อาคาเซียที่รัก

โดย sutthinun เมื่อ 7 เมษายน 2011 เวลา 16:18 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 8273

ตะกี้ออกไปเดินดูคนงานตัดไม้อาคาเชียที่ยืนต้นตายมานานแล้ว แต่ไม่ได้จังหวะสักที ปล่อยให้ยืนต้นโกร๋นแห้งแหง๋แก๋มานานนับปี ข้อดีคือเราได้ไม้ที่แห้งสนิทพร้อมแปรรูป ข้อเสียคือปลวกเข้าไปเกาะตามเปลือก ทำให้มีดินกินฟันเลื่อยยนต์ เจ้าคนตัดบ่นอุบ ต้องตะไปคมเลื่อยวันละ7-8ครั้ง แต่ก็ยังดีกว่าสมัยที่ใช้เลื่อยชักคะเย่อแรงคน เท่าที่ถามโค่นไม้ลงได้ประมาณวันละ20ต้น

(แล้งแสนแล้งเดินไปเจอหว่าน4ทิศออกดอกสวยมาก)

ไม้จำนวน100ต้น ส่วนหนึ่งผมจะเอามาเป็นวัตถุดิบในการอบรมเกษตรกรกลางเดือนหน้า กรมป่าไม้กับสภาวิจัยแห่งชาติจะมาอบรมชาวบ้านเชิงปฏิบัติการ คุณวรรธรรม อุ่นจิตติชัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานพัฒนาอุตสาหกรรมไม้ สำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ จะขนเครื่องมือมาสอนชาวบ้านทำเครื่องเรือน/ของใช้ไม้สอยขนาดเล็ก ผมมีไม้ให้ทำปะเลอะปะเต๋อ ส่วนที่เหลือผมจะเลื่อยเป็นแผ่นไม้ปูพื้นไว้สร้างบ้าน ถ้ามีปัจจัยก็พร้อมลุยทำกระท่อมลำหับเลยนะครับนี้ เพราะกระท่อมไม้ไผ่ของอุ้ยหมดอายุพุพังสิ้นแล้ว

(เดินไปเจอส้มโอที่ต่อกิ่งกระสังไว้ แล้งยังไงก็ติดผล)

ไม้อาคาเซียเป็นไม้โตเร็วเนื้อแข็งขนาดกลาง ลายสวยงามมาก ถ้าช่างไม้ช่างสีฝีมือดีทำออกมาสวยไม่แพ้สัก เป็นไม้ตระกูลถั่วรากใบบำรุงดิน กิ่งอ่อนใบอ่อนตัดมาเลี้ยงโค แพะ แกะ ได้ดี เมื่อ20ปีที่แล้ว สมัยที่คนปลูกป่ายังโง่อยู่ ได้ไม้ตระกูลไหนมาก็ปลูกแหลก จนกระทั้งมาถึงวันนี้ จึงร้องอ๋อ พบว่าไม้ตระกูลหนึ่งอายุสั้น พอถึง20ปีนัดกันทยอยตายเรียบ ทั้งๆที่ไม่ได้อกหักสักกะหน่อย แต่ก็ตัดช่องน้อยไปจนได้ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมก็ลุยตัดมาเตรียมไว้ใช้งานดังกล่าวข้างต้น

(เจ้าบิ๊กเหงามาชวนเจ้าเฉินหลงไปวิ่งเล่น)

อาคาเซียที่เรารู้จักกันดีก็คือไม้กลุ่มกระถินณรงค์นั่นเอง มีทั้งหมดประมาณ 500 สายพันธุ์ ที่บ้านเราก็นำมาทดลองปลูกกันหลายสิบสายพันธุ์ เดี๋ยวนี้การพัฒนาพันธุ์ก้าวหน้าไปไกล มีพันธุ์ที่ต้นเปลาตรง เนื้อไม้สวยโตเร็ว สามารถตัดมาทำเครื่องเรือนได้ที่อยู่7ปี อาจจะตัดสางขยายระยะให้ห่างออกไป เช่น เลือกตัดต้นเว้นต้นที่อายุ7ปี แล้วไปตัดต้นเว้นต้นอีกทีที่อายุ12 ปี แล้วไปตัดสางครั้งสุดท้ายที่อายุ 18-20 ปี เราก็จะมีไม้ใช้สอยหรือมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอย่างที่กำลังจะอบรมกันเร็วนี้

คุณวิฑูรย์ เหลืองวิริยะแสง ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนาการป่าไม้ กรมป่าไม้ ได้ทำโครงการร่วมกับมหาชีวาลัยอีสาน ในการที่จะขยายการปลูกไม้อาคาเซียพันธุ์ดีร่วมกับไม้หอมจากจีน ปีที่แล้วได้ทำลองไปบางส่วนบางพื้นที่ ปีนี้มีแผนจะอบรมเกษตรกรให้รู้จักวิธีขยายพันธุ์ด้วยวิธีปักกิ่งชำ

ทำ ไ ม ต้ อ ง ปั ก กิ่ ง ชำ !

