ไปกินหญ้าดีกว่า

โดย sutthinun เมื่อ 21 มีนาคม 2011 เวลา 18:01 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 4156

ในงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ จะมีการเสี่ยงทายให้พระโคเลือกภักษาหาร ในจำนวนนั้นมีหญ้าสดอยู่ด้วย ทั้งนี้เพราะใบไม้ใบหญ้าเป็นอาหารของสัตว์จำนวนมาก เราลองสังเกตช้างม้าวัวควายดูสิครับ จะเห็นว่าแข็งแรงไม่มีโรคแทรกซ้อนเหมือนมนุษย์ที่กินอาหารตะพึด แล้วก็ชอบต่อว่ากระทบกระเทียบ

..โง่เหมือนควาย ไปกินหญ้าซะไป๊ !

ถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่าควายมีคุณสมบัติดีมากมาย ลองพิจารณาอาหารสัตว์ดูเถิด ระหว่างอาหารควายกับอาหารคนอย่างไหนปลอดภัยกว่ากัน อาหารของควายไม่ต้องชุบสารฟอร์มาลิน ไม่ต้องผสมสารกระตุ้นเนื้อแดง ไม่ต้องใส่สีใส่สารปรุงรส ไม่ต้องทอดน้ำมันซ้ำ ไม่ต้องหมักดินปะสิว ไม่ ไม่ สารพัดสารพัน กินดื้อๆสดๆกลับปลอดภัยมากที่สุด การปรุงแต่งอาหารอาจจะดูดี การกินแป้งหรือไขมันสูงต่างหากที่อันตราย ควายไม่กิน ”อาหารขยะ” ควายไม่ต้องกังวลเรื่องโภชนาการอาหาร5หมู่ ตรงกันข้ามกับอาหารมนุษย์ เ อ า แ ค่ ผั ก ส่ ง ไ ป E U   ยู ก็ ตี ก ลั บ ไหนจะเรื่องปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีอีก เฮ้อ! แต่ละมื้อตักสารพิษเข้าปากกี่มากน้อยก็ไม่รู้

ต้นคิดมาจากตอนที่ผมไปเยี่ยมชาวอโศกที่อุบลราชธานี ป้าดาวแนะนำให้รู้จักหญ้าชนิดหนึ่ง บอกว่าได้มาจากเวียดนาม ชาวอโศกปั่นเอาน้ำรับประทานกัน เป็นหญ้าที่มีลักษณะใบใหญ่ยาวอ่อนนิ่ม ปลูกง่ายแตกกอง่าย โฉมยงตัดยอดมาปั่นเป็นน้ำคอโรฟิน มาชวนชิมตอนเช้า ผมก็ยังไม่แน่ใจเรื่องมีคุณประโยชน์ในแง่ไหนบ้าง ทึกทักเอาว่าควายกินหญ้ายังแข็งแรง ทำไมเราจะไม่แข็งขันได้บ้างเล่า ทำง่ายๆกินง่ายๆชีวิตจะได้ไม่พันตูกับสิ่งที่ไม่รู้อีกมากมาย เพื่อสนองแนวคิดนี้ ผมทดลองปลูกหญ้ากินหญ้ามาระยะหนึ่งแล้วละครับ

อนึ่ง นอกจากซดหญ้าที่ว่านี้แล้ว โฉมยงยังปั่นน้ำสมุนไพร ใบหญ้านาง แปะตำปึง สลับมาให้ชื่นชิมอีก ปกติอยู่บ้านก็กินหญ้ากินผักอยู่แล้ว ถึงจะไม่ได้เป็นชาวมังสะวิรัติเต็มตัว แต่ก็เป็นแบบเต็มใจใกล้ๆเคียงๆ เข้าบางกอกเจอหมูเห็ดเป็ดไก่ก็เจี๊ยะไปตามสถานการณ์ กลับมาบ้านก็ล่อผักหญ้าเหมือนควาย ช่วงบ่ายอากาศร้อน โฉมยงปั่นน้ำเสาวรส น้ำมะเฟือง น้ำฝรั่ง น้ำแตงโม มาโชว์ฝีมืออีกแน๊ะ

กินหญ้าง่ายกว่ากินอย่างอื่น

ช่วงนี้จึงขยายพันธุ์หญ้า

ปลูกในแปลง ปลูกในกระถาง ดูเขียวสดสวยดี

กินก็ได้ จัดเป็นไม้ประดับก็ดี

ตัดแต่งกอสวยๆไฉไลไม่เบาเลยละครับ

ผมสังเกตตัวเองยิ่งแก่ยิ่งโง่ แต่ก็ไม่รู้จะสะสางได้ด้วยวิธีใด รึบางทีการกินหญ้าที่ว่านี้เป็นทางบรรเทาโง่ ถึงใครจะล้อเลียนว่า “สมองหมาปัญญาควาย” ก็ยอมรับสภาพตามความเป็นจริง ใครไล่ไปกินหญ้าผมก็จะอ้าอกรับด้วยความยินดี

ใครว่าโง่เหมือนควาย ก็โง่วะ!

