ลานสวนป่า

(ไม้ตะเคียนทองในกรมป่าไม้ แค่ปลูกไว้ขอหวยก็รวยเละแล้วละเธอ)

วันนี้ตกค้างที่บางกอกอีกหนึ่งวัน จะไปตระเวณแถวๆบางโพหาซื้อใบเลื่อยไปเลื่อยไม้ที่ตัดกองพะเนิน กะจะทำบ้านไว้นอนเล่นสักกะหน่อย ส่วนจะเจออะไรพิเศษๆจะมาเล่าตอนบ่ายคลายเครียดนะขอรับ เมื่อวานผมเดินชมนิทรรศการ ในงานประชุมวิชาการป่าไม้ ได้รู้ได้เห็นเรื่องดีๆทั้งนั้น ผมตบท้ายรายการก่อนลงเวทีว่าปีนี้จะทำอยู่ 4 เรื่อง

1 จะสร้างกระแสปลูกไม้อะคาเซีย-ไผ่ แข่งกับ ยางพารา

2 จะสร้างศูนย์แม่ไม้พันธุ์ดี

3 จะทำแปลงสาธิตการปลูกไม้หลากหลายวัตถุประสงค์

4 จะวิจัยเรื่องเอาใบไม้เลี้ยงโคให้แตกดังโพล๊ะ

(มุมโชว์เทพทาโร)

ข้อสุดท้ายนี่จุดประกายติดแฮะ มีนักศึกษาจากต่างประเทศส่งจดหมายน้อยมาให้ บอกว่าที่ครูบาพูด กรมป่าไม้หรือกรมต่างๆในประเทศไทยยังไม่เห็นความสำคัญเท่าที่ควร ทั้งๆที่รัฐควีนแลนด์เขาทำวิจัยเรื่องที่ตรงกับเราโม้ เขาประทับใจมาก บอกเล่าข้อมูลมาให้ติดตาม คงต้องรอแห้วมาเจ๊าะแจ๊ะ เพราะเป็นภาษาปะกิตทั้งน้านนนน โง่อย่างผมต้องอาศัยตัวช่วยแทบทุกเรื่อง นี่ถ้าอาศัยคนอื่นคงอกแตกตาย งานวิจัยเขาก็ตีกลับมาให้แก้ ทั้งๆที่หมดเขตส่งวันนี้ แต่สภาวิจัยเขายังเมตตายืดเวลาให้ถึงวันจันทร์ ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน เพราะผู้วิจัยมีแต่ไปง้อๆๆๆทำให้ทันตามกำหนด คนตาบอดไม่มีคนจูงก็เร่อร่ายังงี้แหละ อาศัยวาสนาดีมีผู้ใหญ่อุปถัมภ์ค้ำชู จึงหน้าระรื่นอยู่ได้

(บอร์ดเทพทาโร)

