งานวิจัยไทบ้าน (นอก)

โดย sutthinun เมื่อ 18 มีนาคม 2011 เวลา 4:19 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ, เรื่องทั่วไป #
อ่าน: 2739

เมื่อวาน โดนทวงเรื่องเอกสารประกอบการขี้โม้

ที่จะลงไปงานสัมมนานักวิจัยที่มหาวิทยาลัยทักษิณปลายเดือนพฤษภาคม

เรื่องนี้ง่ายเลยสำหรับชาวบ้านตาโปๆอย่างผม

จะเอามะพร้าวไปขายสวนกี่คันรถก็ไม่รู้

มาใจชื้นหน่อยที่พระอาจารย์ใหญ่ท่านรับลูกเรื่องวิจัยไทบ้านอยู่แล้ว ศ...วิจารณ์ พานิช สมัยที่ท่านเป็นผู้อำนวยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้พยายามปล้ำผีลุกปลูกผีนั่งเรื่องการวิจัยทุกรูปแบบ เพื่อขยายโอกาสแวดวงการวิจัยให้กว้างขวางไปทุกประชาคมไทย  ขอเท้าความไปถึงสมัยที่ท่านอาจารย์ ศ.สิปนนท์ เกตุทัต เป็นผู้อำนวยการ(สกว.) ยุคนั้นคนที่จะทำการวิจัยหรือขอทุนวิจัยได้ อย่างน้อยก็ควรจะเป็นนักวิชาการหรืออาจารย์ที่อยู่ในสถาบันต่างๆ ส่วนชาวบ้านตาโปๆไม่อยู่ในสายตา ผู้เกี่ยวข้องมองเห็นว่าชาวบ้านจะมาวิจงวิจัยอะไรได้ ระบบระเบียบวิธีวิจัยเป็นงานชั้นสูงต้องใช้องค์ประกอบทางเทคนิควิชาการล้วนๆ “คำว่าวิจัย” จึงมีภาพยิ่งใหญ่มโหระทึกเสียเหลือเกิน อาจารย์ที่สอนวิจัยก็เขียนภาพเสือขู่สมันน้อยให้ดูน่าพรั่นพรึง งานวิจัยในบ้านเรามันจึงหดอยู่ในกระดอง เคยยั่ว..แน่จริงมาคล้องช้างป่าแข่งกับชาวบ้านไหมละ!! โธ่ ..ภู มิ ปั ญ ญ า ไ ท ย นี่ แ ห ล ะ เ ป็ น ง า น วิ จั ย ส า ย พั น ธุ์ ไ ท ย ชั้นยอด แข่งกับใครๆได้ทั้งโลก..ดังจะเห็นมวยไทยใช้จระเข้ฟาดหางเข้ากระโดงคางคู่ต่อสู้ชาติอื่นมานักต่อนักแล้ว

ในการประชุมสัมมนาการวิจัยที่ผ่านมา ผมถูกชวนเป็นวิทยากรในงานประชุมประจำปี หรืองานที่จัดเสวนาจะเฉพาะกลุ่มตามมหาวิทยาลัย3-4ครั้ง จนกระทั้งเกิดความคันในหัวใจ เมื่อ 20 ปีมาแล้ว ได้ทำบันทึกถึง ศ.สิปนนนท์ เกตุทัต เพื่อจะบอกว่าชาวบ้านก็ทำการวิจัยได้นะขอครับถ้าให้โอกาส อาจารย์เอาจดหมายผมไปบอกเล่าในการประชุมบอร์ด บอกว่าข้อเสนอแนะนี้น่าสนใจ แต่..เป็นความสนใจที่ค้างไว้นานนับสิบปี กว่าที่(สกว.)จะเปิดกว้างให้งานวิจัยออกไปสู่ประชาคมต่างๆ ทำให้ปัจจุบันใครๆก็ทำการวิจัยได้ ในระดับชาวบ้านมีงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น ฯลฯ

งานวิจัยไม่ใช่เรื่องใหญ่โตซับซ้อนอะไรหรอก

เพียงแต่ค้นหาความจริง ทำให้ความจริงปรากฏ อธิบายให้ได้

ว่ารู้อะไร รู้อย่างไร รู้แล้วตีแตกเป็นเหตุเป็นผลอย่างไร?

ยกตัวอย่าง..

ผมวิจัยวิธีทำให้ภรรยายิ้ม

>> วันหนึ่งโฉมยงแต่งตัวเตรียมจะออกจากบ้าน

ผมเดินฉับๆไปหาพร้อมกับจำนรรจ์จา

>> นี่เธอ..อย่าไปนานนะ

<< ทำไมละ? ..เสียงขึ้นจมูกเชียว..

>> ไม่มีอะไรหรอก ..ถ้าไปนาน..คิดถึงนะ ..

