อย่าเปิดโอกาสแก่มาร…

9 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ กรกฏาคม 21, 2010 เวลา 7:41 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การจัดการความไม่รู้, ตามจริต #
อ่าน: 1707

เช้าวันจันทร์

อ่าน”ฉลาด…ได้อีก” ของพระอาจารย์ เตือนสติตัวเอง ก่อนตัดสินใครก็ให้เคารพในความแตกต่าง ห้วยแขวนคำพิพากษา เข้าในคนอื่น เข้าใจปมเขาและเรา

ดังนั้น อย่าคิดว่า เราเก่งแล้วคนอื่นทำไม่ได้ ให้ยอมรับและให้โอกาส การให้โอกาสผู้อื่น คือการให้โอกาสตัวเราเอง เช้านี้เจอเรื่องกระทบจากกงาน(อย่างแรง) จากเพื่อนร่วมงาน (ไม่ว่าจะตำแหน่งใด ทุกคนคือเพื่อนร่วมงาน) การยอมรับและให้โอกาสเขาทำในสิ่งที่ควรทำ เท่ากับเปิดโอกาสให้ตัวเองเห็นธรรม
…..
สังเกตตัวเอง ใจเต้นแรงไหม ผ่อนได้ไหม ไม่มีผิด ไม่มีถูก ขึ้นอยู่กับสมมุติสัจจะของแต่ละคน
…..
“ใจดี ใจสบาย”
…..
กราบขอบคุณพระอาจารย์ค่ะ

หมายเหตุ :  วันนี้ใจเต้นแรง 4 ครั้ง

แทบระเบิดออกจากอก  แต่ห้อยแขวนไว้ แล้วก็ผ่านไป

…………………………………………………

เช้าวันอังคาร

ก็เบิกบานด้วยการเตือนใจจำถ้าใจเราไม่มีความสุข ทุกข์ที่มีมันจะตามเราไปทุกหนแห่ง และทำให้การงานอันเบิกบานของเรา ขุ่นเหมือนกับใจด้วย
การดูแลตัวเอง เป็นสิ่งที่ควรเริ่มก่อน อย่าแบกความขุ่นมัวไว้ และให้มองผู้อื่นดังที่เช่นมองตัวเอง เขาทำงานอย่างไม่มีความสุขเพราะเขามีสิ่งที่ไม่มีความสุขในใจ
…..
สอนตัวเองเช้านี้ก่อนการทำงาน
และให้มองผู้อื่นด้วยความเมตตา… เช่นเราเมตตาตัวเอง
…..
วันนี้จะเป็นอีก 1 บทเรียน
…..
กราบขอบคุณพ่อแม่ครูพระอาจารย์

หมายเหตุ : วันนี้ใจเต้นแรง 1 ครั้ง

ได้วาง และ “ระบาย” เป็นการ ปลด และ แลกเปลี่ยนความรู้สึก

(ถึงแม้ไม่สุนทรีย์ แต่ก็ใช้ได้)

………….

วันพุธ

ก็เป็นอีกโอกาสที่เปิดให้ใจตนเอง

อะไรก็ไม่สำคัญ ถ้าทำทุกวันให้เป็นสุข
สุขกับเรื่องราวในชีวิต
“มีสติ” นะคะ บอกตัวเองทุกเช้าค่ะ
เป็น 3 วันที่ดีขึ้น

 เตือนตัวเองค่ะ

Post to Facebook


ทะเลาะกันไปทำไม

5 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ มิถุนายน 24, 2010 เวลา 23:09 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การจัดการความไม่รู้, ตามจริต, เรื่องเล่า #
อ่าน: 1131

หลาย ๆ ครั้งที่ประเด็นในการทำงานร่วมกันของความเป็นหัวหน้ากับลูกน้อง กับเพื่อนร่วมงานย่อมหลีกหนีความไม่เข้าใจ นำไปสู่การทะเลาะกันในการงานก็เป็นได้  ประเด็นที่จะกล่าวถึงไม่ใช่มองหาประเด็นว่า มันเกิดขึ้น เพราะอะไร แล้วจะแก้ไขอย่างไร  แต่วันนี้จะขอเล่าเรื่องการกลับเข้ามาดูในใจตัวเองทุกครั้งที่มีประเด็นดังกล่าวเกิดขึ้น

