อานุภาพของความรัก
อ่าน: 2634
(คนงานปีนไปตัดกิ่งไม้ใบไม้มาเลี้ยงโค)
หมู่นี้ทำไมมีเรื่องให้เขียนเยอะเหลือเกิน ในสภาพหน่วยความจุของลานปัญญาใกล้จะเต็ม ว่าจะยั้งๆไว้บ้าง แต่เมื่อเดินรอบบ้านเช้านี้ก็มีเรื่องสะกิดใจให้อยากเขียน ถ้าไม่เขียนเรื่องอื่นก็จะแทรกเข้ามาแทน อนึ่ง ผมเห็นว่าสมาชิกเราชอบอ่านมากกว่าจะเขียน ก็เลยถือโอกาสแอบเอาเนื้อที่ของท่านที่เว้นวรรคมาเขียนแทน บทความส่วนหนึ่งผมก็จะคัดไปประกอบการสัมมนาที่หาดใหญ่
ถ้าเบื่ออ่าน
ก็ปากระป๋องก้อนอิฐหรือร้องเท้าข้างเดียวใส่ลานสวนป่าได้เลยนะครับ..
จ ะ ไ ด้ . . แ บ บ นี้ มั น ต้ อ ง ถ อ น อิ อิ..
ขออนุญาตบรรเลงเรื่องความรัก โดยเฉพาะความรักใหม่ๆ อะไรที่มาใหม่ล้วนกระตุ้นให้เรากระดี๊กระด๊าพลังใจกระฉูดใช่ไหมละครับ มันมีความสุขตั้งแต่เกิดความรู้สึกเช่นนี้แล้ว ผมก็เป็นเช่นนั้น แต่ละวันได้สัมผัสกับความรักผ่านความรู้ใหม่ๆ ผมรู้สึกว่ามีความรู้ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน เพียงแต่เราไม่ใส่ใจมันก็ผ่านเลยไป น่าเสียดายจุดนี้ ที่วาสนาแห้วโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ ยกตัวอย่าง
(มีความเชื่อว่า ถ้านมชี้ไปข้างหน้าลูกออกมาจะเป็นตัวผู้ )
เมื่อเช้านี้เดินไปเยี่ยมหนูแดง แม่วัวที่ท้องแก่..เบ่งมาครึ่งเดือนแล้วละมั๊ง จนสงสัยว่ามันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า นมเต่งครัดแล้วครัดอีกแต่ไม่คลอดสักที ก่อนหน้าผมไปถึงประมาณ20นาที หนูแดงคลอดลูกเพศผู้แข็งแรงดีทั้งแม่ทั้งลูก ความกังวลที่มีต่อหนูแดงสลายเป็นปลิดทิ้ง เข้าไปทักทายลอง..บีบนมดู น้ำนมพุ่งกระฉูดทุกเต้า เจ้าตัวเล็กก็กระย่องกระแย่งดูดได้2เต้าแล้ว เห็นแม่ลูกอี๋อ๋อกันเราก็พลอยยินดีกับเจ้าตัวเล็กที่รอฤกษ์เกิดมาในวันพระจันทร์สวย
(เจัวตัวเล็กขนยาวสลวย เชื่องมาก ขี้อ้อนตั้งแต่เล็ก)
เพื่อต้อนรับเจ้าตัวน้อย
คนงานเอาต้นข้าวโพดที่มีฝักอ่อนมาสับเป็นอาหารบำรุง
เอาใบไทรอ่อนที่ย้วยลงมาไปสับผสม
ไปตัดเอาต้นกระโดนป่าที่มีรสฝาดซึ่งแตกยอดอ่อนใส่ลงไปอีก
เสริมด้วยยอดมะรุม
เป็นเมนูพิเศษต้อนรับโคแม่ลูกอ่อน
ถามว่าสูตรนี้ดียังไง?