ถ้าภรรยายิ้มออก แสดงว่างานวิจัยสอบผ่านใช่ไหมละครับ

อีก 1 ตัวอย่าง

ภรรยาขี้บ่นฉอดๆๆๆ บ่นเป็นวรรคเป็นเวร

โยงเรื่องนั้นเรื่องนี้มาใส่คุณสามีไม่ยั้ง

ระหว่างที่คุณภรรยากำลังเม้าท์มันส์ถึงขีดสุด

พ่อเจ้าประคุณยกมือห้าม! ..หยุดๆ ! ! > >

คุณปากไม่มีหูรูด ทำตาเขียวปัดที่ถูกขัดจังหวะ

เสียงดังขึ้นหลายเดสิเบล..

<< มีปัญหาใช่ไหม?!

พ่อเจ้าประคุณละล่้ำละลัก>>

“เปล่า เปล่า ขอเวลากอดอก >> พี่จะตั้งใจฟังที่เธอพูดน่ะ

ที่ฉอดๆสะดุดกึก ไม่นึกว่าจะลงอีหรอบนี้ อิ อิ..

เรื่องวิจัยไทบ้านที่จะไปบอกเล่าที่หาดใหญ่เที่ยวนี้ คงจะเอาเรื่องการใช้ใบไม้เลี้ยงโคไปโม้ เป็นกรณีการแก้ไขวิกฤติด้านอาหารสัตว์ ในสภาพที่ความแห้งแล้งรุนแรงยาวนานจนแปลงหญ้าแห้งกรอบ พื้นที่เลี้ยงหรือทำเลเลี้ยงสัตว์ลดลง อาหารข้นอาหารเสริมแพงจนผู้เลี้ยงปศุสัตว์เอื้อมไม่ถึง อีกทั้งเรื่องนี้ยังไม่มีใครเสนออย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งจะแถมเรื่องเอาหวดข่ามาทำไวน์เลี้ยงโคเข้าไปด้วย โคน่าจะสะลึมสะลือนอนเคี้ยวเอื้องอย่างสบายอารมณ์ ถ้าโคชิมไวน์แต่พอดี ดังนั้นที่คุณญาติโกอ่านเรื่องในช่วงนี้ คือการบ้านที่ผมต้องทำวิจัยกับมือตนเอง ไม่ได้ทำการวิจัยบนอากาศ หรือนั่งเทียนแต่อย่างใดนะขอรับ “รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม” ..

ยังมีเรื่องการวิจัยน้ำเต้าเพื่อเป็นผักพื้นถิ่น การปลูกต้นอาคาเซียเป็นไม้เศรษฐกิจหลัก เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อม เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มรายได้ให้ชาวบ้าน ใช้ใบเป็นอาหารสัตว์ได้ด้วย การปลูกพริกร้อยครกที่เผ็ดร้อนแรง ช่วยงานอุตสาหกรรมอาหาร โจทย์นี้ คิ ด อ อ ก ต อ น ที่ นั่ ง กิ น น้ำ พ ริ ก เ ผ า กั บ ข น ม ปั ง ถ้าเราเอาพริกพันธุ์ร้อยครกผสมลงไป น่าจะช่วยลดปริมาณพริกที่เคยใช้อยู่เดิม ทำให้ประหยัดต้นทุนเห็นๆเลยใช่ไหมละครับ? ถ้ามีเวลาอาจจะหยอดเรื่องแพะนมได้อีกสัก 1 ขนาน เผื่อบางทีนักวิจัยเชิงวิชาการอาจจะมาจับมือร่วมกันยกระดับงานวิจัยในบ้านเราให้ดีขึ้น เพราะวิธีอธิบายงานวิจัยของชาวบ้าน ถ้ามีนักวิจัยสายวิชาการมาช่วย จะทำให้ประสิทธิผลงานวิจัยแบบลูกทุ่งออกไปสู่โลกกว้างได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น อยากจะเห็นแบบ “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” เกิดขึ้นในวงการวิจัยประเทศของเรา

เมื่อได้คิด จึงคิดได้

ถ้าไม่ให้ผมตกม้าตาย

ก็ต้องช่วยๆกันให้ข้อชี้แนะด้วยนะขอรับ

ชิมิ ชิมิ

« « Prev : ไม่เหมือนเดิม

Next : โจทย์วิจัยจากชุมชน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 Logos ให้ความคิดเห็นเมื่อ 18 มีนาคม 2011 เวลา 22:27

    วันนี้ขึ้นเวทีกับอธิบดีกรมอุตุ ท่านว่าแล้งนี้ อาจจะมีฝนเป็นช่วงๆ ได้ครับ ที่หนาวตอนนี้จะอุ่นขึ้น แล้วจะเย็นลงอีกวันที่ 22-23 (ผมคิดว่าอาจมีฝนตกอีกรอบได้)

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 มีนาคม 2011 เวลา 1:47

    ล้างโอ่งรอมาเป็นเดือนแล้วครับ อิ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.094075918197632 sec
Sidebar: 0.07619309425354 sec