สวรรค์ริมฝั่งแม่มูล

โดย sutthinun เมื่อ 27 กันยายน 2010 เวลา 15:31 ในหมวดหมู่ สวนป่าฮาเฮ #
อ่าน: 9887

(อาจารย์นิกร วีสเพ็ญ เจ้าของสวรรค์บนดินริมฝั่งแม่น้ำมูล)

เจ้าถิ่นตั้งโจทย์ให้ในวันนี้ว่า ครูบามาอุบลควรจะรู้จักอุบลให้มากที่สุด คนให้โจทย์จึงเป็นภาระพาตระเวนถิ่นดอกบัวในฐานะลูกหลานคนอุบล และมีบทบาทในการพัฒนาชนบทอีสานระดับแนวหน้า แผนการวันนี้จึงจับผมพาตระเวนดูเครือข่ายชุมชนที่ทำเรื่องสำคัญ ๆ  เช่น เรื่องเขื่อนปากมูล โฉนดชุมชน ทำเกษตรตัวอย่างระดับประเทศ ชุมชนที่ปั้นหม้อปั้นไหจำหน่ายทั่วราชอาณาจักร พาไปวัดไหว้พระสำคัญ ๆ เก่าแก่ที่มีประวัติอันยาวนาน พร้อมกับอธิบายภูมิสังคมเชื่อมโยงให้เห็นรากเหง้าของคนพื้นถิ่นลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ที่พ่อค้าแม่ขายมาตั้งหลักค้าขายกับฝั่งลาวที่แขวงจำปาศักดิ์ เพื่อความมั่นคงและปลอดภัยเจ้าถิ่นเหล่านี้จะมีบ้านอยู่ทั้ง 2 ฝั่ง ส่วนมากจะมีแม่บ้านอยู่ประเทศละคนเสียด้วยสิ เรื่องนี้น่าจะเป็นการรักษาผลประโยชน์หรือเพื่อให้สมประโยชน์ก็บ่ฮู้ตื้อ

หลังจากดวลข้าวต้มแล้ว ไกด์กิติมศักดิ์พาไปศูนย์ประมงจังหวัดอุบลราชธานี ไปชมตลาดเพาะเลี้ยงลูกปลาที่มีสารพัดชนิด ปลาบึก ปลานวลจันทร์ ปลาตะเพียน ปลายี่ยก ปลาจารเม็ดน้ำจืด ฯลฯ ขาดปลากระป๋อง ไม่ยังงั้นก็คงจะครบทุกปลา ไกด์ซื้อปลาบึก ปลาจาระเม็ดน้ำจืด 2-3 ถุงเอาไปปล่อยในแหล่งน้ำที่นาทางไปตำบลดอนตาล

ไปถึงที่นาที่สมบูรณ์ทุก ๆ ด้าน สภาพแวดล้อม-ระดับน้ำ-แหล่งน้ำธรรมชาติ พรรณไม้ดั้งเดิม และพันธุ์ไม้ที่ปลูกเสริม พื้นที่นาออกแบบไว้เพื่อการมาใช้ชีวิตในบั่นปลาย มีแง่คิดที่น่าสนใจตรงที่ว่า ก่อนเกษียณอายุอีก10กว่าปีข้างหน้า ถ้าเราลงมือปลูกลงมือสะสมธรรมชาติให้หลากหลายสมบูรณ์ ในเวลา10 ปีข้างหน้า เราก็สามารถสร้างสวรรค์บนดินด้วยน้ำพักน้ำแรง ผมเห็นวิธีคิดวิธิทำแล้วก็ชื่นชมมาก

(ลูกพีพ่วนผลไม้ในป่า่ดงนาทามริมฝั่งแม่น้ำมูล)

