ความในใจภาค 1
( ส.ค.ส. 2009 จากชาวสสสส. 1)
อันตัวข้าพเจ้าเอง ฝ่าเส้นเวลาชีวิตของโลกข้ามมาได้อีกปีหนึ่ง
ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะน็อค ! ไปหลายปีแล้ว
ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ชะตาชีวิตต่องแต่งอยู่ก็อยู่
ขึ้นกับจะจัดการให้ สมควร สมดุล อย่างไร?
..จะอยู่แบบแบกโลก อุ้มโลก หนักนะ
..จะอยู่แบบป่วนโลก ตีมือตีเท้า วิกลจริตนะ
..จะอยู่แบบเฉื่อยเฉย อะไรก็ไม่ยังไง เปลืองออกซิเจนนะ
..จะอยู่แบบเรียนรู้ไปเรื่อย ๆ เฮฮาจนแก้มเมื่อย อย่างนี้ดีนะ
นั่ง ๆ คิดว่าจะตะล่อมพฤติกรรมตัวเองยังไง
ติดบล็อกไหม บ้าบล็อกไหม
เปล่าเลย บล็อกติดเราต่างหาก
อยู่ในรังนกกระจอกถ้าไม่มีบล็อกจะทำยังไง
ยังดีหน่อยมีหนังสือที่นักเรียนโข่งและสถาบันฯ แจก
โดยเฉพาะหลวงพี่ติ๊กเจอเป็นแจก หนังสือดี ๆ ทั้งนั้น แต่คนอ่านดีมิดีไม่รู้นะ
จุดพฤติกรรมการอ่าน..เป็นวัฒนธรรมด้อยของชาวสยาม
บีบบังคับกันไว้ตั้งแต่ปีมะโว้
ห้ามไม่ให้ลูกหลานไทยเขียนเพลงยาว
นิสัยรักการอ่านเขียนถูกคุมกำเนิดมาตั้งแต่ครั้งกระโน้น
สุนทรภู่ แทบเอาตัวไม่รอด
มาถึงสมัยนี้ บ่ทันกินแล้วละขอรับ
เด็กกระโดดข้ามขั้น..ไม่พยายามเขียนอยู่ดี
หันไปใช้สื่อไอ.ที.ประสานกิ๊ก!
ใครเป็นครูก็ตาเหลือกละสิ
เว้นแต่ครูบางคนที่กิ๊กเยอะ..ก็พอจะคุยเรื่องนี้เข้าใจได้บ้าง!!!
นักการศึกษาตกระแส ไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลง
เด็กพันธุ์ใหม่ แต่ครูพันธุ์เก่า มันจะตามทันกันได้อย่างไร?
มีคนบอกว่า..ต้องมาส่งเสริมรักการอ่าน
ถ้าตีความตรงนี้ นี่แหละจุดที่บ่งชี้ว่าการศึกษาไทยบกพร่อง
ไม่สามารถเปลี่ยนการบ่น มาเป็นการอ่าน
เมื่อไม่อ่านการเขียนไม่ต้องพูดถึง
มองไม่เห็นโจทย์ แต่ก็มางึมงำเรื่องจะปฏิรูปการศึกษา
มองไม่เห็นโจทย์ แต่จะออกมาตรการโน่นนี้
มองไม่เห็นโจทย์ แต่จะแก้ปัญหาการศึกษาด้วยการเรียนฟรี
ใครช่วยบอกรัฐมนตรีกระทรวงธรรมการคนใหม่ทีเถอะ
เรื่องนี้แก้ได้ล้านเปอร์เซ็นต์
ถ้าเขา เธอ หรือใครคนนั้น เข้ามาเป็นสมาชิกของลานปัญญา
พื้นที่ตรงนี้กำลังทำเรื่องปฏิรูปการศึกษาฉบับของจริง
เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ลงตัวทุกด้าน
มีทั้งการค้น อ่าน เขียน ถ่ายเท ถ่ายทอด ยั่วให้คิด ยุให้ทำ เสวนา อบอุ่น
ไม่เกรี้ยวกราด ไม่วุ่นวายผลประโยชน์ กอดลูกเดียว
ไม่บีบ ไม่เค้น ไม่อะไรทั้งนั้น แต่มันก็เกิดอะไรดีๆมากมาย
มันหลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ
ปีใหม่ ใครทำเรื่อง UKM.
