สภาวะพิลึกกึกกือ

โดย sutthinun เมื่อ 1 ธันวาคม 2010 เวลา 4:14 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1158

>>ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ถ้าใคร่ครวญช้า ๆ เราจะเห็นว่าบรรยากาศบ้านเมืองเต็มไปด้วยเรื่องหยุมหยิม-ยอกย้อน-โยกเยก-งอแง-เล่นแง่เล่นมุม-สุ่มจับผิด-ส่งคลิป-ส่งส่วย-ส่งมะหาระรวยระริกรี้ สังคมทุกหมู่เหล่าปั่นป่วนกวนอกกวนใจไปทุกเรื่องทุกกรณี ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เรื่องกลางๆ และเรื่องใหญ่ๆ ใครต่อใครต่างได้รับผลกระทบโดยตรง สาเหตุคงเต็มไปด้วยเหตุที่จริงบ้างเท็จบ้าง เมื่อสถานะของวินัยทางสังคมอ่อนแอ ทุกอย่างก็ปรวนแปรระเนระนาด

วัฒนธรรมที่หยวน ๆ ยังไงก็ได้คือไทยแท้

ถ้ายังรักกันเพรียบแปล้ก็ไม่มีอะไร

แต่เมื่อผลประโยชน์ขัดใจอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้

มีเสียงเรียกหามาตรฐาน

ทั้ง ๆ ที่คนไทยไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้มาแต่ไหนแต่ไร

พอมีเรื่องไม่ได้ดั่งใจ ก็หาวิธีกวนใจ เจาะช่องโหว่แหวกช่องว่าง

ซึ่งมันมีให้แกะแทะเล็มเสียด้วย

เพราะต่างฝ่ายต่างสะสมมานาน

เสียงร้องแรกแหกกระเชอกรูเกรียวไม่ลดลาวาศอก

ได้ศอกจะเอาวา ได้วา >>จะเอาอย่างนี้ล่ะวะ ใครจะทำไม >>

ล้วนมีอำนาจบาตรใหญ่ ขาเล็ก อยากจะเป็นขาใหญ่ ชิมิ ชิมิ

พวกที่ขาโต้นกลับกังวลรีดไขมันเอาเป็นเอาตาย

บ้านนี้เมืองนี้จึงอลเวงพิลึกพิลั่นอย่างนี้ล่ะครับ

เรื่องฟื้นฝอยหาตะเข็บกำลังพัฒนาไปสุดกู่ มาตรการที่จะแก้ไขก็ยังไม่มี มองไม่เห็น มันไม่ใช่จะมาปลุกเสกได้ในเร็ววัน สำนึกของคนในชาตินั้นมันมีที่ไปที่มา เมื่อทำยังไม่ได้ก็อุปโหลกเรื่องไปตามวาระ จะสมานฉันท์ แต่เหน็บมีดไว้ข้างหลังเตรียมกะซวกกัน ตอนนี้มาหยุดชะงักเพื่อตีความ หาเหตุมางัดกันให้บรรลัยไปข้างหนึ่ง จะสมานฉันท์ได้ต้องเหลือเพียงพวกฉันเท่านั้นกระมัง

เรื่องความสามัคคีของคนในชาติ

จะต้องก่อตัวขึ้นในสำนึกอย่างเป็นกระบวนการ สั่งสอน-สั่งสม-อบรมกันสืบเนื่อง

ความดีไม่มีขาย อยากได้ต้องทำเอง

แ ห ม ถ้า ค ว า ม ดี มี ข า ย ค น จ น ก็ ต า ย สิ ค รั บ

จะ เ อ า เ งิ น ที่ ไ ห น ไ ป ซื้ อ ค ว า ม ดี ม า ค ร อ บ ค ร อ ง

แ ต่ ถ้ า ค ว า ม เ ล ว มี ข า ย แ ถ ม ล ด ร า ค า อี ก ต่ า ง ห า ก

แล้วมีคนรุมซื้อไปเก็บ

ค ว า ม ไ ม่ ดี ก็ จ ะ ค่ อ ย  ๆ  ล ด ล ง ไ ด้

เรื่องชาติบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเล่นลิ้นปลิ้นปล้อนเอาสนุก

จะต้องช่วยกันคิด ช่วยกันทำ

อย่างเป็นระบบด้วยความเข้าใจและตั้งใจของคนในชาติ

ส มั ย นี้ เ อ ะ อ ะ ก็ ถ า ม ห า ตั ว ชี้ วั ด

จะวัดว่าคนไทยรักกันไหม?

