จดหมายด่วน

โดย sutthinun เมื่อ 30 สิงหาคม 2011 เวลา 14:38 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1449

มหาชีวาลัยอีสาน

34 บ้านปากช่อง ตำบลสนามชัย

อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ 31150

30 สิงหาคม 2554

เรื่อง ขอความความเมตตาเขียนคำนิยมในหนังสือ”โมเดลบุรีรัมย์”

กราบเรียน อาจารย์สุเมธ ตันติเวชกุล ที่เคารพอย่างสูง

สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาจากหนังสือพิมพ์มติชน 1 ชิ้น

เนื่องด้วยมหาชีวาลัยอีสาน ได้ทำการศึกษาวิธีเสริมสร้างสภาพแวดล้อมระดับรากหญ้ามาเป็นเวลานาน โดยปลูกไม้นานาชนิด จัดทำแปลงสาธิต แปลงธนาคารแม้ไม้พันธุ์ดี ศึกษาการใช้ประโยชน์ไม้อย่างยั่งยืน โดยมีแนวคิดที่ว่า..ในการปลูกไม้ยืนต้นนั้น ไม่จำเป็นต้องตัดต้นไม้มาใช้เสมอไป ถ้าเราตัดเอาเฉพาะกิ่งใบมาเลี้ยงสัตว์ หรือสับกิ่งไม้ทำปุ๋ยทำเชื้อเพลิง ก็จะเป็นการได้ประโยชน์ที่หลากหลายในระยะสั้น-ระยะกลาง-ระยะยาว กระผมได้ทดลองตัดกิ่งไม้ใบไม้มาสับเลี้ยงโคและแพะในหน้าแล้ง พบว่าสัตว์เลี้ยงอ้วนท้วนสมบูรณ์ดี ช่วยแก้ปัญหาอาหารสัตว์ในช่วงแล้งหรือน้ำท่วมได้อย่างเป็นรูปธรรม ช่วยประหยัดต้นทุนด้านอาหารสัตว์และลดความเสี่ยงความสูญเสียจากภัยพิบัติต่างๆ

การปลูกไม้อะเคเซีย เกษตรกรตัดสางขยายระยะมาใช้งานได้ภายใน8-9 ปี ส่วนไม้ไผ่ตัดลำต้นหมุนเวียนมาใช้งานตั้งแต่ปีที่3เป็นต้นไป ประเด็นนี้ช่วยโน้มน้าวให้เกษตรหันมาปลูกต้นไม้มากขึ้น เพราะประจักษ์ว่าได้ประโยชน์หลากหลายวัตถุประสงค์ และไม่ต้องรอคอยอายุต้นไม้โต30-40ปีดังที่เข้าใจแบบดั่งเดิม กระผมได้ตั้งโรงงานแปรรูปไม้ขนาดเล็ก ทำให้ทราบคุณสมบัติไม้ที่น่าจะเลือกมาส่งเสริม ไม้เหล่านี้ถ้าเพียงแต่เอาเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาช่วย เกษตรกรจะมีช่องทางสร้างงานและเพิ่มรายได้ตลอดปี รวมทั้งเขาเหล่านี้จะเป็นหน่วยบุกเบิกโลกสีเขียวตัวจริงเสียงจริง ทำให้เห็นการพึ่งตนเองจากไม้ที่ปลูก แล้วนำมาทำเครื่องเรือน ก่อสร้างบ้านเรือน ทำเชื้อเพลิง ทำอาหารสัตว์ การพึ่งตัวเองด้านพืชผักและโปรตีนระดับชุมชน

มหาชีวาลัยอีสานได้ผ่านการลองผิดลองถูกมาพอสมควร บัดนี้ได้สกัดความรู้ความถูกต้องและเหมาะสมมาให้เกษตรนำไปใช้ เพื่อจะช่วยให้การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมและวิถีชีวิตเดินหน้าต่อไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ยังมีกรณีตัวอย่าง-การปลูกไม้ติดแผ่นดิน-ปลูกไม้ล้อม-ปลูกผักยืนต้นระบบชิด-ปลูกสมุนไพร ทำให้เกิดงานเกิดรายได้ และฝึกฝนทักษะด้วยปัจจัยและวัตถุดิบจากน้ำพักน้ำแรงตนเอง ผลลัพธ์ที่เกิดในหนังสือเล่มนี้ ได้อธิบายแนวทางพระราชดำริเชิงประจักษ์ โน้มน้าวให้เกษตรกรเข้าใจและใส่ใจที่จะช่วยกันทำนุบำรุงพื้นที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ให้มีต้นทุนธรรมชาติที่เอื้อต่อการพึ่งพาตนเอง สามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์ที่เจริญขึ้นตามลำดับ โดยสภาพแวดล้อมไม่สูญเสียเหมือนการทำเกษตรกรรมเชิงเดี่ยวที่ดูดีภายนอก แต่ภายในเต็มไปด้วยดินพอกหางหมู

ช่วงวันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมา กระผมได้นำเสนอเป็นงานวิจัยไทบ้าน ในงาน”การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2554 มีผู้ฟังให้ความเห็นว่านี่แหละ ”โมเดลบุรีรัมย์” เมื่อมีผู้ฟังตั้งชื่อนี้ให้ก็ถือเอาเป็นชื่อหนังสือที่จะพิมพ์เสียเลย หลังจากกลับจากเสนองานวิจัย2วัน หนังสือพิมพ์มติชนเอาไปทำสรุปข่าว ลงที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของกระผมด้วย ทำให้มีผู้สนใจโทรมาซักถามจากทั่วประเทศ ต้องตอบกันปากเปียกปากแฉะทั้งวัน กระผมตั้งใจจะพิมพ์บทสรุปการค้นคว้าเรื่องนี้อยู่แล้ว ประจวบกับมีเรื่องผู้สนใจเข้ามามาก จึงลงมือเร่งเขียนต้นฉบับเพื่อพิมพ์เป็นหนังสือในเร็วๆนี้

เพื่อเป็นมงคลและกำลังใจให้แก่ลูกหลานชาวมหาชีวาลัยอีสาน กระผมจึงขออนุญาตกราบเรียนท่านอาจารย์ ได้โปรดเมตตาเขียนคำนิยมให้กับหนังสือเล่มนี้ แล้วฝากมากับดร.ศักดิ์พงศ์ หอมหวน จักเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

จึงกราบเรียนมาด้วยความเคารพและศรัทธา

ครูบาสุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

« « Prev : โอ้ น้ำ น้ำ ทะลักท่วมท้นทับอกชาวนา

Next : ยางพาล้า » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

6 ความคิดเห็น


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.19679999351501 sec
Sidebar: 0.34219002723694 sec