อารัมภบท : จากรากหญ้าสู่นาซ่า
อ่าน: 1976
กล่าวนามตามท้องเรื่อง ขออนุญาตแนะนำตัวเองว่า “เจ้าเป็นไผ” ตัวข้าพเจ้าเอง..คือหน่อเนื้อเชื้อไขของเกษตรกร อยู่กับวงจรการเกษตรมาแต่อ้อนแต่ออก ทุกวันนี้ทำมาหากินอยู่กับต้นใบหญ้า ได้รู้ ได้เห็น ได้สะอื้น เคยได้รับรางวัลพระราชทานเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติสาขาปลูกสร้างสวนป่า จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหลายสิบปีมาแล้ว
ผม..ปลูกต้นไม้ สร้างป่าขึ้นมาอยู่กับนกหนูกาไก่ เลี้ยงหมูเหมยซานไว้กินผักโขม เลี้ยงวัว ไก่ต๊อก ไก่แจ้ ไก่งวง เป็ด ห่าน และนกกระจอกเทศ ตอนนี้มีนกยูงมาขออาศัยอยู่ด้วย ร้องโต๊กๆเสียงดังทั้งวัน งานสร้างต้นทุนชีวิตให้กับพื้นที่แห้งแล้งดินเลว ต้องค่อยเป็นเป็นค่อยไป เอาทุกอย่างเป็นเรื่องเรียน ทำไปทำมาองค์การเกษตรและอาหารแห่งสหประชาชาติมอบรางวัล“ฟาร์มต้นไม้”ให้ในวันอาหารโลก หลังจากนั้นก็สวมหัวโขนเป็นนั่นเป็นนี่ ได้ลาออกไปบ้าง และยังทำหน้าที่ เช่น ครูภูมิปัญญาไทย กรรมการสภาการศึกษาแห่งชาติ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยอุบลราชธานี กรรมการวิทยาลัยพยาบาลสิรินธรสุรินทร์ กรรมการด้านกำลังพลกระทรวงสาธารณสุข
ถึงใครจะให้สวมหัวโขนอะไรก็ช่างเถิด ผมก็คงเป็นชาวไร่ชาวนาเดินดินกินข้าวกล้อง อยู่กับท้องไร่ท้องนา นอนดูดาวจะหาวบ้างก็ตอนง่วงอยู่หน้าจอคอมฯ เจ้าคอมพิวเตอร์นี่แหละที่ทำให้ผมได้ทอดสะพานก้าวออกจากสวนป่าไปรู้จักจอมยุทธ์ทั้งหลาย ทุกผู้ทุกนามที่เป็นเครือญาติผม รวมกลุ่มกันตั้งชื่อว่า ชาวเฮฮาศาสตร์ อยู่ในสกุล คนสวยแซ่เฮ คนแซ่นี้ประกอบด้วยผู้สันทัดกรณีหลายสาขา กระจายตัวอยู่ในองค์กร-สถาบัน-มหาวิทยาลัย-และหน่วยงานต่าง ๆ เราใช้บล็อกเป็นปัจจัยในการเชื่อมโยงความรักและความรู้ ลองเข้าไปดูในบล็อกลานปัญญา ค้นคำว่า ”ลานสวนป่า” ถ้า บล็อกโกทูโน ค้นหาชื่อ “KM.ในมหาชีวาลัยอีสาน“ เป็นได้จ๊ะเอ๋แน่ ลองดูนะครับ ชาวเฮฮาศาสตร์น่ารักน่ากอดทั้งนั้น เราพยายามสร้างสังคมอุดมปัญญาตามสไตล์ของกระบวนการที่ว่า..”จะเรียนรู้ทำไมต้องทุกข์ด้วย” เรียนด้วยความเบิกบานใจไม่ได้เชียวหรือ
เจตนารมณ์
มหาชีวาลัยอีสานกว่าจะตั้งไข่ได้ก็สะบักสะบอม เพราะผมไม่ได้เป็นคนที่มีทรัพย์สินเงินทองมากพอที่จะมาเอื้ออวยในการดำเนินงานเพื่อสังคมได้เท่าที่ควร มีแต่น้ำใจน้ำลายและกำปั้นเป็นปัจจัยในการทำงาน เมื่อก่อนทำโครงการพัฒนาวิจัยเรื่องโน้นเรื่องนี้ รับฝึกอบรมบ้าง พอมีค่าใช้จ่ายให้กับเพื่อนร่วมงาน แต่มาวันนี้แก่แล้ว คงไขลานให้วิ่งปรู๊ดปราดไม่ได้แล้ว จึงงดงานประเภทขอทุนวิจัยหรือพัฒนาต่าง ๆ ทุกวันนี้ก็พอไหวไม่กระไรนักในการดูแลตัวเอง แต่ถ้ามีภาระต้องช่วยเหลือสังคมก็อาจจะฝืดฝืนบ้าง งานที่อยากจะทำคือนัดคนดีให้มาเจอมารู้จักกัน เพื่อสร้างเครือข่ายของคนคิดดีทำดี.. เพื่อนฝูงรวมทั้งพระอาจารย์ ดร.