ก็เพราะว่าไม้พันธุ์ดีรุ่นใหม่ไม่มีเมล็ดครับผม ต้องปักกิ่งชำหรือไม่ก็เพาะเนื้อเยื่อ ด้วยคุณสมบัติที่ดีหลายประการ เชื่อว่าถ้าชาวบ้านรู้เรื่องและได้ข้อมูลที่ถูกต้อง น่าจะสนใจปลูกกัน-ตามหัวไร่ปลายนา-ปลูกสลับกับไม้อื่น-ปลูกตามแนวรั้ว-ปลูกสลับกับยางพารา-หรือปลูกเป็นแปลงใหญ่ พื้นที่สีเขียวบ้านเราก็จะขยายตัวมากขึ้น คาดว่าจะจัดอบรมการขยายพันธุ์ไม้ดังกล่าวในเดือนมิถุนายน จะอบรมเชิงปฏิบัติการ2วัน พาดูงานพาเที่ยว1วัน ท่านใดสนใจขอรับบัตรคิวแต่เนิ่นๆนะครับ

บ่ายวันนี้ผมดีใจยิ่งกว่าลิงได้กล้วย

ฝนตั้งเค้าแล้วก็เทลงมาจักๆ

ตกหนักกว่าเมื่อคืน

คงจะชุ่มฉ่ำเรียกความสดชื่นให้เพื่อนร่วมโลกได้ไม่มากก็น้อย

ผมเดือดร้อนเพราะความแห้งแล้งนั้นไม่เท่าไหร่หรอก

เพราะสามารถที่จะเดินหลบเข้าร่ม

เปิดน้ำอาบทาแป้งยิ้มแฉ่งเปิดพัดลม

แต่..ต้นไม้ทั้งหลายนี่สิครับ

ร้อนแค่ไหนก็ไม่มีขาเดินเข้าร่ม

แถมกาแฟเย็นก็ไม่มีให้ชิมเหมือนน้าอึ่งของผม

เฮ้อๆ โธ่ๆๆ

« « Prev : ศูนย์เตือนภัยบ้านนอก ฉบับที่ 1

Next : เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

7 ความคิดเห็น

  • #1 ออต ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2011 เวลา 17:00

    ขออนุญาตจองคิวครับทั้งเพาะอาคาเซีย และแปรรูปไม้
    อยากจะชวนศิลปินนักออกแบบไปเอาไม้อาคาเซียมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ
    รอดูจังหวะ อาจจะได้นักออกแบบมาออกแบบของ(สวน)ป่า ก็ได้
    (รบกวนวันธรรมดาได้บ้น้อ)

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2011 เวลา 17:37

    โปรแกรมแรก 19-21 พ.ค. ตรงกับ พฤหัส-วันศูกร์-เสาร์
    มาได้แว๊บได้ตามสะดวก
    ปัญหาอย่าลังเล
    เหมือนจีบสาว ลุยเลย คิคิ

  • #3 putarn ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2011 เวลา 18:43

    แล้วไม้นี้จะไม่ทำลายความสมบูรณ์ของดินเหมือนต้นยูคาลิปตัสเหรอคะ เพราะว่าทั้งสองต่างก็เป็นไม้พันธุ์พื้นเมืองของทวีปออสเตรเลียน่ะค่ะ ดิฉันก็เลยเข้าใจว่าคงทำลายผืนดินเหมือนๆกัน

  • #4 ออต ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2011 เวลา 19:14

    จองเลยครับ 19-20 พค
    ตอนนี้เพาะยางนาไปก่อน

  • #5 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 7 เมษายน 2011 เวลา 19:20

    ถ้างั้นดินออสเตรเลียก็โดนทำลายหมดไปแล้วสิครับ
    อะไรที่เกิดจากธรรมชาติมันมีความพอดีอยู่ในตัว
    ไม่เหมือนสิ่งประดิษฐ์จากมนุษย์หรอกนะครับ
    ถ้าปลูกยูคาเป็นป่า ดินก็ดีขึ้น
    ที่มันมีปัญหาเพราะปลูกตัดๆๆๆ ต้นไม้ยังไม่ได้คืนอะไรกลับคืนให้ดิน
    ปลูกมัน ปลูกอ้อย ทำนาจุดฟาง ทำลายดินมากกว่าเยอะเลย
    วันหลังมาดูที่สวนป่า จะให้กอดยูคาฯ อิอิ

  • #6 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 9 เมษายน 2011 เวลา 15:43

    โห เห็นรูปว่านสี่ทิศสีหวาน ดอกสมบูรณ์แล้วก็ได้คิดเนาะคะว่าขนาดปัจจัยแวดล้อมไม่พร้อม เขายังเจริญเติบโตได้งดงามขนาดนี้ นี่แปลว่าบางอย่างเราอาจคิดไปเอง เข้าใจกันไปเองก็ได้ว่าต้องอย่างนี้ต้องอย่างนั้น

    บางสิ่งบางอย่างเขาก็มีวิถีของเขา
    ไม่ได้ร้องแร่แห่กระเฌอต้องการความพร้อมความสมบูรณ์อะไรมากมายก็ได้
    เนาะ พ่อ เนาะ

    เพ้อ ไปถึงไหนเนี่ยะเรา ?

  • #7 nuntawun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2011 เวลา 22:42

    ได้อ่านความเห็นของพ่อสุทธินันท์แล้วใจดีขึ้นเลย ไม่เอายูคาออกจากสวนแหละ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.84651708602905 sec
Sidebar: 0.0867919921875 sec