ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย
อ่าน: 2693
เดือนนี้เป็นบ้าอะไรไม่รู้ แม่วัวตัวไหนๆก็ออกลูกมาล้วนเป็นตัวผู้ เมื่อคืนนี้ก็โผล่อีกหนึ่งกระเจี้ยว ยังกินนมเองไม่ได้ สาละวนอยู่รอบๆตัวแม่ ส่วน2ตัวที่ผลุ๊บมาก่อน หุ่นไล่เลี่ยกันอย่างกับฝาแฝดหยอกล้อกุ๊กกิ๊กกันทั้งวัน หิวก็ผละไปหาเต้าใครเต้ามัน คุณแม่ก็เลียลูกตั้งแต่หัวจรดท้าย อิ่มแล้วก็มาเล่นกันต่อ
เห็นชีวิตลูกวัวสุขสำราญแล้วคิดถึงเด็กๆ โรงเรียนที่แม่ใหญ่เป็นกรรมการไปสอบคัดรองผู้อำนวยการ โจทย์ที่ให้ไปศึกษาโรงเรียนต่างๆก็ดีหรอก แต่วัฒนธรรมขององค์กรไม่เหมือนกัน ทำไมเขาไมไปดูโรงเรียนโฮมฮักหรือโรงเรียนของแม่ใหญ่ละ ถ้าไม่ได้ดูเบื้องหลังของโรงเรียนเหล่านั้น กว่าเขาจะคลำทางเจอเหงื่อหยดไปกี่ถัง ล้มลุกคลุกคลานกับปัญหาจนลิ้นห้อย ที่สำคัญผู้นำเขาชัดเจนอย่างยิ่งในทิศทางที่ทำ หัวใจอยู่ที่การพร้อมแก้ปัญหาอย่างทุ่มเทและเต็มที่
โรงเรียนใครก็โรงเรียนนั้น
ค้นหาของตัวเองให้เจอ
ส่วนของคนอื่นที่ไปดูก็พิจารณาเอาส่วนที่พอเหมาะกับเหตุแห่งตน
ก็อปปี้กันไม่ได้หรอก
เขาน่าไปดูงานที่โรงเรียนแม่ใหญ่มากกว่า
เท่าที่อ่านในบล็อกแม่ใหญ่
ล้วนทำกิจกรรมทะลุโลกการศึกษาไทยอยู่แล้ว
ช่วงนี้มะม่วงกะล่อนสุกหล่นเกลื่อนต้น คนงานไปเก็บมาให้วัวกินเป็นเข่งๆ เมื่อเช้าไปดู เห็นเมล็ดมะม่วงกองอยู่พื้นราง นึกแปลกใจทำไมวัวสมัยก่อนถึงกลืนเมล็ดมะม่วงลงท้อง เมล็ดที่ผ่านสำไส้ถ่ายออกมาจะเกลี้ยงเกลา สมัยเด็กๆแย่งกันเอามาผ่าเนื้อในกิน รสชาติมันๆอร่อยดี รึวัวสมัยนี้มีวิวัฒนาการด้านการเจี๊ยะ
กินแล้วคายเมล็ดทิ้ง
:: วันเสาร์ ห ม อ เ จ๊ ค น ส ว ย แ ซ่ เ ฮ
นั ด เ จ อ ท่ า น จ อ ห ง ว น ท วิ ช จิ ต ส ม บู ร ณ์
ผมประชุมเสร็จจะบึ่งจากบางกอกไปสมทบ
คาดว่าจะไปถึงตอนเย็นๆ
รุ่งขึ้นวันอาทิตย์ คุ ย กั น อี ก ย ก ห นึ่ ง
ข อ ช ม เ รื่ อ ง เ ด่ น เ ย็ น นี้ ใ น ม ห า วิ ท ย า ลั ย
กะ ว่ า เ จ อ ห น้ า ก็ จ ะ ค า ร ว ะ ถ า ม ดื้ อ ๆ
มี อิ ห ยั ง ใ ห้ เ บิ่ ง แ น . .
พี่ป้าน้าอาแซ่เฮท่านใดสนใจทริปนี้
ก็เชิญรับบัตรที่หมอเจ๊ นะครับ
เดี๋ยวจะหาว่าหล่อไม่บอก ชิมิ ชิมิ ..
