งานวิจัยไทบ้าน (นอก)
อ่าน: 2739เมื่อวาน โดนทวงเรื่องเอกสารประกอบการขี้โม้
ที่จะลงไปงานสัมมนานักวิจัยที่มหาวิทยาลัยทักษิณปลายเดือนพฤษภาคม
เรื่องนี้ง่ายเลยสำหรับชาวบ้านตาโปๆอย่างผม
จะเอามะพร้าวไปขายสวนกี่คันรถก็ไม่รู้
มาใจชื้นหน่อยที่พระอาจารย์ใหญ่ท่านรับลูกเรื่องวิจัยไทบ้านอยู่แล้ว ศ.น.พ.วิจารณ์ พานิช สมัยที่ท่านเป็นผู้อำนวยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้พยายามปล้ำผีลุกปลูกผีนั่งเรื่องการวิจัยทุกรูปแบบ เพื่อขยายโอกาสแวดวงการวิจัยให้กว้างขวางไปทุกประชาคมไทย ขอเท้าความไปถึงสมัยที่ท่านอาจารย์ ศ.สิปนนท์ เกตุทัต เป็นผู้อำนวยการ(สกว.) ยุคนั้นคนที่จะทำการวิจัยหรือขอทุนวิจัยได้ อย่างน้อยก็ควรจะเป็นนักวิชาการหรืออาจารย์ที่อยู่ในสถาบันต่างๆ ส่วนชาวบ้านตาโปๆไม่อยู่ในสายตา ผู้เกี่ยวข้องมองเห็นว่าชาวบ้านจะมาวิจงวิจัยอะไรได้ ระบบระเบียบวิธีวิจัยเป็นงานชั้นสูงต้องใช้องค์ประกอบทางเทคนิควิชาการล้วนๆ “คำว่าวิจัย” จึงมีภาพยิ่งใหญ่มโหระทึกเสียเหลือเกิน อาจารย์ที่สอนวิจัยก็เขียนภาพเสือขู่สมันน้อยให้ดูน่าพรั่นพรึง งานวิจัยในบ้านเรามันจึงหดอยู่ในกระดอง เคยยั่ว..แน่จริงมาคล้องช้างป่าแข่งกับชาวบ้านไหมละ!! โธ่ ..ภู มิ ปั ญ ญ า ไ ท ย นี่ แ ห ล ะ เ ป็ น ง า น วิ จั ย ส า ย พั น ธุ์ ไ ท ย ชั้นยอด แข่งกับใครๆได้ทั้งโลก..ดังจะเห็นมวยไทยใช้จระเข้ฟาดหางเข้ากระโดงคางคู่ต่อสู้ชาติอื่นมานักต่อนักแล้ว
ในการประชุมสัมมนาการวิจัยที่ผ่านมา ผมถูกชวนเป็นวิทยากรในงานประชุมประจำปี หรืองานที่จัดเสวนาจะเฉพาะกลุ่มตามมหาวิทยาลัย3-4ครั้ง จนกระทั้งเกิดความคันในหัวใจ เมื่อ 20 ปีมาแล้ว ได้ทำบันทึกถึง ศ.สิปนนนท์ เกตุทัต เพื่อจะบอกว่าชาวบ้านก็ทำการวิจัยได้นะขอครับถ้าให้โอกาส อาจารย์เอาจดหมายผมไปบอกเล่าในการประชุมบอร์ด บอกว่าข้อเสนอแนะนี้น่าสนใจ แต่..เป็นความสนใจที่ค้างไว้นานนับสิบปี กว่าที่(สกว.)จะเปิดกว้างให้งานวิจัยออกไปสู่ประชาคมต่างๆ ทำให้ปัจจุบันใครๆก็ทำการวิจัยได้ ในระดับชาวบ้านมีงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ฯลฯ
งานวิจัยไม่ใช่เรื่องใหญ่โตซับซ้อนอะไรหรอก
เพียงแต่ค้นหาความจริง ทำให้ความจริงปรากฏ อธิบายให้ได้
ว่ารู้อะไร รู้อย่างไร รู้แล้วตีแตกเป็นเหตุเป็นผลอย่างไร?
ยกตัวอย่าง..
ผมวิจัยวิธีทำให้ภรรยายิ้ม
>> วันหนึ่งโฉมยงแต่งตัวเตรียมจะออกจากบ้าน
ผมเดินฉับๆไปหาพร้อมกับจำนรรจ์จา
>> นี่เธอ..อย่าไปนานนะ
<< ทำไมละ? ..เสียงขึ้นจมูกเชียว..
>> ไม่มีอะไรหรอก ..ถ้าไปนาน..คิดถึงนะ ..