เป็นการสร้างเสริมธรรมชาติอย่างคนที่รู้คุณค่าป่าดงนาทาม รักษาพื้นที่ป่าและพืชผักดั่งเดิมไว้อย่างดี ผมเพิ่งจะเห็นดงพีพ่วน: ซึ่งเป็นผลไม้ป่าที่เคยกินสมัยเด็ก ๆ ที่นี่ขึ้นเป็นกลุ่มแทรกอยู่ทั่วไป ผลสุกพวงแดง ๆ มีร่องรอยนกมาเจาะกิน บางส่วนก็ร่วงลงพื้น คุณยายที่เฝ้าสวนเก็บมาให้ 2 ถุงใหญ่ ยังใจดีขุดมันเห็บมาให้อีกถุงหนึ่ง เป็นคนแก่ที่เข้าใจชีวิตและธรรมชาติอย่างดียิ่ง คุณนิกรกระซิบว่า คุณยาย 2 ท่านนี้เป็นมือนวดชั้นดี ในอนาคตมีแผนที่จะขยายการฝึกนวดและบริการนวดแผนไทยในสวนนี้ด้วย คุณยายทั้ง 2 ช่วยกันปลูกช่วยกันดูแลต้นไม้ใบหญ้าอย่างมีความสุข ความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติเต็มไปด้วยต้นทุนชีวิต เห็ด ผัก ข้าว ปลา หน่อไม้ สมุนไพร ผลไม้ป่า มีรังต่อขนาดใหญ่มาอาศัยอยู่กับต้นหว้า ต้นไผ่ริมมูล กลุ่มไม้ป่าสมุนไพร ดูแลรักษาไว้อย่างเข้าใจ ข้าวกำลังตั้งกอ ปลาที่ปล่อยกำลังโต กว่าจะถึงตอนเกี่ยวข้าว ปลาดุกคงจับมาปิ้งจิ้มแจ่วช่วงข้าวใหม่ปลามันได้แล้ว

(รังต่อ กับทางเดินรอบสวน ถีบจักรยานเล่นได้ด้วย)

สวนที่ว่านี้ลงมือทำเพียง 2 ปี หน้าตาที่ดินเปลี่ยนไปอย่างก้าวกระโดด เจ้าตัวมีแผนที่จะเป็นแหล่งศึกษาดูงานและพักผ่อน มีแพริมน้ำ มีถนนถีบจักรยานล้อมรอบ จะเพาะต้นไม้ขาย แต่ตั้งโรงทอผ้าไหมให้แม่บ้าน ทุกอย่างเตรียมการไว้หมดแล้ว คงจะสมบูรณ์แบบในอีก 2 ปีข้างหน้า

เราเดินทางไปเยี่ยมเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาทำไร่นาสวนผสมประจำปี 2553

นายกิมฮก แซ่เตีย

ไม่เจอเจ้าตัวจึงแอบเดินชมเองมุมโน้นมุุมนี้

เห็นว่าเป็นแบบอย่างที่ดีมาก

มีความอุมสมบูรณ์ครบครันเท่าที่ครัวเรือนเกษตรกรควรจะดำเนินการ

จึงมีป้ายของกรมกองต่าง ๆ ติดซ้อนกันจนครืด

(วัดป่าและพระพุทธรูป)

ไกด์พาเดินทางไปชมวัดเก่าแก่ ที่แสดงอภินิหารให้ทหารอเมริกาอึ้งกิมกี่เมื่อคราวสงครามเวียตนาม หลังสงครามเสร็จสิ้นมีทหารอเมริกามาบวช รวบรวมทุนทรัพย์มาสร้างโบถส์วิหารต่าง ๆ พาไปเยี่ยมญาติที่อยู่รอบนอก แล้วเดินทางต่อไปที่แพอาหารริมแม่น้ำมูล อยู่ในช่วงที่น้ำนองเต็มตลิ่ง เนื่องจากไม่ใช่วันหยุดผู้คนไม่จอแจ เราเลยได้อยู่ในบรรยากาศสงบ ๆสบาย ๆ ลมพัดเฉื่อยฉิว น่านอนเหลือเกิน สั่งเมนูปลาล้วน ๆ ต้มปลาใส่ยอดผักขะแยง ปลาลวก ลาบปลา รสมือแบบอีสาน อิ่มจนอืดระดับชูชกเรียกพี่โน่นแหละ

