ไม่เขียน ก็อ่านได้

อ่าน: 1717

ของที่จะฝากใคร หรือให้อะไรใคร

ส่วนมากจะเกิดจากความตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีๆแก่กัน

สมัยนี้อาจจะโยงไปยังกลุ่มงานจิตวิวัฒน์

แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องคิดดีทำดีธรรมดาที่มนุษย์มีให้แก่กัน

การบริจาคหนังสือต่างจากการให้หนังสือ

โดยเฉพาะการให้กับคนที่ชอบอ่าน

ผมประทับใจและจำได้แม่นมากทุกรายการที่ได้รับ

ถ้าอยากจะทดลองให้หนังสือใคร

ลองพิจารณา เจ้าเป็นไผ1 เจ้าเป็นไผ 2 ก็ดีนะครับ

อ่านแล้วหัวจิตหัวใจแข็งแรง

ครั้งหนึ่งนานมากแล้ว ผมทำงานอยู่ในไร่ค่อนข้างเดียวดาย ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะไม่สะดวกเรื่องยานพาหนะและไม่มีเงินด้วย ช่วงนั้นอยู่แบบจนๆ มันไม่อดตาย อยู่ได้ แต่เราไม่ได้ใช้โอกาสท่ามกลางความสงบมาดูแลจิต ตอนนั้นคิดไม่เป็น..ผมยังโง่มากไม่ค่อยได้ตั้งสติกับอะไร ก้มหน้าก้มตาปลูกต้นไม้ อยู่กับต้นไม้แรกเริ่มที่กระรุ่งกระริ่ง ไม่ค่อยได้พบหน้าสนทนาวิสาสะกับคนนอก ตอนเย็นคนงานเขาก็กลับบ้านเขา เราก็อยู่ส่วนของเรา ไม่เหงานะ เพราะเราเคยอยู่กับความเงียบจนคุ้นชิน วันๆพูดน้อยแทบจะนับคำได้ แต่พูดในใจก็มีบ้าง แต่ไม่เหมือนเด็กท่องสูตรคูณหรอกนะ เข้าทำนองครุ่นคิดคำนึงแบบปิ๊งแว๊บนะขอรับ

บ่ายวันหนึ่ง พ่อตาน้องชายมีสวนอยู่ใกล้ๆกัน เข้ามาเยี่ยมพร้อมกับยื่นหนังสือพิมพ์ให้ “แปะเอาหนังสือมาฝาก” ผมดีใจจนบอกไม่ถูก ดีใจกว่าได้ของอย่างอื่น คนเรือแตก ถูกตัดขาดจากข่าวสารภายนอก คนอกหักที่ได้รับจดหมายคืนดี  ก็คงไม่ดีใจได้มากกว่าผมหรอกนะ ใครให้หนังสือยังจำติดตาติดใจทุกเล่มไม่ลืมเหมือนสิ่งอื่น

อ.ลูกหว้า ส่งหนังสือพยาบาลหมวกขาว

คุณตฤณ ให้หนังสือที่ผมมีส่วนเขียนบ้างเล็กน้อย

อุ้ยจันตา ให้หนังสือ “เดอะลาสต์เลคเชอร์”

อาจารย์เสน่ห์ จามริก ให้หลังสือที่ท่านเขียน

พี่สาวกอล์ฟให้นิตยสารซีเคร็ต ในวันแรกที่รู้จักกัน

ป้าหวานให้หนังสือธรรมะ

แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ให้หนังสือและซีดี

อาจารย์ไร้กรอบ แห่งร่มธรรม ให้หนังสือพร้อมลายเซ็นทุกครั้งที่พิมพ์

อาจารย์อภิชัย พันธะเสน ยกหนังสือที่ท่านเขียนให้ 1 กล่อง

หมอจอมป่วนให้หนังสือให้พระ

อาจารย์ประภาภัทร นิยม ทำหนังสือและมีให้ทุกครั้งที่พบกัน

ยังได้รับ รับ หนังสือบ้างตามโอกาส

การค้นหาความรู้ความสุขจากหนังสือนั้น สะดวกและเป็นประโยชน์โดยตรง เป็นการต่อยอดความกระหายใคร่รู้ที่อยู่ภายใน มีอิสระที่จะเก็บเกี่ยวหรือเลือกเอาสิ่งที่ชอบที่ดีที่โดนใจได้ด้วยความพึงพอใจแห่งตน รู้จักอยู่กับอารมณ์ของตนเอง ปะติดปะต่ออะไรได้บ้าง ทำให้รู้จักบรรเทาทุกข์ บริหารสุข เพิ่มพูนความสุขได้ แล้วแบ่งปันให้คนอื่น ด้วยการทำให้ตัวหนังสือมีชีวิตกระโดดโลดเต้นอยู่ในหน้ากระดาษ