การวางอารมณ์ไว้ภายนอกกายและใจ เป็นสิ่งที่ปฏิบัติยาก  แต่มันก็เป็นเรื่องที่พยายามที่จะเรียนรู้ทุกครั้ง เมื่อเกิดภาวะนี้ เพียงเราเริ่มต้นที่เมื่อมีเหตุเกิด มันเกิดจากความเข้าใจ ความต้องการของบุคคลนั้น ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับความเข้าใจกับความต้องการของเรา  ซึ่งถามว่าผิดไหม จริง ๆ มันไม่มีผิด ไม่มีถูก  เพราะสิ่งที่เรามองนั้นเป้าหมายมันต่างกัน  จึงพยายามเรียนรู้ที่จะเข้าใจ  และถ้ามีโอกาส ก็จะรับฟังและถ้าต้องการคำอธิบายก็จะลองแลกประเด็นกัน  แต่ถ้าใจแต่ละคนไม่เปิด ที่จะยอมรับฟังกัน  สิ่งที่จะก่อประโยชน์ก็จะไม่เกิดขึ้น  บางครั้งอาจต้องการเวลา และโอกาส ซึ่งรวมถึงพื้นที่ปลอดภัย ที่จะร่วมเรียนรู้ซึ่งกันและกัน

จึงเริ่มเข้าใจว่า แล้วเราจะทะเลาะกันไปทำไม

เรียนรู้เป็นเด็กอนุบาลอีกคนตาม อ.สร้อยค่ะ

 

รูปนี้ยืมน้องบ้านมกรามาค่ะ

Post to Facebook


เรื่องสืบเนื่อง(ก็แล้วกัน)

อ่าน: 1270
  • - หัวหน้าเต้นไปกับท่าน ๆ หรือเปล่า ทำไมไม่เป็น back ให้น้อง ๆ อะไรก็รับมา แบบนี้น่าจะไม่มีความสุขนะ (อืม…..1 ดอก)
  • - แล้วที่มาทำงานก่อนเวลานี่ห้องอื่นเขาทำกันหรือเปล่า หรือว่าที่ไหนขอ(บังคับ)ได้ก็ขอ แต่ที่ไหนไม่สามารถจะทำได้ก็เว้นไป (อ่อนไหนแทง แข็งไหนเว้นนั่นแหละ…อิอิอิ  ดอกที่  2 )
  • - อยากรู้เป้าหมายของการมาทำงานก่อนเวลานี่คืออะไร เพราะส่วนงานที่เราให้บริการที่เป็นงานต้องติดต่อในเวลาราชการอยู่แล้ว ถ้าเป็นส่วนที่สนับสนุนการเรียนการสอนก็เป็นอีกเรื่อง
  • @#%$@$%&^$$#%FGYT&$@$$#%$
  • จากเรื่องเล่าเมื่อวันวาน มีข้อสรุปที่ได้เรียนรู้คือ

    1) เริ่มแรกรู้สึกเดือด ๆ ๆ ในใจ หัวหน้าไม่ใช่กระโถนนะเฟ้ย หัวหน้าก็ทำตามหน้าที่นะ ไม่เคยที่รับปากมาโดยที่ไม่ถามความคิดเห็นลูกน้องหรอก  แต่จะพูดให้แรงแล้วได้อะไร ถามใจตัวเอง ระหว่างฟังเป็นระยะ ๆ ว่ารู้สึกอย่างไร ตัดสินไหม พิพากษาไหม ก็ค่อย ๆ ปลดทีละล๊อค ๆ ๆ อืม ความรู้สึกเดือด ๆ ก็เย็นลง ๆ ๆ ก็อธิบายด้วยเสียงที่ไม่(ค่อย)ดัง ทำให้ได้เรียนรู้อีกครั้งว่า การฟังอย่างไม่พิพากษา ไม่ตัดสินนั้น มันช่วยให้อะไร ๆ ดีขึ้นจริง  อธิบายแล้ว คุยกันแล้ว ว่ากันแล้ว ก็ประเมินเองว่า ถ้าทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง ไม่เทียบเคียงคนอื่น มันก็สุขได้โดยเริ่มจากใจเรานั่นแหละ  ก็หวังว่าจะเห็นทางสว่างกันบ้างนะ(อันนี้คิดให้ตัวเอง) อุอุอุ

