ผมมาเรียนทำไม

โดย sutthinun เมื่อ 2 พฤศจิกายน 2008 เวลา 21:26 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 1539

 

(คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สอนวิชาสืบจากแก๊สน้ำตา)

 

คุณหมอจอมป่วนถามนักเรียนโข่ง

ผมไม่ได้คิดว่าคุณหมอแกล้งกวนหรือป่วนอะไรหรอกนะครับ

เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าหมอเป็นคนเอาจริงเอาจัง

อยากได้คำตอบ ..ขอคำอธิบาย

ขอขอบคุณด้วยซ้ำที่ถามมา

ตามข้อกังขาที่ยกมาข้างล่างนี้..

ผมก็มีคำถามในใจมาตลอดนะครับว่า

ประเทศไทยเราก็มีทั้งสถาบันสารพัดสถาบัน มีผู้เชี่ยวชาญสารพัดเชี่ยวชาญ  มีอาจารย์สารพัดอาจารย์  มีนักเรียนโข่งสารพัดนักเรียนที่จบออกมาไม่รู้กี่รุ่นแล้ว

แต่ทำไมเรื่องความไม่สงบทางใต้ เรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดงในปัจจุบัน  ถึงแก้ไม่ได้สักที ?????????

ไอ้ที่ว่าเชี่ยวชาญ เชี่ยวชาญจริงไหม ?
ไอ้ที่สอนๆ  เรียนๆกันอยู่น่ะ  เรียนๆสอนๆกันไปทำไม ?
ในเมื่อเห็นๆอยู่ว่ามันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ?
ไม่ได้แกล้งป่วน  แต่อยากถามนักเรียนโข่งที่รู้จักทั้งสองคนจริงๆ  ลืมไป  ถามลุงเอกด้วย  อิอิ

(จำเลยทั้ง2ยืนเจี๊ยมเจี้ยมข้างอาจารย์ใหญ่)

สิ่งที่คุณหมอจอมป่วนถาม เป็นประโยชน์ต่อนักเรียนโข่งมาก เราต้องการเสียงสะท้อนทุกกรณี อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าคนไทยมองหลักสูตรชั้นสูงต่างๆที่สอนๆกันอย่างเป็นห่วง กังวลว่าวิชาความรู้หรือกระบวนการเหล่านี้แก้ปัญหาได้แค่ไหน สถานการณ์ที่เย๊วๆกันอยู่ในสังคมไทยตอนนี้ไม่เห็นใครแก้ได้ คนไทยส่วนใหญ่กังวลและสงสัยในกรณีนี้ไม่น้อย บ้างก็พาลเบื่อหน่ายไปเลยก็มี

ขออนุญาตตอบดังนี้นะขอรับ

ผมคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย

คงจะแก้ไขให้เรียบร้อยในเร็ววันไม่ได้

คนไทยสะสมปัญหาความขัดแย้งมาหลายสิบปี

คงต้องการใช้เวลาแก้ไขหลายสิบปีเช่นกัน

มันเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยปัจจัยต่างๆมากมาย

ไม่สามารถบันดาล ปลุกเสกได้ เป่ากระหม่อมได้ แม้แต่การปฎิวัติก็ยังแก้ไขไม่ได้ เราไม่สามารถบังคับให้กล้วยออกผลได้ภายใน1-2เดือนฉันใด การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก็เป็นฉันนั้น

ปัญหาความขัดแย้งทางความคิด ขัดแย้งทางผลประโยชน์ซับซ้อนกว่าปลูกกล้วยสักล้านเท่าละมั๊ง เรื่องผิดปกติทางสังคมไม่ใช่เพิ่งจะเกิด มันสะสมเป็นดินพอกหางหมู โยงกันไปไขว้กันมาจนแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก วิชาหน้าที่พลเมืองในประเทศนี้ก็ไม่ค่อยจะสอนกันในสถาบันการศึกษาเสียด้วย ชาวไร่ชาวนาก็ไม่รู้จะไปเรียนเรื่องประชาธิปไตยกับใคร สื่อต่างๆก็ปิดหูปิดตาประชาชน ให้ดูแต่สื่อที่ฝ่ายมีอำนาจต้องการมอมเมา รายการทีวีก็มีแต่รายการตลกตอนบ่ายคลายเครียด ละครบวมๆ รัฐบาลไทยทุกยุคสมัยละเลยเรื่องสื่อสาธารณะเพื่อสังคม ละเลยหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาหน้าที่พลเมืองในทุกระดับชั้น มุ่งสอนแต่วิชาเห็นแก่ตัว ชิงดีชิงเด่น แก่งแย่งกันเอาตัวรอด กระบวนการทางสังคมจึงถูกแบ่งแยกเป็นก๊วนเป็นค่ายพวกมึงพวกกู พวกเราเหลือน้อย หลงเหลืออยู่บ้างก็กลุ่มเฮฮาศาสตร์ กับกลุ่มหน้าตาดี และกลุ่มอื่นๆบ้างไม่มากนัก

