นั่งรถตระเวณลาว (๒) จากไชยะบุรีแวะค้างคืนที่วังเวียง: เยี่ยมสวนเกษตรอ้ายสีของดีที่ต้องอวด
บันทึกการเดินทางค่อนประเทศลาวชุดนี้ ร้อยเรียงสิ่งที่ผ่านพบในระหว่างการเดินทางจากเมืองหงสาแขวงไชยะบุรี ผ่านวังเวียง เวียงจันทน์ บริคำไซ ท่าแขก คำม่วน เมืองนากาย เมืองคำเกิดชายแดนเวียดนาม วกกลับมาเวียงจันทน์ แล้ว(ส่งคณะ)ขึ้นเครื่องบินกลับไชยบุรี
เช้าตรู่วันที่ ๕ มังกอน บรรดาท่านทั้งหลายมีคุณนายที่บ้านขับรถมาส่งขึ้นรถ ยกเว้นท่านหัวหน้าแผนกสวล. ที่ภรรยายังอยู่โรงพยาบาลเพราะเพิ่งคลอดลูกสาวคนเล็กเมื่อวานนี้(แต่ท่านก็ยังร่วมเดินทางมากับคณะเรา) เห็นรถคันโตที่ท่านนั่งมาและกระเป๋าสัมภาระใบหรูแล้วรู้สึกเขินๆกับสภาพรถที่จะพาท่านๆไป ออกเดินทางจากที่ว่าการแขวงไชยะบุรี ข้ามน้ำโขงที่แพขนานบ้านท่าเดื่อ มุ่งสู่เมืองนานผ่านไปยังเมืองเชียงเงินเข้าเส้นทางสายหลักหลวงพระบางเวียงจันทน์
เส้นทางร้อยคดพันโค้ง นั่งชมทิวทัศน์สองข้างทางที่สวยงาม มองเห็นยอดภูสลับกับหุบเขายอดแล้วหุบเล่า (ท่านที่ดูหนังเรื่องสวัสดีหลวงพระบางคงได้ชมจากในหนังแล้ว) ราวป่าข้างทางกำลังแต้มแต่งด้วยสีของใบของดอกต้นไม้ป่า ปีนี้ต้นไม้ป่าพากันผลัดใบผลิดอกสวยงามแปลกตาคงเป็นเพราะอากาศที่หนาวเย็นกว่าทุกๆปี เห็นพี่น้องชาวบ้านต่างเก็บดอกแขมแบกกลับมาตากมาฟาดตลอดทาง นับเป็นรายได้หลักอีกอย่างหนึ่งของชาวลาว พี่น้องขายได้กิโลละห้าพันกีบ(ยี่สิบบาท) เป็นทรัพย์ที่ขึ้นตามธรรมชาติไม่ต้องปลูก ผู้ซื้อก็คือประเทศไทยบ้านเรานี่เอง เอามาทำไม้กวาดที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี่แหละครับ
แวะพักคนพักรถที่จุดพักบ้านกิ่วกะจำ เพื่อนร่วมทางที่เป็นนักรบเก่าเล่าให้ฟังว่า ที่นี่เป็นฐานที่มั่นเก่าของทหารผ่านอเมริกาและทหารรับจ้างชาวไทย ที่ปะทะกันยาวนานในสมัยต่อสู้ ปัจจุบันมีบ้านเรือนร้านรวงอยู่หนาตา ขายทั้งอาหารลาว อาหารฝรั่ง เลือกซื้อแผ่นซีดีเพลงลาวสองสามแผ่นมาเปิดให้ท่านๆฟัง เพราะสังเกตดูสีหน้าท่านๆดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเวลาฟังเพลงไทยที่คุณโชเฟอร์ผู้นิยมของนอกเปิดตลอดเช้าที่ผ่านมา
จากบ้านกิ่วกะจำไปแวะพักอีกครั้งที่บ้านผาตั้งตามคำเรียกร้องของขายาดอง และคนป่วยโรคเก๊าต์ เนื่องจากว่าเป็นแหล่งขายยาดองเหล้าคุณภาพลือชื่อ และน้ำมันเลียงผาของแท้(รึเปล่า)แก้ปวดข้อ นอกจากยาดองและน้ำมันเลียงผาแล้วยังเห็นมีดีหมี กระเพาะเม่น ปูห้วยใส่ในตะกร้า ยอดหวาย ยอดตาววางขายอยู่เกือบยี่สิบเจ้า