    2) ประเด็นที่ 2 นี้ ได้อธิบายว่า ทำไมเราต้องเทียบกับคนอื่น เราเทียบกับหน้าที่เราไม่ได้หรือ เรามีหน้าที่อะไร แล้วหน้าที่ที่เราทำนั้น ทำได้ไหม มันเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติหรือเปล่า  แล้วมาปรึกษากันนี่ ก็จะถามว่าจะทำไหม สรุปคือ ไม่ทำ ก็รับไปเพื่อสรุปเสนอท่าน ๆ ว่าต่อไปเราจะทำอย่างไร (ตอนนี้ยังไม่ได้เสนอ แต่หัวหน้ามาทำงานก่อนแปดโมงแทน…เพื่อดูสถิติว่า เช้า ๆ มันมีกิจให้ต้องทำอะไรบ้าง…ลองสักตั้งคร๊าบพี่น้อง….อิอิอิ)

    3) ประเด็นนี้ เป็นคำถามเฮงซวยหรือเปล่าไม่รู้  แต่จริง ๆ บทบาทหน้าที่ตัวเองก็ต้องรู้ว่าเราทำหน้าที่อะไร  แต่การที่ไม่รู้ตัวเองนี่ อธิบายตรง ๆ ก็ไม่เข้าใจ อธิบายแบบออฟไซด์ก็จะแรงไป ก็ถามว่า ตำแหน่งของแต่ละคนคืออะไร การที่เราไม่มาทำงานตรงเวลานั้น มันกระทบใครบ้าง แล้วคนที่ต้องทำหน้าที่แทนนั้นมันกระทบกับภารงานประจำอะไรหรือเปล่า @#@$%#$%#@^%R!^ ก็เปิดประเด็นคุยกันยาว  สุดท้ายมาจบลงประเด็นที่ว่ามันก็ไม่มีปัญหาอะไรกันนี่  ก็เลยตั้งคำถามว่า แล้วที่เราบอกว่ามันไม่มีปัญหาทำไมเราต้องมีอะไรในใจว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้  มันเป็นเพราะเราไม่รู้หน้าที่ตัวเองต่างหากล่ะ  แล้วถ้าทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง มันก็จะทำงานให้เกิดความสุขกันได้ อย่าเอารารมณ์เป็นตัวตั้งเลย  งานต่างหากล่ะ เลิกเหอะ การคิดเล็กคิดน้อย หยุมหยิม พิพากษากันว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้น คนนี้เป็นอย่างนี้โดยไม่ดูแลตัวเอง วงก็จบการสนทนาตรงที่ อืม….เราไม่ได้มีปัญหากันนิ  แล้วเราคุยอะไรกัน  หัวหน้าสรุปเองว่า เออ….มันอาจจะต้องคุยกันบ่อยแล้วกระมังนี่ อิอิอิ

     

    การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบที่มากกว่าคนอื่น “การฟัง” เป็นสิ่งที่สำคัญทีเดียวค่ะ

    Post to Facebook


    ว่าด้วยเรื่อง “อ่อนไหนแตง แข็งไหนเว้น”

    8 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ มิถุนายน 22, 2010 เวลา 23:09 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การจัดการความไม่รู้, ตามจริต, เรื่องเล่า #
    อ่าน: 1343

    สืบเนื่องจากการเสนอแฟ้มมาถึงเรื่องเวลาการทำงานของงานบริหารทั่วไป (จริง ๆ มันน่าจะตั้งให้เข้ากับงานที่ทำนะว่า “บริหารไปทั่ว” มากกว่า (คริคริ)