โจทย์ความขัดแย้งบ่มเพาะมานาน การเอาระบบประชาธิปไตยมาใช้ในลักษณะไม่พร้อม ยังไม่ได้พัฒนาประชาสังคมแม้แต่น้อย ในชั้นหลังๆพรรคการเมืองก็ไม่ได้ทำหน้าที่ส่งเสริมและพัมนาประชาธิปไตยให้ถูกต้องกลับไปสร้างกลุ่มเล่นการเมือง มาแสดงบทบาทบริหารแบบไก่ได้พลอย บริหารอำนาจแบบไม่รู้ไม่ชี้และมือไม่ถึง อำนาจบริหาร ทำหน้าที่เลยเถิด ล้วงลูกมั่วไปหมด อำนาจนิติบัญญัติอำนาจตุลาการก็พลอยป่วนไปด้วย

ทำให้สังคมไทยเป็นสังคมผิดปกติ การที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีการปกติจึงเป็นไปได้ยาก หวังผลยาก ควรจะมีชุดความรู้ใหม่ กุศโลบายใหม่ กระบวนการใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับปัญหาที่พัฒนาแหวกแนวไปแบบก้าวกระโดด คนไทยยุคนี้เป็นคนไทยพันธุ์ใหม่ คิดและทำอะไรใหม่ๆแปลกๆตามพื้นฐานความรู้และสังคมที่ผิดแผกปกติ การมองสังคมไทยในสายตาปกติจึงอาจจะคลุมเคลือสลัวๆไม่กระจ่างใจ

ถ้าคนไทยเรียนรู้วิธีที่จะช่วยกันทำหน้าที่ดูแลสังคม

มีกระบวนการรับผิดชอบสังคมร่วมกัน

ไม่ดูดาย ไม่ลอยเพสังคม

สังคมไทยจึงจะเห็นทางออกที่ถูกทำนองคลองธรรม

ในขณะนี้การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในสังคม มีทั้งที่แก้ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตรงจุดบ้าง ไม่ตรงจุดบ้าง ทำแบบลิงหลอกเจ้าก็มี ทำแบบเอาข้างเข้าถูก็มี ทำแบบขอไปทีก็มี ทำแบบตาบอดคลำช้างก็มี ประชาธิปไตยจึงเปราะบาง สร้างเงื่อนไขเถื่อนขึ้นมา ตีความกันตามอำเภอใจ วางกลไกพัวพันยุ่งเหยิง คนที่จะรู้คนที่จะแก้ คนที่รับผิดชอบ..บางทีก็เป็นตัวสร้างปัญหาเสียเอง

ถึงจะใช้สิทธิใช้เสียงเลือกผู้แทนไปแล้ว เราก็ควรติดตามดูแลสิทธิ์ของเราดูว่านักการเมืองเอาไปใช้ถูกต้องตามกระบวนการประชาธิปไตยหรือเปล่า เอาไปเล่นแร่แปรธาตุหรือเปล่า เอาไปหาประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองหรือเปล่า เอาสิทธิ์ย้อนมาโกงเราหรือเปล่า เอาสิทธิ์เราไปเลหลังหรือเปล่า ..เรื่องมันยาก ..ยากมาก และยากยิ่งกว่ายากอย่างนี้ละขอรับ

คุณภาพการศึกษาในประเทศเป็นเช่นไร

คุณภาพประชาธิปไตยก็เป็นเช่นนั้น

ถ้าตราบใดคนไทยไม่ตระหนกกับปัญหาของประเทศชาติไม่เข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน คนไทยควรลุกขึ้นมาถามตัวเองแล้วละครับ นักเรียนโข่งรับผิดชอบแทนทั้งหมดไม่ได้หรอก ไปเลือกตั้งก็ใช้สิทธิ์ได้1เสียงเท่ากับท่านนั่นแหละ

เคยฟังเพลง..ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ ไหมครับ

เรื่องนี้ก็เป็นเช่นนั้น

ถาม นักเรียนโข่งเรียนไปทำไม

ตอบ เรียนเพื่อศึกษาหาชุดความรู้ใหม่ๆ

มาช่วยคลี่คลายโจทย์ประหลาดๆแปลกๆใหม่ๆนะสิขอรับ

มันอาจจะไม่สำเร็จในเร็ววันนี้

ช้าไปบ้าง10ปี 100ปี ก็ยังดีใช่ไหมละครับ

เป็นนักเรียนโข่งก็ใช่ว่าจะสนุกสบายนะครับ

จะสอบตกยกชั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ อิ อิ..

