แพะเกี่ยวอะไรกับกล้วย
อ่าน: 3238(ยุคใช้เครื่องจักรกล เครื่องจักรไม่มีขี้ไม่มีปุ๋ย)
: โปรตีนในอนาคต นับวันจะยุ่งเหยิงเหมือนลิงแกะแห จำนวนพลโลกเพิ่มมากขึ้น การแพทย์เจริญขึ้น ช่วยให้คนอยู่รอดปลอดภัยตั้งแต่แรกคลอด การดูแลรักษาอาการป่วยไข้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ผู้คนอายุยืนมากขึ้น ถึงกระนั้นก็เถอะ..คนหนึ่งคนก็เติมหนึ่งปัญหา ใช้ทรัพยากรในโลกด้วยกันทุกคน ถึงวิทยาการต่างๆจะเจริญก้าวหน้า แต่ก็ยังช้ากว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างซับซ้อน วิกฤติต่างๆมากขึ้นๆ มนุษยชาติจะอยู่อย่างไรละครับ ในเมื่อใครๆก็ไม่เชื่อว่ามีลูกมากจะยากนาน (ยกเว้นพวกทำแท้งที่ฮือฮาไปทั่วประเทศเมื่อเร็วๆนี้) ทุกเรื่องทุกประเด็นตลุมบอลน่าคิดมากนะครับ
มากคนมากเรื่องจะทำฉันใด+!
ต่อไปจะไม่แย่งกันอยู่แย่งกันกินหรือครับ
(ปุ๋ยคอกหายากและมีราคาแพง ต้องเลี้ยงปศุสัตว์ผลิตปุ๋ยเอง)
ประเด็นเรื่องปากท้อง ถ้าไม่เกิดวิกฤติทางธรรมชาติก็อาจจะพอถูไถไปได้ปีต่อปี ถึงจะขึ้นราคาสินค้าก็ยังพอถูไถทีละเฮือกๆ แต่ถ้าความยากจนบีบคั้นจนถึงจุดแตกดังโพล๊ะ บางคนจะดิ้นตายกระเสือกกระสนหาทางออกทุกวิถีทาง วันนี้ทีวีออกข่าว มี ห นุ่ ม ใ ห ญ่ เ ที่ ย ว งั ด ห มุ ด เ ห ล็ ก ยึ ด ร า ง ร ถ ไ ฟ ไ ป ข า ย โธ่เอ๋ย พ่อประคุณรุนช่อง ช่างทำลงไปได้ ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไง ทางออกพลึกพิลั่นอย่างนี้ละครับนับวันจะพลิกแพลงมาให้เห็นมากขึ้นๆ
(ไม่มีน้ำ ไม่มีปุ๋ย ปลูกต้นตะบองเพชรก็ยังยาก)
ในอดีต เมืองไทยใหญ่อุดม ดินดีสมเป็นนาสวน ในอนาคต มันก็บ่แน่ดอกนาย ถ้าฟ้าดินมันวิกฤติ กลุ่มทำนาน้ำฝนเผชิญภัยมานักต่อนักแล้ว “ทำนาปีมีแต่หนี้กับซัง ทำนาปรังมีแต่ซังกับหนี้” สาเหตุเพราะมนุษย์กำกับความคุมธรรมชาติไม่ได้ ไม่ท่วมก็แล้ง ที่ซ้ำร้ายก็คือเรื่องปัจจัยการผลิต พึ่งตัวเองแทบไม่ได้เลยสักอย่าง ทำไปทำมารายได้จากไร่นาไม่พอเลี้ยงครอบครัว ต้องทิ้งนาไปเป็นพลเมืองชั้น2ในบางกอก อาชีพเสริมคือเตะฝุ่นเดินขบวนก่อม็อบ สังเกตดูเถิดจากนี้ไป ไม่รู้ม็อบไหนเป็นม็อบไหน แห่กันมาจนบางกอกโป่ง รัฐฯอ่อนแอหรือเข้มแข็ง+! คนเราถ้ากินอิ่มนอนอุ่นจะชวนพัฒนาอะไรก็ยังจะพอเป็นไปได้ แต่ถ้าหิวโซท้องไส้เต็มไปด้วยน้ำเหลือง หนี้สินท่วมหัว จัดอบรมให้ตายกันก็ไอ่แค่นั่นแหละ ส่วนหนึ่งมาเอาเบี้ยเลี้ยง ไม่ได้ต้องการความรู้ อนึ่ง ความรู้ที่ถ่ายทอด บางทีก็เหมือนแผ่นเสียงตกเตียง เศรษฐกิจพอเพียงแบบข้างๆคูๆ..