    อันเนื่องมาจากการตัดสินใจของท่าน ๆ ว่า งานบริหารทั่วไป เป็นงานหน้าด้าน เอ้ย หน้าด่าน ต้องให้การต้อนรับปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ก่อนที่จะไปถึงหน่วยงานต่าง ๆ (จริงหรือเปล่าไม่รู้นะ)  ดังนั้น ท่านจึงเสนอให้มีบุคลากรมาทำงานในเวลา 08.00 น. (เวลาราชการ 08.30 - 16.30 น.  ซึ่งจริง ๆ ก็มีคนมาทำงานก่อนและกลับเย็นก็พอมี) เพื่อจะได้รอประสานงาน ตอบคำถาม หรืออะไรอื่นจิปาถะที่จะเป็นการอำนวยความสะดวก  มาตกลงกันที่พี่คนหนึ่งอาสาว่าจะมาทำงานในเวลา 08.00 และกลับก่อนได้คือ 16.00 น.  แต่พอถึงจริง ๆ ก็มีอันต้องมาตรงเวลาบ้าง ไม่ตรงบ้าง แล้วคนที่จ้อง ๆ จะจับผิดมันก็มีว่า ไอ้คนนี้จะมาตรงเวลาจริงหรือเปล่า  ประจวบเหมาะกับวันไหนมาทำงานตามเวลา มันก็ไม่มีอะไรให้ต้องประสาน ต้องแก้ไข  แต่ถ้าวันไหนมาไม่ตามเวลา มันก็ต้องมีอันเป็นไป ซึ่งเหมือนกันว่ามันเป็นกฎแห่งการดึงดูดให้มาปฏิสัมพันธ์ในวันที่ไม่เอื้ออำนวยทั้งหลาย  ดังนั้น  จึงได้ประชุมงานบริหาร (เฉพาะห้องธุรการ 8 คน) ว่า ถ้ามาทำงานหลังเวลา 08.00 น. และท่าน ๆ มีข้อปรารภมาว่า จะบริหารจัดการอย่างไร  จึงได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจ ปะทะคารมกันเป็นธรรมดา ได้บริหารให้เลือดสูบฉีด (ดีนะที่เป็นตอนบ่าย เพราะเปิดแอร์เย็นฉ่ำไว้รอแล้ว…แต่ตอนนี้รู้สึกปวดท้ายทอยนิด ๆ อาจเป็นผลข้างเคียงจากเลือดสูบฉีดไวไปหน่อย…อิอิ)  หลังจากเปิดใจแล้วก็มีข้อสังเกตจากพี่น้องว่า

    • - หัวหน้าเต้นไปกับท่าน ๆ หรือเปล่า ทำไมไม่เป็น back ให้น้อง ๆ อะไรก็รับมา แบบนี้น่าจะไม่มีความสุขนะ (อืม…..1 ดอก)
    • - แล้วที่มาทำงานก่อนเวลานี่ห้องอื่นเขาทำกันหรือเปล่า หรือว่าที่ไหนขอ(บังคับ)ได้ก็ขอ แต่ที่ไหนไม่สามารถจะทำได้ก็เว้นไป (อ่อนไหนแทง แข็งไหนเว้นนั่นแหละ…อิอิอิ  ดอกที่  2 )
    • - อยากรู้เป้าหมายของการมาทำงานก่อนเวลานี่คืออะไร เพราะส่วนงานที่เราให้บริการที่เป็นงานต้องติดต่อในเวลาราชการอยู่แล้ว ถ้าเป็นส่วนที่สนับสนุนการเรียนการสอนก็เป็นอีกเรื่อง
    • @#%$@$%&^$$#%FGYT&$@$$#%$

    ขอเบาะ ๆ แค่สามประเด็นนี้ก็ให้มีการเปิดอภิปรายอย่างกว้างขวา ง  พรุ่งนี้จะมาสรุประเด็นให้ฟังนะจ๊ะ

    วันนี้อารมณ์เสียแล้วแระ อิอิอิ

    ฝันดีนะจ๊ะ

    Post to Facebook


    ว่าด้วยเรื่อง “การเสนอแฟ้ม”

    9 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ มิถุนายน 21, 2010 เวลา 16:57 ในหมวดหมู่ การจัดการความไม่รู้, ตามจริต #
    อ่าน: 2162

