เศรษฐกิจพอเพียงสไตล์จีน

โดย sutthinun เมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 8:16 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 9769

บทที่ 2 เศรษฐกิจพอเพียงตำหรับเมืองซัวเถา

(แปลงผักสวนครัวข้างบ้าน)

ดังที่บอกไว้ว่าเมืองจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลนัก การที่จะหยิบเรื่องหนึ่งเรื่องใดมาบอกเป็นเรื่องยาก เอาเป็นว่าเล่าเฉพาะพื้นที่ๆไปพบเห็น ไม่สามารถที่จะเอาไปอธิบายภาพรวมของจีนทั้งหมดได้ เอาแค่จุดเล็ก ๆ ตามที่ตั้งใจไว้ว่าอยากจะไปดู การทำมาหากินภาคการเกษตรของเกษตรกรจีนรายย่อย เขามีกระบวนการทำงานกันอย่างไร จุดที่ไปเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากเมืองซัวเถาประมาณ 80 กิโลเมตรไป 4-5 หมู่บ้าน ชื่อจำยากเขียนยากจึงขอแขวนไว้ เอาสิ่งที่พบมาโม้ก็แล้วกันนะเธอ

(จีนทำเกษตรผสมผสาน ซึ่งแตกต่างจากเกษตรกรรมเชิงเดี่ยว)

10 ปี มานี้ ประเทศเราโหมโรงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ถึงกับชูประเด็นเป็นวาระแห่งชาติ ตีปิ๊บกันสนั่นประชุมกันจนฟั่นเฟือน เสียเวลาตีความว่ามันน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เสียเวลากับการถอดคำถอดรหัสโดยไม่ได้ลงมือทำ หรือทำไปนิดหน่อยๆก็ทึกทักว่า ใช่เลย อย่างนี้แหละเจ๋งที่สุด เอาออกมาอวดมาประชันกัน เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไทยมันจึงอีลุ้บตุ๊บป่อง มองยังไง ๆ มันก็ยังไม่ใช่ ไม่ถึง เพราะมันแสดงออกไม่ได้ว่า พ อ เ พี ย ง ท า ง ด้ า น ค ว า ม รู้ ค ว า ม คิ ด อ ย่ า ง ไ ร แ ค่ ไ ห น  หลวงพ่อชา หลวงพ่อปัญญา หลวงพ่อฯลฯ ท่านอธิบายไว้ตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว ว่าวิถีพุทธนั้นคือหลักการความพอเพียง “พอที่ใจ” “ใจเพียงพอ” ทุกอย่างมันจึงจะพอไปวัดไปวาได้ ไม่ใช่ไปเอากระพี้มาแทนแก่น ถ้าทำมาหากินแล้วกำกับไว้ด้วยความพอดีพองาม ทุกอย่างมันก็จะงดงามได้

พระพรหมคุณาพรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ท่านบอกว่าสถานการสังคมเยี่ยงนี้ รักษาสภาพที่มีอยู่ไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้ได้ก็นับว้่าดีแล้ว ถ้าทางข้างหน้ามันยุ่งเหยิงนักก็พักเอาแรงก่อน ดีกว่าจะเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ไม้ซุงในที่นี้หมายถึงปัญหาและสถานการณ์ของบ้านเมือง น โ ย บ า ย ป ร ะ ช า นิ ย ม ล ด แ ล ก แ จ ก แ ถ ม ไ ม่ มี อ ยู่ ใ น ส า ร ะ บ บ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ  เ พี ย ง  ที่พรรคการเมืองต่าง ๆ ทำเป็นกระดี๊กระด๊าที่ผ่านมาจึงเป็น “นิทรรศการ” หรือ “จำอวดภาครัฐการ” ก็เท่านั้น

  • มีพรรคการเมืองไหนบ้างชูนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง

ในความเป็นจริงเขายังไม่เข้าใจด้วยซ้ำไป

ทั้งๆที่มันมีอยู่บ้างแล้วในวิถีไทย

เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตัวใครตัวมัน คนไหนทำกันนั้นก็ได้

เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงไม่ได้กำกับอยู่กับเรื่องทำไร่ทำนาหรอกนะครับ ใครทำอาชีพอะไรก็ทำใจให้พอเพียง เรียนรู้และพัฒนาความรู้ให้พอใช้ ให้เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก แต่ที่ยกเอาเรื่องการเกษตรมาอธิบายก็เพราะข้อยเป็นเกษตรกร ใครเป็นนักวิชาการ ข้าราชการ พ่อค้า หรืออาชีพอื่น ๆ ก็อธิบายในมิติที่ตนเองสังกัด ขยายผลเกี่ยวกับวิถีชีวิตในพันธกิจนั้น ๆ แต่ทุกเรื่องก็โยงกันได้ ไม่ใช่เป็นนักวิทยาศาสตร์แล้วไม่กินข้าวกินปลาที่ไหนเล่า คนเรายืนอยู่พื้นโลกเดียวกัน มันหนีกันไม่ออกหรอก จิบอกไห่

  • การเชื่อมโยงอย่างสมานฉันท์กันของมนุษย์เรานี่แหละสำคัญ

ที่หมอจอมป่วนกำลังเรียนและเอามาเขียนก็เรื่องนี้

ลองไปอ่านดูเถอะ คนอะไรไม่รู้เขียนดีจังเลย

  • พูดไปก็ปากปลาหมอเสียเปล่า ๆ

พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากน้ำลายเหนียวไร้ประโยชน์

ไปเที่ยวเมืองซัวเถากันดีกว่า  อิ อิ

(แปลงการเกษตรแทรกอยู่ทุกมุมหมู่บ้าน แทนสนามหญ้า)

ปีนี้ แผ่นดินจีนที่ไปเยือนอากาศร้อนอบอ้าวมาก ร้อนทุกเมืองทุกที่ อาแปะบางคนถึงกับถอดเสื้อโชว์ก้างล่อนจ้อน อาอี้อาซ๊อเดินถือพัดโบกไปมา ส่วนอาหมวยลืมร้อนมุ่งโชว์ขาอ่อนบนร้องเท้าส้นสูง จะเห็นว่าเรื่องเดียวกันแสดงออกแตกต่างกันไป คลื่นความร้อนแผ่คลุมไปทั่วโลก ทุกครั้งที่เดินออกจากโรงแรมเหงื่อซึม กลับมาต้องอาบน้ำนอนแผ่ผึ่งพุง ใช้เสื้อผ้าเปลืองมาก เปลี่ยนวันละ 3 รอบ ทั้ง ๆ ที่ช่วงไปชมสวนเกษตรของชาวบ้านฝนพรำ ๆ หลังจากนั้นจะเจอความร้อนจนกระทั่งวันกลับ กลับมาแล้วก็ร้อนวิชา ต้องมานั่งเขียนเรื่องราวเศรษฐกิจพอเพียงฉบับซัวเถา

(2ข้างทางรถไฟจะเห็นภาพแปลงเกษตรอยู่ใกล้ชิดเมือง)

ภาพที่ปรากฎต่อหน้า ต่างจากความนึกคิดที่ติดตัวมาจากเมืองไทยโดยสิ้นเชิง สภาพพื้นที่ทำมาหากินถือว่าสมบูรณ์มาก เกษตรกรจีนจะใช้พื้นที่ราบระหว่างภูเขาเพาะปลูก น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ อุญหภูมิ/ความชื้นก็นับว่ายอดเยี่ยม มีหมอกเย็น ๆ ลอยอ้อยอิ่ง คลองส่งน้ำแบบใส้ไก่ส่งไปถึงพื้นที่ทุกแปลง เพราะเป็นทางผ่านของน้ำฝนที่หล่นมาจากไหล่เขาอยู่แล้ว ตามไหล่เขามีต้นไม้พื้นถิ่นปกคลุมเขียวครื้ม หลายแห่งรัฐบาลกำลังปลูกไม้ยูคาลิปตัสเต็มขุนเขา บางแห่งมีป่าไผ่ขึ้นทั่วไป

(ไผ่เป็นไม้ทางเลือกเนกประสงค์ที่ทั้วโลกควรให้ความสนใจ)

  • เ รื่ อ ง ไ ผ่ อ ยู่ ใ น เ ป้ า ป ร ะ ส ง ค์ ห นึ่ ง ข อ ง ก า ร ม า ดู ง า น ใ น ค รั้ ง นี้

จึงตระเวนไปดูป่าไผ่หลายแห่ง

และขอชิมเมนูไผ่แทบทุกเมืองทุกมื้อ

อร่อยใช้ได้ทีเดียวแหละ

มาคราวนี้ได้เรื่องเลยล่ะครับ สิ่งที่ผมโง่งมมานาน

ดูหนังกำลังภายในจะเห็นจอมยุทธสู้กันในป่าไผ่

เป็นป่าไผ่ที่มีต้นไผ่ขึ้นเป็นต้น ๆ ไม่เป็นกอ ๆ เหมือนอย่างบ้านเรา

ยังสงสัยว่าจีนจัดการแยกห่อแยกกอไผ่อย่างไรถึงมีป่าไผ่โปร่งอย่างนั้น

พอมาเห็น แม่เจ้าประคุณเอ๋ย..

