยเลื่อนไหลของเปลือกโลก จึงเจอแผ่นดินไหวอยู่เนืองๆ งานด้านปกป้องภัยพิบัติจึงเป็นวาระแห่งชาติ เขาไม่เอาเวลามีค่าของสังคม มาทำเรื่องแยกค่ายแยกสีตีกันเผาบ้านเมืองเหมือนพวกสิ้นคิดในบางประเทศ ยามประเทศเกิดภัยพิบัติจึงไม่มีระบบอะไรมาบริหารจัดการภัยพิบัติ
ถ้าเราเรียนรู้จากสัตว์หลายๆประเภท
เราจะเห็นระบบชีวิตและสังคมที่น่าทึ่งในเหตุผลของการพึ่งตนเอง
ซึ่งต่างจากมนุษย์เราที่อ้างว่าฉลาดมีความรู้ มีทรัพย์สมบัติ
ยามเกิดภัยพิบัติเราจะเห็นวิธีแก้ปัญหาของมนุษย์อย่างน่าเวทนา
ที่อ้างว่าเจริญและมีความสมบูรณ์พูนสุขเป็นแค่ภาพลวงตาที่เปราะบาง
โครงสร้างสังคมของมนุษย์ยังห่างชั้นสังคมของสัตว์ตัวเล็กๆมากนัก
โดยภาพรวม มนุษย์ยังไม่มีความรู้ที่สะอาดพอจะมาชำระจิตใจกระดำกระด่าง..
จ๋อม จ๋อม จ่อม >>
3 ความคิดเห็น
คนเสียสัญชาตญาณแบบนี้ไปเมื่อเริ่มมีความสบายมากเกินไปหรือเปล่านะคะ
คนเมื่อก่อนจะสร้างบ้านแปงเมือง เขาคงใช้สัญชาตญาณด้วยหรือเปล่านะคะ แถมยังเอื้อเฟื้อตั้งชื่อสถานที่ให้เป็นแนวกับคนอื่น อย่างที่เคยเขียนในบันทึกของพี่บางทรายว่า ชื่อหมุ่บ้านแบบเดิมๆ จะตรงไปตรงมาตามสภาพธรรมชาติ อย่างชื่อดอนมูล สันทราย หล่มเก่า หนองจอก หนองงูเห่า
หลังน้ำท่วมคราวนี้ ต้องสอนเสริมให้กับเด็กๆ เรียนรู้การสังเกตธรรมชาติมากขึ้นนะคะ
อุ้ยนี่สุดยอดจริงๆ สอนให้รู้และเข้าใจสภาพบ้านเมือง สังคม เป็นต้นทุนของนักศึกษา อิ
ขอตัดตอนเฉพาะเรื่องปลวกนะครับ
บ้านผมเป็นดินถม แน่นอนเอาปลวกมาด้วย อายุบ้านเท่าเกือบสามสิบปี เราเสียค่าดูแลปลวกไป 5 ครั้ง น่าจะประมาณ 4-5 หมื่นบาทแล้ว ปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่
ผมศึกษาว่ามีวิธีที่ไม่ใช้สารเคมีไหม ก็เอาแบบภูมิปัญญาบ้าน ทั้ง น้ำส้มควันไม้ น้ำส้ม น้ำหมักของกลอยป่า เกลือเข้มข้น ฯ เอาไม่อยู่ครับ ค้นจากคอมพบว่าบริษัทที่กำลังโษณาทุกวันนนี้คือ นาโนไวท์ บอกว่าเป็นสมุนไพรจากอิสราเอล ไม่หายคืนเงิน ราคาทำที่บ้านผม 1 หมื่นกว่าบาท เอาแพงก็เอาเพราะเป็นสมุนไพร และคุยว่าไม่หายคืนเงิน ทำได้ สามเดือน ปลวกมันออกลูกออกหลานเต็มพื้นปาเก้ชั้นบนเลย ต้องเลาะปาเก้ทิ้งหมด เอากระเบื้อง ซีแพค มาปูหมดเงินไปอีก…. ถามว่าจะเคลมเงินจากนาโนไวท์ได้ไหม ราคาคุยมากกว่าที่มันโฆษณาน่ะ มันหายหัวไปเลย ผมไม่อยากเอาเรื่องปล่อยหมามันไป แค่บอกเพื่อนบ้านว่า ไม่ว่าบริษัทไหน อย่าไปเชื่อมัน
เอ…มนุษย์ตัวใหญ่ เรียนมาก็เยอะ ทำงานมาก็เยอะ แต่ไม่ชนะปลวกตัวนิดเดียวได้
หรือว่าจะอยู่กับปลวกมันซะเลย อิอิ