    เคยนั่งวิเคราะห์งานว่า ตำแหน่งหัวหน้างานบริหารทั่วไปนี่ ภารกิจมันมีอะไรบ้าง (นอกจากด่าลูกน้องไปวัน ๆ …กร๊ากส์) ตัวอย่างเช่น วันนี้ เข้ามาทำงานและได้รับคำสั่งเรื่องการเสนอแฟ้ม ขอให้เสนอเป็นเวลา เพราะท่านรองฯ บอกว่าหลังสี่โมงแล้วยังมีเอกสารเสนออยู่หรือ (อิอิอิ) จึงมาทบทวนว่า เวลาเสนอแฟ้มที่ได้ตกลงกันไว้คือเช้า เวลา 10.00 น. บ่ายเวลาไม่เกิน 15.00 น. จึงบอกให้น้อง ๆ ว่าขอเสนอให้หัวหน้าไม่เกินกี่โมงก็ว่ากันไป

    แต่เนื่องจากการปฏิบัติค่อนข้างจะมีปัญหาพอสมควร เพราะบางครั้งมีประชุมเช้าบ่าย บางครั้งทั้งวัน ทำให้ไม่สามารถเสนอแฟ้มได้ตรงเวลา จึงตกลงกันเป็นการส่วนตัวว่า ถ้าเสนอแฟ้มไม่ทันตามเวลา ขอเสนอเป็นตอนเย็นหลังสี่โมง แล้วท่าน ๆ จะมาดูเวลาไหน (ก็ช่างท่าน) ก็แล้วแต่ เพราะทราบว่าท่านทั้งหลายมาทำงานเช้า ดังนั้น จะได้มีเวลาดูแฟ้มตอนเช้าก่อน น่าจะเป็นการดี เหตุนี้ก็เป็นที่ทราบกันด้วยความเข้าใจ แต่ปฏิบัติไป ชักจะลืม ๆ เลือน ๆ หรือเราเสนอนอกเวลาบ่อยไป จึงเกิดอาการ เปรย ๆ ว่าทำไมเสนอแฟ้มหลังเวลาอีกแล้ว ก็คิดในใจแบบเสียงดังไปว่า ก็ประชุมมันทั้งวันแล้วจะให้ทำอย่างไร คิวประชุมอาทิตย์นี้สำหรับตัวเอง จันทร์ประชุมเที่ยงทานข้าวด้วย อังคารประชุมบ่าย ประชุมในมหาวิทยาลัยอีกคิวหนึ่ง พุธประชุม11.30 น. กินข้าวด้วย พฤหัสประชุมแปดโมงเช้า ศุกร์ประชุมบ่ายโมง นี่ยังไม่รวมว่าไฟฟ้าดับ น้ำประปาไม่ไหล ลิฟท์เสีย แมวขี้เยี่ยวเรี่ยราด คนทำความสะอาดทำไม่สะอาด อาคารตรงโน้นเป็นแบบนี้ คนสวนตรงนั้นเป็นแบบนั้น แอร์เสีย กล่องจดหมายไม่เป็นระเบียบ (โอ้ย….มานมีเวลามานั่งดูกันจัง) 0#@&*%#@!$#$% etc.


    เหตุที่ว่ามานี่ไม่ถึงครึ่งภาระที่มีอยู่ หลาย ๆ ส่วนเป็นมูลเหตุแห่งพิษที่ทำให้สมองอันสร้างสรรค์เกิดหยุดการเจริญเติบโต และมีก้อนแห่งความไม่เบิกบานเข้ามาแทนที่ ก้อนใหญ่ขึ้น ๆ ๆ ๆ ก็อาจทำให้เป็นก้อนแห่งเนื้อร้ายได้ (เอาเข้าไป) กลับมาถึงเรื่องการเสนอแฟ้ม คิดถึงตอนที่เป็นเลขาคณบดีมา 8 ปี ไม่เคยมีปัญหาในประเด็นดังกล่าวเลย เพราะทุกเย็นจะต้องนำแฟ้ม(หลายตะกร้า) ยกเว้นเรื่องด่วน ไปเสนอให้ท่านเซ็นที่บ้าน (แต่ท่านมีเวลาก็เซ็นที่ทำงานนะ) ดังนั้นเรื่องจึงไม่ค้าง และไม่เป็นเหตุให้ต้องเกิดความไม่สบายที่ต้องกระทบกระทั่งกันเลย
    คิดเทียบกับปัจจุบัน สำหรับท่านคณบดีคนต่อมาที่ได้สัมผัส ถ้ามีประชุมท่านก็จะเซ็นตอนเย็น เพื่อไม่ให้มีแฟ้มที่ค้าง ซึ่งท่านก็บริหารตัวท่านเอง อาจจะมีบ้างบางครั้งที่มีปัญหา เราก็ใช้ปิยะวาจาในการเจรจา ท่านก็เข้าใจ บางครั้งมันด่วน(ฉิบหาย) ก็นำไปเสนอที่บ้าน ที่ห้องประชุมในมหาวิทยาลัย ก่อนขึ้นเครื่องก็มี (อิอิอิ) ซึ่งงานแบบนี้ใครไม่กล้า ต้องเอาน้าอึ่งอ๊อบเป็นหน่วยกล้าตายคนเดียว (ถ้าหัวหน้าเป็นจอมป่วนสมัยก่อนละก็….พี่น้องครับ…แฟ้มปลิวแน่ ๆ ๆ )

