ไม่เขียน ก็อ่านได้
ของที่จะฝากใคร หรือให้อะไรใคร
ส่วนมากจะเกิดจากความตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีๆแก่กัน
สมัยนี้อาจจะโยงไปยังกลุ่มงานจิตวิวัฒน์
แต่ผมคิดว่าเป็นเรื่องคิดดีทำดีธรรมดาที่มนุษย์มีให้แก่กัน
การบริจาคหนังสือต่างจากการให้หนังสือ
โดยเฉพาะการให้กับคนที่ชอบอ่าน
ผมประทับใจและจำได้แม่นมากทุกรายการที่ได้รับ
ถ้าอยากจะทดลองให้หนังสือใคร
ลองพิจารณา เจ้าเป็นไผ1 เจ้าเป็นไผ 2 ก็ดีนะครับ
อ่านแล้วหัวจิตหัวใจแข็งแรง
ครั้งหนึ่งนานมากแล้ว ผมทำงานอยู่ในไร่ค่อนข้างเดียวดาย ไม่ค่อยได้ออกไปไหน เพราะไม่สะดวกเรื่องยานพาหนะและไม่มีเงินด้วย ช่วงนั้นอยู่แบบจนๆ มันไม่อดตาย อยู่ได้ แต่เราไม่ได้ใช้โอกาสท่ามกลางความสงบมาดูแลจิต ตอนนั้นคิดไม่เป็น..ผมยังโง่มากไม่ค่อยได้ตั้งสติกับอะไร ก้มหน้าก้มตาปลูกต้นไม้ อยู่กับต้นไม้แรกเริ่มที่กระรุ่งกระริ่ง ไม่ค่อยได้พบหน้าสนทนาวิสาสะกับคนนอก ตอนเย็นคนงานเขาก็กลับบ้านเขา เราก็อยู่ส่วนของเรา ไม่เหงานะ เพราะเราเคยอยู่กับความเงียบจนคุ้นชิน วันๆพูดน้อยแทบจะนับคำได้ แต่พูดในใจก็มีบ้าง แต่ไม่เหมือนเด็กท่องสูตรคูณหรอกนะ เข้าทำนองครุ่นคิดคำนึงแบบปิ๊งแว๊บนะขอรับ
บ่ายวันหนึ่ง พ่อตาน้องชายมีสวนอยู่ใกล้ๆกัน เข้ามาเยี่ยมพร้อมกับยื่นหนังสือพิมพ์ให้ “แปะเอาหนังสือมาฝาก” ผมดีใจจนบอกไม่ถูก ดีใจกว่าได้ของอย่างอื่น คนเรือแตก ถูกตัดขาดจากข่าวสารภายนอก คนอกหักที่ได้รับจดหมายคืนดี ก็คงไม่ดีใจได้มากกว่าผมหรอกนะ ใครให้หนังสือยังจำติดตาติดใจทุกเล่มไม่ลืมเหมือนสิ่งอื่น
อ.ลูกหว้า ส่งหนังสือพยาบาลหมวกขาว
คุณตฤณ ให้หนังสือที่ผมมีส่วนเขียนบ้างเล็กน้อย
อุ้ยจันตา ให้หนังสือ “เดอะลาสต์เลคเชอร์”
อาจารย์เสน่ห์ จามริก ให้หลังสือที่ท่านเขียน
พี่สาวกอล์ฟให้นิตยสารซีเคร็ต ในวันแรกที่รู้จักกัน
ป้าหวานให้หนังสือธรรมะ
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ให้หนังสือและซีดี
อาจารย์ไร้กรอบ แห่งร่มธรรม ให้หนังสือพร้อมลายเซ็นทุกครั้งที่พิมพ์
อาจารย์อภิชัย พันธะเสน ยกหนังสือที่ท่านเขียนให้ 1 กล่อง
หมอจอมป่วนให้หนังสือให้พระ