ในงานวิชาการปีนี้ ได้รับแจกเอกสารดีๆมากจนหิ้วแทบตับทรุด หนังสือแต่เล่มจัดพิมพ์อย่างดี ถ้าวางจำหน่ายตามตลาดทั่วไปบางเล่มอาจจะมีราคา500-1,000 บาท ยังมีตัวอย่างเมล็ดพันธุ์ไม้ กล้าไม้แจก โดยเพาะต้นเทพธาโร เป็นไม้หอมที่น่าสนใจมาก ใบเอามาจิ้มน้ำพริกได้ เมล็ดบีบเอาน้ำมันหอมได้ กิ่งลำต้นรากเนื้อไม้มีกลิ่นหอม เอามาสับเป็นชิ้นๆใส่ถุงบางๆวางไว้ในห้องก็หอม เนื้อไม้เอามาแกะสลักของที่ระลึก เรียกว่าทุกส่วนหอมไปหมด ..ไม่อาบน้ำก็ยังหอม ..เป็นไม้น่าปลูกในที่ลุ่ม โดยเฉพาะภาคใต้ เห็นต้นไม้ชนิดนี้แล้วคิดถึงหมอเจ๊เป็นบ้า ที่เคยถามมาว่าจะปลูกต้นอะไรไรดี ก็เอาเทพธาโรนี่แหละหมอ ศูนย์เพาะชำใหญ่อยู่ที่จังหวัดสุราษธานี แม้แต่ที่แสดงหรือที่เขาจะเอามาให้ผมทดลองปลูก ก็ต้องไปขนมาจากที่นี่แหละ ศูนย์วิจัยพันธุ์ไม้สุราษฎร์ฯยังเพาะต้นไม้หอมจีนอีกด้วย และยังมีไม้อื่นเป็นกะตั๊ก ไปสุาษฎรฯคราวก่อนลืมสอบทวนข้อมูล มุ่งไปเรื่องยางพารากับปาล์มน้ำมัน และกินกุ้งของกิ๊กเจ้าแห้ว สงสัยจะต้องไปใหม่ หลังจากกลับเมืองจีน ไม่เดือนกรกฎาคม ก็เดือนสิงหาคม น่าจะได้ไปลุยเมืองหอยใหญ่ ไข่แดงแจ๋

(ขั้นตอนการเพาะกล้าต้นเทพทาโร)

วันนี้รวบรวมส่งหนังสือส่งไปให้คนที่น่ารัก 1 กล่องใหญ่

ถามไปรษณีย์ว่ากี่วันถึง

ถ้าส่งแบบธรรมดา 3-4 วัน

ก่อนเปิดกล่องให้ปฎิบัติดังนี้..

ยิ้ ม ก่ อ น อ่ า น .. ต า ห ว า น ก่ อ น เ ปิ ด  อิอิ

เป็นหนังสือที่เหมาะกับการเรียนรู้ด้านธรรมชาติหลายแง่มุม

มีหนังสือการ์ตูนด้วย

มีเมล็ดไผ่หลายชนิดไปให้อารามลองเพาะด้วย

ในงานเขาเอา ไ ผ่ ร า ชิ นี ซ า ง น ว ล จากอุตรดิตถ์มาตบแต่งร้านด้วย โห เห็นแล้วอยากจะปลูกใจจะขาดรอนๆๆ และมีวิทยากรบางท่านเอาไผ่ยักษ์มาแสดง เรียกตามชื่อพื้นถิ่นว่าไผ่เป๊าะ เห็นอารามพูดถึงแว่วๆ วันที่ 8 จะมีโอกาสไปชมบ้างไหมเน๊าะ เขาลงโฆษณาในหนังสือการเกษตร ขายกิ่งพันธุ์ละ400 บาท ค่าจัดส่งทางไปรษณ๊ย์อีก 200 บาท แต่ถ้าเราไปหิ้วมาเองบ้างก็น่าจะดี กำลังเตรียมแปลงสาธิตไว้แล้ว

หลังจากลงเวทีเมื่อวาน

ขาใหญ่พาไปชิมของแปลก

เป็นก้วยเตี๋ยวไก่คั่วแห้งวรจักร

เจ้านี้ล่ำลือกันมานาน

อยู่ในตรอกเล็กๆ ถ้าไม่เคยไปคงจะหายากเหมือนกัน

โชคดีที่ฝนปรอยๆไม่ค่อยไม่พวกชอบของอร่อยมาแย่งชิม

ที่พิเศษ อีกอย่างคือ ปี ก ไ ก่ ท อ ด น้ำ ป ล า

ของเขาหอมกรอบอร่อยจริงๆ ขอบอก

วันหลังจะชวนอุ้ยกับหมอจอมป่วนด้นดั้นไปชิมให้ได้ อิ

จบข่าว ..

« « Prev : วิชาการป่าไม้เพื่อประชาชน

Next : ความโง่ไม่วางขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง » »