อย่าลืมแป้งตรางูนะน้า
อ่าน: 3218(ประดู่แดง แต่งแต้มยามฟ้าแล้งให้แดงสวย)
คนที่อยู่กลางดินกินกลางดอน
ย่อมสัมผัสตรงกับความเปลี่ยนแปลงของโลก
และวันนี้ก็เห็นชัดเจนแล้วว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างไม่เคยมีมาก่อน
มีบางอย่างที่ไม่อาจจะทำแบบเก่าๆ
ต้องยกเครื่องวิธีการที่จะอยู่บนโลกใบนี้อย่างเอาจริงเอาจัง
กระบวนการที่จะทำให้คนไทยตระหนักรู้อยู่ที่ไหน?
ช่วงนี้กลไกของธรรมชาติ สะท้อนวิชาแก้ปัญหาให้เราได้เรียนรู้ บางเรื่องเราจะร้องอ๋อได้ในช่วงนี้ ยกตัวอย่างเช่น ผมปลูกต้นเหรียงใกล้บ้าน หวังว่าจะให้เกิดร่มเงาได้อาศัยยามร้อนแล้ง บังเอิญเหรียงเป็นไม้มาจากทางใต้ ผมรู้เรื่องเหรียงน้อยมาก ได้มาก็ขุดหลุมปลูก และเหรียงก็เติบโตได้ดี แต่พอเข้าหน้าแล้งอย่างเดี๋ยวนี้ เหรียงก็ผลัดใบโกร๋นทั้งต้น ใบเขียวครึ้มที่เราจะอาศัยเป็นร่มก็เป็นอันแห้ว ขณะเดียวกันต้นมะค่าโมงก็ออกอาการเดียวกัน ยิ่งแล้งจัดก็ทิ้งใบจนเกลี้ยงต้น ยังดีที่มีต้นขนุน ต้นตีนเป็ด ต้นหลาวชะโอน ที่ปลูกแทรกไว้ใบเขียวครึ้ม ไม่งั้นเธอเอ๋ย แดดคงแผดเผาบ้านเราจนกรอบเกรียม
(ต้นเหรียง-ต้นมะกอกข้างบ้านทิ้งใบโกร๋น)
แสดงว่าถ้าจะปลูกต้นอะไรเพื่อวัตถุประสงค์ใด
ควรศึกษานิสัยของต้นไม้ให้ถ่องแท้
ไม่อย่างนั้นเราก็จะวืด!
จะเอาต้นซากุระมาปลูกที่อีสานบ่ได้ดอก
ขณะเดียวกันจะเอาต้นคูนไปปลูกที่ญี่ปุ่นก็บ่มีดอก
ทุกอย่างมันมีที่มีทางของเขา
เรียกว่าแผนภูมิของธรรมชาติเด้อ
อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าปลูกเหมือนข้อย
ปีที่แล้วมะม่วงในสวนแทบไม่ออกดอก
ปีนี้ที่ว่าแล้งๆ..มะม่วงออกดอกครึดไปทั้งสวน
ชาวบ้านบอกว่า..บางทีไม้ผลก็จะออกปีเว้นปีถ้าเราปล่อยตามธรรมชาติ
แสดงว่าที่ออกผลไม่บันยะบันยัง นั่นเป็นเพราะมนุษย์เข้ามาช่วยจัดการ
เพื่อกระตุ้นประโยชน์ให้เกิดขึ้นต่อเนื่องทุกปี
วิชาความรู้นี่เรียนกันไม่จบจริงๆ
(ดอกยมหอมแข่งดอกตะเคียนทองมาบรรณาการคนปลูก)
ร้อนๆอย่างนี้มีใบแห้งไม้เยอะ ไม้ผลัดใบก็จะทิ้งใบจนหมด ไม้ไม่ผลัดใบก็จะผลัดใบมากขึ้น เดินใต้ต้นไม้จะส่งเสียงกรอบแกรบ เพราะเรายำไปบนใบไม้แห้งที่ปูแทนพรม การที่ใบไม้หล่นลงมาปกคลุมดิน นอกจากจะเป็นปุ๋ยแล้ว ยังช่วยปกคลุมหน้าดินให้บรรเทาร้อนเบาบางลงไปได้
(รดด้วยน้ำใจผักอะไรก็งาม)
