อานุภาพของความรัก

โดย sutthinun เมื่อ 19 มีนาคม 2011 เวลา 10:56 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 2634

(คนงานปีนไปตัดกิ่งไม้ใบไม้มาเลี้ยงโค)

หมู่นี้ทำไมมีเรื่องให้เขียนเยอะเหลือเกิน ในสภาพหน่วยความจุของลานปัญญาใกล้จะเต็ม ว่าจะยั้งๆไว้บ้าง แต่เมื่อเดินรอบบ้านเช้านี้ก็มีเรื่องสะกิดใจให้อยากเขียน ถ้าไม่เขียนเรื่องอื่นก็จะแทรกเข้ามาแทน อนึ่ง ผมเห็นว่าสมาชิกเราชอบอ่านมากกว่าจะเขียน ก็เลยถือโอกาสแอบเอาเนื้อที่ของท่านที่เว้นวรรคมาเขียนแทน บทความส่วนหนึ่งผมก็จะคัดไปประกอบการสัมมนาที่หาดใหญ่

ถ้าเบื่ออ่าน

ก็ปากระป๋องก้อนอิฐหรือร้องเท้าข้างเดียวใส่ลานสวนป่าได้เลยนะครับ..

จ ะ ไ ด้ . . แ บ บ นี้ มั น ต้ อ ง ถ อ น อิ อิ..

ขออนุญาตบรรเลงเรื่องความรัก โดยเฉพาะความรักใหม่ๆ อะไรที่มาใหม่ล้วนกระตุ้นให้เรากระดี๊กระด๊าพลังใจกระฉูดใช่ไหมละครับ มันมีความสุขตั้งแต่เกิดความรู้สึกเช่นนี้แล้ว ผมก็เป็นเช่นนั้น แต่ละวันได้สัมผัสกับความรักผ่านความรู้ใหม่ๆ ผมรู้สึกว่ามีความรู้ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน เพียงแต่เราไม่ใส่ใจมันก็ผ่านเลยไป น่าเสียดายจุดนี้ ที่วาสนาแห้วโดยไม่รู้ตัวอยู่บ่อยๆ ยกตัวอย่าง

(มีความเชื่อว่า ถ้านมชี้ไปข้างหน้าลูกออกมาจะเป็นตัวผู้ )

เมื่อเช้านี้เดินไปเยี่ยมหนูแดง แม่วัวที่ท้องแก่..เบ่งมาครึ่งเดือนแล้วละมั๊ง จนสงสัยว่ามันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า นมเต่งครัดแล้วครัดอีกแต่ไม่คลอดสักที ก่อนหน้าผมไปถึงประมาณ20นาที หนูแดงคลอดลูกเพศผู้แข็งแรงดีทั้งแม่ทั้งลูก ความกังวลที่มีต่อหนูแดงสลายเป็นปลิดทิ้ง เข้าไปทักทายลอง..บีบนมดู น้ำนมพุ่งกระฉูดทุกเต้า เจ้าตัวเล็กก็กระย่องกระแย่งดูดได้2เต้าแล้ว เห็นแม่ลูกอี๋อ๋อกันเราก็พลอยยินดีกับเจ้าตัวเล็กที่รอฤกษ์เกิดมาในวันพระจันทร์สวย

(เจัวตัวเล็กขนยาวสลวย เชื่องมาก ขี้อ้อนตั้งแต่เล็ก)

เพื่อต้อนรับเจ้าตัวน้อย

คนงานเอาต้นข้าวโพดที่มีฝักอ่อนมาสับเป็นอาหารบำรุง

เอาใบไทรอ่อนที่ย้วยลงมาไปสับผสม

ไปตัดเอาต้นกระโดนป่าที่มีรสฝาดซึ่งแตกยอดอ่อนใส่ลงไปอีก

เสริมด้วยยอดมะรุม

เป็นเมนูพิเศษต้อนรับโคแม่ลูกอ่อน

ถามว่าสูตรนี้ดียังไง?