ถ้าภรรยายิ้มออก แสดงว่างานวิจัยสอบผ่านใช่ไหมละครับ
อีก 1 ตัวอย่าง
ภรรยาขี้บ่นฉอดๆๆๆ บ่นเป็นวรรคเป็นเวร
โยงเรื่องนั้นเรื่องนี้มาใส่คุณสามีไม่ยั้ง
ระหว่างที่คุณภรรยากำลังเม้าท์มันส์ถึงขีดสุด
พ่อเจ้าประคุณยกมือห้าม! ..หยุดๆ ! ! > >
คุณปากไม่มีหูรูด ทำตาเขียวปัดที่ถูกขัดจังหวะ
เสียงดังขึ้นหลายเดสิเบล..
<< มีปัญหาใช่ไหม?!
พ่อเจ้าประคุณละล่้ำละลัก>>
“เปล่า เปล่า ขอเวลากอดอก >> พี่จะตั้งใจฟังที่เธอพูดน่ะ”
ที่ฉอดๆสะดุดกึก ไม่นึกว่าจะลงอีหรอบนี้ อิ อิ..
เรื่องวิจัยไทบ้านที่จะไปบอกเล่าที่หาดใหญ่เที่ยวนี้ คงจะเอาเรื่องการใช้ใบไม้เลี้ยงโคไปโม้ เป็นกรณีการแก้ไขวิกฤติด้านอาหารสัตว์ ในสภาพที่ความแห้งแล้งรุนแรงยาวนานจนแปลงหญ้าแห้งกรอบ พื้นที่เลี้ยงหรือทำเลเลี้ยงสัตว์ลดลง อาหารข้นอาหารเสริมแพงจนผู้เลี้ยงปศุสัตว์เอื้อมไม่ถึง อีกทั้งเรื่องนี้ยังไม่มีใครเสนออย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งจะแถมเรื่องเอาหวดข่ามาทำไวน์เลี้ยงโคเข้าไปด้วย โคน่าจะสะลึมสะลือนอนเคี้ยวเอื้องอย่างสบายอารมณ์ ถ้าโคชิมไวน์แต่พอดี ดังนั้นที่คุณญาติโกอ่านเรื่องในช่วงนี้ คือการบ้านที่ผมต้องทำวิจัยกับมือตนเอง ไม่ได้ทำการวิจัยบนอากาศ หรือนั่งเทียนแต่อย่างใดนะขอรับ “รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม” ..
ยังมีเรื่องการวิจัยน้ำเต้าเพื่อเป็นผักพื้นถิ่น การปลูกต้นอาคาเซียเป็นไม้เศรษฐกิจหลัก เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มรายได้ให้ชาวบ้าน ใช้ใบเป็นอาหารสัตว์ได้ด้วย การปลูกพริกร้อยครกที่เผ็ดร้อนแรง ช่วยงานอุตสาหกรรมอาหาร โจทย์นี้ คิ ด อ อ ก ต อ น ที่ นั่ ง กิ น น้ำ พ ริ ก เ ผ า กั บ ข น ม ปั ง ถ้าเราเอาพริกพันธุ์ร้อยครกผสมลงไป น่าจะช่วยลดปริมาณพริกที่เคยใช้อยู่เดิม ทำให้ประหยัดต้นทุนเห็นๆเลยใช่ไหมละครับ? ถ้ามีเวลาอาจจะหยอดเรื่องแพะนมได้อีกสัก 1 ขนาน เผื่อบางทีนักวิจัยเชิงวิชาการอาจจะมาจับมือร่วมกันยกระดับงานวิจัยในบ้านเราให้ดีขึ้น เพราะวิธีอธิบายงานวิจัยของชาวบ้าน ถ้ามีนักวิจัยสายวิชาการมาช่วย จะทำให้ประสิทธิผลงานวิจัยแบบลูกทุ่งออกไปสู่โลกกว้างได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อยากจะเห็นแบบ “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” เกิดขึ้นในวงการวิจัยประเทศของเรา
เมื่อได้คิด จึงคิดได้
ถ้าไม่ให้ผมตกม้าตาย
ก็ต้องช่วยๆกันให้ข้อชี้แนะด้วยนะขอรับ
ชิมิ ชิมิ
2 ความคิดเห็น
วันนี้ขึ้นเวทีกับอธิบดีกรมอุตุ ท่านว่าแล้งนี้ อาจจะมีฝนเป็นช่วงๆ ได้ครับ ที่หนาวตอนนี้จะอุ่นขึ้น แล้วจะเย็นลงอีกวันที่ 22-23 (ผมคิดว่าอาจมีฝนตกอีกรอบได้)
ล้างโอ่งรอมาเป็นเดือนแล้วครับ อิ