เรื่องการรดน้ำต้นไม้ก็สำคัญ ต้องคำนวณให้ดีว่าเรามีน้ำกี่มากน้อยที่จะนำไปรดน้ำต้นไม้ได้ ถ้ามีต้นทุนน้ำมากก็รดไปเถอะ เพียงแต่จะต้องออกแบบให้ดี ว่าจะรดวันเว้นวันหรือรดทุกวัน และควรจะรดประจำตามเวลา ไม่ใช่รดน้ำสะเปะสะปะ ถ้าทำแบบนั้นต้นไม้ตายครับผม อนึ่งช่วงบ่ายที่ผืนดินร้อนๆ ถ้ารดน้ำลงไปก็จะเป็นเหมือนการลวกต้นไม้ น้ำ+แผ่นดินร้อน=น้ำร้อน รากฝอยต้นไม้สะดุ้ง
อนึ่ง ถ้าเคยรดน้ำมากน้อยแค่ไหน ช่วงเวลาไหน ต้องมีวินัยทำตามนั้น อย่ารดน้ำตามใจฉัน ต้นไม้อาจจะตายได้ ถ้าไม่เข้าใจหรือขี้เกียจดูแลต้นไม้ ปล่อยให้ต้นไม้เผชิญชะตากรรมด้วยตัวเองจะดีกว่า ยังจะรอดตายมากกว่า
แล้งโหดอย่างนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องดีๆออกมา
ไม้บางชนิดจะออกดอกช่วงแล้ง
ช่วยแต่งแต้มยามร้อนแล้งให้มีสีสัน
ดอกทองกวาวจะแดงดูเด่นเห็นแต่ไกล
ดอกประดูแดงออกดอกสวยเต็มต้น
ดอกตะเคียนป่าสีขาวเล็กๆคลุมพราวไปทั้งต้น
อีกหน่อย ลำดวนดงก็คงแข่งกันออกดอกส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งป่า
เมื่อคืนเห็นผึ้งหลวงมาเล่นไฟ
แสดงว่ามีผึ้งอพยพมาอยู่ในสวนป่าอีกแล้ว
คนป่า กับ พวกป่าๆ ก็มาหากันจนเจออย่างนี้แหละเธอ
กาแฟเย็น ไอติม แตงโม อาจจะช่วยเราได้
หญ้าแห้ง ใบไม้แห้ง น้ำ อาจจะช่วยต้นพืชได้
ร้อนกาย อย่าร้อนใจ นะจ๊ะ
อาบน้ำแล้วอย่าลืมทาแป้งตรางู!
Next : วันแก่แต่ชอบเรียกวันเกิด » »
4 ความคิดเห็น
อ่านไปนึกจินตนาการภาพประกอบ
ใบไม้กรอบแห้งหล่นจนใจหาย
ถึงหน้าร้อนอีกครั้งแทบวางวาย
พืชทั้งหลายกระหายน้ำเหมือนดั่งคน
ร้อนเท่านี้อย่าทวีความร้อนรุ่ม
ลดความกลุ้มออกจากใจหายมัวหมอง
ดื่มน้ำเย็นสักแก้วแล้วไตร่ตรอง
ความขุ่นข้องจะลดไปไม่รุนแรง
ฤดูร้อนพืชน้อยใหญ่อยากได้น้ำ
ความชุ่มฉ่ำชุบชีวาให้กล้าแกร่ง
เหมือนคนเรายามระโหยโรยเรี่ยวแรง
จักเข้มแข็งใช้น้ำใจช่วยเยียวยา
อากาศร้อน ร้อนกายแต่อย่าร้อนใจกันนะคะ อิอิอิ
อาทิตย์ก่อนผึ้งหลวงหาทางมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณบ้านค่ะ…แต่น่ากลัว…เลยอัญเชิญ(ด้วยวาจา) ว่าให้ไปอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ซะนะ…ที่นี่บ้านคน แล้วเขาเหล่านั้นก็บินย้ายไปหมด
ครูบาจะไปสอนที่น่านเมื่อไหร่ค่ะ
ร้อนก็หลบจบรายการผันผ่านร้อน
อาบน้ำนอนผึ่งพุงจนรุ่งสาง
ธรรมชาติธรรมดามาช้านาน
จะคิดค้านคิดค้นก็จนใจ
ธรรมเนียนป่า ถ้าผึ้งหลวงมาอาศัยอยู่ด้วยถือว่าดี
ถึงจะอยู่ข้างบ้านเขาก็อยู่ของเขา ไม่ทำร้ายอะไรเราหรอก
ถ้าเขามาขออยู่อีก ก็ชวนอยู่นะอุ้ย
อาจจะโชคดีมีชัยไชโย อิ