กิ้งกือ จาก ฝนตกยังต้อง ฟ้าร้องยังถึง
คุณหญิงจำนงศรี รัตนิน หาญเจนลักษณ์
…กิ้งกือ…
นอกประตูเหล็กทางชายป่า ทัพมดตัวใหญ่ที่รุมกินกิ้งกือทั้งเป็น
เจ้ากิ้งกือขดบีบแล้วดีดตัวจนมดกระเด็นครั้งแล้วครั้งเล่า
แต่มันก็ยังกรูเข้ามาซอนหาจุดอ่อน ตามข้อต่อเสื้อเกราะกิ้งกือ
ฝังหัวเข้าไปกดเขี้ยวกัดติด กรูเกรียวจากรอบทิศ
กองทัพหิวกับเหยื่อสด
หาไม้ยาวมาเขี่ยกิ้งกือให้กระเด็นไปไกลหลายครั้งหลายหน
แต่กองทัพมดแผ่กระจายผันหน้ากรูเข้าหาเจ้ากิ้งกือ
ไม่ว่าจะตกที่ตรงไหน
เจ้ากิ้งกือโง่ เมื่อกระเด็นไปตกนอกวงมดก็เดินดิ่วไปทางมดอีก
อย่างนี้อยู่หลายครั้ง
จะว่ามันโง่ก็ไม่ได้ กิ้งกือกับมดอยู่กับพื้นดินระดับเดียวกัน
มันจะเห็นได้อย่างไรว่ามดร้ายรอมันอยู่ทิศไหน
เรามองจากสูงลงมาจึงได้เห็น
สุดท้ายเราเขี่ยกิ้งกือกระเด็นไปไกลหลายทอด
มดที่กัดติดค่อย ๆ หลุดไป
จนเหลือตัวสุดท้ายที่แสนทรหด
หลุดพับรี่เข้ากัดใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ฝ่ายเจ้ากิ้งกือค่อยเรียกสติคืนมาทีละน้อย มันสลัด ดีด
จนในที่สุดก็หนีรอด เลื้อยหายเข้าไปใต้กองใบไม้แห้ง
คนหนีทุกข์ กับกิ้งกือหนีมด เมาหมัดพอ ๆ กัน
บอดทิศ บอดทาง
ต้องขึ้นไปให้สูงแล้วมองลงมาจึงจะรอดคนหนีทุกข์ กับกิ้งกือหนีมด เมาหมัดพอ ๆ กัน
บอดทิศ บอดทาง
ต้องขึ้นไปให้สูงแล้วมองลงมาจึงจะรอด
วันนี้ได้เรียนรู้ และเห็นจิตตัวเอง ที่กระเพื่อมไหวกับสิ่งรอบข้าง
เมื่อไม่หยุด เมื่อไม่มอง ย่อมไม่เห็น
คลำหาทางออก วนหาทางแก้ แต่เว้นที่จะมองใจตัวเอง รอแต่ให้คนอื่นเขามอง
“บอด” ที่ใจ หาทางแก้ข้างนอกเมื่อใดจะหาเจอ
โยนิโสมนสิการ น้อมเข้ามาหาตัวเอง.เราจะมองเห็นสัมพันธ์แห่งเหตุและปัจจัย
…..
ธรรมะรักษาคนทำค่ะ
2 ความคิดเห็น
ฝนตกยังต้อง ฟ้าร้องยังถึง
เบิ่งคิดคำนึง ตรองตรึงจดจำ
ใฝ่รู้ติดตาม มองถามชี้ซ้ำ
ผู้คนคุ้มค้ำ วนนำไตร่ตรอง
แว่ววนค้นหา แหงนคว้าก้มมอง
กดกักซ้ำสอง สิ้นข้องนรรจา
หาได้อยู่เดี่ยว แสเชี่ยวเฉี่ยวฉา
โหยหวนทวนข้า จดจ้าจริงจัง
เหลียง
ทุกข์หรือไม่อยู่ที่ใจ ถ้าสิ่งที่มากระทบคือทุกข์ หากเราไม่เปิดรับ เราก็จะไม่ทุกข์ เี่ี่ี่ราเืลือกได้ว่าจะให้ใจเราทุกข์หรือสุขก็เท่านั้น