ตอบไม่ได้หรอกครับ
เพราะเพิ่งจะทดลองให้โคแม่ลูกอ่อนกินเป็นครั้งแรก
บอกได้แต่ว่า..นี่คือความรู้ใหม่ที่ผุดพรายมาในวันนี้
(แปลงปลูกอินทผลัมช่วงแล้ง)
เดินไปดูแปลงที่ปลูกอินทผลัม ที่ขุดหลุมขนาดใหญ่ใส่ปุ๋ยคอก-กากถ่าน-รองโฟลิเมอร์-ปลูกต้นกล้วยเป็นร่มเงา-เอาหญ้าแห้งปกคลุมหลุม-เดินท่อน้ำหยด-เท่าที่สังเกตวิธีปลูกแบบประณีตจะเห็นความชื้นซึมอยู่รอบๆหลุม เราจะปล่อยพื้นที่ทิ้งว่างไว้ทำไมละ ผมจึงหยอดเมล็ดฟักทองยักษ์ไป1แถว ส่วนแถวที่เหลือจะปลูกแตงโม หลุมที่ว่างจะลงพริก-มะเขือเปราะ-มะเขือพวง-มะเขือเทศ-ผักกาดหอม-ผักบุ้ง-เหนือปากหลุมขึ้นมาจะขยายพันธุ์หญ้ารูซี่ให้เป็นพรมเขียวคลุมพื้นที่ การออกแบบคิดและทำเช่นนี้ ทำให้เกิดแนวคิดว่าปลูกอินทผลัมแต่ได้กินกล้วยและผักต่างๆด้วย แ บ บ ยิ ง น ก โ ป้ ง เ ดี ย ว ร่ ว ง ม า ทั้ ง ฝู ง ปรากฏการณ์นี้จะเป็นลายแทงให้เราตามเก็บความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ๆต่อไป เห็นไหมละครับ ความรู้เคียงคู่กับความรักออกมาอีกหนึ่งขนาดแล้ว
เดินกลับมาบ้าน สังเกตเห็นแม่เป็ดเทศซึ่งมีตัวเดียว
ไปแอบทำรังเบ่งไข่อยู่ที่เดิมข้างบ้าน
เยื้องกันแม่ห่านที่มีอยู่ตัวเดียวก็ทำรังเบ่งไข่แข่งกัน
ได้ข้อสังเกตว่า..
สัตว์ปีกเหล่านี้ไม่ได้ง้อตัวผู้
อยู่เดี่ยวๆก็ออกไข่ได้
ที่พิเศษก็คือเขาจะมีช่วงจังหวะใกล้เคียงกัน
ซึ่งตรงนี้ผมก็บอกไม่ได้
ทำไม? เป็ด-ห่าน-ถึงนัดกันเบ่งไข่ช่วงนี้
ทำไม? วัวไม่นัดกันเบ่งเหมือนเป็ดห่านบ้าง
แสดงว่ารหัสธรรมชาติมีกฎแห่งความเหมาะสมซ่อนอยู่ ถ้าเราสังเกตการติดดอกออผลของพืชผลไม้ จะเห็นว่าแต่ละชาติตระกูลมีกลไกธรรมชาติกำกับ พืชชนิดไหนจะออกดอกออกผลตอนไหนเป็นเรื่องเฉพาะสายพันธุ์นั้นๆ ถึงมนุษย์จะเก่งขนาดบีบบังคับให้ออกนอกฤดูได้ มันก็ไอ่แค่นั้นแหละ เพราะการปีนเกลียวกับธรรมชาตินี่แหละที่ทำให้ผมเจอมะม่วงจำบ่ม