ในเมื่อความเป็นธรรมในสังคมบกพร่อง
กระแสปลุกม็อบจึงพัฒนาการจนเป็นต้นแบบของโลกไปแล้ว ไม่อยากคิดว่าเข้าตาจน แต่วิกฤติศรัทธาของคนในชาติก็ยากที่มองข้ามได้ ศรัทธาโหล ศรัทธาเสื่อม บ้านเมืองจึงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ หมดตาเล่น หมดตาเดิน จนแต้มจริงหรือ? บ่นไปก็เท่านั้น มาหาทางแก้ไขวิกฤติเรื่องโปรตีนกันดีกว่า เรื่องนี้คงไม่มีสูตรสำเร็จรูป ใครถัดเรื่องไหนชอบด้านใดก็ลงมือทดลอง ทดลอง
ส่วนผมเลือกเลี้ยงแพะครับ แพะกินใบไม้แทบทุกอย่าง เศษอาหารก็เจี๊ยะได้ ไม่เลือกไม่เรื่องมาก เห็นอะไรเขียวๆกินโม๊ด! ถ้าปลูกต้นไม้เอาใบไม้เลี้ยงแพะ ได้ืั้ทั้งแพะได้ทั้งป่าไม้ ช่วยประหยัดเรื่องอาหาร ค่าอาหารมีสัดส่วน70%ของรายจ่าย ถ้าเราลดตรงจุดนี้ความเป็นไปได้ก็ปรุโปร่ง นอกจากแพะจะกินง่ายเลี้ยงง่ายยังออกลูกง่ายอีกด้วย แพะมักจะออกลูกแฝด ปีหนึ่งๆออก2ครอก ปลายปีลูกครอกแรกก็ตั้งท้องแข่งกับแม่เสียแล้ว ตัวผู้อายุ4-5เดือนนำไปเป็นปรุงอาหารได้แล้ว ส่วนตัวเมียก็ขยายพันธุ์ ราคาจำหน่ายตัวละประมาณ 1,500-2,000บาท เหมาะกับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย ซื้อแพะตัวหนึ่งอุ้มขึ้นหลังรถมอเตอร์ไซด์ นำไปปรุงอาหารเลี้ยง15-20คนอิ่มทั่วหน้า แพะจึงเป็นโปรตีนของคนยากและคนรวยในอนาคต ดีกว่าจับแพะชนแกะแน่นอน..
เพื่อไม่ให้เป็นการโม้ลมๆแล้งๆ ผมวางแผนสร้างคอกแพะใกล้ๆกับแปลงผักและป่ากล้วย จะได้เอาเศษผัก-ใบกล้วย-หน่อกล้วย เลี้ยงแพะ รอบๆบริเวณยังมีต้นมะม่วง-มะขามเทศ-ขนุน-ตัดแต่งกิ่งมาเลี้ยงแพะได้อีก ใบและยอดผักยืนต้น-มะรุม-แค-มะกล่ำ-เหมาะที่จะเลี้ยงแพะแม่ลูกอ่อน ถ้าเรามีความสนใจมากขึ้น ก็อาจจะยกระดับไปเลี้ยงแพะนมได้ คราวนี้แหละเธอเอ๋ย ได้ทั้งเนื้อทั้งนม แพะกินเท่าไหร่ก็ขี้ออกมาเท่านั้น เป็นมูลสัตว์มังสะวิรัตเสียด้วย ขี้แพะเป็นเม็ดๆก้อนกลมๆเท่านิ้วก้อย ไม่จำเป็นต้องไปแปรรูปเป็นปุ๋ยอัดเม็ดให้สิ้นเปลืองงบประมาณ
ผมเคยแอบเอาขี้แพะไปเลี้ยงปลากินพืช
ลักษณะขี้แพะกลมๆคล้ายกับเม็ดหัวอาหาร
หว่านโครมลงไป ปลาว่ายมาแย่งกันงับ
บางตัวพอรู้ว่าโดนหลอกก็พ่นทิ้ง!!