6 ความคิดเห็น
แม่ใหญ่ยังไม่ได้เล่าว่า คณะผู้บริหารและครูเทศบาลได้มาดูโรงเรียนเมื่อหลายปีมาแล้วค่ะ และเราก็เปิดให้ดูได้ตลอด ใครอยากมาเมื่อไหร่ก็มา ไม่มีผักชีโรยหน้า สิ่งที่ทางเทศบาลจัดกระบวนการครั้งนี้ คงเป็นการเปิดหูเปิดตาให้ไปเห็นหลายๆแบบจากหลายๆที่ เพื่อเอามาปรับให้เขากับสภาพของโรงเรียนตัวเองมังคะ นายกต้องฯ(ชื่อจริงว่าพีรพล แต่แม่ใหญ่ เรียกแบบนี้จนชิน) บอกว่า คนที่ผ่านกระบวนการ แม้ไม่ได้เป็นรองผู้อำนวยการ ก็ถือว่าได้พัฒนาตัวเองแล้ว แต่ท่านก็ยังไม่ค่อยสบายใจที่พยายามพัฒนาคนมาสี่ห้าปีแล้วแต่ระบบการศึกษาก็ยังเขยื้อนไม่ได้มากนัก บางทีทำท่าจะไปได้แล้วก็หยุดนิ่งไม่ต่อเนื่อง จากการที่แม่ใหญ่ ได้คลุกคลีกับทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายครู เพราะเข้าไปร่วมทำกิจกรรมต่างๆกับเขาบ่อยๆ ก้พบว่า ครูก็โทษวผู้บริหาร (ระดับ ผอ.) ว่าหัวไม่ส่าย หางเลยไม่กระดิก ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร ส่วนผู้บริหาร ก็บอกว่าครูเอาแต่ทำงานเพื่อตัวเอง เลื่อนระดับเลื่อนตำแหน่ง หนี้สินพะรุงพะรัง ไม่เอาใจใส่เด็ก หรือไม่ก็ส่งเสริมเฉพาะเด็กเก่งไปประกวดโน่นนี่เพื่อถ้วยรางวัล มาโชว์เท่านั้น เมื่อวานมีครูผู้เข้ารับการประเมินคนหนึ่ง พูดได้สะใจจริงๆ เมื่อถูกถามว่าอบรมพัฒนากันมาสี่ห้าปีแล้ว ทำไมมันถึงไม่ได้ดังใจ ครูบอกว่า สงสัยทุกคนคงคิดเหมือนๆกันมั๊งว่า “ก็มันไม่ใช่โรงเรียนของเรา” โรงเรียนก็เลยพัฒนาไม่ได้เต็มที่อย่างที่มุ่งหวังไว้สักที
โดนใจกับคำว่า ก็มันไม่ใช่โรงเรียนของเรา ค่ะ เป็นหลัก (หรือเป็นตอ ก็ไม่ทราบนะคะ) ในทุกๆความสัมพันธ์ ถ้าไม่สามารถเข้าถึงซึ่งกันและกัน ยังแบ่งฉัน แบ่งเธอ พอรวมกัน ก็กลายเป็น พวกฉัน พวกเธอ ก็ต้องดึงกันไปดันกันมา เหมือนเล่นชักเย่อ แต่ถ้าเมื่อไร รวมกันได้ เป็น ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นเรา และไม่ใช่พวกไหนแต่เป็นพวกเรา ก็คงเป็น ลงเรือลำเดียวกัน แล้วช่วยกันพาย มีการสอนพายพร้อมๆกัน เราคงเห็น การพัฒนาวิ่งลิ่วแบบแข่งเรือพาย ไม่ใช่อยู่กับที่แบบแข่งขักเย่อ
ถ้าตั้งดี ก็ลงมือทำๆๆ แบบแม่ใหญ่ จบ ไม่เห็นยุ่งยากอะไร
สำคัญที่ใจ ก็เท่านั้น
ป้าหวาน มีลูกสาวจะมาแลกลูกเขยไหม?????
ฝากพ่อครู และ พี่หมอเจ๊ พบ จอหงวน อจ.ทวิช แทนด้วยค่ะ คงมีอะไรดีๆเกิดขึ้นอีกแล้ว มิน่าเล่าเมื่อคืนนี้เกิดแผ่นดินไหว ที่พม่า สะเทือนมาถึงตอนเหนือของไทย อิอิอิ
มาได้คิดเมื่อเช้านี้เองค่ะ ความคิดนี้ดีนะคะ ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย คนโบราณท่านช่างลึกซึ้ง วิถีชีวิตดั้งเดิมเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ ศักยภาพ เพิ่มบุคคลากร เพิ่มทรัพยากร !!!!!!!!! แยบคาย แยบยล ยิ่งนัก แต่วิถึชีวิตปัจจุบันเปลี่ยนไป ความคิดหดสั้นลง เหลือเพียง ตัวกู ของกู รักนี้เพื่อใคร รักจริงๆหรืออย่าไร แต่งกัน ก็ เพียงเพื่อฝัน ไม่ได้ ดังฝันก็เลิกกัน มีมากค่ะ แต่ถ้าความผูกพันนั้นแท้จริงจาก 2 คน ขยายไปถึงครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่าย เลยไปถึงญาติและญาติ นั้นแหละ ประสิทธิผลเพิ่มพูน อิอิอิ
จึงพลอยมานึกว่า ทำไมไม่ใช้วิธีนี้ สร้างใจประสานใจเสียเลย ไม่ใช่ให้แลกลูกสาวลูกเขย กัน คงทำยากแลัวแต่จังหวะชีวิตของเขา แต่หมายถึงแลกด้วยคุณสมบัติทีดี ที่อีกฝ่ายต้องการ อีกฝ่าย ขาดแคลน ระหว่างคน 2 คน ระหว่างเพื่อน ระหว่างกลุ่ม จนถึง ระหว่างองค์กร เป็นข้อิดฝันที่จะได้ไม่ต้องชักเย่อ แต่ลงเรือลำเดียวกันค่ะ
ชิมิ ชิมิ เฮ้อ ยังใช้ ชิมิ แบบเชินๆ ไม่คล่องแบบพ่อครูเลย
ป้าหวานนี่ละเอียดละออทุกเรื่อง ชิมิ ชิมิ
วันที่ 2 จะบุกขอนแก่น งานเริ่ม 18.00-23.00 น.
คงได้นอนค้างแรมที่ขอนแก่น 1 คืน อิ อิ..