แหม ประเด็นนี้วัดกันได้จนลิ้นห้อย

เอาแค่เด็กอาชีวะตีกันก็วัดกันหยาบ ๆ ได้แล้ว

ถ้าจะชี้วัดความปรองดองสามัคคีของคนในชาติ

เสื้อเหลืองเสื้อแดง ก็สำแดงให้เห็นว่าเรารักกันได้หฤโหดแค่ไหน

ถ้าจะชี้วัดเรื่องก ฎ ห ม า ย ศ า ล  ดูจากคำพิพากษาเรื่องพรรคการเมือง

ฟ้องร้องโละกันระเนระนาด

มีกระบวนการทำลายระบบความยุติธรรม

หาเรื่องให้ศาลหมดความเชื่อถือ

ศาลไม่มีความเป็นธรรม

กะจะหาทางเตะตัดขาศาลว่างั้นเถอะ

ผมเห็นพรรคพวกที่เรียน สสสส.1 ตะแง่ว ๆ อยู่ทั้ง 2 ขั้ว 2 ค่าย

อัยการชาวเกาะผม จ ะ ว่ า จะ ไ ด ห น อ

ถ้าแผ่นดินนี้หาสถาบัน องค์กร ใ ห้ ค น ย อ ม รั บ ไ ม่ ไ ด้

ค ว า ม เ ชื่ อ ถื อ จ ะ ไปหาที่ไหน

ถ้าไม่มีค ว า ม เ ชื่ อ ถื อ

ค ว า ม เ ชื่ อ มั่ น ก็คลอนแคลน

ค น ใ น ช า ติ ไ ม่ เ ชื่ อ ขี้ ห น้ า กั น ไ ม่ เ ท่ า ไ ห ร่ ห ร อ ก

แต่ถ้าอารยะประเทศเขาไม่เชื่อน้ำหน้าไทยแลนด์

ค ร า ว นี้ ล่ ะ >> ต า ย อ ย่ า ง เ ขี ย ด

ช า ว ป ระ ชา ต า ดำ ๆ

ก็จะกลายเป็น ห ม า ห น่ อ ย ธ ร ร ม ด า โดยทั่วหน้ากัน

เคยมีคนพูดว่าถ้าไทยห้ำหั่นไทยด้วยกัน

แ ล้ ว จ ะ ร้ อ ง เ พ ล ง ช า ติ ไ ท ย ใ ห้ ใ ค ร ฟั ง

เฮอะ!! >>ชาติแตกยับแล้วเพลงชาติจะเหลือรึครับ

เปลี่ยนเป็นร้องเพลง>> ไอ้หวังตายแน่เสียละมั๊ง!!

อะคิ อะคิ

« « Prev : ความไม่เที่ยงแท้หนอ

Next : โฉนดชุมชน » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 ธันวาคม 2010 เวลา 13:22

    ความซํบซ้อนของสังคมมากขึ้นเป็นทวีคูณ ผลประโยชน์แอบแฝงมีในทุกหย่อมหญ้า
    ไม่ว่าวงการไหนๆ ทั้งเล็กกะจ่อยร่อย และใหญ่คับฟ้าประชาราช