ควายไม่เคยกินเหล้า

ควายไม่เคยพูดปด

ควายไม่เคยละเมิดภรรยาผู้อื่น

ควายไม่เคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

ควายไม่เคยกินยาบ้า

ควายไม่เคยเดินขบวน

ควายไม่เคยใส่ร้ายใคร

ควายไม่เคยอกหัก

ผ ม จ ะ โ ง่ ไ ด้ อ ย่ า ง ค ว า ย ไ ห ม น ะ

มนุษย์ที่อ้างว่าตนเองฉลาด เมื่อก่อนก็ใช้แรงงานควายนี่แหละทำงานให้สารพัดสารพัน ขี้มันก็เป็นปุ๋ย ออกลูกมายังเป็นทรัพย์สินเงินออมอีกแน่ะ ตายไปเขาหนังยังเป็นประโยชน์ ควายพันธุ์มูร่ายังรีดนมได้อีกแน่ะ แถวๆชลบุรียังมีประเพณีวิ่งแข่งควายอีกนะเธอ

เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ชาวนาเอาควายไปเลหลัง หันไปซื้อควายเหล็กมาใช้ กระโจนลงน้ำทีหัวเทียนบอดลูกสูบพัง หาเงินจ่ายช่างมือระวิง ช่วงไถนก็สั่นเป็นเจ้าเข้า สะทกสะเทือนเจ็บหน้าอกหน้าใจ นอกจากออกลูกไม่ได้ ยังต้องจ่ายค่าอะไหล่จนหน้ามืด ใช้นานไปก็เป็นเศษเหล็ก ซดน้ำมันตลอด ควายเหล็กไม่ขี้เสียด้วยสิครับ ต้องถ่ายน้ำมันเครื่อง ต้องซื้อปุ๋ยเคมีมาใช้

สุ ด ท้ า ย ก็ เ จ๊ ง

ทำนาแทบตายแต่..ทำให้คนอื่น ไหนจะค่าซื้อรถ-ค่าน้ำมัน-ค่าสึกหรอ-ค่าปุ๋ย-ค่ารถเกี่ยว-รถนวด-ค่าขนส่ง-ค่าเช่าที่-ค่าดอกเบี้ย-ค่าตกเขียว–ค่ายาฆ่าแมลง-ค่ากระสอบ-ค่าหักความชื้น ฯลฯ บวกลบกลบหนี้แล้วจะเหลืออะไร?

ข้าวสารแพง ข้าวเปลือกถูกยังกะขี้ !

ทำ น า ป รั ง มี แ ต่ ซั ง กั บ ห นี้-ทำ น า ปี มี แ ต่ ห นี้ กั บ ซั ง

วิธีทำนาแบบแจกจ่ายผลประโยชน์360องศาไม่บ้าก็เมาแล้วละครับ ชาวนาจึงหมดกำลังใจ ที่ยังพอไหวก็เกณฑ์กันมาก่อม็อบปิดถนน เหนื่อยการงานในท้องนาไม่พอ ยังมาเหนื่อยเย้วๆเดินขาขวิดบนท้องถนนอีก..ชาวนาทำบาปกับควายผู้มีพระคุณ เคราะห์กรรมมันจึงตกทอดถึง กรรมมันมาไวยิ่งกว่ารถไฟฟ้าBTS.เสียอีกนะเธอ ชาวนาจะค่อยๆสูญพันธุ์ไปเช่นเดียวกับควาย..

พากันต้อนควายไปขายให้โรงงงานลูกชิ้น

เจ้าของก็ตามควายเข้าโรงงาน

ค ว า ย เ ป็ น ลู ก ชิ้ น ..เ จ้ า ข อ ง ค ว า ย จ ะ เ ป็ น ลู ก อ ะ ไร?

อย่าบอกนะว่า..ลูกผีลูกคน!

ท่านประธานที่เคารพ..

ขอให้คนที่ดูถูกควายถอนคำพูด! ได้ไหมครับ?

อิ อิ . .

« « Prev : คิดยังงี้แหละ

Next : กระทะร้อน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 noina ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มีนาคม 2011 เวลา 19:43

    อ่ า น คำ ค ม พ่ อ ค รู หู แ ท บ ฉี ก
    เ ป็ น ค ว า ม จ ริ ง ย า ก ห ล บ ห ลี ก ที่ พ บ เ ห็ น
    ค น ช อ บ ดู ถู ก ค ว า ย ห ล า ย ป ร ะ เ ด็ น
    ค อ ย ค อ ม เ ม้ น ท์ สิ่ ง ไ ม่ ดี อ ยู่ ที่ ค ว า ย

    ไ ม่ มี ดี อ ย่ า ไ ป ว่ า ใ ค ร เ ข า
    ม นุ ษ ย์ เ ร า นั บ วั น นั้ น ห่ า ง ห า ย
    เ ริ่ ม เ ห็ น แ ก่ ป ร ะ โ ย ช น์ ต น จ น วุ่ น ว า ย
    ผ ล สุ ด ท้ า ย โ ท ษ ผู้ อื่ น ให้ ฝื น ต ร ม

    อ นิ จ จ า ค น เ ร า เ ข ล า ค ว า ม คิ ด
    วิ ป ริ ต เ ป ลี่ ย น ไ ป ใ ห้ ขื่ น ข ม
    คุ ณ ธ ร ร ม ไ ม่ นำ ใ จ ใ ฝ่ นิ ย ม
    ต้ อ ง ช้ำ ต ร ม ไ ร้ คุ ณ ค่ า ม า ก ก ว่ า ค ว า ย

    ขอแจมด้วยคนนะคะพ่อครูบา จะได้หายคิดถึง อิอิอิ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 21 มีนาคม 2011 เวลา 20:15

    นักเลงกลอนเว้าวอนตอนหัวค่ำ
    พร่ำรำพันเรื่องราวที่ฉาวโฉ่
    ชาวนาไทยยากจนทนหิวโซ
    อยู่แบบโมเมชั่นกันทั้งบาง

    เป็นผู้ผลิตอาหารขาดอาหาร
    ประกอบการท้องนาเดินขาถ่าง
    เขาคุมกำเนิดไว้ทุกเส้นทาง
    จะอยู่อย่างยังงี้กี่ปีเอย.


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 1.0818090438843 sec
Sidebar: 0.3853440284729 sec