    กลับมาถึงปัจจุบัน ก็คิดว่า แล้วปัญหามันอยู่ตรงไหน(ฟระ) จริง ๆ ผู้ที่ปฏิบัติงาน ถ้ามีแฟ้มนำเสนอ ก็เสนอตามเวลา หรือเสนอตามที่งานมีเข้ามา เลขาหน้าห้องจะเสนอเวลาไหน ก็น่าจะเป็นเรื่องการบริหารจัดการของเลขา หรือเลขานุการคณะ รองฯ จะผ่านงานเวลาไหน ก็น่าจะเป็นเรื่องของท่าน ๆ ที่บริหารจัดการเอง ถ้าตัวเองสรุปแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันน่าจะมาจากการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเวลา บริหารจัดการอารมณ์ บริหารจัดการความคิดของตัวเอง อืม….แล้วหลาย ๆ ท่านคิดว่าน่าจะมีทางไหนที่จะสร้างสรรค์ให้เป็นทางเลือกว่า “แค่เรื่องเวลานำเสนอแฟ้ม” ยังบริหารจัดการอารมณ์ เวลา และความรู้สึกไม่ได้ ท่านจะไปทำมาหารับประทานอะไรได้มิทราบ อั้นนี้เป็นความคิดด้านลบด้านใน แต่มันถูกลบไปแล้วนะ จะถามท่าน ๆ ว่าการนำเสนอแฟ้มในความคิดของท่านสร้างสรรค์ได้อย่างไรบ้างจ๊ะ

    อิอิอิ….ด้วยความรัก

     

     

     

     

     

     

     

     

    พักผ่อนบ้างก็ดีนะ นอนเลยคร๊าบบบบบบบบ

    Post to Facebook


    วันนี้เราทำอะไร

    11 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ พฤษภาคม 29, 2010 เวลา 16:21 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การจัดการความไม่รู้, ตามจริต #
    อ่าน: 1113

    วันนี้
    เราเยียวยากันอย่างไรบ้าง
    เราวางแผนให้เกิดการปองดองกัน อย่างไร
    นอกจากเสียงเพลง
    นอกจากกิจกรรมรณรงค์ทำความสะ อาด
    เราได้คุยกันบ้างไหม
    คุยอย่างสร้างความเข้าใจ
    คุยเรื่องความจริงที่เกิดขึ้น
    คุยถึงสาเหตุของเรื่องทั้งหมด
    ได้ตอบคำถามเพื่อให้เคียร์สำห รับทุกฝ่ายหรือยัง
    หรือว่า ยังไม่กล้า
    และให้เรื่องมันผ่านไป เหมือนกันทุกครั้งที่เกิด
    แต่….ครั้งนี้มันจะไม่ผ่านไป
    ….
    ขอความสุขของเราจงคืนกลับมา…..
    ….
    เพียงพอหรือไม่
    เราอย่าแก้ไขปัญหาด้วยการเอา ความสุขชั่วครั้งคราวมาบำบัด กันเลย
    ขอเถอะ….มันไม่เหมือนเดิม
    ขอเถอะ….ขอความจริง
    ……..
    ช่วยกันอย่างไรดี
    ในเมื่อข้อมูลที่ฉันมีก็เข้า ข้างคนของฉันฝ่ายเดียว
    ……
    ……
    ……