    เทคโนโลยี่พัฒนาสูงขึ้น จิตใจคนตกต่ำลง ศาสนาคริสท่านกล่าวว่า “มันเป็นยุคมืด”
    มืดบอดทางสติปัญญา “กระเบื้องจะเฟื่องฟูลาย น้ำเต้าน้อยจะถอยจมลง”
    เราเองก็พยายามตั้งสติ บางครั้งก็เป๋เหมือนกัน แยกไม่ออกว่า ที่เห็นด้วยสายตากับที่ไม่เห็นข้างในนั้นมันตรงกันหรือไม่
    มันจะเป็น Chaos หรืออย่างไร

    ไม่มีความจริงใจ เชื่อถือไม่ได้ คนเมืองถึงปิดประตูบ้านตลอดเวลา เพราะไอ้คนที่เดินผ่านหน้าบ้านนั้น
    ไม่รู้ว่ามันมาจากสวรรค์ หรือนรก ขอปิดประตู safety ไว้ก่อน
    มีแต่การยืนหยัด ทนเจ็ปปวด เท่านั้นจึงจะผ่านขุมนรกยุคสมัยไปได้ ความสงบย่อมเกิดขึ้นหลังพายุร้าย

    รักกันไว้เถิด ให้อภัยกันเถิด เสียนิ้วเพื่อรักษาชีวิตเถิด
    ความคิดแตกต่างได้ แต่อย่ายุแยงตะแคงรั่วกันซิ

    อ้าว มาบ่นกับพ่อครูซะแล้วววว

    สังคมที่ไม่มีธรรมในสำนึกมันก็ก้าวเข้าสู่ยุคมืดจริงๆแหละ

  • #2 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 1 ธันวาคม 2010 เวลา 21:33

    มาต่อข้างบนอีกหน่อยครับ

    กำลังเมาสถานการณ์การเมืองของพรรคใหญ่ๆ
    กลับมาจากลาวก็ได้ยินคนลาวถกกันเรื่องการเมืองไทยอย่างผู้รู้ทีเดียว เพราะดูทีวีไทยตลอด
    บางเรื่องรู้ดีกว่าเราอีก เพราะเขาดูทีวีมากกว่าเรา อิอิ
    นักการเมืองบ้านเรานั้นมีแต่ผลประโยชน์จริงๆ เขาจึงกล่าวว่า ไม่มีมิตรแท้ ศัีตรูถาวร คือการเมืองไทย

    นักการเมืองบางคน มีข่าวมากมายเกี่ยวกับผลประโยชน์ แต่ดันไปเป็นประธานงานระดับชาติที่มีเกียรติ
    ทุ่มทุน เปิด free TV ให้ข้อมูลแบบฟังแล้วยุแหย่กันทั้งสองฝ่าย สามฝ่าย มั่วกันไปหมด

    มันลงรากลึกไปถึงหมู่บ้าน จนนั่งกุมขมับ แบบทานไม่ไหว เราเห็นแล้วก็ โอ้อนิจจา
    แต่ก็คาดหวังว่า มันต้องคลี่คลายลงไปได้น่ะครับ

    งานที่ทำกับชุมชนนั้น แม้ว่าใส่เสื้อสีต่างกัน เราก็ทำงานร่วมกันได้ครับ
    เรายังนั่งกินข้าวร่วมชาม กินน้ำร่วมขันกันอยู
    ส่วนความแตกต่างก็เป็นเรื่องของความคิดเห็น
    แต่งานของเราก็ช่วยกันพัฒนาชุมชนของเราให้ก้าวไปข้างหน้า
    ไม่ถึงกับไม่เดินบนถนนเส้นเดียวกัน

    ชุมชนที่ดงหลวง
    ใครๆก็รู้ว่าแดงทั้งดง และใครๆก็รู้ว่าผมนั้นเหลืองอ่อย
    แต่เราต่างก็น้ำตาตกเมื่อเราต้องจากกัน

    ท่านเชื่ออะไรก็เชื่อไป แต่การทำดีร่วมกันนั้นมันเป็นคำรวมๆคำเดียวเท่านั้นที่เห็นร่วมกัน


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.16802000999451 sec
Sidebar: 0.33487987518311 sec