สาระในธรรมชาติยากที่จะแกะออกมาอธิบายได้หมดจด ถ้าเอามาเปรียบกับคนเรา จะเห็นว่าวิถีของมนุษย์นั้นแตกต่างจากพืช มนุษย์อาจจะกำหนดเวลาไว้หยาบๆ แต่กลไกในจิตใจนั้นไม่มีอะไรมากำกับให้อยู่ในร่องในรอยได้แบบหมดจด สังคมมนุษย์จึงต้องมีวินัยทางสังคมผ่านศาสนา จารีตประเพณี หรือกฎระเบียบต่างๆ แต่ก็นั่นแหละ มันไม่เป็นธรรมชาติจริงๆเหมือนกับสังคมของต้นไม้ใบหญ้า เราจึงเห็นพฤติกรรมแหกกฎกติกาอยู่เสมอ แถมยังไปชื่นชมอีกว่า ไอ่ไหนเลี่ยงบาลีเก่งเป็นคนมีความสามารถ สังคมมนุษย์จึงเน่าเหม็น ถึงจะมีการชี้ชวนให้ไปในทางยุบหนอพองหนอ ก็ยังยั้งๆอิหลักอิเหลื่อ มนุษย์จึงเป็นตัวทำลายความปกติสุขของโลกใบนี้
จะมีสักกี่คนที่คิดว่า ตนเองมีส่วนทำลายความสงบสุขของธรรมชาติ วันนี้นกเอี้ยงไม่มีควายเฒ่าให้เลี้ยง เพราะคนขายควายไปทำลูกชิ้นจนหมด ไส้เดือนเคยอยู่อย่างสุขสบายภายใต้ใบไม้ชุ่มชื้น มนุษย์ก็ไปโค่นป่าแม้แต่ตอก็ยังไม่เหลือ ประชากรสรรพสิ่งในธรรมชาติสูญพันธุ์ ถูกมนุษย์คุมกำเนิดทุกรูปแบบหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
ต่อไปมนุษย์จะอยู่กับใคร อยู่กับอะไร อยู่อย่างไร?
ที่น่าสังเวชก็ตรงที่นึกว่าตัวเองเก่งกาจเหลือประมาณ
ที่แท้มีความรู้ผิดๆถูกๆแค่ใบไม้กำเดียว
ถ้าเราไม่ช่วยกันสร้างความคิดความรู้ใหม่ที่ถูกต้อง
ความรู้ผิดๆมันก็จะมาคิดบัญชีทบต้นต้นดอกอย่างไม่ละเว้น
อย่าบอกนะว่า..ให้พระเจ้าช่วย!
พระเจ้าเองก็ถูกมนุษย์ปั่นจนเสียพระเสียเจ้า
อะไรที่อยู่ใกล้มนุษย์จะเสียความเป็นตัวเองได้ทั้งนั้นละครับ
อ้าว! แบบนี้ผมจะอยู่กับใครละทีนี้
ใ น เ มื่ อ ต น เ อ ง ก็ เ ป็ น ตั ว ปั ญ ห า..
« « Prev : คืนนี้อาบจันทร์กันไหมตะละแม่..
3 ความคิดเห็น
โง่ที่สุดก็มนุษย์
ฉลาดที่สุดก็มนุษย์
ผมยังเชื่อว่าความฉลาดย่อมชนะความโง่เสมอ
คนเราเกิดมาเพื่อพัฒนาความฉลาดให้ชนะความโง่เดิมแท้ให้ได้สักวัน
จะรอ จะร้อ จะร๊อออออ วันมนุษย์ฉลาดอย่างท่านจอหงวนว่า อิอิ
มะกะโทมีเพียงน้ำลายและปลายนิ้ว
ถ้าแถมใบไม้ให้ท่านอีกสักำมือ
ป่านนี้เราอาจไม่ต้องรอกันนานปานนี้ก็เป็นได้นะครับ บาท่าน อิอิ
ประเทศไทยเราผมว่า รอ ร้อ รอออ แบบเชื่องช้าประชาถีปะตาย ตามตรูดหัวหรั่งไม่ทันกาลหรอกครับ
พระเจ้าเอกทัศน์ทรงรู้ดีที่สุด (แต่สายไปเสียแล้ว)