จีนมีไผ่พันธุ์ที่ขึ้นเป็นต้น ๆ ตั้งลำห่าง ๆ กันประมาณ 1 ศอก ไม่มีหน่อมีกอ

ขยายพันธุ์โดยไหลที่ซอกซอนไปขึ้นเป็นต้นใหม่โดยไม่ต้องไปแยกปลูกแต่อย่างใด

ไผ่พันธุ์นี้คงไม่มีหน่อให้รับประทาน

เป็นไผ่ที่มีลำต้นเและปลายตรงแข็งแรง

ชาวบ้านจะมาจัดกองไว้ริมถนนเพื่อขนส่งไปใช้งานต่อไป

  • ผมขอแวะดูสถานที่เขาถ่ายทำหนังกำลังภายใน

เสียดายที่ฝนตกพร่ำๆ

เลิกการถ่ายทำ พระเอก-นางเอก หายหมด เฮ้อ ๆๆ

เกษตรกรจีนจะปลูกข้าวและพืชผักอยู่ด้วยกัน ไม่ทำนาสุดลูกหูลูกตาอย่างของเราหรอกนะครับ แปลงเกษตรจะแบ่งปลูกข้าว เผือก มัน เทศ ข้าวโพด ถั่วลิสง ผักชนิดต่าง ๆ ปลูกต้นหนำเลี๊ยบไว้ตามมุมสวน พื้นที่สูงขึ้นมาหน่อยปลูกส้มเขียวหวาน ปลูกต้นโล่ติ้นและสมุนไพรที่คล้ายๆกับต้นเปรอะของบ้านเรา งานในท้องทุ่งจึงไม่มีพื้นที่ว่างเว้น ไปตอนไหนก็จะเห็นการเพาะปลูกหมุนเวียนกันทั้งปี ไม่มีคำว่าว่างงานจากพจนานุกรมของอาแป๊ะอาซ้อ ทุกคนขยันขันแข็งมาก แม้แต่ฝนพรำ ๆ ก็ยังขุดร่องสวนหน้าตาเฉย

  • เนื่องจากพื้นที่จำกัด มีกันคนละเล็กละน้อย

เกษตรกรจีนจึงทำการเพาะปลูกหมุนเวียนแบบประณีต

ไม่มีหรอกนะ ที่ปลูกแล้วปล่อยให้เทวดาเลี้ยง

ที่นี่ไม่มีชาวนา นาข้าวเปรียบเสมือนแปลงผักชนิดหนึ่งเท่านั้น

ด้วยสภาพการทำงานอย่างนี้ เกษตรกรจีนจึงไม่ต้องใช้เครื่องจักรใด ๆ

จอบ เสียม แรงคนขุดก็เสร็จเรียบร้อย ..พอเพียงด้านแรงงานและอุปกรณ์

  • ในสวนผักมีโอ่งหมักน้ำจากสุขาไว้ทำปุ๋ย

พืชผักทุกชนิดได้รับปุ๋ยและการดูแลเต็มที่

ส้มเขียวหวานใบเขียวจนดำ ผลติดเต็มต้น

พืชได้น้ำได้ปุ๋ยอย่างเต็มที่..พอเพียงด้านปัจจัยการผลิต

เช้า ๆ เกษตรกรจะนำพืชผลไปวางจำหน่ายตลาดเช้าแบบแบกับดิน

ปลุูกเอง ขายเอง ทำให้รายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย..พอเพียงด้านรายได้

