พิพิธภัณฑ์น้ำเต้า
(ปีนี้ปลูกน้ำเต้าได้ผลผลิตประมาณ 1 รถ10ล้อ)
ความครุ่นคิดคำนึงเป็นภาระของผมอย่างมากในช่วงนี้
ความตรงไปตรงมาของธรรมชาติ ยากนักที่ฝืนได้ และ ความพลิกพลิ้วที่เกิดโดยธรรมชาติก็ยากที่จะหยั่งรู้ได้ ไม่มีอะไรแน่นอนสักอย่าง มนุษย์ทำได้เพียงชะลอหรือทำให้ใกล้เคียงกับสิ่งปกติได้บ้างเท่านั้น เช่น เอาอาหารแช่ตู้เย็นเพื่อยืดเวลาการเน่าเสีย แค่ชะลอปัจจุบันได้หยาบๆ สุดท้ายทุกอย่างก็เดินหน้าต่อไป มนุษย์พยายามจะชะลอเวลาของธรรมชาติให้ยืดยาวออกไปได้มากขึ้นๆ เช่น การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ อาจจะต่ออายุได้ยืดออกไปช่วงหนึ่ง สุดท้ายก็ม่องเท้งอยู่ดี
ปีนี้ทำงานวิจัยไทบ้านต้นทาง 4 เรื่อง
1 การปลูกผักยืนต้นพื้นเมืองระบบชิด
2 การปลูกไม้เพื่อพลังงานทดแทนในพื้นที่แห้งแล้ง
3 การเลี้ยงโคด้วยใบไม้
4 การปลูกน้ำเต้า
ตอนแรกจะเอาน้ำเต้าลูกเล็กที่ยังอ่อนๆไปให้ป้าหวานแสดงฝีมือ ห้ามไม่ไหวแล้วละครับ ทยอยแข่งกันโตเอาๆ บางส่วนก็สุกเก็บได้แล้ว ผมจะ เ อ า น้ำ เ ต้ า ลู ก โ ต ๆ ไ ป ฝ า ก ไ ว้ ที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ท่ า น จ อ ห ง ว น ปีนี้ปลูกได้หลายสายพันธุ์ จะคัดลูกสวยๆไว้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์น้ำเต้าของสวนป่า กำลังเพ้อฝันว่าจะจัดลักษณะไหน มีองค์ประกอบอะไรบ้าง นอกจากทำเรื่องการพัฒนาพันธุ์แล้ว ผลสวยๆแปลกๆจะเอามาจัดโชว์เชิงงานศิลปะ
- แบบฉลุลวดลาย โคมไฟ ภาชนะใส่ของ กล่องใส่เอกสาร
- แบบของที่ระลึก ฉลุลวดลาย เพ็นท์สีต่างๆ
- แบบใช้ประโยชน์ เช่น เครื่องดนตรี กระเป๋า รังนก ฯลฯ
- แบบรูปร่างลักษณะพันธุ์
- เมล็ดจะจัดใส่ซองแยกตามลักษณะผล
- มีภาพอธิบายการใช้ประโยชน์ครบถ้วน
- จะเอาอาคาร8เหลี่ยมSCG.เป็นที่จัด
(( เอาใบไม้เลี้ยง บางตัวอ้วนจนเป็นหมัน ตัวนี้กำลังเบ่งจะออกลูกในวันนี้)
นอกจากเรื่องน้ำเต้าแล้ว
จะรวบรวมเมล็ดพันธุ์ไม้พื้นถิ่นดีๆมาแสดง
เป็นเวอชั่นเล็กๆของธนาคารเมล็ดไม้ไทบ้าน
ปีนี้ใช้บริการแห้วหาขวดพลาสติกขนาดกลางให้ 1 รถปิคอัพ
(ผักพื้นเมืองระบบชิด กำลังแตกยอดเขียวงาม)
เรื่องนี้ออตคันให้หัวใจไหม?
ถ้าคันช่วยคิดต่อ
จุดตั้งต้นประมาณนี้
ส่ ว น จ ะ ต่ อ ย อ ด ท ะ ลุ โ ล ก ไ ป ยั ง ไ ง อี ก
ต้ อ ง ไ ป ฟั ง ท่ า น จ อ ห ง ว น แ ส ด ง อ ภิ นิ ห า ร ที่ บ้ า น ย่ า โ ม ..
อิ อิ อิ ..
« « Prev : 70%
2 ความคิดเห็น
พิพิธภัณฑ์ ของผมกำลังจะเปิดเฟสใหม่ ให้เป็น “พิพิธพันธุ์” ด้วยพอดีเลยครับ พวกพืชพันธุ์แปลกๆ ยินดีจัดแสดงเป็นอย่างยิ่งครับ เพียงแต่ว่าพื้นที่ไม่มากนัก แต่มีเด็กๆมาเข้าชมปีละหลายหมื่นครับ คงได้กระจายความรู้ได้มากครับ
เมื่อสองวันก่อนผมก็เพิ่งเข้าไปเยี่ยมวัด “สรพงษ์” ตรงสีคิ้ว เห็นทำเลแล้วน้ำลายไหลครับ ผมว่าถ้าจะไปคุยกับท่าน แล้วขอพื้นที่สัก 5 ไร่เพื่อสร้างสวนสาธิต ให้เป็นวิทยาเขตมหาชีวาลัย เอาไปไว้ข้างหลังๆ วัดก็ยังได้ (แบบปิดทองหลังพระ) คนมาไหว้หลวงพ่อโตวันละหมื่น เสร็จแล้วก็เข้าไปศึกษาในมหาชีวาลัย หรือไม่ก็ทำสวนมหาชีวาลัยแบบบูรณาการกับตัววัดไปเลย ก็ยิ่งได้สองต่อ เพราะตัววัดนี้เขาก็มีการจัดสวนแสดงไปด้วยในตัวอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังเน้นไปที่ไม้ดอก มากกว่าไม้แดก ครับ อิอิ
อาจจะไปทาบทามดูว่าเป้าประสงค์ในทางด้านนี้ ทางวัดเขามีขอบข่ายอย่างไรบ้าง
ส่วนน้ำเต้าจะเอาไปฝากจนรถโป่งนะครับ อิ อิ