ก่อนถึงวังเวียงจอดแวะซื้อส้มสีทองของพี่น้องชาวม้งที่บ้านผาหอม เป็นส้มที่ปลูกตามธรรมชาติรดชาดดีทีเดียว คงเป็นเพราะคุณภาพดินที่นี่ดีเป็นดินที่เกิดจากหินปูน เพื่อนร่วมทางเล่าว่าพ่อค้าคนไทยมาจองไปขึ้นห้างสินค้าปลอดสารเคมีขายดิบขายดี
ถึงวังเวียงห้าโมงเย็นกว่าๆ แวะส่งท่านๆเข้าพักที่โรงแรมภูอ่างคำ (ห้องละ ๖๐๐ บาท) โรงแรมตั้งอยู่ห่างจากย่านกลางเมืองประมาณครึ่งกิโลเมตร วังเวียงมีภูมิทัศน์ที่สวยงามมีเสน่ห์ แต่ก็อดที่จะได้ติดตามคณะไปเที่ยวชมวังเวียงยามค่ำ เพราะผมมีเป้าหมายพิเศษที่เพื่อนร่วมงานสาย เอ็นจีโอ อุตส่าห์นั่งรถย้อนกลับมาจากเวียงจันทน์เพื่อที่จะพาผมไปชม สวนเกษตรอินทรีย์ของ อ้ายสี สอระสุด
อ้ายสี จัดว่าเป็นเพชรในเมืองลาว เห็นว่าท่านโตที่เมืองฝรั่งเศส กลับมาทำงานพัฒนาบ้านเกิดกับองค์กรพัฒนาเอกชนข้ามชาติหลายหน่วยงาน พอถึงจุดอิ่มตัวก็เลยมาทำกิจการสวนเกษตรอินทรีย์ของตนเอง บรรยายสิ่งที่พบเห็นไม่หมด เท่าที่เดินแกมวิ่งแข่งกับแสงยามค่ำได้เห็น สวนหม่อน โรงอบชาใบหม่อน บ้านดิน โรงดินที่สามารถเก็บมะนาวได้๓เดือนเก็บผักได้ครึ่งเดือน อาคารเลี้ยงแพะรีดนมมาทำเนย ใต้อาคารมีกะบะเลี้ยงไส้เดือนไว้เกือไก่ ในขณะที่ไส้เดือนก็ช่วยย่อยมูลแพะให้เป็นปุ๋ยพร้อม ที่สำคัญคืออ้ายสีไม่หวงความรู้ ที่นี่เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ มีแม้กระทั่งชาวตะวันตกมากินนอนเรียนรู้ที่นี่ไม่ขาดสาย ได้พูดคุยกับอ้ายสีไม่ถึงครึ่งชั่วโมง (เพราะท่านมีแขกมาพบตามนัด แต่เราไม่ได้นัดใช้วิธีลัดคิว) แต่ได้แนวคิดมาทำการบ้านต่อมากมาย เมนูใบหม่อนชุปแป้งทอด เสริฟกับน้ำผลหม่อนปั่น ตามด้วยชาใบหม่อนที่คั่วได้หอมชนิดที่ว่าไม่เคยจิบชาใบหม่อนที่ใดหอมขนาดนี้มาก่อน….สุดยอด…ขอคารวะ
ได้ชมสวนอ้ายสี ได้คุยกับอ้ายสี แล้วคิดถึงท่านครูบาฯ ณ สวนป่ามหาชีวาลัยของกระผมอย่างจับใจ หากมีเทพอุ้มสมอัญเชิญสองท่านมาพบมาแลกเปลี่ยนกันได้ ผมว่าอ้ายน้องลาวไทยไม่มีวันยากจน ผมว่าผู้ที่เป็นประจักษ์พยานรับฟังการเสวนาในคราวนั้นได้ความรู้มาประเทืองปัญญาเต็มๆ
« « Prev : นั่งรถตระเวณลาว (๑) ปฐมบท จากหงสาไปตั้งตั้นที่ไชยะบุรี
Next : นั่งรถตระเวณลาว (๓) วังเวียง-เวียงจันทน์-คำม่วน: เดินทางทั้งวัน » »
1 ความคิดเห็น
อ้ายเจ้า..อยากเห็นฮูปโฮงดินเก็บมะนาว เรื่องราวของอ้ายสีก็น่าสนใจขนาดเนาะเจ้า