แต่ตัวไหนหิวโซก็จะกลืนปุ๊บลงไป
จะพ่นออกมายังไงละครับ
ตระกะตระกรามสวาปามลงไปถึงท้องไส้
เพื่อเป็นการไถ่บาป
ตอนหลังผมเอาหัวอาหารผสมกับขี้แพะหว่านๆปนๆกันไป
ปลาไม่มีเวลาพิจาณาอะไรแย่งกันฮุบอาหารเม็ด
สุดท้ายก็เรียบร้อยโรงเรียนจีน
เ จี๊ ย ะ เ ก ลี้ ย ง ทั้ ง ขี้ แ พ ะ แ ล ะ หั ว อ า ห า ร
รึ! วิธีนี้จะเป็นการสร้างเสริมโปรตีนเพื่ออนาคตก็ไม่รู้นะขอรับ
· บางคนห่วงว่า..เนื้อแพะไม่อร่อย ไม่ชอบ ไม่เคยชิม
· บางคนบอกว่า..เนื้อแพะมีกลิ่นไม่ดี ไม่กล้าลอง
· บางคนติงว่า..คนไทยเลือกเนื้อหมู-ไก่-เป็ด-ปลา-ไม่เอาแพะ
ผมเคยเลี้ยงแพะนับพันตัวมาแล้ว เรื่องนี้มีทางแก้ ช่วงที่ชาวบ้านดูงาน ผมให้แม่ครัวเอา เ นื้ อ แ พ ะ ม า ผั ด เ ผ็ ด แ ก ง เ ขี ย ว ห ว า น เ อ า ม า ทำ ล า บ ถ้ารู้วิธีทำ..เนื้อแพะจะไม่มีกลิ่นแรงหรอกนะครับ อาหารไทยเต็มไปด้วยสมุนไพรดับกลิ่นเนื้อ พออิ่มทั่วหน้า ผมถามว่าเนื้อแพะไม่ดียังไง ชาวบ้านบอกว่าเนื้อแพะมีกลิ่นสาบ ไม่เคยกิน ไม่ชอบ ไม่อร่อย ไม่นิยม ไม่เลี้ยง
หลังจากอิ่มหมีพีมัน
ผมถามว่า อ า ห า ร วั น นี้ อ ร่ อ ย ไ ห ม ?
ถ้า ไ ม่ อ ร่ อ ย จ ะ เ ป ลี่ ย น แ ม่ ค รั ว + !
ทุกคนตอบเสียงดังฟังชัด อาร่อยยยยม๊ากกกก !
ผมเฉลยว่า..อาหารมื้อนี้ปรุงด้วยเนื้อแพะทั้งหมด
อร่อยไหมละ?
%#$@jj*&^><mf^&!!$@@+++?
เฮ้อ!! ห ล อ ก ป ล า กิ น ขี้ แ พ ะ แ ล้ ว
ยัง ม า ห ล อ ก ช า ว บ้ า น กิ น เ นื้ อ แ พ ะ อี ก
จะบาปไหมนี่
วิชาพัฒนาชุมชน เ รี ย น ยั ง ไ ง ก็ ไ ม่ จ บ ห ร อ ก น ะ ค รั บ
<< ชิมิ ชิมิ >>
« « Prev : สวนครัวสุขภาพฉบับคนแซ่เฮ
5 ความคิดเห็น
ชอบกินข้าวหมกแพะ แพะตุ๋น เลี้ยงเยอะๆก็ดีครับ จะได้หัดทำแกงแพะ ข้าวหมกแพะ แพะตุ๋น อิอิ
ปีหน้ามาเมื่อไหร่ได้ชิมแน่ อิ
เรื่องเลี้ยงแพะนี้ผมเองก็คิดมานานประมาณ 10 ปีเห็นจะได้แล้ว นำไปเสนอนักวิชาการผลิตสัตว์คนไหนเขาก็ส่ายหน้ากันหมด
แนวคิดผมคือ เลี้ยงแพะในสวน (ไม่ได้เลี้ยงในคอกนะครับ)
แพะจะกินหญ้าหมด ทำให้ไม่ต้องทำหญ้าให้เปลืองเงิน อึแพะเป็นปุ๋ย นมแพะขายได้ (ยิ่งเอาไปทำเนยยิ่งแพงขึ้นสิบเท่า..เดนมาร์กรวยที่สุดในโลก เพราะทำเนย) ..มันก็ได้หลายต่อ ไม่มีใครเสียเลย