อาจารย์ประภาภัทร นิยม ทำหนังสือและมีให้ทุกครั้งที่พบกัน
ยังได้รับ รับ หนังสือบ้างตามโอกาส
การค้นหาความรู้ความสุขจากหนังสือนั้น สะดวกและเป็นประโยชน์โดยตรง เป็นการต่อยอดความกระหายใคร่รู้ที่อยู่ภายใน มีอิสระที่จะเก็บเกี่ยวหรือเลือกเอาสิ่งที่ชอบที่ดีที่โดนใจได้ด้วยความพึงพอใจแห่งตน รู้จักอยู่กับอารมณ์ของตนเอง ปะติดปะต่ออะไรได้บ้าง ทำให้รู้จักบรรเทาทุกข์ บริหารสุข เพิ่มพูนความสุขได้ แล้วแบ่งปันให้คนอื่น ด้วยการทำให้ตัวหนังสือมีชีวิตกระโดดโลดเต้นอยู่ในหน้ากระดาษ
ช่วงนี้พยายามยุให้ญาติๆอ่านและเขียน
ยุไม่ค่อยขึ้น เป็นอะไรไม่รู้นะ
คนเราต่างจิตต่างใจ
บางคนอาจจะพอใจกับการอ่าน
สุขใจกับเรื่องอย่างอื่น
ก็ไม่ว่ากัน..แต่ก็เสียดายกับเวลาผ่านไป
ไม่มีใครจัดพาเหรท ก.ไก่ ก.กา
ใครมีลูกควรซื้อหนังสือฝากลูก
ใครไม่มีลูกก็เขียนหนังสือให้คนมีลูกอ่าน
คืนนี้จึงขอแผ่เมตตา
จงเป็นสุขเป็นสุขเถิดเจ้า ข.ไข่ ในขวด ค.ควาย ลูกชิ้นทอด
อิ อิ..
Next : ถ่ายท้องเรื่องเล็ก ถ่ายภาพเรื่องใหญ่ » »
2 ความคิดเห็น
เรื่องการบริจาคหนังสือที่โรงเรียนทำทุกปีค่ะ ร่วมกับโตโยต้าบ้าง เอาไปออกค่ายไปบริจาคกันเองตามโรงเรียน ตจว.ที่ขาดแคลนบ้าง หวังว่าให้ความรู้เป็นทาน จะได้ไม่ต้องโง่นานนักค่ะ เอาแค่มึน ๆ งง ๆ อย่างทุกวันนี้ก็พอ อิอิ
(เอาอีกแล้ว ต๊กกะใจตื่นตอนพ่อขึ้นบันทึกใหม่อีกแล้ว มันยังไงกันนี่ แห้วศรีเอ๋ย?)
บางท่านอาจจะเขียนไว้ในใจก็ได้นะคะครูบา
การเขียนไว้ในใจ บางครั้งบางคราวก็ดี มีเวลาไตร่ตรองรักษาความรู้สึกและถือเป็นการดูแลคนที่เกี่ยวข้องไม่ให้หม่นหมองไปกับเรื่องราว เก็บไว้อ่านคนเดียวก็เพื่อรักษาน้ำใจของคนอื่นถ้าหากเรื่องมันไปมีตัวตนของบุคคลอื่นด้วย
การเขียนเปิดเผย บางครั้งก็ดี ถือว่าได้ให้โอกาสคนอื่นร่วมให้ความเห็นและเรียนรู้ไปด้วย แต่ก็ต้องรักษาใจเข้าใจตัวตนของตัวเองก่อน หากว่าจะรู้สึกเสียหน้าเสียภาพลักษณ์เสีย..ฯลฯ ก็ยากแก่การจะเขียนค่ะ
การกลั่นกรองเรื่องราวเขียนที่ใช้เวลานาน อาจจะเป็นสิ่งให้ผู้รอคอยติดตามอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้ค่ะ…