ปีใหม่ ใครทำเรื่อง การศึกษา
ปีใหม่ ใครทำเรื่องสังคมแห่งการเรียนรู้
เอาไปนอนคิดดู
สิ่งที่พวกเราช่วยกันทำมาตลอด 1 ปีไม่สูญเปล่าหรอกนะ
วันนี้ก็จะมีคุณอาจารย์หมอมาขอคุยด้วย
เรื่องที่จะเอานักศึกษาแพทย์ปี 1 ไปปฐมนิเทศที่สวนป่า
ยังปรึกษากับคนหัวโตว่า..ถ้าเรามีหมู่บ้านแซ่เฮ
ตรงจุดหมู่บ้านนั่นแหละจะเป็นที่ตั้งรับ ตั้งรุก เรื่องของภาคสังคมอุดมปัญญา
ที่เล่านี้มิเพ้อฝัน หรือเมาคำอวยพร นะตัวเอง
ไม่นานหรอก..ฟ้าผ่า เอ๊ย! ฟ้าลิขิตแน่ อิ อิ..
« « Prev : อยากหยุดกรุงเทพฯไว้แค่นี้
11 ความคิดเห็น
ครูฯครับ
บางทีแบกโลกก็ต้องแบกนะครับ
แต่โลกผมอาจจะใบเล็กกว่าของครูฯ
สันดานคนบางคนก็เป็นอย่างนี้ โลกมีไว้ให้เหยียบดันไปแบก
ยังไงโลกใบบูดเบี้ยวใบนี้ ถ้าไม่ช่วยกันแบกไว้ มันคงล่วงไปอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์แผดเผาจนวอดวายไปแล้ว
ยังไงขอให้ครูฯสุขภาพดีๆนะครับ เดี๋ยวโลกใบนี้จะไม่มีใครแบก
สุขสันต์วันปีใหม่ครับ
โลกมีไว้ เป็นที่ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ถ้าแบกไว้ อีตอนตายจะทำยังไงละ
ทำเชิงตะกอนบนบ่าไม่สนุกแน่
ชอบไม๊ ชอบไม๊ สคส. นี้ อิ อิ
ปีใหม่แล้วก็ยังคงเหมือนเดิม ……รูปไปทาง เรื่องไปทาง อิอิ
ชอบครับครูฯ สุดย๊อด
กราบสวัสดีปีใหม่ค่ะพ่อครูบาฯ
สคส.ใจดี … ลุงที่อยู่ในภาพเกี่ยวกับฟ้าลิขิต มั้ยค่ะ…จะได้ตอบคุณหมอจอมป่วนได้ค่ะว่า รูปกับเรื่องไปทางเดียวกัน…อิอิ
สวัสดีปีใหม่ครับพ่อครูบาฯ
พ่อจ๋า รักและคิดถึงพ่อนะค่ะ สคส. หนุ่มในรูปหน้าตาคุ้นๆ เหมือนลุงสุดที่รักเลย อิอิ
วันนี้ได้ขึ้นบล็อกครูบา คำพูดกับรูปภาพไปทางเดียวกันหรือเปล่าไม่รู้ แต่รูปนี้ยิ้มสู้ จะไม่สู้ได้อย่างไรนักเรียนโข่งไปลาวและสิบสองปันนา ตั้ง ๘๐ คน อย่าว่าแต่ปูใส่กระด้งเลยปมีทั้งปูก้ามโต ปูก้ามเล็ก ปูไม่มีก้าม ปูม้า(ดีดกระโหลกก็มี)
คนดูแลปูต้องใช้ความนิ่งสยบปัญหา สุดท้ายมีแต่เสียงฮาตลอดทางทั้งในรถ บนเรือ บนเครื่องบิน
ถามว่าเอาตำราไหนมาจัดการศึกษาแบบนี้ ที่จะต้องใช้ทฤษฎีตามสถานการณ์ บริหารแบบธรรมชาติ เอานักศึกษาเป็นศูนย์กลาง ไม่แข็งทื่อหรืออ่อนปวกเปียก
พลทหารสร้อยถามว่าเรียนแบบนี้แล้วได้อะไร ก็ขอบอกว่าให้ลืมวันตายที่จะถึงข้างหน้านี้ไง อย่ามัวแต่ตะบี้ตะบันอัดอะไรใส่ตั้งแต่เด็กๆ จนออกมาจากโรงเรียนกลายเป็นคนพิการทางปัญญาหมด คิดไม่เป็น อ้าวกลายเป็นบ่นฉลองปีใหม่ไปซะนี่
อ่านแล้วมีความสุขจริงๆค่ะพ่อ ภาพ+เม้นต์ลุงเอกก็น่ารักน่ากอด ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เจ้าตัวนี้ขโมยมาจากลานจจ.ค่ะ http://lanpanya.com/journal/archives/2149
เป็นหมาที่อิ่มสุข