ตอบไม่ได้หรอกครับ

เพราะเพิ่งจะทดลองให้โคแม่ลูกอ่อนกินเป็นครั้งแรก

บอกได้แต่ว่า..นี่คือความรู้ใหม่ที่ผุดพรายมาในวันนี้

(แปลงปลูกอินทผลัมช่วงแล้ง)

เดินไปดูแปลงที่ปลูกอินทผลัม ที่ขุดหลุมขนาดใหญ่ใส่ปุ๋ยคอก-กากถ่าน-รองโฟลิเมอร์-ปลูกต้นกล้วยเป็นร่มเงา-เอาหญ้าแห้งปกคลุมหลุม-เดินท่อน้ำหยด-เท่าที่สังเกตวิธีปลูกแบบประณีตจะเห็นความชื้นซึมอยู่รอบๆหลุม เราจะปล่อยพื้นที่ทิ้งว่างไว้ทำไมละ ผมจึงหยอดเมล็ดฟักทองยักษ์ไป1แถว ส่วนแถวที่เหลือจะปลูกแตงโม หลุมที่ว่างจะลงพริก-มะเขือเปราะ-มะเขือพวง-มะเขือเทศ-ผักกาดหอม-ผักบุ้ง-เหนือปากหลุมขึ้นมาจะขยายพันธุ์หญ้ารูซี่ให้เป็นพรมเขียวคลุมพื้นที่ การออกแบบคิดและทำเช่นนี้ ทำให้เกิดแนวคิดว่าปลูกอินทผลัมแต่ได้กินกล้วยและผักต่างๆด้วย แ บ บ ยิ ง น ก โ ป้ ง เ ดี ย ว ร่ ว ง ม า ทั้ ง ฝู ง ปรากฏการณ์นี้จะเป็นลายแทงให้เราตามเก็บความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ๆต่อไป เห็นไหมละครับ ความรู้เคียงคู่กับความรักออกมาอีกหนึ่งขนาดแล้ว

เดินกลับมาบ้าน สังเกตเห็นแม่เป็ดเทศซึ่งมีตัวเดียว

ไปแอบทำรังเบ่งไข่อยู่ที่เดิมข้างบ้าน

เยื้องกันแม่ห่านที่มีอยู่ตัวเดียวก็ทำรังเบ่งไข่แข่งกัน

ได้ข้อสังเกตว่า..

สัตว์ปีกเหล่านี้ไม่ได้ง้อตัวผู้

อยู่เดี่ยวๆก็ออกไข่ได้

ที่พิเศษก็คือเขาจะมีช่วงจังหวะใกล้เคียงกัน

ซึ่งตรงนี้ผมก็บอกไม่ได้

ทำไม? เป็ด-ห่าน-ถึงนัดกันเบ่งไข่ช่วงนี้

ทำไม? วัวไม่นัดกันเบ่งเหมือนเป็ดห่านบ้าง

แสดงว่ารหัสธรรมชาติมีกฎแห่งความเหมาะสมซ่อนอยู่ ถ้าเราสังเกตการติดดอกออผลของพืชผลไม้ จะเห็นว่าแต่ละชาติตระกูลมีกลไกธรรมชาติกำกับ พืชชนิดไหนจะออกดอกออกผลตอนไหนเป็นเรื่องเฉพาะสายพันธุ์นั้นๆ ถึงมนุษย์จะเก่งขนาดบีบบังคับให้ออกนอกฤดูได้ มันก็ไอ่แค่นั้นแหละ เพราะการปีนเกลียวกับธรรมชาตินี่แหละที่ทำให้ผมเจอมะม่วงจำบ่ม