บังเอิญแพติดกัน มีคุณตาคุณยายคู่หนึ่งมาตกปลาอยู่ข้าง ๆ วัยอาวุโสคงมาพักผ่อน แต่ดูแลกันดีเหลือเกิน คุณตาแกตั้งหน้าตั้งตาตกเบ็ด คุณยายก็เอาอาหารกับแกล้มมาเสิร์ฟไม่เว้นวาย สักพักปลากินเบ็ด แกดึงขึ้นบนแพดิ้นกระแด่ว ๆ ผมไปถ่ายรูป ถามตาว่าเคยตกได้ตัวใหญ่สถิติกี่กิโล คุณตาบอกว่า 27 กิโล โอ้โห้นี่ตัวพรานเบ็ดระดับพระกาฬเชียวนะ ปลาตัวใหญ่ชื่อปลากะโห้ น้ำหนักพอ ๆ กับเด็ก 2-3 ขวบ เห็นแล้วก็อิจฉาคุณตาคุณยายคู่นี้ที่ยังอี๋อ๋อกันดีเหลือเกิน ไม่กระงอดกระแงดเหมือนบางคู่ บิดตะกูดใส่กันอยู่นั่นแล้ว ทั้ง ๆ ที่จะอยู่ด้วยกันอีกสักกี่วันก็ไม่รู้ เสียเวลา เสียจริต อารมณ์บ่จอยเปล่า ๆ ยิ้มและกอดกันดีกว่าเป็นไหน ๆ เฮ้อ ๆๆๆ ..

(ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ในชาวเฮมีคนฮา อิอิ)

รถขนต้นไม้มาถึงแล้ว

เย็นนี้มีนัดคุยกับคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์

พรุ่งนี้จะไปปลูกต้นไม้ในบริเวณร่องก่อ

ซึ่งเป็นพื้นที่ภายในมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

คาดว่าจะมีคนใจดีเข้าร่วมประมาณ 200 คน

จบข่าว

« « Prev : : เงินดินดิ้นสู้กับเงินดาวน์ (2)

Next : สวนป่าแตกแน่ถ้าไม่เบิ่งตาแล » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 bangsai ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กันยายน 2010 เวลา 19:29

    เมืองอุบลสมบูรณ์จริงๆ เมืองอุบลจึงเติบโตมาตั้งแต่อดีต
    แพร้านอาหารริมน้ำมูล ผมมีประวัติศาสตร์ที่นั่น
    สมัยนั้นทำงานที่ท่าพระ กับ USAID ตระเวนไปทำงานหลายจังหวัด
    รวมทั้งศรีสะเกษด้วย ผมขับรถจีพวิลลี่ตัวที่ซดน้ำมัน มากินข้าวที่นี่
    กินเสร็จจะขับรถกลับ ตายละหว่ากุญแจหาย…หาเท่าไหร่ก็ไม่พบ
    ไปตามช่างในเมืองอุบลมาทำกุญแจเทียมก็ทำไม่ได้ เขาบอกว่าจีพรุ่นนี้ทำไม่ได้
    เลยต้องโทรกลับไปขอนแก่นให้ส่งกุญแจอะหลั่ยมาทางเครื่องบิน
    เลยต้องนอนค้างอุบล เช้าไปเอากุยแจที่สนามบิน แล้วไปที่แพริมน้ำมูลจะเอารถกลับขอนแก่น

    เจ้าของแพวิ่งมาบอกว่า ได้กุญแจแล้ว มันตกน้ำ บังเอิญว่าที่พวงกุญแจเป็นหนังแท้เมื่ออิ่มน้ำเพราะแช่มาทั้งคืนมันก็ลอยปริ่มๆน้ำ เจ้าของร้านตื่นมาเห็นเข้า โชคดีไป

    ตั้งแต่นั้นมาไม่ได้มากินอาหารที่แพริมมูลอีกเลย

    แหม นิกรพาเที่ยวเมืองอุบล แบบนี้เจ้าถิ่นก็พาไปสัมผัสอุบลในมุมที่หลายคนไม่เคยสัมผัสเลยนะครับ

  • #2 sutthinun ให้ความคิดเห็นเมื่อ 27 กันยายน 2010 เวลา 23:38

    สุดจ๊าบส์เลยจริงๆ ครับ


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.43181014060974 sec
Sidebar: 0.047789812088013 sec