บางครัวเรือนจะเลี้ยงเป็ดไก่ไว้ 8-10 ตัว ..พอเพียงด้านโปรตีน-อาหาร-สมุนไพร

แสดงว่า..ชาวจีนทำการเกษตรแบบผสมผสาน-หลากหลาย-ประณีต-

อากาศดี-น้ำท่าดี-ผลิตผลิตดี-หลากหลายดี-ชีวีค่อย ๆ ดีขึ้น

(เมนูพิเศษ ข้าวผัดใส่ตัวอ่อนตัวต่อ กับ หน่อไม้พันธุ์หน่อเล็กๆเท่านิ้วมือตุ๋นอร่อยดี)

หมู่บ้านที่ทำการเกษตรวันนี้ อาคารบ้านเรือนแบบเก่าๆที่เราเห็นในหนังกำลังภายในกำลังจะหมดไป มีอาคารใหม่ ๆ ทันสมัยเกิดขึ้นพร้อมกับถนนหนทาง น้ำไหล-ไฟสว่าง-มีงานทำเต็มมือทุกพื้นที่ มองเร็ว ๆเห็นว่าความเป็นอยู่ดีขึ้น ความอดอยากคงจัดการได้เบ็ดเสร็จแล้ว ต่อไปคงพัฒนาทางด้านการแปรรูป การถนอมอาหาร การใช้สมุนไพรเพื่อดูแลแปลงผักและส่งเสริมสุขภาพร่างกาย จีนวันนี้ขยันขันแข็ง จึงแข็งแรงรอบด้าน ที่เป็นเช่นนี้ได้เพราะ..

เ ก ษ ต ร ก ร จี น พึ่ ง ต น เ อ ง เ ป็ น สำ คั ญ

ไม่มีไปงอแงร้องแรกแหกกระเชอร้องให้ใคร ๆ ช่วยเหมือนเปรตขอส่วนบุญ

พลังของเกษตรกรจีนนั้นน่าทึ่งนัก นอกจากจะผลิตอาหารเลี้ยงพลเมืองนับล้านคนของประเทศตัวเองแล้ว สินค้าการเกษตรจีนยังเหลือกินส่งขายไปทั่วโลก จีนเร่งเชื่อมโยงถนนหนทางในประเทศและขยายออกไปสู่ประเทศต่างๆ มีโครงการใหญ่ ๆ มากมายที่จะดำเนินการทั้งบนบกและในแม่น้ำ แม่น้ำโขงที่ไปเห็น จีนระเบิดเกาะแก่งที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือ ปัจจุบันสินค้าจากจีนเดินทางมาขึ้นที่ท่าเชียงแสนจังหวัดเชียงราย ใช้เวลาเดินทาง 8 -10 ชั่วโมงเท่านั้น หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ 10 ล้อกระจายสินค้าไปทั่วไทยภายใน 10 ชั่วโมงก็วางขายจากเหนือจรดใต้แล้วละครับ ในด้านการคมนาคมทางบก จีนสร้างถนน เจาะภูเขา สร้างสะพาน เตรียมสร้างทางรถไฟไล่ติดมากับการขนส่งทางรถ ลองนึกดูสิครับ การคมนาคมที่ว่านี้ จี น จ ะ ส่ ง อ ะ ไ ร  และ จ ะ ข น อ ะ ไ ร ก ลั บ จี น

(โลกแคบเข้าด้วยเทคโนโลยี ทางสายไหม เปลี่ยนเป็นสายการบิน)

  • ภายใน 5 ปี ทั่วโลกจะตาค้างและตกตะลึง

ป ร ะ เ ท ศ ต่ า ง ๆ ถู ก จี น บุ ก ด้ ว ย ม า ต ร ก า ร ก า ร ค้ า โ ล ก   F T A

ด้ ว ย สิ น ค้ า ร า ค า ถู ก ก ว่ า ป ร ะ เ ท ศ อื่ น

ด้วยพลังเงินหยวนที่มีเป็นกะตั้ก

ไม่ต้องไปวิ่งง้อขอกู้เงินใครมาพัฒนาประเทศ

เอาแค่ส่วนต่างตรงนี้ก็สุดแสนจะทำให้ประเทศอื่นสำลักแล้วล่ะครับ

วันนี้  ที่บางนา จีนมาสร้างระดับอภิมหาศูนย์แสดงสินค้า มูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 40,000 ล้านบาท และมีโครงการที่จะสร้างศูนย์แสดงสินค้าตามภูมิภาคอีกในเวลาถัดไป ต่อจากนั้นก็ลงไปสู่ทุกจังหวัด-อำเภอ-ตำบล คอยดูพลังจีนเถอะว่าจะพิลึกกึกกือกว่าที่ผมเขียนอีก วันนี้จีนมีเงินหยวนเต็มพกเต็มห่อ ค่อย ๆ ถอนตัวออกจากดอลล่าร์มาลุยเอง พลังเงินหยวนนั้นน่าสนใจศึกษาและติดตาม เรารู้แต่พลังดออล่าร์ พลังเงินเยน พลังเงินชาติตะวันออกกลาง วันนี้มังกรผลาดโลกแล้ว กำลังพุ่งทะยานไปจนสุดกู่