วรภัทร ภู่เจริญ เห็นว่าผมน่าจะยังทำอะไรให้สังคมได้อยู่นะ จึงปรึกษากันว่า เราจะเขียนหนังสือร่วมกันแล้วพิมพ์จำหน่ายหาทุนให้มหาชีวาลัยอีสานได้ทำงานต่อไป
อาจารย์วรภัทร ภู่เจริญ จะเขียนในหัวข้อ จากนาซ่าสู่รากหญ้า
ผมจะเขียนในหัวข้อ จากรากหญ้าสู่นาซ่า
แบบพบกันครึ่งทาง เท่าที่ผ่านมาผมเจอคำถามประหลาด ๆ เช่น ผมคือใคร มีการงานอะไร ทำไมดูไม่ออก ว่าเป็นคนที่น่าจะสังกัดอาชีพอะไร จะมองออกอย่างไรละครับ ในเมื่อผมไม่ได้มีอาชีพตายตัว เอ้อระเหยเชยชื่นไปเรื่อย ๆ เป็นคนนอกระบบ เรืองที่จะเขียนเกี่ยวกับรากหญ้า คงเป็นเรื่องนอกระบบเป็นส่วนใหญ่ คิด-ทำอะไรได้ก็จะเอามาเล่าให้ัฟังดีไหมครับ? ยกตัวอย่างคำที่ขอถาม
ถาม: มหาชีวาลัยอีสานคืออะไรคะ
ตอบ: มหาชีวาลัยอีสานคือยาขมหม้อใหญ่ ที่ปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อรักษาไข้ใจ
ของคนอีสาน
ถาม: ผลการรักษาไข้ใจของคนอีสานเป็นอย่างไรคะ
ตอบ: โรคหมูไม่กลัวน้ำร้อน รักษายากไม่ได้ผล แถมดื้อยาอีกต่างหาก
ถาม: ใช้ยาประเภทไหนรักษาคะ
ตอบ: ใช้ยาผีบอกครับ
ถาม: เมื่อไม่ได้ผลจะแก้ไขอย่างไรคะ
ตอบ: ต้องเปลี่ยนตัวยาขนานใหม่
ถาม: ยาอะไรคะ บอกหน่อยได้ไหม
ตอบ: เราจะชี้แนะให้ชาวบ้าน คิดให้ออก บอกตัวเองให้ได้ ว่าเจ้าคือไผ
ถาม: ทำหยังละคะ คนเราถึงจะบอกตัวเองได้
ตอบ: ต้องอย่าดูถูกตัวเอง กล้าบอกตัวเอง มองกายใจตัวเอง
อ่านหนังสือ ฉลาดได้อีก พิจารณาสิ่งที่อาจารย์วรภัทรบอกเรื่องฐานกาย ฐานใจ ส่วนผมไม่มีอะไรบอกหรอกนะ นอกจากทำเรื่องกินใจ กินความรู้ความคิด หวังว่าถ้าคนเรากินเป็นน่าจะคิดเป็น กินมาก ๆ ถ้าเกรงจะเป็นเบาหวาน ก็รูดใบมะยมอ่อนมาโรยกินกับข้าวทุกมื้อ โรคเบาหวานก็จะเปลี่ยนมาเป็นโรคปากหวาน
คนเราพบกันย่อมเกิดปฏิสัมพันธ์กันไม่ทางหนึ่งก็ทางใด
บางคนเห็นหน้าแล้วรู้สึกเฉยๆ
บางคนเกิดปิ๊งแว๊บขึ้นมาปัจจุบันทันด่วน.. ใช่เลย คนนี้แหละ
บางคนได้ยินได้ฟังการพูดคุยรู้สึกผ่อนคลาย อมยิ้ม และหัวเราะ
บางคนเกิดความรู้สึกพิเศษ ทึ่ง-อึ้ง อะไรทำนองนั้น
ผมได้รู้จัก ดร.วรภัทร ภู่เจริญ
ถ้าจะอธิบายขยายความคงได้หลายเล่มสมุดไท
เอาเป็นว่า..แค่นี้ก็นับว่าวาสนา..
« « Prev : ชนบทร้อนแล้งในกรุงร้อนแรง
Next : ภาคฤดูร้อนของเด็กรากหญ้า » »
2 ความคิดเห็น
เมื่อสองจอมยุทธมาพบกัน…อิอิ
http://gotoknow.org/blog/phyto/134258