สาระในธรรมชาติยากที่จะแกะออกมาอธิบายได้หมดจด ถ้าเอามาเปรียบกับคนเรา จะเห็นว่าวิถีของมนุษย์นั้นแตกต่างจากพืช มนุษย์อาจจะกำหนดเวลาไว้หยาบๆ แต่กลไกในจิตใจนั้นไม่มีอะไรมากำกับให้อยู่ในร่องในรอยได้แบบหมดจด สังคมมนุษย์จึงต้องมีวินัยทางสังคมผ่านศาสนา จารีตประเพณี หรือกฎระเบียบต่างๆ แต่ก็นั่นแหละ มันไม่เป็นธรรมชาติจริงๆเหมือนกับสังคมของต้นไม้ใบหญ้า เราจึงเห็นพฤติกรรมแหกกฎกติกาอยู่เสมอ แถมยังไปชื่นชมอีกว่า ไอ่ไหนเลี่ยงบาลีเก่งเป็นคนมีความสามารถ สังคมมนุษย์จึงเน่าเหม็น ถึงจะมีการชี้ชวนให้ไปในทางยุบหนอพองหนอ ก็ยังยั้งๆอิหลักอิเหลื่อ มนุษย์จึงเป็นตัวทำลายความปกติสุขของโลกใบนี้

จะมีสักกี่คนที่คิดว่า ตนเองมีส่วนทำลายความสงบสุขของธรรมชาติ วันนี้นกเอี้ยงไม่มีควายเฒ่าให้เลี้ยง เพราะคนขายควายไปทำลูกชิ้นจนหมด ไส้เดือนเคยอยู่อย่างสุขสบายภายใต้ใบไม้ชุ่มชื้น มนุษย์ก็ไปโค่นป่าแม้แต่ตอก็ยังไม่เหลือ ประชากรสรรพสิ่งในธรรมชาติสูญพันธุ์ ถูกมนุษย์คุมกำเนิดทุกรูปแบบหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ


ต่อไปมนุษย์จะอยู่กับใคร อยู่กับอะไร อยู่อย่างไร?

ที่น่าสังเวชก็ตรงที่นึกว่าตัวเองเก่งกาจเหลือประมาณ

ที่แท้มีความรู้ผิดๆถูกๆแค่ใบไม้กำเดียว

ถ้าเราไม่ช่วยกันสร้างความคิดความรู้ใหม่ที่ถูกต้อง

ความรู้ผิดๆมันก็จะมาคิดบัญชีทบต้นต้นดอกอย่างไม่ละเว้น

อย่าบอกนะว่า..ให้พระเจ้าช่วย!

พระเจ้าเองก็ถูกมนุษย์ปั่นจนเสียพระเสียเจ้า

อะไรที่อยู่ใกล้มนุษย์จะเสียความเป็นตัวเองได้ทั้งนั้นละครับ

อ้าว! แบบนี้ผมจะอยู่กับใครละทีนี้

ใ น เ มื่ อ ต น เ อ ง ก็ เ ป็ น ตั ว ปั ญ ห า..

« « Prev : คืนนี้อาบจันทร์กันไหมตะละแม่..

Next : ราตรีสวยสงบสะอาด » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

3 ความคิดเห็น

  • #1 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มีนาคม 2011 เวลา 19:09

    โง่ที่สุดก็มนุษย์
    ฉลาดที่สุดก็มนุษย์
    ผมยังเชื่อว่าความฉลาดย่อมชนะความโง่เสมอ

    คนเราเกิดมาเพื่อพัฒนาความฉลาดให้ชนะความโง่เดิมแท้ให้ได้สักวัน

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มีนาคม 2011 เวลา 19:33

    จะรอ จะร้อ จะร๊อออออ วันมนุษย์ฉลาดอย่างท่านจอหงวนว่า อิอิ

  • #3 ทวิช จิตรสมบูรณ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 20 มีนาคม 2011 เวลา 20:36

    มะกะโทมีเพียงน้ำลายและปลายนิ้ว
    ถ้าแถมใบไม้ให้ท่านอีกสักำมือ
    ป่านนี้เราอาจไม่ต้องรอกันนานปานนี้ก็เป็นได้นะครับ บาท่าน อิอิ

    ประเทศไทยเราผมว่า รอ ร้อ รอออ แบบเชื่องช้าประชาถีปะตาย ตามตรูดหัวหรั่งไม่ทันกาลหรอกครับ
    พระเจ้าเอกทัศน์ทรงรู้ดีที่สุด (แต่สายไปเสียแล้ว)


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.098774194717407 sec
Sidebar: 0.10438394546509 sec