เมื่อเดือนก่อนผมเจอเกษตรกร ผุ้คิดค้น มะม่วงมหัศจรรย์ งามเมืองย่า …ผมก็เอาไอเดียนี้ไปเสนอ ท่านว่า ท่านลองมาแล้ว ดีมากๆ หญ้าหมดเรียบ แต่ มะม่วงก็ตายด้วย เพราะแพะมันแทะเปลือกต้นมะม่วงซะไม่เหลือท่อน้ำเลี้ยง ..ผมเลยเสนอต่อว่า น่าเอาลวดกรงไก่มาหุ้มต้น น่าจะเสียคุ้มได้อยู่
เอาห่านมาเลี้ยงก็เป็นอีกแนวคิดของผม เอ้า…ท่านนี้ก็ลองมาอีกแล้ว ท่านว่ามันดีมากเลย ยกเว้น หมาชาวบ้านมันมากัดห่านตายหมด เฮ้อ..เมืองไทยเรา.ปัจจัยมันมากเหลือเกิน
กระต่ายก็กินหญ้านะครับ
ที่ผมเสนออีกเรื่องคือ เอาพืชที่ชอบแดดรำไรมาปลูก เช่น ผักหวานบ้าน ..โอย..ท่านนนี้ก็ลองมาอีกแล้ว ได้ผลดีมากๆ ..อะไรผมเสนอ แกเป็นลองมาหมดแล้ว …ยกเว้นนักวิชาการผลิตพืช ผลิตสัตว์ปริญญาเอกทั้งหลาย ที่หัวเราะเยาะแนวคิดผมอยู่นั่นแหละ
และแล้ว…ไม้ตายของผมก็มาถึง
คือผมเสนอว่า น่านะเอา “กล้วยไม้” ไปห้อยปลุกไว้ตามกิ่งมะม่วง เผลอๆ ขายกล้วยไม้ได้เงินมากกว่าขายผลไม้เสียอีก ..ตรงนี้ท่านหัวเราะ ยอมรับว่าไม่เคยคิดมาก่อน แล้วจะไปลองดู…รวมทั้งการทำนาหยอดหล่น ที่ผมได้นำเสนอด้วย …ท่านว่า “โหย…นี่มันนวัตกรรมปฏิรูปการทำนาโลกเลยนะ”
เป็นคนแรกที่ยกยอผมออกนอกหน้า (และผมก็นับถือเขามากพอดู) (ส่วนใหญ่คนเขาเหม็นหน้าผมกันหมด คงหาว่าเราอวดโอ่..ธ่อ..ก็คิดว่าพอมีดี จะอวดนิดอวดหน่อยไม่ได้เลยหรือ ต้องให้จุดเทียนธูปห่อกระดาษผูกโบไปให้ที่หลังบ้านอย่างนั้นหรือจึงจะยอมรับ)
ผมชอบที่อาจารย์เสนอ เสนอมาเยอะๆเลยครับ ผมรับเอง
เรื่องแพะ แกะ บ้านเราไม่มีทุ่งโล่งกว้างใหญ่เหมือนในต่างประเทศ
การเลี้ยงแพะจึงต้องออกแแบบกั้นบริเวญด้วยรั้วไฟฟ้า
กันหมาเข้ามากัด และกันแพะออกไปได้ด้วย
หาบริเวณพอประมาณให้แพะเดินและกระโดดโลดเต้นได้
ไม่จำกัดอยู่ในกรงเหมือนแพะสวนสัตว์
คาดว่าใช้พื้นที่100ตารางวา/แพะ1คู่
แพะก็จะอยู่อย่างสุขสบาย กินพืชผักและใบไม้ที่เราเอาไปให้
แพะตัวเล็กกินไม่มากเหมือนวัว
-ส่วน กระต่าย -ห่าน เคยทดลองเลี้ยง
-ที่ศูนย์ภูพานเลี้ยงห่านไว้กินหญ้าใต้สวนส้มโอ
-ห่าน กระต่าย น่าเลี้ยงถ้ากันหมาชาวบ้านได้
-ผักหวานบ้านก็ทดลองปลูกครับ สามารถเอารากมาปักชำได้
-ผมสนใจปลูกผักยืนต้นพื้นเมืองระบบชิด ดีมากๆ ปีนี้จะขยายพื้นที่
ขอบคุณครับ สงสัยเราจะเป็นพวกวิชาเกิน อิอิ
อีกอย่างที่น่าทดลองคือปลูกมันและกลอย ที่ชอบแดรำไรครับ เผลอๆ กลอยจะต่างตอบแทน ส่งสารอาหารให้ต้นไม้ด้วย เลยได้ทั้งขึ้นทั้งล่องครับ