ช่วงนี้พยายามยุให้ญาติๆอ่านและเขียน

ยุไม่ค่อยขึ้น เป็นอะไรไม่รู้นะ

คนเราต่างจิตต่างใจ

บางคนอาจจะพอใจกับการอ่าน

สุขใจกับเรื่องอย่างอื่น

ก็ไม่ว่ากัน..แต่ก็เสียดายกับเวลาผ่านไป

ไม่มีใครจัดพาเหรท ก.ไก่ ก.กา

ใครมีลูกควรซื้อหนังสือฝากลูก

ใครไม่มีลูกก็เขียนหนังสือให้คนมีลูกอ่าน

คืนนี้จึงขอแผ่เมตตา

จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดเจ้า ข.ไข่ ในขวด ค.ควาย ลูกชิ้นทอด

อิ อิ..

« « Prev : สวนใกล้ครัว

Next : ถ่ายท้องเรื่องเล็ก ถ่ายภาพเรื่องใหญ่ » »


ผู้ใช้ Facebook สามารถให้ความเห็นที่นี่ได้ โดยกด Like เพื่อแสดงตัว

2 ความคิดเห็น

  • #1 krupu ให้ความคิดเห็นเมื่อ 25 ตุลาคม 2009 เวลา 3:23

    เรื่องการบริจาคหนังสือที่โรงเรียนทำทุกปีค่ะ ร่วมกับโตโยต้าบ้าง เอาไปออกค่ายไปบริจาคกันเองตามโรงเรียน ตจว.ที่ขาดแคลนบ้าง หวังว่าให้ความรู้เป็นทาน จะได้ไม่ต้องโง่นานนักค่ะ เอาแค่มึน ๆ งง ๆ อย่างทุกวันนี้ก็พอ อิอิ
    (เอาอีกแล้ว ต๊กกะใจตื่นตอนพ่อขึ้นบันทึกใหม่อีกแล้ว มันยังไงกันนี่ แห้วศรีเอ๋ย?)

  • #2 จันทรรัตน์ ให้ความคิดเห็นเมื่อ 29 ตุลาคม 2009 เวลา 6:27

    บางท่านอาจจะเขียนไว้ในใจก็ได้นะคะครูบา

    การเขียนไว้ในใจ บางครั้งบางคราวก็ดี มีเวลาไตร่ตรองรักษาความรู้สึกและถือเป็นการดูแลคนที่เกี่ยวข้องไม่ให้หม่นหมองไปกับเรื่องราว เก็บไว้อ่านคนเดียวก็เพื่อรักษาน้ำใจของคนอื่นถ้าหากเรื่องมันไปมีตัวตนของบุคคลอื่นด้วย

    การเขียนเปิดเผย บางครั้งก็ดี ถือว่าได้ให้โอกาสคนอื่นร่วมให้ความเห็นและเรียนรู้ไปด้วย แต่ก็ต้องรักษาใจเข้าใจตัวตนของตัวเองก่อน หากว่าจะรู้สึกเสียหน้าเสียภาพลักษณ์เสีย..ฯลฯ ก็ยากแก่การจะเขียนค่ะ

    การกลั่นกรองเรื่องราวเขียนที่ใช้เวลานาน อาจจะเป็นสิ่งให้ผู้รอคอยติดตามอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ค่ะ…


แสดงความคิดเห็น

ท่านอยากจะเข้าระบบหรือไม่


*
To prove you're a person (not a spam script), type the security word shown in the picture. Click on the picture to hear an audio file of the word.
Click to hear an audio file of the anti-spam word


Main: 0.03157901763916 sec
Sidebar: 0.046925067901611 sec