  • จี น กำ ลั ง เ ปิ ด ส ง ค ร า ม เ ศ ร ษ ฐ กิ จ

มองดูทั่วฟ้าแล้วยังไม่เห็นประเทศคู่สงครามที่คู่ควรจะต่อกร

มีแต่ประเทศ “เสี่ยวอ้อ” ที่จะเดินตามก้นจีนต้อย ๆ

อยากจะชิมเป็ดปักกิ่ง แต่ขาใหญ่บอกห่านย่างดีกว่า

เจ้าดัง-อร่อยที่สุดในโลกอยู่ที่ฮ่องกง

ไปนั่งรอครึ่งชั่วโมงไม่มีโต๊ะว่าง

ขาประจำเข้าแถวรอซื้อกลับบ้านยิ่งกว่าตีตั๋วหนัง

สุดท้ายเราต้องซื้อใส่กล่องแล้วมานั้งชิมที่ร้านใกล้เคียง

เห็นว่าอร่อยดี ..ซื้อหิ้วกลับมาเมืองไทยคนละตัว

ห่านย่างเนื้อนุ่มมาก สงสัยจะเลี้ยงเป็นพิเศษ

เจี๊ยะห่านมาหลายมื้อแล้วละครับ อีกหน่อยคงคอยาวเหมือนห่าน อิ อิ

ตอนเด็ก ๆ  เราถูกล้างสมองให้กลัวคอมมิวนิสต์ เ ด็ ก ที่ กำ ลั ง โ ย เ ย ก ล้ ว ค อ ม มู นิ ส ต์ ยิ่ ง ก ว่ า ก ลั ว ต๊ ก โ ต เสียอีก  นักการเมือง นักวิชาการ นักเขียน เดินทางไปจีนกลับมาถูกจับเข้าคุกหัวโต แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว เราบุกคอมนิสต์และคอมมิวนิตส์ก็บุกเรา ไปไหนสบายแฮลื่นไหล โลกปราศจากเงื่อนไขทางลัทธิการเมืองการปกครอง ทุกคนเป็นญาติกันได้ทั่วโลก ฝรั่งมังค่ายังมาแต่งงานกับสาวไทยเยอะแยะ

ดู ๆ ไปแล้วไม่รู้จะแก้วิกฤติเศรษฐกิจและสังคมในอนาคตอย่างไร?

ถ้าปีนเกลียวก็จะเหมือนเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง

อย่างเราจะเอาอะไรไปต้านทานวิกฤติสงครามเศรษฐกิจโลกได้

เว้นแต่..จะสู้ด้วยปัญญา..ขอให้หนุ่มสาวไทยสละโสด

ขอส่งข่าวถึง-หนุ่ม-สาว อิ อิ

ขอให้เร่งเรียนภาษาจีนกลาง

แล้วรีบไปขอหมวย ขอหนุ่ม เมืองจีนมาเป็นคู่ตุนางัน

จะได้ช่วยกันขยายพลเมืองสายสัญชาติสากลให้มากขึ้น

ถาม..ถ้าพร้อมแต่งจะทำอย่างไร ?

ตอบ..ไม่ยากหรอก จะเตรียมแม่สื่อแม่ชักไว้รอ

ถาม..ใจร้อนนะ อยากจะไปรู้จักรู้หน้าค่าตา

ตอบ..เดือนหน้าจะไปเมืองจีนตอนกลาง-ตอนเหนือ อีกครั้งหนึ่ง

ตอบ..ถ้าจะไปด้วยก็เตรียบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ารอฟังเสียงนกหวีด คิ คิ..