    Post to Facebook


    ยิ่งกว่าน้ำใจ

    2 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ มีนาคม 8, 2010 เวลา 9:19 ในหมวดหมู่ การจัดการความไม่รู้, ตามจริต, เรื่องเล่า #
    อ่าน: 920

    ” คืนนั้นฝนตก อากาศหนาวเย็นเหลือเกิน

    ขณะที่ผมกำลังยืนรอรถประจำทางอยู่คนเดียว

    รถประจำทางคันหนึ่งวิ่งมาจอดตรงป้ายที่ผมได้ยืนอยู่

    หญิงชราคนหนึ่งค่อยๆลงจากรถอย่างทุลักทุเล แล้วเดินตรงมาหาผมอย่างช้าๆ… อ่านต่อ »

    Post to Facebook


    ว่าด้วยความบ้า

    2 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ มีนาคม 5, 2010 เวลา 8:47 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การจัดการความไม่รู้, ตามจริต #
    อ่าน: 1053
    คนโง่ เมาคำพูด
    ประครองสติไม่อยู่ จึงพลั้งพูดพล่อยบ่อยๆ
    สร้างกรรม และศัตรูมากมายคนฉลาด บ้าความคิด เขม่าเต็มสมอง
    จึงเต็มไปด้วยจิตหลอน
    สร้างมายาหลอกตน และคนอื่นมากมาย

    คนเจ้าปัญญา บ้าความสงบ
    จึงพบสติเต็มตื่นรู้อยู่
    เป็นหลักให้ตน และคนอื่นได้

    ทั้ง 2 หัวข้อ คือ ว่าด้วยความบ้า และ การบริหารอารมณ์ คัดมาจาก หนังสือ
    คนโง่ คนฉลาด คนเจ้าปัญญา เขียนโดย ไชย ณ พล ภาคภาษาไทย และ อังกฤษ เรื่อจากเวบ  http://royyim.exteen.com/20090630/entry-8

      

     

     

    Post to Facebook


    อนุโมทนา : สาธุ

    4 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ กุมภาพันธ 8, 2010 เวลา 17:57 ในหมวดหมู่ การจัดการความไม่รู้, ตามจริต #
    อ่าน: 8310

    วันนี้ได้รับเมลเป็นเรื่องเล่าที่ดี ก็อยากนำมาเล่าสู่กันฟังเป็นวิทยาทานและบันทึกเตือนจำ เตือนใจ

    สิ่งที่ได้เรียนรู้ และรับรู้ เมื่อได้เล่าสู่ และเป็นสุข ย่อมได้บุญกุศลส่งถึงให้พบแต่ความดีงาม

    “สาธุ”

    คำว่าอนุโมทนาและสาธุแปลว่าอะไรและใช้เมื่อไรอย่างไร? อ่านต่อ »

    Post to Facebook


    กิ้งกือ จาก ฝนตกยังต้อง ฟ้าร้องยังถึง

    2 ความคิดเห็น โดย sompornp เมื่อ กันยายน 1, 2009 เวลา 17:25 ในหมวดหมู่ การจัดการความรู้, การจัดการความไม่รู้, คนดี, ตามจริต #
    อ่าน: 1785

    ฝนตกยังต้อง ฟ้าร้องยังถึง

    คุณหญิงจำนงศรี รัตนิน หาญเจนลักษณ์

     

    …กิ้งกือ…
    นอกประตูเหล็กทางชายป่า ทัพมดตัวใหญ่ที่รุมกินกิ้งกือทั้งเป็น
    เจ้ากิ้งกือขดบีบแล้วดีดตัวจนมดกระเด็นครั้งแล้วครั้งเล่า
    แต่มันก็ยังกรูเข้ามาซอนหาจุดอ่อน ตามข้อต่อเสื้อเกราะกิ้งกือ
    ฝังหัวเข้าไปกดเขี้ยวกัดติด กรูเกรียวจากรอบทิศ
    กองทัพหิวกับเหยื่อสด อ่านต่อ »

    Post to Facebook



    Main: 0.078075885772705 sec
    Sidebar: 0.061522006988525 sec