« « Prev : ปากพูดก็ได้ยิ้มก็ดี

Next : เดือน11น้ำนอง » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

9 ความคิดเห็น

  • #1 จอมป่วน ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2008 เวลา 21:44

    ถามหน่อยเดียวเป็นเรื่องเลยครับ  ครูบาต้องขึ้นบันทึกตอบ  อิอิ

    ที่สนใจมากเพราะผมเขียนบันทึก  รู้  แต่ไม่ทำเอาไว้  เลยสงสัยว่าทำไอ้เท่าที่รู้ก็น่าจะได้ผลแล้ว   มัวแต่อยากรู้ๆๆๆๆ  แต่ไม่ทำ (เว่า  แต่บ่เฮ็ด)

    เดี๋ยวขอถามอีกซักสี่ห้าคำถาม   ขอนอนก่อน  อิอิ

  • #2 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2008 เวลา 22:06

    สวัสดีครับ  ครูฯ รวมทั้ง คุณหมอด้วยครับ
    มิติใหม่เราบังเกิดแล้วครับ  การสื่อสารตอบสนองต่อเนื่อง เป็นแนวหาความจริงที่ลงตัว
    บรรยากาศอย่างนี้ สมควรแล้วครับ เป็น ลานปัญญา
    พวกเราต้องประคองลานกันครับ  ใฝ่หาสู่ปัญญา  ไม่ว่าปัญหา  เหตุ และ ผล ย่อมหาทางออกกันได้
    สังคมที่พิกลพิการ ของประเทศเรายังต้องการผู้ลงมือแก้ปัญหา ไขข้องปัญหา สู่กระทำที่เป็นจริงและเป็นไปได้  ถึงแม้ว่าจะลำบากเท่าไหร่ นานแค่ไหน เราก็ยอมครับ 
    ขอบคุณมากๆครับ ที่ได้ร่วมออกความเห็นในบางส่วนเบื้องต้น
    เรื่องราวการศึกษา จากแรงจูงใจเช่นนี้ ผมคงจะได้ร่วมด้วยคนครับ

  • #3 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 11:58

    หมอไม่รู้หรอกว่า
    คำถามหมอช่วยให้ทำทำการบ้าน ชนิดรอดตาย เส้นยาแดงผ่าแปดหวุดหวิด
    ขออีก  ขออีก  เกาใกล้จะถูกที่คันแล้ว

  • #4 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2008 เวลา 12:00

    อาเหลียงครับ
    ท่านผู้คุมระบบบ่นว่า  พวกเราไม่ค่อยทำมาหากิน
    ไม่รู้เป็นโรคขี้เกียวจเขียนกันรึยังไง
    ท่านปรึกษามา ผมก็ตอบไม่ถูก
    ได้แต่นึกในใจว่า
    ถ้าสมาชิกเราคนไหนไม่ค่อยเขียนบันทึก ขอให้จู๊ดๆๆทั้งคืน  อิอิ

  • #5 สิทธิรักษ์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2008 เวลา 10:51

    ผมโดนด้วยไหมเนี่ย ……. หมู่นี้รู้สึกว่า ท้องใส้ไม่ดีเลย

    โดนแช่งซะแล้ว

  • #6 rattiya ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2008 เวลา 8:40

    พ่อขา  สำหรับแป๊ด กับ น้าอึ่ง ขอเปลี่ยนเป็น “ใครไม่เขียนบันทึก ขอให้ ถูกอาบน้ำทั้งคืน ”
    ดีกว่าไหมค่ะ
    อิอิ

  • #7 Sasinand ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2008 เวลา 9:22

    ใกล้จะเขียนแล้วค่ะ อิๆๆๆ

  • #8 Iem ให้ความคิดเห็นเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2008 เวลา 11:05
    • เคยรู้สึกอึดอัด เมื่อหาคำตอบในบางเรื่องไม่ได้… และรู้สึกอึดอัดเมื่อคำตอบที่ได้ไม่สามารถจัดการกับปัญหาได้ทั้งหมด
    • กลับมาย้อนคิด ๆๆๆ …และคิด…เรื่องบางเรื่อง จำเป็นแค่ไหนที่เราจะต้องหาคำตอบ และจำเป็นแค่ไหนที่จะต้องได้รับคำตอบที่สามารถจัดการกับปัญหาได้ทั้งหมด…
    • นึกถึง…กินทีละคำ….กินทีละคำ…

     

  • #9 ศึกษาต่อต่างประเทศ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 19 มกราคม 2009 เวลา 22:21

    ขอบคุณมากครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 2.3922698497772 sec
Sidebar: 2.9267151355743 sec