« « Prev : ระทึกระทวยใจในแผ่นดินจีน

Next : ผักส่วนตัวสวนครัวรอบบ้าน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 8:38

    ไอ้เพื่อนรักสุดๆของผม มันไปอยู่เมืองจีนตอนเหนือ ต้าๆ อะไรจำไม่ได้แล้ว ต้าเลี่ยน หรือไง่เนี่ย ไปเป็นวิศวกรคุมการต่อเรือ ชวนยังไงก็ไม่กลับ ไปหลงเสน่ห์อาหมวย

    เรื่องปลูกผักคิดแล้วเสียว เคยได้ยินคำเล่าว่า คนจีนแถวซัวเถานี่แหละ เวลาปวดอึ จะอึลงถัง เก็บไว้ในบ้านอีกต่างหาก (ถ้าเก็บไว้ข้างนอกหมาคงแย่งไปหมด) จากนั้นเอาไปรดผัก งามแฉ่งเลย อิอิ ป่านนี้คงเปลี่ยนไปแล้ว สมัยผมเด็กๆ ได้ยินว่าคนจีนแถวมักกะสัน ปลูกผัก ยังรดด้วยอึอยู่เลย …แบบนี้มันก็พอเพียงสุดโต่งไปหน่อยนะผมว่า อิอิ

    นานปีเจอกันทีนึ่ง ไอ้เพื่อนเล่าว่ามันมุดไปตรวจใต้ท้องเรือ เหม็นมาก ไปตรวจเจออึกองใหญ่ มันมาบ่นว่าเวรกรรมกรูมีอาชีพดมขี้เจ๊ก …แหม.พอเจ๊กสาวหน้าขาวก็ว่าหอม สองมาตรฐานนี่หว่า ทำยังกะว่าข้างในท้องอาหมวยมันหอมยังงั้นแหละ ก็เต็มไปด้วยอึเหมือนกันแหละหวา

    เคยไปเซิร์ซหา “ซัวเถา” เป็นภาษาอังกฤษเพื่อดูแผนที่กูเกิ้ล กลายเป็น Shantow หรือไงเนี่ย

    เฮ้อ.โล่งอก.บาท่านกลับมารอดปลอดภัย กลัวว่าอาหมวยจะกักตัวเอาไว้คัดสรรพันธุกรรมซะแล้ว

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:33

    ปุ๋ยคนยังเป็นที่นิยมอยู่นะครับ

    ขี้เยี่ยวคน กู้ชาติ จริงๆ
    ไม่ต้องเสียค่ารดสูบ
    เดินไปตามสวนจะเห็นโอ่งหมักอึ ส่งกลิ่นระรวย
    ผัก ผลไม้ ของจีนจึงงามมาก

    ปุ๋ยอึ ปลอดภัยกว่าปุ๋ยวิทยาศาสตร์อีกนะครับ

    ไม่ต้องไปตรวจว่าปนเปื้อนสารพิษสารเคมีหรือเปล่า
    ไม่ต้องซื้อหา เป็นของฟีๆจากก้นเรา
    ก้นเราผลิตปุ๋ยได้ ธรรมดาที่ไหนละครับ
    เขาเรียกว่า ..ก้นเศรษฐกิจพอเพียง คิ คิ..

  • #3 silt ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:34

    เซี่ยะ เซี่ยะ หนี่ ขอบใจหลายๆ หัดภาษาจีนได้คำหนึ่งแล้วครับ เผื่อครูบาจะเป็นพ่อสื่อหาหมวยให้สักคน
    ผมก็ได้รับเทียบเชิญไปดูเขาคั่วชาที่เฉินตูปลายปีครับพ่อ (แต่อยากติดสอยห้อยตามพ่อครูกับขาใหญ่มากกว่า อิอิ) เท่าที่พอ่ครูเล่ามาเมื่อเทียบกับที่ผมไปเดินย่ำเสฉวนเมื่อสิบปีก่อน แสดงว่าวิถีการพึ่งตนเองชาวชนบทของจีนยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เช่นการปลูกทุกอย่างที่กินได้ในดินต่อนเดียวกัน มันเทศ ข้าวโพด ถั่ว สลับสับหว่างกัน บนคันนาปลูกถั่วเหลือง ในนาเป็นข้าว หัวนาปลูกผัก ปลูกมะเขือ แทบไม่มีที่วางเท้าเดิน
    เมืองที่ผมไป ห้องน้ำจะติดกับคอกหมู ของคนกับหมูลงท่อไปรวมกันในบ่อเกรอะเดียวกัน เช้าๆออกไปสวนก็หาบจากบ่อเกรอะนั้นไปหมักไว้ในบ่อหมักที่สวนอีกที แล้วก็ค่อยเอาน้ำหมักจากในนั้นรดผัก เดินสำรวจดินในสวนไปก็พิจารณากลิ่นที่โชยมาจากบ่อหมักไป
    ผมว่าชาวจีนเป็นชาวสวน ไม่ใช่ชาวไร่ คือดูแลผักแบบประณีต ทีละต้นๆ ไม่เหมือนการทำไร่ข้าวโพด มันสำปะหลังบ้านเราที่นานๆไปดายหญ้าที ผมเห็นเขาไปหาบเอาดินจากก้นหุบขึ้นมากองบนลานหินแล้วปลูกข้าวสาลีบนกองดินนั้น ชื่นชมความขยันครับ

