เล่าเรื่องเมืองหงสา เมื่อดอกหมากปู๊บาน: คิดถึงแม่
๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ วันนี้ไปออกพบปะชุมชนที่บ้านแท่นคำ ระหว่างที่ยังไม่ถึงรอบตัวเองเล่นหน้าเวที ไปเดินเล่นในวัดเห็นมีต้นหมากผู้หมากเมีย(หมากปู๊)ชนิดต้นเขียวปลูกอยู่รอบวัด ต้นหมากปู๊กำลังแทงช่อดอกแทบทุกยอด เห็นดอกหมากปู๊แล้วคิดถึงแม่ขึ้นมาทันที
แม่เคยมอกปูนา(อ่อมกะปูของทางอีสาน) ใส่ดอกหมากปู๊….ลำแต้ๆ
แม่เคยแกงแคจิ้นแห้ง อ่อยด้วยดอกหมากปู้….อันนี้ก่ลำ
แม่เคยนึ่งดอกหมากปู๊กินกับน้ำพริกอ่อง….ลำแต้ลำว่า
ที่บ้านแม่แตงตอนแม่ยังอยู่ แม่จะดูแลกอหมากปู๊อย่างดี ที่บ้านมีกอหมากปู๊เป็นร้อยกออยู่รอบๆบ้าน นอกจากจะเก็บไปใส่แจกันดอกหิ้งพระแล้ว พอถึงเวลาที่หมากปู๊ออกดอก เคยช่วยแม่เก็บดอกหมากปู๊นำมามัด ๒-๓ ช่อต่อมัด แล้วใช้ใบหมากปู๊นั่นแหละพันรอบๆ มัดด้วยเชือกกาบกล้วย นำไปขายที่กาดแม่มาลัย ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ปีหนึ่งๆทำเงินได้สองสามพันบาท ผมว่าแม่ผมนี่แหละต้นตำรับผักสวนครัวรั้วทำเงิน
ยิ่งคิดถึงแม่มากขึ้น เมื่อผมเห็นแม่เฒ่าสองสามคนหาบย่ามใบโตมาร้องขาย “ข้าวแต๋น ทราย” หรือข้าวพองคลุกน้ำอ้อย กับขายเมี่ยง แม่เฒ่าบอกว่ามาจากเมืองหานจะไปขายถึงบ้านนาปุง ขาไปก็หาบขนมหาบเมี่ยงมาขาย ส่วนขากลับก็ซื้อฝ้ายกลับไปไว้ปั่นด้าย เอาไว้ทำด้ายผูกข้อมือ หรือทำผ้านวมระยะทางไปกลับเมืองหานนาปุงไม่ต่ำกว่า ๒๕ กม. เก่งจริงคุณยาย แม่ผมก็เคยทำผ้านวม ถึงฤดูว่างานในไร่ในสวนที่ใต้ถุนบ้านจะมีคนมาเรียนเย็บผ้านวม เย็บที่นอน เย็บหมอนหกกันเต็ม เด็กสาวๆก็มาเรียนตัดเสื้อเรียนเย็บจักรแม่เล่าอย่างภาคภูมิใจว่า “แม่เรียนตัดเสื้อหลักเซนเป็นคนแรกของตำบลนะ” (สมัยก่อนเขาสอนตัดผ้าที่วัดขนาดเป็นนิ้วเป็นกระเบียดต่อมาจึงใช้การวัดแบบเซนติเมตร) คุณลูกชายโทนก็เลยได้บารมีของแม่ไปด้วย เด็กคนอื่นๆเขาเรียกกัน ไอ่หน้อย ไอ่แก้ว ไอ่คำ แต่สำหรับผมแล้วไม่ว่าผู้เฒ่า ผู้หนุ่มท่าน เรียกผมว่าอ้ายหมด
ตอนเที่ยงวันนี้เขาเชิญไป “ผูกแขนแอน้อยออกเดือน” คือการรับขวัญเด็กทารกที่อายุครบเดือน ที่หงสานี่เขาจัดใหญ่โตมาก มีการกินเหล้ากินเบียร์ ล้มหมูฆ่าเป็ดฆ่าไก่ต้อนรับขับสู้เฉลิมฉลองกัน ตั้งวงจั่วไพ่กันด้วย บางรายถึงกับจ้างวงดนตรีมาเล่นค่อนวันครึ่งคืน ทางเชียงใหม่สมัยก่อนเห็นมีแต่การ “หลอนเดือน” ไม่มีการฉลองเหมือนที่นี่ การหลอนเดือนคือ เมื่อเด็กอายุครบเดือนพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่มักอยากให้ “คนดีคนดัก” มาทักแต่เช้าตรู่เป็นคนแรกว่า “ออกเดือนแล้วก๋า” โดยเชื่อว่าเด็กจะได้นิสัยที่ดีๆจากคนๆนั้น
บันทึกเรื่อยเปื่อย บันทึกนี้บ่มีคำลงท้าย เพราะไปรับน้ำใจจากคนรินน้ำเมาที่งานผูกแขนแอน้อยมาหลายตำรับ หลายจอก ๕๕๕๕๕ฮิ้ว
« « Prev : ประเพณีเกี่ยวกับความตายของชาวลั๊วะบ้านเสาเดียว
Next : นั่งรถตระเวณลาว (๑) ปฐมบท จากหงสาไปตั้งตั้นที่ไชยะบุรี » »
4 ความคิดเห็น
เห็นภาพเลยเปลี่ยน
เมื่อก่อนแม่ก็ชอบถวายดอกหมากปู้ค่ะ
แต่บ่อเคยกิ๋นดอกหมากปู้ซักเตื่อ
เอาไว้มีโอกาสจะลองซักกำ
อ่านแล้ว กึ๊ดเติงหาสมัยเป๋นละอ่อนเหมือนกั่นละอ้าย ชีวิตสมัยนั้นช่างสงบงามเนาะเจ้า
ฮู้สึกว่า โชคดีที่ได้มีโอกาสได้มีชีวิตแบบนั้น
ของกิ๋นของว่า ไปมาหาสู่ไม่สะดวกเหมือนสมัยนี้ ขนมก็มีให้กิ๋นบ่นัก
ไปบ้านยาย..ได้รสชาดการรอคอยเปิ้นหาบขนมเส้นมาขาย จะได้กิ๋นลอดช่องสักถ้วย ก็ต้องรออีกเจ้าหนึ่งหาบมา.. หูยย ลำแต๊ลำว่า ก็เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่กว่าจะได้กิ๋นก็เป็นเรื่องยาก
อ้าย..ฮับน้ำใจมาหลายจอก..BP..โห่ฮิ้วตวยก่อเจ้า..อิ อิ
มาร่วมกึ๊ดเติงหาอดีตเมื่อวันวานค่ะ
เคยแหงนดูู่ดอกและไม่ทราบว่ากินได้ แถมไม่เคยนำมาถวายพระอีก โอย! มีเรื่องสนุกๆให้ลองทำอีกแล้ว อิอิอิ