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:38

    :ซัวเถา ยังรดด้วยปุ๋ยคนอยู่เหมือนเดิม
    มีโอ่งมังกรใส่ไว้เป็นระยะ
    เดินไปใกล้กลิ่น ฉึ่ง เลยทีเดียว

    ปุ๋ยคนไม่ต้องซื้้อหา กินเท่าไหร่ คืนสู่สวนผัก
    ชักโครกหายาก นอกจากในโรงแรม แม้แต่ในสถานีรถไฟฟ้าหัวกระสุน ก็ยังใช้ส้วมแบบยองๆ
    สงสัยจะเคยชิน ไม่นั่งยองๆเบ่งไม่ออก ไม่สะดวก ไม่ถนัด ลืมถามหมวยเสียด้วยสิ

    ในจีน เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องขี้เรื่องเล็ก
    เรื่องทิ้งเศษกระดาษ ทิ้งก้นบุหรี แม้แต่ในสถานีรถไฟฟ้า เจ๊แกก็ทิ้งหน้าตาเฉย
    คงจะต้องแก้ไขต่อไป

    แต่ถ้ามองว่านี่ไงอัตตลักษณ์จีน ก็เบาใจ
    เรื่องหมวย ..ไม่ได้แอ้มผมหร๊อก อิ อิ

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 11:46

    อาว์เปลี่ยนเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไว้เน้อ

    ผมอยากจะไปดูการเลี้ยงปศุสัตว์ในจีน
    ไม่ทราบว่าเลี้ยงที่มณฑลไหนบ้าง
    ไปคราวที่แล้วไม่เห็นสภาพสัตว์เลี้ยง
    แต่อาหารบนโต๊ะเป็นเนื้อทุกประเภท
    จีนเจี๊ยะโปรตีนมากจริงๆ
    เผื่อ จะหาทางเลี้ยงแพะไปขายให้จีน
    จีบ หมวยไว้แล้ว ให้ช่วยหาข้อมูลตลาดแพะ อิ อิ

  • #6 withwit ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 12:27

    เรื่องรดด้วยอึคนเนี่ย รู้สึกว่าของไทยเรามีกฎห้ามแล้วใช่ไหมครับ

    ความจริงอึคนเนี่ยมันก็รดได้อยู่หรอก แหม..แต่ผลทางจิตวิทยานี่สิ มันแรง
    กินขี้วัว หมู ไก่ พอทำเนา นี่จะให้กินขี้คนด้วยกันเอง…อ้วกกกก มันทำใจลำบากครับ

  • #7 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 กรกฏาคม 2011 เวลา 20:34

    แต่อาจจะเจอโดยไม่รู้ตัวไปกี่มื้อก็ไม่รู้นะครับ อิ

  • #8 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 กรกฏาคม 2011 เวลา 3:12

    เมื่อเราเก็บกินทำกินกับดิน ก็ต้องทำนุบำรุงดินด้วยครับ — ไม่จำเป็นต้องบอกปราชญ์ต้นไม้ แต่ขอเตือนผู้อ่านท่านอื่นๆ ให้ตระหนักใน จุลินทรีย์ ถ่าน biochar ปุ๋ย น้ำ ร่มเงา ฯลฯ ไม่อย่างนั้น ใช้ไปเรื่อยๆ ก็จะหมดไปทุกวันครับ

  • #9 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 30 กรกฏาคม 2011 เวลา 14:37

    คักอีหลี…


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.89393091201782 sec
Sidebar: 0.088348150253296 sec